เมื่อเพชรที่ถูกปล้นตกอยู่ในครอบครองของชาวคณะลิเก “บุญเอก” และชาวคณะจึงต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องอันตราย โดยมี “บังอร” กับ “เดชา” สองตำรวจแฝงตัวมาตามหาเพชร และช่วยคุ้มครองความปลอดภัยให้ชาวคณะลิเก ท่ามกลางศึกชิงเพชรมูลค่ามหาศาล ความรักก็บังเกิดในคณะลิเกไปพร้อมกัน
ละคร พยัคฆ์ยี่เก 2565
ฉากเด็ด พยัคฆ์ยี่เก 2565
เรื่องราวของลิเกหนุ่ม ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับการตามหาเพชรมูลค่ามหาศาล และตำรวจสาวซึ่งได้รับคำสั่งให้ติดตามทำคดีนี้ ความสัมพันธ์ของพระเอกลิเกหนุ่มกับคุณตำรวจสาวจะเป็นอย่างไร
เรื่องราวของศิลปินกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งยึดการแสดงลิเกเป็นอาชีพ แม้ความนิยมของคนดูจะลดน้อยถอยลง แต่พวกเขายังคงต่อสู้ ดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดของคณะ แต่เมื่อคณะลิเกเข้าไปพัวพันกับการปล้นเพชรครั้งยิ่งใหญ่โดยไม่ตั้งใจ จึงนำเรื่องวุ่นวายและความตายมาสู่คนในคณะลิเก
บุญเอก อัมรินทร์ (วิชญพงศ์ เอี่ยมสะอาด) หัวหน้าคณะลิเกพระเอกเสียงมนต์เสก บุญเอกได้นำเอาวิทยาการสมัยใหม่ รวมทั้งเพลงลูกทุ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม เข้ามาผสมผสานในการแสดงบนเวที เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนดู โดยมี อินทิรา อัมรินทร์ (ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน) น้องสาววัยใสของบุญเอก ซึ่งที่มีทั้งความสวยและความน่ารักเป็นนางเอกประจำ
คณะลิเกไฮเทคของบุญเอกไปแสดงที่ไหนมักจะมีบรรดาแม่ยกแห่ตามกันมาดูขวัญใจของตน โดยเฉพาะ นวล (บัวผัน ทังโส) ภรรยาของ กำนันเทิด (เอกพัน บันลือฤทธิ์) ผู้มีอิทธิพล ถึงแม้กำนันเทิดจะไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเกรงใจ และกลัวเมีย จึงส่ง ทำนุ (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชายวัยรุ่น ที่กำลังสร้างอิทธิพลแข่งกับพ่อตามไปก่อกวน แต่ทำนุกลับมาถูกใจอินทิราจนไม่กล้าป่วน แถม ทับทิม (มาริสา โชลล์) น้องสาวคนสวยของทำนุ กลับไปหลงใหลบุญเอกแข่งกับแม่ กำนันเทิดจึงชอกช้ำเป็นทวีคูณ
บุญเอกยังมีลิเกคู่แข่งอีกคณะหนึ่งคือ อนุชิต ศิษย์สำราญ (ชลพิพรรธน์ ชูแสง) โดยมี น้ำอ้อย (จิตรเลขา พูลสวัสดิ์) ซึ่งสวยไม่น้อยหน้าใครเป็นนางเอก ทั้งสองคณะไม่มีใครยอมใคร ไปตั้งเวทีประชันกันที่ไหน เป็นต้องงัดไม้ตายออกมาสู้กัน แม้บางครั้งคณะอนุชิตจะมีแผนการร้าย ๆ แต่ก็ทำอะไรลิเกไฮเทคของบุญเอกที่ร้องเพราะกว่า รำสวยกว่าไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมชาติของคนขี้แพ้ชวนตี จึงทำให้ลิเกสองคณะยกพวกเข้าห้ำหั่นกันบ่อยครั้ง
มีการจัดแสดงเพชรระดับโลกขึ้นที่กรุงเทพฯ หลายประเทศได้ส่งเพชรชั้นสุดยอดเข้ามาร่วมงานด้วย เดวิด (ชานนท์ จันทสะโร) นักธุรกิจจากต่างชาติผู้จัดงาน ได้วางแผนโจรกรรมเพชรที่ตัวเองจัดแสดงอย่างแยบยล แต่ เชิด (โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์) เป็นตัวการปล้นซ้อนแผนของเดวิด โดยมี ดารา (ชมพูนุท พึ่งผล) เป็นคนวางแผน เมื่อปล้นได้ เชิดนัด รองมงคล (จิรายุ อึ้งวานิช) หลังโรงลิเกเพื่อขายเพชร ในขณะที่ลิเกกำลังเล่น เชิดเอาเพชรไปซ่อนไว้ที่รถบัสของคณะลิเกบุญเอก จุดเริ่มต้นของเรื่องร้าย ๆ จึงเกิดขึ้น เพราะบุญโอบเจอเพชรที่ซ่อนอยู่ในรถ
ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่ง ร.ต.อ. เดชา (วงศธร สมศรี) และ ร.ต.ท.หญิง บังอร (ญาณิศา ธีราธร) มือปราบฝีมือดีแห่งยุค ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยเดชาตัดสินใจแฝงตัวเข้าไปอยู่ในคณะลิเกของบุญเอก เพื่อตามสืบความจริงของคดีเพชรที่หายไปในครั้งนี้
ความชุลมุน ชวนลุ้นระทึกไปกับการตามหาเพชรที่หายไป รวมถึงเรื่องหัวใจของหัวหน้าคณะลิเกหนุ่มสุดหล่อ ที่หวั่นไหวไปกับคุณตำรวจสาวคนสวยจะเป็นอย่างไร
บทประพันธ์โดย : มิสเตอร์เค
บทโทรทัศน์โดย : มิสเตอร์เค, โจ้ สิงห์เดี่ยว
ผลิตโดย : โคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป
นักแสดง
วิชญพงศ์ เอี่ยมสะอาด รับบท บุญเอก อัมรินทร์
ญาณิศา ธีราธร รับบท ร.ต.ท.หญิง บังอร รุจิเรข
วงศธร สมศรี รับบท ร.ต.อ. เดชา ชาญณรงค์
ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน รับบท อินทิรา อัมรินทร์
มาริสา โชลล์ รับบท ทับทิม
โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์ รับบท เชิด
จิรายุ อึ้งวานิช รับบท พ.ต.ท. มงคล สาธุธรรม
ชมพูนุท พึ่งผล รับบท ดารา
เอกพัน บรรลือฤทธิ์ รับบท กำนันเทิด
ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา รับบท เสี่ยอ่าง
มงคล สะอาดบุญญพัฒน์ รับบท เด็ดดวง
เขมจิรา วงษ์ทอง รับบท น้ำหวาน
พ.ต.ท. ภูริวัจน์ บุญสุยา รับบท พ.ต.อ. ธานี แก้วกาญจน์
ธนายง ว่องตระกูล รับบท หมู่ชื่น ชื่นบาน
ชลพิพรรธน์ ชูแสง รับบท อนุชิต
จิตรเลขา พูลสวัสดิ์ รับบท น้ำอ้อย
ฉัตรมงคล บำเพ็ญ รับบท ใหญ่
สุทธิ์คุณ วันทานุ รับบท ทำนุ
พวง เชิญยิ้ม รับบท บุญโอบ
บัวผัน ทังโส รับบท นวล
ยาว ลูกหยี รับบท เซียะ
ชานนท์ จันทสะโร รับบท เดวิด
วัชรชัย สุนทรศิริ รับบท หมอมนตรี
พ.ต.ท. เอกพงษ์ ผูกพันธ์ รับบท พ.ต.ท.สันติ เวชกุล
สุริยา แกล้วทนงค์ รับบท ส.ต.อ.แม้น เลิศกาญดี
คม ซุปเปอร์โจ๊ก รับบท ชุ่ม
จเร เชิญยิ้ม รับบท ฉ่ำ
โปรย ซุปเปอร์โจ๊ก รับบท เด่น
เหยิน สกอร์เปี้ยน รับบท นิ่ม
ขลา ปานแก้ว รับบท นง
ณวรรธ โออินทร์ รับบท เหว่ย
จั๊กจั่น ลูกหยี รับบท กัง
วีรสุดา จงจอหอ รับบท ดาว
พยัคฆ์ยี่เก ภาพยนตร์ไทยแนวบู๊จากค่าย โคลีเซี่ยมฟิล์ม ที่ออกฉายครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2526 จากการกำกับของอดีตนักแสดงและผู้กำกับผู้ล่วงลับ คมน์ อรรฆเดช นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี และ หม่อมหลวงสุรีย์วัลย์ สุริยง นอกจากนี้ยังได้นักแสดงชื่อดังของทวีปเอเชียถึง 2 คนคือ เดวิด เจียง และ ฉี เส้าเฉียน มาร่วมแสดง
อีก 26 ปีต่อมาคือใน พ.ศ. 2552 คมน์ อรรฆเดช ได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้งในรูปแบบละครโทรทัศน์พร้อมกับปรับปรุงเนื้อหาให้ร่วมสมัยมากขึ้นพร้อมกับเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาออกอากาศทาง ช่อง 7 สีนำแสดงโดย อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร จิลล์ โรเจอร์ สุธิราช วงศ์เทวัญ และ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์
