ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568 ณ จุดสูงสุดของแสงสี ศิลปินหนุ่มผู้เป็นดั่งธงของชาว LGBTQ+ อย่าง “พรินซ์” กลับถูกความมืดมิดกลืนกินด้วยยาพิษก่อนคอนเสิร์ตชี้ชะตา… แต่ความตายหาใช่จุดจบ เมื่อวิญญาณเขาถูกพัดข้ามภพไปสิงร่าง “ขุนวรเดช” ชายรูปงามแห่งอดีตที่ซึ่งรักต้องห้ามถูกตีกรอบด้วยจารีต ความปรารถนาเดียวคือการกลับสู่ยุคสมัยของตน แต่กลับต้องเผชิญกับเงื้อมมือของ สมเด็จแสนยากร ผู้ทะเยอทะยาน และความรักที่สั่นคลอนหัวใจกับ หม่อมโกศล พี่ชายแห่งกษัตริย์ เส้นทางนี้จึงมิใช่เพียงการเอาชีวิตรอด แต่คือการปฏิวัติหัวใจและกฎหมาย เพื่อเสรีภาพที่เคยเป็นเพียงความฝัน ท่ามกลางรักสามเส้าที่ยากจะถอนตัว

ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568 เรื่องที่ผสมผสานความสนุกแบบย้อนยุคกับธีม LGBTQ+ ได้อย่างลงตัว ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อดัง “ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยสุดในสยาม” โดยนักเขียน ยืนกินปากกาที่ท่าพระ ซึ่งมีแฟนคลับเยอะมากเพราะเนื้อเรื่องแซ่บๆ ผสมดราม่าการเมืองและโรแมนติก

เรื่องเริ่มจาก “พริ้นซ์” ไอดอลตัวแม่ LGBTQ+ สุดเฟียสในยุคปัจจุบัน ปี 2568 ในประเทศสมมติชื่อ “แสนยา” ที่มีกฎหมายแปลกๆ ว่าถ้าใครแสดงตัวเป็น LGBTQ+ ต้องโดนปรับเงิน แต่พริ้นซ์ไม่แคร์ เธอเฉิดฉายออกสื่อแบบเต็มที่ จนมีแฟนคลับมหาศาลแต่ก็มีแอนตี้เยอะเหมือนกัน ก่อนคอนเสิร์ตใหญ่ พริ้นซ์โดนมือปริศนาวางยาพิษจนสลบไป ตื่นมาอีกที เธอข้ามภพไปสิงร่าง “ขุนวรเดช” ลูกชายเจ้าเมืองสิงหนคร  ในยุคอดีตเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ที่สังคมยังห้ามรักเพศเดียวกันแบบสุดๆ

พริ้นซ์ต้องปรับตัวให้เนียนในร่างผู้ชายรูปงามนี้ บ่าวสนิทอย่าง “เจด” บอกว่าวรเดชอกหักเลยดื่มยาพิษตาย แล้ววิญญาณวรเดชเข้าฝัน ขอให้พริ้นซ์ช่วยทำตามความปรารถนาเพื่อกลับบ้านได้ พริ้นซ์คิดว่าง่ายๆ แค่เคลียร์ใจกับคนรักเก่าของวรเดช ก็เลยไปหา “หม่อมโกศล” พี่ชายของกษัตริย์ “พระไชยเชษฐ์” ระหว่างทาง เจอพระไชยเชษฐ์กำลังโดนไล่ฆ่า โกศลมาช่วยไว้ทัน เรื่องราวเลยเริ่มซับซ้อน

โกศลบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกับวรเดช แต่ทั้งคู่เป็นพวกปฏิวัติ อยากเปลี่ยนกฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน มีผู้ร่วมอุดมการณ์อย่าง “หลวงบรรจง” ที่วรเดชแอบรักแต่ไม่สมหวัง พริ้นซ์งงไปหมด ว่าตกลงใครหักอกวรเดชกันแน่ หรือจริงๆ วรเดชโดนฆ่า? ระหว่างสืบ พริ้นซ์ใกล้ชิดโกศลมากขึ้น จนเกิดความรัก แต่ก็สงสัยว่าโกศลรักตัวตนจริงๆ หรือรักวรเดชเจ้าของร่าง

พล็อตทางการเมืองร้อนแรง มีการทรยศจาก “สมเด็จแสนยากร” ที่อยากปลงพระชนม์พระไชยเชษฐ์และยึดอำนาจ เขาคือคนออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ+ ที่ส่งผลถึงยุคพริ้นซ์ พริ้นซ์เลยเปลี่ยนภารกิจจากกลับบ้านมาเป็นช่วยปฏิวัติ ปกป้องกษัตริย์ และยกเลิกกฎหมายนี้ โดยมีข้อแม้กับโกศลว่าถ้าสำเร็จ ต้องออกกฎหมายให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ โกศลตอบตกลงเพราะตัวเขาเคยโดนลงโทษจากกฎหมายนี้เหมือนกัน

เรื่องราวเต็มไปด้วยการผจญภัย หนีตาย รักสามเส้า  หึงหวง ดราม่าการเมือง สงคราม และมารยาแบบศตวรรษที่ 21 ของพริ้นซ์ที่ใช้เอาชนะทรราช สุดท้าย พริ้นซ์ต้องเลือกระหว่างกลับยุคปัจจุบันหรืออยู่ต่อเพื่อความรักและเปลี่ยนแปลงสังคม

สารบัญละคร

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่โรแมนติก BL ธรรมดา แต่ยังสอดแทรกประเด็นสิทธิความเท่าเทียมได้ดี ทำให้ดูแล้วทั้งสนุกและคิดตาม ถ้าใครชอบแนวข้ามเวลา ดราม่าการเมืองผสมฮาๆ ลองดูเลย รับรองติดงอมแงม ต่อไปนี้คือจุดเด่นของซีรีส์

ซีรีส์เรื่องนี้โปรดักชันดีมาก การจัดแสง มุมกล้อง สวยงามแบบพีเรียดแท้ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปในยุคอดีต การแสดงของนักแสดงนำอย่าง นัท ศุภณัฐ ในบทพริ้นซ์/วรเดช ถือว่าปังสุดๆ นัทเล่นได้ธรรมชาติ ชาร์มมิ่ง ผสมฮาและดราม่าได้ดี เคมีกับ ปิง โอบนิธิ (โกศล) ก็เข้ากันมาก ฉากโรแมนติกซึ้งๆ ทำให้ฟินตาม ส่วน ป๊อป ภัทรพล (บรรจง) ก็เล่นได้ charismatic ดี รักสามเส้าดูสนุกไม่น่าเบื่อ นักแสดงสมทบอย่าง ลี อัสรี (เจด) และ เอตั้น ธนกร (พระไชยเชษฐ์) ก็ช่วยเติมสีสันได้เยี่ยม

พล็อตเรื่องผสม comedy, action, romance และ twists ได้ลงตัว ประมาณ 70% ตลก 30% แอคชัน มีฉากหนีตาย ต่อสู้เข้มข้น ธีม LGBTQ+ และสิทธิเท่าเทียมสอดแทรกได้ดี ทำให้ดูแล้วได้ข้อคิด ไม่ใช่แค่ขายฟินอย่างเดียว จบเรื่องแบบ perfect twist สำหรับแนวข้ามเวลา แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ แฟนๆ ชมว่าดูเพลิน ครบอารมณ์ อารมณ์ดีและอบอุ่น

