ละคร เพลงรักข้ามภพ 2552 (EP.1-22 ตอนจบ) END ความรักแท้สามารถข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้แม้อยู่ต่างภพ ความรักของชายหนุ่มที่เป็นเจ้าชายนิทราและวิญญาณของเขาพยายามกลับเข้าร่าง เขาได้รักกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มีจิตใจดีคอยช่วยเหลือวิญญาณของเขาจนเขากลับเข้าร่างคืนได้

 นกยูง เป็นลูกสาวคนเดียวของ นวล อดีตหางเครื่องวงดนตรี พ่อของนกยูงเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ก้องหล้า ที่เสียชีวิตไปแล้ว นวลแต่งงานใหม่กับ เสี่ยใหญ่ในต่างจังหวัดชื่อ มังกร นกยูงเป็นเด็กเรียนหนังสือไม่เก่ง ตอนเด็กๆ ในขณะที่เพื่อนนกยูงเรียนชั้นป.6 แล้วนกยูงยังเรียนชั้นป.2 อยู่เลย นกยูงชอบเล่นสนุกซุกซนมากกว่านั่งฟังครูสอน เพื่อนๆ ดูถูกว่านกยูงเป็นเด็กโง่ เซ่อซ่า มองโลกบริสุทธิ์เกินไป ทุกคนตราหน้าว่านกยูงคงเป็นได้แค่เด็กเลี้ยงควายในจังหวัด ไม่มีทางได้ดิบได้ดีมีงานทำแน่นอน นกยูงยิ้มขอบใจเพื่อนที่อุตส่าห์แนะนำอาชีพแบบนี้ให้ อาชีพเด็กเลี้ยงควายทำให้ตนเองได้ร้องเพลง ท่ามกลางทุ่งนาอันกว้างใหญ่ช่างเป็นอาชีพที่น่าสนใจจริงๆ ด้วย


ละคร เพลงรักข้ามภพ 2552

ละคร เพลงรักข้ามภพ 2552

ละคร เพลงรักข้ามภพ 2552 EP.1-22CH7+

เพลงประกอบละคร เพลงรักข้ามภพ 2552


นกยูงทั้งแก่นแก้ว และใสซื่อจนถูกพ่อเลี้ยงตี เพราะพ่อเลี้ยงรู้สึกอายเพื่อนที่มีลูกสาวเรียนหนัง สือไม่เก่ง แม่นวลของนกยูงต้องคอยปกป้องลูกรักจนทะเลาะกับมังกรบ่อยๆ มังกรคาดโทษว่าถ้านกยูงสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้นกยูงต้องถูกเฆี่ยน หลังจากนั้นมังกรก็นั่งเหลาไม้ให้นกยูงกลัวที่หน้าบ้านทุกวัน

วันประกาศผลนกยูงสอบไม่ได้ มังกรดักรอตีนกยูงหน้าบ้าน นวลวิ่งไปดูประกาศผลสอบ นวลตัดสินใจส่งนกยูงไปกับวงดนตรีลูกทุ่ง ที่มีเพื่อนเก่าชื่อ น้อยหน่า เป็นตลกอาวุโสอยู่ นกยูงร้องไห้เสียใจที่ต้องจากแม่ น้อยหน่ากับคณะตลกชายหนุ่มจิตใจดีอีกสองคนชื่อ ลำไย และ มังคุด ทุกคนช่วยกันเล่นตลกให้นกยูงดู นกยูงจึงรู้สึกดีขึ้น

นกยูงมีความสุขที่อยู่กับคณะตลกของน้อยหน่า ร่อนเร่ไปกับวงดนตรีลูกทุ่ง นกยูงคิดเปลี่ยนใจเลิกเป็นเด็กเลี้ยงควายมาเป็นอาชีพตลกหญิง จากนั้นก็เริ่มหัดเล่นตลกทึงโป๊ะอยู่ในคณะมุขต่างๆ เริ่มแพรวพราวมากขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งวันหนึ่ง ครูทิน เจ้าของคณะอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ขึ้นร้องเพลงแล้วเป็นลมล้มลงเพราะโรคหัวใจ นกยูงจึงขึ้นร้องเพลงแทน ด้วยเสียงใสกังวาน ทุกคนตกใจเพราะไม่รู้มาก่อนว่านกยูงร้องเพลง “ดวงใจ” เพราะขนาดนี้ ที่แท้นกยูงเคยฟังเพลงนี้ที่พ่อร้องเมื่อตอนเด็ก เพราะเพลงดวงใจเป็นเพลงประจำตัวพ่อ และเป็นเพลงที่ทำให้พ่อมีชื่อเสียงก่อนจะตาย