ฉบับภาพยนตร์
เรื่องราวของพระเอกลิเกหนุ่มชื่อดังขวัญใจแม่ยกที่ได้สร้อยคอซึ่งมีมูลค่ามหาศาลมาโดยบังเอิญเนื่องจากเกิดการหักหลังโดยกลุ่มโจร 2 กลุ่มพร้อมกับส่งต่อสร้อยคอให้กับน้องสาวซึ่งเป็นนางเอกลิเกทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิงระหว่างกลุ่มโจรทั้ง 2 กลุ่มที่หวังจะครอบครองสร้อยคอเส้นนี้และตำรวจสากล 2 พี่น้องที่หวังจะนำสร้อยคอเส้นนี้คืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง
ฉบับละครโทรทัศน์ พ.ศ. 2565
บุญโอบ (พวง เชิญยิ้ม) หัวหน้าคณะลิเก ที่ต้องมีภาระรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง ที่จะต้องเลี้ยงดูทีมงานหลายสิบชีวิต โดยมี บุญเอก (ริส-วิชญพงษ์ เอี่ยมสะอาด) ลูกชายรับบทพระเอก และ อินทิรา (อลิศ-ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน) รับบทนางเอก ลิเกไฮเทคที่มีบุญเอกเป็นพระเอก ได้มีสาวแก่ แม่ม่าย และบางคนก็ผัวเผลอ มาติดพันพระเอกสุดหล่อกันอย่างมากมาย โดยมีลิเกคณะของ อนุชิต (ฟอร์ม-ชลพิพรรธน์ ชูแสง) เป็นคู่แข่งตัวสำคัญ
และแล้วความวุ่นวายโกลาหลก็มาเยือนคณะลิเกของบุญเอก เมื่อผู้ร้ายได้นำเพชรมูลค่ามหาศาล ที่โจรกรรมมาจากงานแสดงเพชรระดับโลกในกรุงเทพฯ มาซุกซ่อนไว้ในรถบัสของคณะลิเกบุญเอก โดยบุญโอบเป็นคนเจอเพชรที่เอามาซุกซ่อนไว้เพียงคนเดียว การปล้นเพชรครั้งนี้เป็นการปล้นแบบแผนซ้อนแผน จึงทำให้เหล่าผู้ร้ายจากหลายแก๊งค์ ต่างพากันสืบเสาะหาจนได้รู้เบาะแสว่า เพชรมูลค่ามหาศาลอยู่กับคณะลิเก แต่ไม่รู้ว่าอยู่กับคณะไหนกันแน่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้เบาะแสมาเช่นเดียวกัน จึงส่ง ร.ต.อ.เดชา (ซัน-วงศธร สมศรี) และ ร.ต.ท.หญิงบังอร (แก้ม-ญาณิศา ธีราธร) สองตำรวจมือปราบฝีมือดี แฝงตัวเข้าไปอยู่กับคณะลิเกของบุญเอก ถึงแม้พระเอกลิเกจะไม่ค่อยเต็มใจนัก เพราะมักจะมีเรื่องเป็นไม้เบื่อไม้เบากับตำรวจสาวคนเก่งตลอดเวลา
เมื่อยังสืบหาเพชรไม่ได้ว่าอยู่กับลิเกคณะไหน เสี่ยอ่าง (ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา) จึงยอมลงทุนจ้างคณะลิเกให้มาประชันกัน พร้อมมีรางวัลพิเศษให้กับคณะลิเกที่มีเครื่องประดับสวยงามที่สุด บุญโอบตกหลุมพรางของเสี่ยอ่าง จึงนำเครื่องเพชรมาแต่งให้อินทิราจนแวววับสดุดตา โดยไม่รู้ว่าภัยกำลังมาถึงตัวเองและลูก เสี่ยอ่างสั่งให้ลูกน้องจับตัวอินทิราไป และบุญโอบถูกยิงเสียชีวิต ทำนุ (สุทธิ์คุณ วันทานุ) ลูกชายของ กำนันเทิด (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) ซึ่งหลงรักอินทิรา ได้มาช่วยเหลือเธอเอาไว้ได้ แต่ได้ส่งตัวไปให้ผู้ร้ายอีกกลุ่มหนึ่ง โดยไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มที่ปล้นเพชรเช่นกัน ชะตากรรมของนางเอกลิเกแสนสวยอย่างอินทิรายังไม่จบสิ้น เธอถูกผู้ร้ายอีกกลุ่มหนึ่งมาแย่งชิงตัวไปยังชายแดน ทำให้ผู้กองเดชาและผู้หมวดบังอร ต้องออกแรงช่วยบุญเอกอย่างเต็มที่ เพื่อติดตามเอาตัวของอินทิราให้รอดชีวิตจากเงื้อมือโจร