แต่ก็มีจุดติอยู่บ้าง จากรีวิวบน Pantip ของทีมสร้างเว็บตูนต้นฉบับ บอกว่า EP แรกบทแปลก ไม่สมเหตุผล ต่างจากเว็บตูนมาก เช่น จริตตัวละครไม่ธรรมชาติ แอคติ้งแข็งๆ เหมือนละครเวที บทพูดเร็วเกินไม่เหมือนคนสมัยก่อน โกศลดูไม่น่าเกรงขาม บางคนติว่าค่าย CHANGE2561 ทำพีเรียดตลกไม่ถนัดเท่าค่ายอื่น และแคสติ้งไม่ตรงปกเว็บตูน เช่น วรเดชในเว็บตูนสวยเฟียสกว่านี้ บน MyDramaList บางรีวิวบอกจบรีบไปหน่อย มีคำถามไม่ตอบชัด แต่โดยรวมยัง positive

คะแนนโดยรวม 7.5/10 ถือว่าดีสำหรับซีรีส์แนวนี้ เพราะเด่นเรื่อง entertainment และธีมสังคม ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับคนชอบ BL สนุกๆ ผสมดราม่าการเมือง ถ้าดูข้ามจุดติเล็กๆ ได้ จะติดใจแน่นอน เป็นเรื่องที่สร้างรอยยิ้มและข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับเสรีภาพในความรัก

บน IMDb คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2/10 จากผู้ใช้กว่า 10,170 คน ถือว่าดีระดับกลางค่อนสูงสำหรับซีรีส์ไทย BL ผู้ใช้ส่วนใหญ่ให้คะแนนสูงเพราะชอบความตลก โรแมนติก และการแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ นัท ศุภณัฐ ที่ได้คำชมว่าชาร์มมิ่งและเล่นได้ธรรมชาติมาก เคมีคู่กับ ปิง โอบนิธิ ก็ช่วยดันคะแนนขึ้น แต่บางรีวิวหักคะแนนเพราะอยากให้ตัวละครบางคนมีบทสรุปชัดเจนกว่านี้

ส่วนบน MyDramaList คะแนนสูงกว่า อยู่ที่ 7.8/10 จากผู้ใช้กว่า 3,110 คน ที่นี่แฟนๆ ชมเรื่อง direction สวยงาม เนื้อเรื่องมี flair ข้ามเวลา รักสามเส้าฮาๆ และธีมสิทธิ LGBTQ+ ที่สอดแทรกดี บางรีวิวให้เต็ม 10 เพราะครบอารมณ์ สนุกเพลิน แต่หักคะแนนเพราะตอนจบรีบและมีพล็อตหลวมๆ ที่ไม่เคลียร์

บน Pantip และเว็บไทยอื่นๆ คะแนนผสมผสาน บางกระทู้จากทีมเว็บตูนต้นฉบับให้คะแนนต่ำเพราะบทต่างจากเดิมมาก แอคติ้งแข็ง และแคสติ้งไม่ตรง แต่แฟนซีรีส์ส่วนใหญ่ให้ 7-8/10 เพราะโปรดักชันดี ฉากแอคชันสนุก และข้อคิดเรื่องเสรีภาพ

ความรู้สึกแรกคือความฟินจากเคมีระหว่างตัวละครนำ โดยเฉพาะคู่พริ้นซ์กับโกศล ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงกับฉากโรแมนติกซึ้งๆ รักสามเส้ากับบรรจงเพิ่มความหึงหวงเข้มข้น ยิ่งดูยิ่งรู้สึกหวั่นไหวตาม การแสดงจริตเฟียสของพริ้นซ์ในร่างวรเดชสร้างเสียงหัวเราะและความเอ็นดู ทำให้บรรยากาศสดใสแม้ในฉากดราม่า

ธีมสิทธิ LGBTQ+ และการต่อสู้เพื่อเสรีภาพจุดประกายความรู้สึกสะเทือนใจ ฉากปฏิวัติและทรยศทางการเมืองทำให้รู้สึกลุ้นระทึก เหมือนกำลังร่วมศึกเปลี่ยนแปลงสังคม โปรดักชันสวยงามแบบพีเรียดเพิ่มความดื่มด่ำ ราวกับหลุดเข้าไปในยุคนั้นจริงๆ

แต่บางตอนทำให้รู้สึกงงกับพล็อตที่รีบเกินไป โดยเฉพาะตอนจบที่ยังค้างคาคำถาม ทำให้เกิดความรู้สึกอยากดูต่อหรืออ่านเว็บตูนต้นฉบับ โดยรวมแล้ว คือความประทับใจกับข้อคิดเรื่องความเท่าเทียม ที่ทำให้แผ่นดินนี้สวยงามยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน


ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568

ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568

ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568 EP.1-13 ตอนจบCHANGE2561​​​​​​​​

ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568 EP.1-13 ตอนจบiQIYI​​​​​​​​

ซีน ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568

Official Teaser I’m The Most Beautiful Count ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด | CHANGE2561 [EN/CN SUB]

ซีรีส์ ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด I’m The Most Beautiful Count 2568

เรื่องเริ่มต้นที่ตัวเอกของเรา “พริ้นซ์” หรือ “พรินซ์” (รับบทโดย นัท ศุภณัฐ) เธอเป็นไอดอลตัวแม่ LGBTQ+ สุดเฟียสในยุคปัจจุบัน ปี 2568 ในประเทศสมมติชื่อ “แสนยา” ที่มีกฎหมายแปลกประหลาดมาก คือใครประกาศตัวเป็น LGBTQ+ ต้องโดนปรับเงินทุกวัน แต่พริ้นซ์ไม่แคร์ เธอเฉิดฉายออกสื่อแบบเต็มที่ จริตสาวเก๋ๆ มาเต็ม ทำให้มีแฟนด้อมมหาศาล แต่ก็มีแอนตี้แฟนที่เกลียดเธอเยอะเหมือนกัน ก่อนวันคอนเสิร์ตใหญ่ พริ้นซ์โดนมือปริศนาวางยาพิษจนสลบไป ตื่นมาอีกที  วิญญาณเธอข้ามภพไปสิงร่าง “ขุนวรเดช” ลูกชายรูปงามของเจ้าเมืองสิงหนคร (บิ๊ก ศรุต) ในยุคอดีตเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ที่สังคมยังมองความรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องต้องห้าม ห้ามเปิดเผยเด็ดขาด

พริ้นซ์ต้องทำตัวเนียนๆ ในร่างผู้ชายนี้ บ่าวสนิทอย่าง “เจด” หรือ “เจษ” (ลี อัสรี) บอกว่าวรเดชอกหักเลยดื่มยาพิษตาย แล้ววิญญาณวรเดชเข้าฝัน ขอให้พริ้นซ์ช่วยทำตาม “ความปรารถนา” เพื่อที่เธอจะได้กลับบ้าน พริ้นซ์คิดว่าง่ายๆ แค่ไปเคลียร์ใจกับคนรักเก่าของวรเดช ก็เลยให้เจดพาไปหา “หม่อมโกศล” (ปิง โอบนิธิ) พี่ชายของกษัตริย์ “พระไชยเชษฐ์” (เอตั้น ธนกร) ระหว่างทาง เจอพระไชยเชษฐ์กำลังโดนไล่ฆ่า โกศลโผล่มาช่วยไว้ทันเวลา เรื่องราวเลยเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ

พริ้นซ์คุยกับโกศลเรื่องหักอกวรเดช แต่โกศลบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกันเลย แถมทั้งคู่กำลังวางแผนปฏิวัติเปลี่ยนการปกครอง เพื่อยกเลิกกฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน มีผู้ร่วมอุดมการณ์อย่าง “หลวงบรรจง” (ป๊อป ภัทรพล) ที่วรเดชเคยแอบรักแต่ไม่สมหวัง พริ้นซ์งงตายเลย ตกลงใครหักอกวรเดชกันแน่? หรือจริงๆ วรเดชโดนฆาตกรรม? ระหว่างสืบ พริ้นซ์ใกล้ชิดโกศลมากขึ้น ไปผจญภัยหนีตายด้วยกันหลายรอบ จนเกิดความรัก โกศลให้คำมั่นสัญญาหวานๆ ว่า “ทุกครั้งที่รอดชีวิต ข้าจะกลับมาหาเจ้า” แต่พริ้นซ์ก็สงสัยว่ารักนี้มีให้ตัวตนจริงๆ หรือแค่ร่างวรเดช?