น้อยหน่า และดาวตลกทั้งหลายช่วยกันพูดให้ครูทินยอมรับนกยูงเป็นนักร้องในคณะ ครูทินผู้เข้มงวด และดุดัน สอนนกยูงร้องเพลงอย่างจริงจัง ทินตั้งใจจะพานกยูงเข้าประกวดในรายการ “เส้นทางดาว” รายการทีวีแข่งขันร้องเพลงลูกทุ่งทางโทรทัศน์ที่กำลังจะเปิดคัดเลือกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

การที่นกยูงได้เป็นนักร้องในวง ทำให้นักร้องหญิงคนเดิมที่อายุมากแล้ว ส้มจี๊ด รู้สึกไม่พอใจ เช่นเดียวกับ มะปราง ลูกสาวจอมขี้เกียจของครูทินที่หวังจะเป็นนักร้องดังแต่ไม่เคยซ้อม ทั้งคู่ช่วยกันกลั่นแกล้งนกยูง

มะปรางใช้งานนกยูงให้เป็นคนรับใช้ในวง ถ้านกยูงไม่ยอมมะปรางจะโทรบอกพ่อเลี้ยงให้มารับนกยูงกลับ นกยูงจำต้องอดทน เมื่อนกยูงต้องทำงานหนักจนไปซ้อมไม่ทัน ครูทินลงโทษนกยูงด้วยการให้วิ่งรอบสนาม นกยูงเหนื่อยทั้งคืน ถึงตอนเช้ามะปรางก็ยังปลุกนกยูงจากที่นอนไปซักผ้า ทำงานบ้านอีก

เมื่อถึงเวลาเรียนกับครูทิน นกยูงจึงร้องเพลงได้ไม่ดี จู่ๆ ก็ยืนหลับกลางเพลง ครูทินโมโหด่าไปถึงพ่อนกยูง หาว่าพ่อของนกยูงเป็นนักร้องขี้เมา กินเหล้าจนอายุสั้น และไม่เคยซ้อมร้องเพลงเลย ถึงเวลากลับมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าตนศิษย์ครูเพลงคนเดียวกันที่ขยันซ้อมทุกวันแต่ไม่เคยดังเท่ากับก้องหล้าพ่อของนกยูง

นกยูงเพิ่งรู้ครูทินเป็นเพื่อนของพ่อ แถมยังเกลียดพ่อของตนอย่างมากด้วย และที่สำคัญพ่อของตนไม่ใช่คนดีอย่างที่ตนเข้าใจมาตลอด นกยูงเสียใจวิ่งไปร้องไห้ที่ต้นลั่นทมหลังบ้านครูทิน นกยูงจดจำคำแม่ได้ แม่สั่งว่าเมื่อไหร่ที่อยากร้องไห้ให้ร้องเพลง นกยูงร้องเพลงใต้ต้นลั่นทมที่กำลังจะตาย จู่ๆ ก็เกิดปาฏิหาริย์ เสียงเพลงไพเราะของนกยูงทำให้ลั่นทม ผลิใบงดงาม และออกเป็นดอกสวยงาม

ไม่เพียงเท่านั้นที่ใต้ต้นลั่นทม หล่อนยังได้พบกับ นำทาง หนุ่มหล่อในชุดสูทขาวผูกเนคไทเหลืองสีชุดที่เหมือนดอกลั่นทม เขาออกมาช่วยพูดคุย และให้กำลังใจเธอก่อนจะเดินหายเข้าไปในต้นลั่นทม วันรุ่งขึ้นนกยูงพยายามตามหานำทางอีกแต่ก็ไม่พบ พวกของน้อยหน่าเล่าว่าวันก่อนมีชายหนุ่มขี่มอเตอร์ไซด์มาประสบอุบัติเหตุคอหักตายอยู่แถวนี้รู้สึกเขาจะใส่ชุดสูทสีขาวด้วย

