เมื่อปีพุทธศักราช ๒๒๓๑ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคต พระเพทราชาได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา และทรงตั้งขุนหลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) ผู้เป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งโดยแท้จริงคือราชโอรสของพระนารายณ์ขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล มีอำนาจหน้าที่ในการเก็บภาษีฤชาอากรราษฎร
ละคร พันท้ายนรสิงห์ 2558
เพลง: ชีวิตฉันเป็นของเธอ (เพลงประกอบละครพันท้ายนรสิงห์)แต่กรมพระราชวังบวรทรงแต่งตั้งให้พระยาราชสงครามผู้ร่วมก่อการยึดอำนาจครั้งนั้น และเป็นพ่อของพระองค์รัตนาพระชายา เป็นผู้ดำเนินการเก็บภาษี พระยาราชสงครามมักใหญ่ใฝ่สูงอยากได้ราชสมบัติเอง จึงเก็บภาษีรีดนาทาเร้นราษฎรจนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า พระพิชัยเจ้าเมืองวิเศษชัยชาญผู้เคยเป็นราชองครักษ์ของพระนารายณ์จึงซ่องสุมชายฉกรรจ์เมืองวิเศษชัยชาญออกปล้นทรัพย์ราษฎรคืนจากกองทหารหลวง ซึ่งชายฉกรรจ์เมืองวิเศษชัยชาญนี้มีสินร่วมอยู่ด้วย
เมื่อความทราบถึงกรมพระราชวังบวร (พระเจ้าเสือ) พระองค์จึงทรงปลอมพระองค์เป็นชาวบ้านออกสืบความ ณ แขวงวิเศษชัยชาญ กับทองอ่อน มหาดเล็กคู่พระทัย เมื่อมาถึงแขวงวิเศษชัยชาญทรงเข้าเปรียบมวยกับสินในงานวัดเพราะทรงโปรดการชกมวยเป็นอย่างมาก แต่เชิงมวยของสินนั้นยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน พระองค์จึงโปรดสินเป็นพระสหายโดยที่สินไม่รู้ว่าพระองค์คือพระเจ้าเสือ กรมพระราชวังบวรแห่งกรุงศรีอยุธยา และได้ทรงลงแข่งเรือกับชาวบ้านวิเศษชัยชาญโดยมีสินเป็นนายท้าย ซึ่งสินคัดท้ายได้ดีเยี่ยมจึงยิ่งโปรดสินมากขึ้น ขณะนั้นพระยาราชสงครามได้นำกองทหารมาเก็บภาษี ชาววิเศษชัยชาญจำพระองค์ได้จึงหมายลอบปลงพระชนม์แต่สินได้ช่วยพระองค์ไว้ได้อีก พระองค์จึงทรงกรีดเลือดสาบานเป็นเพื่อนกับสินแล้วเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา
พระยาราชสงครามได้เก็บภาษีอย่างขูดรีด ราษฎรบ้านไหนไม่มีเงินจ่ายก็จะฉุดคร่าเอาลูกสาวไปเป็นค่าฤชาแทน โดยโยนความโหดเหี้ยมให้กับพระเจ้าเสือ จึงสร้างความแค้นให้กับพระพิชัย และชาวบ้านยิ่งขึ้น คืนหนึ่งครอบครัวของนวล คนรักของสิน ถูกทหารพระยาราชสงครามจับตัวไป และฆ่านาก แข้งเหล็ก พี่ชายของนวล พร้อมกับชาววิเศษชัยชาญตายไปหลายคน สินตามไปแก้แค้นแต่ถูกทหารหลวงจับตัวได้ ถูกนำตัวเข้าวังหลวง และได้รู้ว่านายเดื่อซึ่งเคยชกมวยกันมาก่อนคือพระเจ้าเสือก็แปลกใจ พระเจ้าเสือจึงทรงอธิบายความจริงให้สินรู้ถึงเหตุที่ปลอมพระองค์เป็นชาวบ้านให้สินฟัง และได้พระราชทานยศขึ้นเป็นพันท้ายนรสิงห์ถือท้ายเรือพระที่นั่งเมื่อรู้ความจริงว่าพระเจ้าเสือไม่ใช่คนโหดร้ายอย่างที่เคยคิดมาก่อนจึงพยายามแจ้งให้พวกวิเศษชัยชาญรู้แต่ไม่มีใครยอมเชื่อ กลับเข้าใจว่าสินได้ดิบได้ดีแล้วทรยศต่อชาววิเศษชัยชาญ ส่วนพระเจ้าเสือนั้นเมื่อมีหลักฐานสำคัญชัดเจนว่าพระยาราชสงครามเป็นผู้นำชื่อพระองค์ไปข่มเหงรังแกราษฎรจนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าจึงให้ลงโทษจนสิ้นชีวิต ทำให้พระองค์รัตนาเกิดความแค้นหันมาร่วมมือกับพระพิชัยลอบสังหารพระเจ้าเสือ
ในปีพุทธศักราช ๒๒๔๖ สมเด็จพระเจ้าเสือได้เสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเพทราชา และอยากสร้างความเข้าใจกับราษฎร จึงทรงให้จัดขบวนเรือเสด็จไปตกปลายังแขวงเมืองสาครบุรี แต่กลับเป็นการสร้างโอกาสให้พระพิชัย และชาวบ้านวางแผนปลงพระชนม์ สินรู้เรื่องพยายามให้นวลไปห้ามปรามแต่ไม่มีใครเชื่อ แต่สินก็ไม่กล้ากราบทูลพระเจ้าเสือเพราะจะทำให้พระพิชัยผู้มีพระคุณ และเพื่อน ๆ ได้รับโทษ และเมื่อเรือพระที่นั่งเสด็จมาถึงคลองโคกขาม สินจึงตัดสินใจคัดท้ายเรือพุ่งชนต้นไม้ริมตลิ่งให้หัวเรือหักเพื่อไม่ให้พระเจ้าเสือไปถึงจุดที่พระพิชัยลอบสังหารอยู่ แต่โทษของผู้ที่ทำหัวเรือหักตามกฎมณเฑียรบาลจะต้องถูกตัดคอให้สิ้นชีวิต สมเด็จพระเจ้าเสือนั้นทรงมีความผูกพัน และรักน้ำใจพันท้ายนรสิงห์ อยู่เห็นว่าคลองโคกขามนั้นคดเคี้ยวมากจึงทรงพระราชทานอภัยไม่ทรงลงโทษ แต่พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอมให้พระเจ้าเสือทรงทำผิดกฎมณเฑียรบาล อ้อนวอนให้พระองค์ทรงรับสั่งให้ประหารเพื่อธำรงความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหากษัตริย์ไว้ เพราะถือว่าพระมหากษัตริย์ต้องมีพระราชภาระปกครองราษฎรในแผ่นดินให้ร่มเย็นเป็นสุขสืบไป หากไม่มีความศักดิ์สิทธิ์แล้วไฉนจะมีผู้ใดในแผ่นดินคิดเกรงพระราชอำนาจ
สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือจึงทรงปรึกษาข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ ทุกคนเห็นว่าสิ่งที่สินพูดเป็นความจริง หากพระมหากษัตริย์ไม่รักษากฎมณเฑียรบาลความเป็นพระมหากษัตริย์จะมีความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือจึงทรงจำพระทัยรับสั่งให้ตัดหัวพันท้ายนรสิงห์เพื่อนรัก เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายให้เป็นเรื่องปกครองราษฎรให้ร่มเย็นสืบไป ทรงให้ตั้งศาลเพียงตาขึ้นแล้วนำศีรษะพันท้ายนรสิงห์ขึ้นวางคู่กับหัวเรือพระที่นั่งแล้วเสด็จกลับอยุธยา พวกพระยาพิชัยได้ยินสินกราบทูลพระเจ้าเสือทุกคำจึงสำนึกผิด รู้สึกเป็นบุญคุณที่สินยอมสละชีวิตเพื่อช่วยพวกตน จึงพากันเลิกอาฆาตแค้นพระเจ้าเสือนับแต่นั้นมา
บทโทรทัศน์โดย : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
กำกับการแสดงโดย : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
อำนวยการสร้าง หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา
เขียนพระนิพนธ์ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล
นักแสดง
พันโท วันชนะ สวัสดี รับบท พระเจ้าเสือ
พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบท พันท้ายนรสิงห์/สิน
พิมดาว พานิชสมัย รับบท นวล
นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบท พระยาราชสงคราม
สรพงษ์ ชาตรี รับบท พระพิชัย
สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ รับบท ทองอ่อน
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
สมภพ เบญจาธิกุล รับบท สมเด็จพระเพทราชา
พันท้ายนรสิงห์ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2558 สร้างจากบทประพันธ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ที่แต่งขึ้นจากเรื่องเกร็ดในพงศาวดารและประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย กำกับการแสดงโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล อำนวยการสร้างโดย หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา นำแสดงโดย พันเอกวันชนะ สวัสดี, พงศกร เมตตาริกานนท์, พิมดาว พานิชสมัย, สรพงษ์ ชาตรี, นิรุตติ์ ศิริจรรยา
การดัดแปลงจากละครโทรทัศน์เป็นภาพยนตร์
ในตอนแรกละครเรื่องนี้จะออกอากาศทาง ช่อง 3 เนื่องจาก เต้ย พงศกร ผู้รับบท พันท้ายนรสิงห์ เป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 แต่ด้วยปัญหาเรื่องช่วงเวลาออกอากาศทำให้ท่านมุ้ยทรงนำพันท้ายนรสิงห์ไปตัดต่อและฉายเป็นภาพยนตร์ต่อมา หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม โอรสของท่านมุ้ยได้ตัดสินใจซื้อละครพันท้ายนรสิงห์กลับมาจากช่อง 3 และนำไปออกอากาศทางช่อง โมโน 29 แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ละครเรื่องนี้ไม่สามารถออกอากาศทางช่องโมโน 29 ได้ทำให้ท่านมุ้ยตัดสินใจนำละครเรื่องพันท้ายนรสิงห์มาออกอากาศทาง ช่องเวิร์คพอยท์ ดังกล่าว จำนวน 19 ตอน ตอนสุดท้ายวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559