ดราม่าการเมืองร้อนแรงมาก มีการทรยศจาก “สมเด็จแสนยากร” (ปราปต์ ปราปต์ปฎล) ที่อยากปลงพระชนม์พระไชยเชษฐ์และยึดอำนาจ เขาคือคนออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ+ ที่ส่งผลถึงยุคพริ้นซ์ พริ้นซ์เลยเปลี่ยนภารกิจจากกลับบ้านมาเป็นช่วยปฏิวัติ ปกป้องกษัตริย์ และตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อยกเลิกกฎหมายนี้ โดยมีข้อแม้กับโกศลว่าถ้าสำเร็จ ต้องออกกฎใหม่ให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ โกศลตอบตกลงเพราะตัวเขาเคยโดนลงโทษจากกฎนี้ ถูกปลดจากอุปราชและติดคุกหลายปี

เรื่องยิ่งเข้มข้น โกศลถูกกล่าวหากบฏ ต้องลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ พริ้นซ์เสี่ยงชีวิตช่วย แต่โกศลมีแผนลับ วิญญาณวรเดชทวงถามความปรารถนา ซึ่งไม่ใช่แค่บรรจงแต่เกี่ยวโยงโกศลด้วย หลังโค่นเจ้าพระยาสิงหานคร พบว่าตัวการจริงคือสมเด็จแสนยากร พริ้นซ์ร่วมศึก ใช้มารยาเก้งสาวศตวรรษที่ 21 ชักชวนชาวบ้านเข้าร่วมทัพ โกศลสารภาพรักตรงๆ ว่ายอมรับตัวตนพริ้นซ์ ไม่ว่าจะพูดมากหรือน้อย แต่หึงหวงเมื่อบรรจงบาดเจ็บตาบอดและพริ้นซ์ดูแลใกล้ชิด รักสามเส้าปะทุ! สงครามใหญ่เกิดขึ้น พริ้นซ์จากไอดอลกลายเป็นนักรบ หลังบ้านเมืองสงบ พระไชยเชษฐ์ถูกลอบยิง สมเด็จแสนยากรขึ้นครองราชย์ พริ้นซ์วางแผนแปลงโฉมเป็นหญิงงามกับโกศลและบรรจงเพื่อประชิดตัวศัตรู สุดท้ายจับกุมได้แต่พลิกผันเมื่อพระไชยเชษฐ์ถูกจับตัว ศึกตัดสินชะตาแผ่นดิน

สุดท้ายพริ้นซ์จะกลับบ้านได้มั้ย? โกศล บรรจง ไชยเชษฐ์ และเจด จะเปลี่ยนบ้านเมืองให้ทุกคนรักอิสระได้หรือเปล่า? บอกเลยว่าจบแบบเซอร์ไพรส์มาก ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ฟิน แต่ยังสอดแทรกประเด็นสังคมได้ดี

เบื้องหลังการผลิตซีรีส์ “ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด” มันมีเรื่องราวน่าสนใจเยอะมาก ทั้งดราม่าแคสติ้ง ความทุ่มเทของทีมงาน และความยากในการถ่ายทำ บอกเลยว่าถ้าใครเป็นแฟน BL ไทย ต้องรู้เบื้องหลังนี้ถึงจะฟินเต็มอิ่ม ซีรีส์เรื่องนี้ผลิตโดย CHANGE2561 ค่ายที่ดังเรื่องซีรีส์คุณภาพ

ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเว็บตูนหรือมังงะไทยชื่อ “ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยสุดในสยาม” โดยนักเขียน “ยืนกินปากกาที่ท่าพระ” ที่ฮิตมากบนแพลตฟอร์มอย่าง Webtoon มียอดวิวกว่า 50 ล้านวิว ผู้ผลิตอย่าง CHANGE2561 เห็นศักยภาพเลยซื้อลิขสิทธิ์มาทำซีรีส์ในปี 2568 ผู้จัดคือ “สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” และ “วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” ที่เคยทำซีรีส์ฮิตอย่าง “Laws of Attraction” มาแล้ว

567000012624501
“สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” และ “วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย”

เขาบอกว่าเลือกเรื่องนี้เพราะธีม LGBTQ+ และการเมืองที่ทันสมัย สามารถสอดแทรกข้อคิดสังคมได้ดี บทซีรีส์เขียนโดย “สันติมณีรัตน์” หรือ Sangsan Santimaneerat ที่ปรับจากต้นฉบับให้เข้ากับหน้าจอ โดยเพิ่มดราม่าการเมืองและโรแมนติกให้เข้มข้นขึ้น แต่ก็มีดราม่าจากแฟนเว็บตูนที่บอกว่าบางฉากเปลี่ยนไปเยอะ เพื่อหลีกเลี่ยงการวิจัยประวัติศาสตร์จริงๆ ทำให้ฉากกลายเป็นสมมติมากขึ้น

2bLDd 5f
Sangsan Santimaneerat สันติมณีรัตน์

ส่วนผู้กำกับคือ “กฤษฎา เตชะนิโลบล” หรือพี่โอ๋ ที่เคยกำกับซีรีส์พีเรียดหลายเรื่อง เขาพูดใน documentary ว่าความกดดันสูงมาก เพราะต้องถ่ายฉากย้อนยุคให้สวยงาม แต่งบประมาณจำกัด เลยต้องใช้ CGI ช่วยในฉากสงครามและราชสำนัก พี่โอ๋บอกว่าท้าทายสุดคือการผสม comedy กับ drama ให้ลงตัว โดยเฉพาะจริตเฟียสของพริ้นซ์ที่ต้องไม่เวอร์เกิน

10(84)
กฤษฎา เตชะนิโลบล” หรือพี่โอ๋

นักแสดงนำอย่าง นัท ศุภณัฐ (พริ้นซ์/วรเดช) ต้องฝึกการแสดงแบบ dual personality จากไอดอลสมัยใหม่มาเป็นขุนนางอดีต เขาเล่าว่าต้องเรียนฟันดาบ มวยไทย และเต้นเพื่อฉากต่อสู้ ปิง โอบนิธิ (โกศล) บอกว่าบทนี้ท้าทายเพราะต้องเล่นเป็นคนจริงจังแต่โรแมนติก ทุ่มเทมากจนบาดเจ็บจากฉากลุยไฟจริงๆ

ป๊อป ภัทรพล (บรรจง) เป็นหน้าใหม่จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เกิดปี 2543 เขาบอกว่าต้องปรับตัวกับรักสามเส้าให้ดูธรรมชาติ ลี อัสรี (เจด) และเอตั้น ธนกร (พระไชยเชษฐ์) ก็ช่วยเพิ่มสีสัน ทีมนักแสดงทุ่มเทสุดๆ มี workshop ร่วมกันหลายเดือนเพื่อสร้างเคมี

เบื้องหลังการถ่ายทำยากมาก เพราะเป็นพีเรียด มีฉากแอคชันเยอะ ทีมโปรดักชันเล่าว่าต้องสร้างเซ็ตราชสำนักและป่าเขาเอง เพราะโลเคชันจริงหายาก แถมเจอฝนตกหนักระหว่างถ่าย ทำให้ตารางล่าช้า มี documentary ชุดใหญ่บน YouTube ที่ CHANGE2561 ปล่อยออกมา เช่น ความยากของงานโปรดักชัน ความรู้สึกนักแสดง และ highlight การแสดง มีดราม่าแคสติ้งด้วยนะ บน Reddit แฟนๆ บ่นว่านักแสดงไม่ตรงปกเว็บตูน เช่น วรเดชในเว็บตูนเฟียสกว่านี้ แต่สุดท้ายเคมีปังจนแฟนๆ ยอมรับ การตลาดก็แรงมาก มี collaboration กับแบรนด์น้ำพริก แสตนดี้ และนิตยสาร KAZZ

เบื้องหลังเรื่องนี้เต็มไปด้วย passion ของทีมงาน ทำให้ซีรีส์ออกมาปังขนาดนี้ ถ้าใครอยากรู้เพิ่ม ลองไปดู documentary บน YouTube เลยนะ รับรองสนุก

นักแสดง

→ โอบนิธิ ลีลาเวชชบุตร รับบท โกศล

hq720
โอบนิธิ ลีลาเวชชบุตร

หม่อมโกศลเป็นลูกชายคนโตของกษัตริย์องค์ก่อน ผู้เคยถูกปลดจากตำแหน่งอุปราชและเนรเทศไปติดคุกเพราะกฎหมายต่อต้านความรักเพศเดียวกันในราชสำนักที่เต็มไปด้วยการเมืองสกปรก หลังพ้นโทษ เขากลับมาด้วยอุดมการณ์แรงกล้า ซ่องสุมกำลังเพื่อปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้ทุกคนมีเสรีภาพในความรัก โกศลมีบุคลิกเข้มแข็ง โหดร้ายต่อศัตรูแต่ลึกๆ แล้วอบอุ่นและภักดีต่อคนที่รัก เขาเป็นพี่ชายของพระไชยเชษฐ์ กษัตริย์หนุ่มที่ตกอยู่ในอันตรายจากแผนลอบปลงพระชนม์ โกศลร่วมมือกับขุนวรเดช (ซึ่งพรินซ์สิงร่าง) และหลวงบรรจงในการต่อสู้

แต่ความสัมพันธ์กับวรเดชพัฒนาไปไกลกว่านั้น จากคนรักเก่าที่ไม่เคยทะเลาะกัน เขาแสดงความรักอย่างซาบซึ้ง ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาเสมอหลังเผชิญอันตราย แววตาที่มองพรินซ์เต็มไปด้วยความจริงใจ สะท้อนว่ายอมรับตัวตนแท้จริง ไม่ว่าจะพูดน้อยหรือมาก โกศลยังหึงหวงเมื่อพรินซ์ใกล้ชิดบรรจง สารภาพตรงๆ ว่ายอมรับการเปลี่ยนแปลงของหัวใจ แต่ย้ำให้บอกความรู้สึกชัดเจนเพื่อเคลียร์บรรยากาศ ในสงคราม เขาเป็นผู้นำที่กล้าหาญ ลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เดิมพันชีวิตเพื่อราชสำนักและความรัก โกศลคือตัวแทนของผู้ถูกกดขี่ที่ลุกขึ้นสู้ ผสมผสานความแข็งแกร่งทางกายภาพกับอารมณ์อ่อนโยน ทำให้ตัวละครนี้มีมิติลึกซึ้ง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชม

ฉายาของโกศลคือ ราชันย์นักปฏิวัติหัวใจอบอุ่น
ฉายานี้สะท้อนตัวตนของเขาได้ดี เพราะโกศลไม่ใช่แค่นักรบผู้กล้าหาญที่นำการปฏิวัติล้มล้างกฎหมายอธรรม แต่ยังเป็นผู้ชายที่ปกป้องคนรักด้วยหัวใจอันอบอุ่น เขาเคยถูกเนรเทศและติดคุกเพราะความรักเพศเดียวกัน แต่แทนที่จะยอมแพ้ โกศลกลับใช้ประสบการณ์นั้นจุดประกายอุดมการณ์ ซ่องสุมกำลังจากผู้ถูกกดขี่เพื่อเปลี่ยนแปลงแผ่นดิน เมื่อใกล้ชิดพรินซ์ โกศลเผยด้านอ่อนโยน ให้คำมั่นสัญญาที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น สารภาพรักอย่างตรงไปตรงมาว่ายอมรับตัวตนแท้จริง ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ฉายานี้ยังบ่งบอกถึงความหึงหวงที่เขาแสดงออกชัดเจนเมื่อพรินซ์ดูแลบรรจง สวนกลับว่าหัวใจคนเปลี่ยนได้เสมอ แต่ต้องบอกกันตรงๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศอึมครึม โกศลคือราชันย์ที่ต่อสู้ทั้งในสนามรบและสนามรัก ทำให้ผู้ชมเห็นว่าความอบอุ่นสามารถอยู่คู่กับความเข้มแข็งได้

ข้อคิดจากโกศลคือ ความกล้าหาญในการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง
ข้อคิดนี้เห็นชัดจากชีวิตของโกศลที่เคยถูกกฎหมายลงโทษเพราะรักเพศเดียวกัน แต่เขากลับลุกขึ้นต่อสู้แทนที่จะยอมจำนน โกศลสอนว่าการเผชิญหน้ากับอันตรายไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนรุ่นหลังให้ไม่ต้องเจอกับความอยุติธรรมเดียวกัน เขาร่วมปฏิวัติปกป้องพระไชยเชษฐ์ โค่นสมเด็จแสนยากรผู้อยู่เบื้องหลังกฎหมายอธรรม และเสนอกฎใหม่ให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ แม้เสี่ยงชีวิตในพิธีลุยไฟหรือสงคราม โกศลยังคงยึดมั่นคำมั่นสัญญากับพรินซ์ แสดงว่าความกล้าหาญไม่ใช่แค่กายภาพ แต่รวมถึงหัวใจที่ยอมรับและปกป้องความรัก ข้อคิดนี้กระตุ้นให้ผู้ชมลุกขึ้นต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมในสังคมปัจจุบัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเริ่มจากคนกล้าที่ไม่ยอมแพ้

→ ศุภณัฐ เลาหะพานิช รับบท พรินซ์ / วรเดช

a0621880 a8f5 11ec 8cc6 97d66415826b original
ศุภณัฐ เลาหะพานิช

พรินซ์เป็นไอดอลตัวแม่ LGBTQ+ สุดเฟียสในประเทศแสนยา ยุค 2568 ที่กฎหมายลงโทษคนแสดงตัวตนด้วยค่าปรับ แต่เธอไม่แคร์ เฉิดฉายออกสื่อด้วยจริตสาวเก๋ ทำให้มีแฟนด้อมมหาศาลแต่ก็มีแอนตี้เยอะ ก่อนคอนเสิร์ตใหญ่ เธอถูกวางยาพิษจนสลบ ตื่นมาอีกทีข้ามภพสิงร่างขุนวรเดช ลูกชายรูปงามของเจ้าเมืองสิงหนครในอดีตร้อยปีก่อน ที่สังคมห้ามรักเพศเดียวกันเด็ดขาด พรินซ์ต้องปรับตัวทำตัวเนียนในร่างผู้ชายนี้ บ่าวสนิทเจษเล่าว่าวรเดชอกหักดื่มยาพิษตาย วิญญาณวรเดชเข้าฝันขอให้ทำตามความปรารถนาเพื่อกลับบ้าน พรินซ์คิดว่าง่ายแค่เคลียร์ใจคนรักเก่า แต่เรื่องซับซ้อนเมื่อพบว่าวรเดชเป็นนักปฏิวัติ ร่วมมือกับหม่อมโกศลและหลวงบรรจงเพื่อล้มกฎหมายอธรรม

เธอสับสนว่าความปรารถนาคืออะไร ระหว่างโกศลหรือบรรจง หรือจริงๆ คือการปฏิวัติ พรินซ์ใกล้ชิดโกศลผ่านผจญภัยหนีตาย เกิดความรักแต่สงสัยว่ารักตัวตนจริงหรือแค่ร่างวรเดช เธอเปลี่ยนภารกิจจากกลับบ้านมาเป็นร่วมศึกปกป้องพระไชยเชษฐ์ โค่นสมเด็จแสนยากรผู้อยู่เบื้องหลังกฎหมายต่อต้าน LGBTQ+ ที่ส่งผลถึงยุคเธอ พรินซ์ใช้มารยาเก้งสาวศตวรรษที่ 21 ชักชวนชาวบ้านเข้าร่วมทัพ ฝึกซ้อมรบกลายเป็นนักรบจากไอดอล เกิดรักสามเส้ากับบรรจงเมื่อเขาบาดเจ็บและเธอดูแลใกล้ชิด ทำให้โกศลหึงหวง สุดท้ายพรินซ์ต้องตัดสินใจระหว่างกลับยุคปัจจุบันหรืออยู่ต่อเพื่อความรักและเปลี่ยนสังคมให้ทุกคนมีอิสระ ตัวละครนี้มีมิติทั้งตลกจากจริตเฟียส ดราม่าจากการต่อสู้ และแรงบันดาลใจจากความกล้าเป็นตัวเอง

ฉายาของพรินซ์คือ ไอดอลข้ามภพผู้ปฏิวัติความรัก
ฉายานี้เหมาะสมมากเพราะพรินซ์ไม่ใช่แค่ไอดอลสาวเฟียสจากยุคปัจจุบันที่ข้ามภพมาสิงร่างขุนวรเดช แต่เธอยังนำพลังจากศตวรรษที่ 21 มาปฏิวัติสังคมอดีต เธอใช้เสน่ห์และคารมชักชวนชาวบ้านเข้าร่วมทัพต่อสู้สมเด็จแสนยากร เปลี่ยนกฎหมายลงโทษ LGBTQ+ และเสนอกฎใหม่ให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ พรินซ์ตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อคนรุ่นหลังไม่ต้องเจอกับความอยุติธรรมแบบเธอ ระหว่างทาง เธอจุดประกายความรักกับโกศล สารภาพตรงๆ และจัดการรักสามเส้ากับบรรจงโดยยึดมั่นหัวใจตัวเอง ฉายานี้ยังสะท้อนด้านฮาของเธอที่นำมารยาเก้งสาวมาออกศึกเยี่ยงชายชาติทหาร ทำให้การปฏิวัติไม่ใช่แค่สงครามแต่เต็มไปด้วยสีสันและความหวัง พรินซ์คือสัญลักษณ์ของการผสมผสานความสนุกกับการต่อสู้เพื่อสิทธิ ทำให้ผู้ชมเห็นว่าความรักสามารถเปลี่ยนโลกได้

ข้อคิดจากพรินซ์คือ การยอมรับตัวตนแท้จริงนำมาซึ่งอิสระและการเปลี่ยนแปลง
ข้อคิดนี้เห็นชัดจากชีวิตพรินซ์ที่ในยุคปัจจุบันยอมจ่ายค่าปรับทุกวันเพื่อเฉิดฉายเป็นตัวเอง แม้มีแอนตี้แต่เธอไม่ยอมก้มหัว เมื่อข้ามภพสิงร่างวรเดช เธอต้องปกปิดจริตแต่สุดท้ายใช้มันเป็นอาวุธในการปฏิวัติ ต่อสู้กฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน พรินซ์สอนว่าการกล้าเป็นตัวเองไม่ใช่แค่ส่วนตัว แต่สร้างแรงกระเพื่อมให้สังคม เธอใกล้ชิดโกศลจนเกิดรัก แต่สงสัยว่ารักจริงหรือแค่ร่าง สุดท้ายยอมรับตัวตนนำมาซึ่งความสัมพันธ์แท้จริง และชัยชนะเหนือทรราช ข้อคิดนี้กระตุ้นให้ผู้ชมลุกขึ้นต่อต้านความไม่เท่าเทียม เพราะเมื่อยอมรับตัวเอง ก็สามารถเปลี่ยนกฎเกณฑ์อธรรมให้ทุกคนมีอิสระในความรักได้ เหมือนพรินซ์ที่จากไอดอลกลายเป็นวีรสตรีข้ามภพ

→ ภัทรพล วัลลภศิริ รับบท บรรจง

ภัทรพล วัลลภศิริ

หลวงบรรจงเป็นขุนนางหนุ่มรูปหล่อผู้สุภาพและเงียบขรึม จนบางครั้งเดาอารมณ์ไม่ออก เขาเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ปฏิวัติกับหม่อมโกศลและขุนวรเดช (ซึ่งพรินซ์สิงร่าง) เพื่อล้มล้างกฎหมายอธรรมที่ห้ามรักเพศเดียวกัน บรรจงเคยถูกขุนวรเดชสารภาพรักแต่ปฏิเสธเพราะมุ่งมั่นกับการต่อสู้มากกว่า ทำให้เกิดความสับสนว่าคนหักอกวรเดชคือใคร เมื่อพรินซ์สืบหาความจริง บรรจงปรากฏตัวเพิ่มปริศนา เขาเสนอไอเดียชักชวนชาวบ้านที่หนีเกณฑ์ทหารในป่าเชิงเขาเข้าร่วมทัพ เพราะพวกนี้มีจิตใจกบฏอยู่แล้ว บรรจงกล้าหาญในสนามรบ แม้กำลังพลน้อยแต่เลือกเสี่ยงเดินหน้าแทนยอมแพ้

ในรักสามเส้า บรรจงยังหวังลมๆ แล้งๆ กับวรเดช แต่เมื่อพรินซ์ใกล้ชิดโกศล เขาก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงหัวใจ สุดท้ายบรรจงยอมเอาตัวเป็นโล่รับดาบแทนพรินซ์จนบาดเจ็บสาหัส ตาบอดชั่วคราว ทำให้พรินซ์ดูแลใกล้ชิด ป้อนข้าวป้อนน้ำ สร้างความหึงหวงให้โกศล บรรจงคือสุภาพบุรุษผู้เสียสละ ร่วมแผนแปลงโฉมเป็นหญิงงามเพื่อประชิดสมเด็จแสนยากร และต่อสู้ในศึกตัดสินชะตาแผ่นดิน เขามีน้องสาวชื่อปานดาวที่เพิ่มมิติครอบครัว บรรจงสะท้อนผู้ชายที่ยึดมั่นอุดมการณ์แต่เปิดใจกับความรัก ทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์เงียบๆ แต่ทรงพลัง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมเห็นความกล้าหาญในความสุภาพ

ฉายาของบรรจงคือ สุภาพบุรุษเงียบขรึมผู้กล้าหาญในศึก
ฉายานี้เหมาะสมเพราะบรรจงไม่ใช่แค่ขุนนางสุภาพที่เงียบขรึม เดาอารมณ์ไม่ออก แต่ยังเป็นนักรบผู้กล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่ออุดมการณ์ เขาร่วมปฏิวัติกับโกศลและพรินซ์ โค่นสมเด็จแสนยากรเพื่อยกเลิกกฎหมายลงโทษรักเพศเดียวกัน เสนอชักชวนชาวบ้านกบฏในป่าเชิงเขาเข้าร่วมทัพ แม้กำลังน้อยแต่เลือกเดินหน้าแทนยอมแพ้ บรรจงยอมรับดาบแทนพรินซ์จนบาดเจ็บตาบอด สะท้อนความเสียสละ ในรักสามเส้า เขายอมรับการเปลี่ยนแปลงหัวใจพรินซ์ที่หันไปรักโกศล แนะนำให้บอกความรู้สึกตรงๆ เพื่อเคลียร์บรรยากาศและเลิกหวังลมๆ แล้งๆ ฉายานี้ยังบ่งบอกด้านสุภาพของเขาที่ร่วมแผนแปลงโฉมเป็นหญิงงามเพื่อประชิดศัตรู ร่วมศึกตัดสินชะตาแผ่นดิน บรรจงคือตัวอย่างผู้ชายที่เงียบแต่ทรงพลัง ทำให้ผู้ชมเห็นว่าความกล้าหาญไม่จำเป็นต้องดัง แต่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงใหญ่ได้

ข้อคิดจากบรรจงคือ ความเสียสละเพื่อคนอื่นนำมาซึ่งความเข้าใจและชัยชนะ
ข้อคิดนี้เห็นชัดจากชีวิตบรรจงที่ยอมเอาตัวเป็นโล่รับดาบแทนพรินซ์จนบาดเจ็บสาหัส ตาบอดชั่วคราว แต่แทนที่จะโกรธ เขากลับเปิดโอกาสให้พรินซ์ดูแลใกล้ชิด สร้างความหึงหวงให้โกศลและเคลียร์รักสามเส้า บรรจงสอนว่าการเสียสละไม่ใช่แค่ในสนามรบ แต่รวมถึงการยอมรับการเปลี่ยนแปลงหัวใจคนอื่น เขาเสนอไอเดียชักชวนชาวบ้านกบฏเข้าร่วมทัพ แม้เสี่ยงชีวิต เพื่อล้มกฎหมายอธรรมและสร้างเสรีภาพให้แผ่นดิน ข้อคิดนี้กระตุ้นให้ผู้ชมเห็นว่าความกล้าหาญในการเสียสละนำมาซึ่งความเข้าใจระหว่างคนรักและชัยชนะเหนือทรราช เหมือนบรรจงที่จากสุภาพบุรุษเงียบขรึมกลายเป็นวีรบุรุษในศึกตัดสิน เพราะยึดมั่นอุดมการณ์และยอมให้เพื่อนรักมีความสุข

→ อัสรี วัฒนายากุล รับบท เจษ

อัสรี วัฒนายากุล

เจษเป็นบ่าวประจำตัวของขุนวรเดช ลูกชายเจ้าเมืองสิงหนคร ผู้จงรักภักดีและซื่อสัตย์สุดๆ เขาแอบคิดกับวรเดชเกินกว่าเจ้านายแต่ไม่เคยแสดงออกเกินเลย เจียมตัวในฐานะบ่าว ยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งตายเพื่อปกป้อง เมื่อพรินซ์ข้ามภพมาสิงร่างวรเดช เจษเป็นคนแรกที่เล่าว่าวรเดชอกหักดื่มยาพิษตาย แล้ววิญญาณเข้าฝันขอทำตามความปรารถนา เจษช่วยพรินซ์ปรับตัวทำตัวเนียนในยุคอดีต พาไปหาหม่อมโกศลคนรักเก่าของวรเดช ระหว่างทางเจอพระไชยเชษฐ์ถูกไล่ฆ่า โกศลมาช่วยไว้ เจษร่วมผจญภัยหนีตายหลายครั้ง เพิ่มความฮาจากปฏิกิริยาต่อจริตเฟียสของพรินซ์

เขาเป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกปัจจุบันกับอดีต ช่วยสืบหาความจริงว่าวรเดชตายเพราะอกหักจริงหรือถูกฆ่า เจษรู้เรื่องปฏิวัติของวรเดช โกศล และบรรจงเพื่อล้มกฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน แต่เก็บความรู้สึกส่วนตัวไว้เงียบ เมื่อเรื่องร้อนแรง เจษร่วมปกป้องพระไชยเชษฐ์จากสมเด็จแสนยากร ช่วยชักชวนชาวบ้านเข้าร่วมทัพ และต่อสู้ในศึกใหญ่ เขายังช่วยพรินซ์จัดการรักสามเส้ากับโกศลและบรรจง โดยไม่เคยเรียกร้องอะไรเพื่อตัวเอง เจษคือตัวละครสนับสนุนที่เพิ่มมิติความภักดีและความรักเงียบๆ ทำให้เรื่องราวอบอุ่นและน่าประทับใจ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมเห็นคุณค่าของความซื่อสัตย์ในมิตรภาพ

ฉายาของเจษคือ บ่าวภักดีผู้รักเงียบงัน
ฉายานี้เหมาะสมเพราะเจษไม่ใช่แค่บ่าวซื่อสัตย์ที่ยอมตายเพื่อขุนวรเดช แต่ยังแอบรักเกินกว่าเจ้านายโดยไม่เคยแสดงออกเกินเลย เจียมตัวในฐานะบ่าว ยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องและช่วยเหลือ เมื่อพรินซ์สิงร่างวรเดช เจษช่วยปรับตัว พาไปหาโกศล ร่วมผจญภัยหนีตาย และสืบหาความจริงเรื่องการตายของวรเดช เขารู้เรื่องปฏิวัติแต่เก็บความรู้สึกส่วนตัวไว้เงียบ ไม่เรียกร้องอะไรจากพรินซ์แม้หัวใจสลาย ฉายานี้ยังสะท้อนด้านฮาของเขาที่ปฏิกิริยาต่อจริตเฟียสของพรินซ์ เพิ่มสีสันให้เรื่อง แต่ลึกๆ แล้วคือผู้ชายที่รักอย่างเงียบงัน ร่วมศึกปกป้องพระไชยเชษฐ์และต่อสู้สมเด็จแสนยากรโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เจษคือตัวอย่างความภักดีที่ทำให้ผู้ชมเห็นว่าความรักแท้จริงไม่จำเป็นต้องประกาศ แต่สามารถสร้างพลังให้เรื่องราวเดินหน้าได้

ข้อคิดจากเจษคือ ความซื่อสัตย์และการเสียสละโดยไม่หวังผลตอบแทนนำมาซึ่งมิตรภาพแท้จริง
ข้อคิดนี้เห็นชัดจากชีวิตเจษที่จงรักภักดีต่อขุนวรเดช แอบรักแต่ไม่เคยแสดงออกเกินเลย ยอมทำทุกอย่างแม้ตายเพื่อปกป้อง เมื่อพรินซ์สิงร่าง เจษช่วยเล่าเรื่อง ช่วยปรับตัว และร่วมผจญภัยโดยไม่เรียกร้องอะไรตอบแทน เขาร่วมสืบหาความจริง ร่วมปฏิวัติล้มกฎหมายอธรรม และต่อสู้ในศึกใหญ่โดยยึดมั่นฐานะบ่าว เจษสอนว่าความซื่อสัตย์ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือการกระทำที่สนับสนุนคนรักโดยไม่หวังผล ข้อคิดนี้กระตุ้นให้ผู้ชมเห็นคุณค่าของมิตรภาพที่แท้จริง เพราะเมื่อเสียสละอย่างเงียบงัน ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจและช่วยให้เรื่องราวจบลงด้วยชัยชนะ เหมือนเจษที่จากบ่าวธรรมดากลายเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแผ่นดินให้มีเสรีภาพ

→ ธนกร เตชะวิชาญ รับบท ไชยเชษฐ์

Fv1la51akAATv94
ธนกร เตชะวิชาญ

พระไชยเชษฐ์เป็นกษัตริย์หนุ่มแห่งธนาปุระ น้องชายของหม่อมโกศล ผู้ขึ้นครองราชย์ด้วยความบริสุทธิ์และต้องการปกครองด้วยความยุติธรรม แต่ราชสำนักเต็มไปด้วยการหักหลัง ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายจากแผนลอบปลงพระชนม์จากสมเด็จแสนยากรผู้หวังยึดอำนาจ ไชยเชษฐ์ถูกไล่ฆ่าระหว่างทาง โกศลมาช่วยไว้ทันเวลา ทำให้เขาร่วมมือกับกลุ่มปฏิวัติเพื่อปกป้องบัลลังก์และเปลี่ยนกฎหมายอธรรมที่ห้ามรักเพศเดียวกัน ซึ่งส่งผลถึงยุคปัจจุบัน เขามีบุคลิกอ่อนโยน ซื่อตรง ไม่ชำนาญการเมืองเท่าพี่ชาย แต่ยึดมั่นในความถูกต้อง เมื่อถูกกล่าวหาว่าคิดกบฏ เขาออกพระราชโองการจับตายโกศลตามคำแนะนำของเจ้าพระยาสิงหานคร

แต่สุดท้ายพบความจริงว่าสมเด็จแสนยากรคือตัวการ ไชยเชษฐ์ประกาศจัดงานวันเพ็ญเดือน 12 เพื่อขวัญกำลังใจประชาชน ท่ามกลางเสียงดนตรีและความรื่นเริง แต่ถูกลอบยิงจนแผ่นดินไร้กษัตริย์ โกศลและพรินซ์ต้องปกป้องเขา ไชยเชษฐ์ถูกจับตัวโดยทหารภักดีของสมเด็จแสนยากรเพื่อแลกชีวิตกับอำนาจ ทำให้เกิดศึกตัดสินชะตาประเทศ เขาเป็นตัวแทนของผู้ปกครองที่บริสุทธิ์แต่ถูกหักหลัง สนับสนุนการยกเลิกกฎหมายลงโทษ LGBTQ+ และออกกฎใหม่ให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ ไชยเชษฐ์เพิ่มมิติความเปราะบางให้ราชสำนัก ทำให้เรื่องราวเข้มข้นด้วยดราม่าการเมืองและความภักดี สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมเห็นความสำคัญของพันธมิตรในโลกทรยศ

ฉายาของไชยเชษฐ์คือ กษัตริย์หนุ่มบริสุทธิ์ในวังวนทรยศ
ฉายานี้เหมาะสมเพราะไชยเชษฐ์ไม่ใช่แค่ผู้ปกครองหนุ่มที่อ่อนโยนและซื่อตรง แต่ยังถูกดึงเข้าสู่วังวนการหักหลังทางการเมืองจากสมเด็จแสนยากรผู้หวังปลงพระชนม์และยึดบัลลังก์ เขาถูกไล่ฆ่าระหว่างทาง โกศลพี่ชายมาช่วยไว้ทัน ทำให้ร่วมมือกับกลุ่มปฏิวัติเพื่อปกป้องแผ่นดิน ไชยเชษฐ์ยึดมั่นความยุติธรรม สนับสนุนเปลี่ยนกฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน แม้ถูกหลอกให้ออกพระราชโองการจับตายโกศล แต่สุดท้ายพบความจริงและลุกขึ้นต่อสู้ ฉายานี้ยังสะท้อนด้านเปราะบางของเขาที่ถูกลอบยิงในงานวันเพ็ญเดือน 12 จากค่ำคืนรื่นเริงกลายเป็นหายนะ และถูกจับตัวเพื่อแลกเปลี่ยนอำนาจ ไชยเชษฐ์คือสัญลักษณ์ของผู้ปกครองบริสุทธิ์ที่เรียนรู้จากทรยศ ทำให้ผู้ชมเห็นว่าความซื่อตรงสามารถเอาชนะเล่ห์กลได้เมื่อมีพันธมิตรที่แท้จริง

ข้อคิดจากไชยเชษฐ์คือ ความบริสุทธิ์และความยุติธรรมในโลกการเมืองนำมาซึ่งชัยชนะเหนือทรยศ
ข้อคิดนี้เห็นชัดจากชีวิตไชยเชษฐ์ที่ขึ้นครองราชย์ด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ต้องการปกครองอย่างยุติธรรม แต่ถูกดึงเข้าวังวนหักหลังจากสมเด็จแสนยากร เขาถูกหลอกให้ออกพระราชโองการจับตายโกศล แต่สุดท้ายพบความจริงและร่วมมือกับกลุ่มปฏิวัติเพื่อโค่นทรราช สนับสนุนยกเลิกกฎหมายลงโทษ LGBTQ+ และออกกฎใหม่ให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ ข้อคิดนี้กระตุ้นให้ผู้ชมเห็นว่าความซื่อตรงไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นพลังที่ดึงดูดพันธมิตรอย่างโกศล พรินซ์ และบรรจงมาปกป้อง แม้ถูกลอบยิงและจับตัว ไชยเชษฐ์ยังยึดมั่นความถูกต้อง นำมาซึ่งศึกตัดสินที่เปลี่ยนแผ่นดินให้มีเสรีภาพ เพราะเมื่อยึดมั่นยุติธรรม ก็สามารถเอาชนะเล่ห์กลและสร้างสังคมที่ดีกว่าได้

→ จิรัชญา กิจถาวรสกุล รับบท ปานดาว น้องสาวของบรรจง

GcL52awbQAAO4Uk
จิรัชญา กิจถาวรสกุล

ปานดาวเป็นน้องสาวของหลวงบรรจง ขุนนางหนุ่มผู้สุภาพและเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ปฏิวัติ เธออาศัยในบ้านของบรรจง มีบุคลิกอ่อนโยน ฉลาด และจงรักภักดีต่อครอบครัว ปานดาวรู้เรื่องปฏิวัติของพี่ชายที่ร่วมกับหม่อมโกศลและขุนวรเดช (ซึ่งพรินซ์สิงร่าง) เพื่อล้มกฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน แต่เธอเก็บความลับนี้ไว้เงียบ ไม่เคยทรยศแม้ในสถานการณ์คับขัน เธอช่วยเหลือกลุ่มโดยลับๆ เช่น ส่งข่าวสาร สนับสนุนด้านเสบียง หรือดูแลบรรจงเมื่อเขาบาดเจ็บสาหัสจากการปกป้องพรินซ์จนตาบอดชั่วคราว ปานดาวเพิ่มดราม่าครอบครัวเมื่อเธอกังวลถึงความปลอดภัยของพี่ชายในสงครามกับสมเด็จแสนยากร เธอพยายามโน้มน้าวบรรจงให้ถอย

แต่สุดท้ายยอมรับอุดมการณ์และช่วยชักชวนชาวบ้านบางส่วนเข้าร่วมทัพ ในรักสามเส้า ปานดาวเป็นผู้สังเกตการณ์ที่เห็นความหึงหวงระหว่างพรินซ์ โกศล และบรรจง เธอให้คำแนะนำแก่พี่ชายให้บอกความรู้สึกตรงๆ เพื่อเคลียร์บรรยากาศ ปานดาวยังมีบทบาทในแผนแปลงโฉมเป็นหญิงงามเพื่อประชิดสมเด็จแสนยากร ใช้เสน่ห์ช่วยเหลือกลุ่ม เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงในยุคอดีตที่ถูกกดขี่แต่ลุกขึ้นสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง สร้างมิติความสัมพันธ์ในกลุ่มตัวละคร ทำให้เรื่องราวอบอุ่นและน่าประทับใจ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมเห็นคุณค่าของการสนับสนุนจากครอบครัวในยามวิกฤต

ฉายาของปานดาวคือ น้องสาวผู้สนับสนุนในเงามืด
ฉายานี้เหมาะสมเพราะปานดาวไม่ใช่แค่น้องสาวอ่อนโยนของบรรจง แต่ยังเป็นผู้หญิงที่ช่วยเหลือกลุ่มปฏิวัติโดยลับๆ ไม่เคยปรากฏตัวเด่นแต่มีบทบาทสำคัญ เธอส่งข่าวสาร ดูแลพี่ชายเมื่อบาดเจ็บ และช่วยชักชวนชาวบ้านเข้าร่วมทัพต่อสู้สมเด็จแสนยากร ปานดาวกังวลความปลอดภัยของบรรจงแต่ยอมรับอุดมการณ์ ยืนเคียงข้างในการล้มกฎหมายอธรรมห้ามรักเพศเดียวกัน ฉายานี้ยังสะท้อนด้านฉลาดของเธอที่สังเกตเห็นรักสามเส้า ให้คำแนะนำพี่ชายให้บอกความรู้สึกตรงๆ เพื่อเลิกหวังลมๆ แล้งๆ กับพรินซ์ เธอร่วมแผนแปลงโฉมเป็นหญิงงามเพื่อประชิดศัตรู สร้างโอกาสให้กลุ่มชนะ ปานดาวคือสัญลักษณ์ของผู้สนับสนุนเงียบๆ ที่ทำให้ผู้ชมเห็นว่าการช่วยเหลือจากเบื้องหลังสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงใหญ่ได้

ข้อคิดจากปานดาวคือ การสนับสนุนจากครอบครัวคือพลังที่ช่วยเอาชนะอุปสรรค
ข้อคิดนี้เห็นชัดจากชีวิตปานดาวที่น้องสาวบรรจงยืนเคียงข้างพี่ชายในปฏิวัติ แม้กังวลแต่ช่วยเหลือโดยลับๆ ส่งข่าวสารและดูแลเมื่อเขาบาดเจ็บจากการปกป้องพรินซ์ ปานดาวสอนว่าครอบครัวไม่ใช่แค่สายเลือด แต่คือการยอมรับอุดมการณ์และช่วยเหลือในยามวิกฤต เธอให้คำแนะนำในรักสามเส้า ช่วยเคลียร์ความเข้าใจผิด ข้อคิดนี้กระตุ้นให้ผู้ชมเห็นคุณค่าของการสนับสนุนที่เงียบงัน เพราะเมื่อครอบครัวรวมใจ ก็สามารถล้มทรราชอย่างสมเด็จแสนยากรและเปลี่ยนกฎหมายให้แผ่นดินมีเสรีภาพ เหมือนปานดาวที่จากน้องสาวธรรมดากลายเป็นส่วนสำคัญในชัยชนะ


“ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด” (I’m The Most Beautiful Count) ปี 2568 จาก CHANGE2561 ได้สร้างกระแสฮือฮาไปแล้วกับภาคแรกที่จบลงด้วยชัยชนะเหนือทรราชและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้ทุกคนมีเสรีภาพในความรัก ถ้าจะมีภาค 2 จะเป็นอย่างไร

ในภาค 2 “ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุด: ราชบัลลังก์แห่งเสรีภาพ” เรื่องราวเริ่มต้นหลังจากชัยชนะเหนือสมเด็จแสนยากร พรินซ์ (นัท ศุภณัฐ) ตัดสินใจอยู่ต่อในอดีตเพื่อความรักกับหม่อมโกศล (ปิง โอบนิธิ) และช่วยพระไชยเชษฐ์ (เอตั้น ธนกร) สร้างราชสำนักใหม่ที่ให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ แต่ความสงบสุขอยู่ได้ไม่นาน เมื่อวิญญาณของขุนวรเดชกลับมาหลอกหลอนพรินซ์ บอกว่าความปรารถนายังไม่สมบูรณ์เพราะมีศัตรูเก่าที่รอดชีวิตและวางแผนแก้แค้นจากต่างแดน พรินซ์ต้องเผชิญกับการเมืองระหว่างราชอาณาจักรใกล้เคียงที่ไม่ยอมรับกฎหมายใหม่ ส่งกองทัพบุกเพื่อล้มล้างธนาปุระ

พรินซ์ใช้มารยาเก้งสาวศตวรรษที่ 21 ผสมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เธอจำได้ เช่น การสร้างอาวุธลับหรือแผนการสอดแนม ร่วมกับโกศลและหลวงบรรจง (ป๊อป ภัทรพล) ที่ตอนนี้แต่งงานกับปานดาว (จิรัชญา กิจถาวรสกุล) เพิ่มดราม่าครอบครัว เจษ (ลี อัสรี) ยังคงเป็นบ่าวสนิทที่ช่วยพรินซ์สืบหาศัตรู มี twists ใหญ่เมื่อพรินซ์พบว่ามีวิญญาณอื่นข้ามภพมาสิงร่างคนใกล้ชิด ทำให้เกิดการหักหลังภายในราชสำนัก รักสามเส้ากลับมาอีกครั้งเมื่อบรรจงเริ่มสงสัยความรู้สึกตัวเองหลังจากพรินซ์ใกล้ชิดโกศลมากขึ้น เรื่องราวเข้มข้นด้วยสงครามใหญ่ การทรยศจากพันธมิตรเก่า และภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ถูกกดขี่จากกฎหมายเก่า สุดท้ายพรินซ์ต้องเลือกระหว่างกลับยุคปัจจุบันเพื่อหยุดภัยพิบัติที่ส่งผลจากอดีต หรืออยู่ต่อเพื่อปกป้องแผ่นดินและความรัก

ภาค 2 นี้จะเพิ่มองค์ประกอบแฟนตาซีมากขึ้น เช่น การข้ามภพหลายครั้ง และประเด็นสังคมลึกซึ้ง เช่น การยอมรับความหลากหลายในราชอาณาจักรอื่นๆ นักแสดงเดิมกลับมาครบทีม บวกกับตัวละครใหม่จากต่างแดนเพื่อเพิ่มความสดใหม่