ได้ฟังแค่นั้น นกยูงก็จับไข้หัวโกร๋นสามวันเพราะกลัวผีของนำทางจับใจ ระหว่างที่นกยูงไม่สบาย มะปรางเอายาถ่ายผสมน้ำส้มมาให้หล่อนกิน แต่จู่ๆ แก้วน้ำส้มก็ถูกสลับกลายเป็นมะปรางกินมันเองแล้วท้องเดิน เรียนร้องเพลงไม่ได้

นกยูงสงสัยว่าใครมาช่วยหล่อน นำทางก็โผล่ออกมาที่ข้างเตียงของเธอ นกยูงกรี๊ดเป็นลมสลบไป นำทางพยาบาลหล่อนจนฟื้น นกยูงตื่นมาวิ่งไปหาพระมาใส่นำทางก็ช่วยเต็มที่หาสร้อยคอคล้องพระให้เธอด้วย นกยูงรับสร้อยจากนำทางเห็นนำทางอีก นกยูงก็เป็นลมร่วงลงไปอีกเมื่อเจอผีไม่กลัวพระเข้า นกยูงเลยตัดใจสู้นั่งคุยกับนำทาง นำทางบอกว่าไม่รู้ทำไมตนเองต้องตามนกยูงมา แต่สงสัยเป็นเพราะนกยูงเอาดอกลั่นทมจากต้นลงมาเหน็บไว้ที่ผมนำทางเลยติดตามนกยูงมาได้

นกยูงพยายามเอาดอกลั่นทมนั้นออกจากผม แต่ก็ไม่สำเร็จเอาออกวางครู่เดียวเดี๋ยวก็กลับมาติดที่ผมใหม่ โชคชะตาหรือไรทำให้ดอกลั่นทมนั้นติดกับผมของเธอ และนำทางก็ติดกับตัวเธอไปทุกหนแห่ง ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ยกเว้นในเวลากลางวัน นำทางต้องผูกติดอยู่กับต้นลั่นทมออกไปไหนไม่ได้

นกยูงประสาทเสียที่จู่ๆ มีวิญญาณหนุ่มหล่อคอยติดตามหล่อนไปทุกที่ แม้ในเวลาที่ต้องเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ และเวลานอน นำทางนอกจากเป็นผีแล้วยังความจำเสื่อม เขาจำเรื่องราวของตนไม่ได้จะกลับไปสิงที่บ้าน กลับไปหาญาติก็ไปไม่ถูก ทั้งโลกมืดใบนี้ มีแต่นกยูงคนเดียวที่มองเห็นนำทางเขาเลยยึดนกยูงเป็นเพื่อนตลอดเวลา ทั้งที่นำทางเองก็รำคาญความซุกซน ซุ่มซ่าม และเซ่อซ่าของนกยูงไม่น้อย

นกยูงเองก็รำคาญนำทาง นำทางเป็นผีไฮโซ ท่าทางเจ้าสำอางค์ และเจ้าระเบียบ เวลาหล่อนกินน้ำพริกปลาร้า ก็คอยมายืนเหม็นอยู่ข้างๆ เวลาหล่อนซ้อมร้องเพลงตอนกลางคืน นำทางก็ชอบมาคุยกับเธอเรื่องเพลงลูกทุ่งที่เขาเพิ่งเคยได้ยินจากนกยูงเป็นครั้งแรกในชีวิต นำทางใช้ภาษาไทยคำอังกฤษคำทั้งที่นกยูงนั้นเขียนภาษาไทยยังผิดๆ ถูกๆ ความแตกต่างของคนทั้งคู่ทำให้นกยูงและนำทางมีเรื่องปะทะกันอยู่เสมอ

ถึงวันคัดเลือกนักร้องเข้าประกวดของรายการเพลง “เส้นทางดาว” พวกเขาจัดการคัดเลือกนักร้องจากทั่วประเทศที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ครูทินส่งนกยูง และมะปรางเข้ามาคัดเลือกในครั้งนี้ด้วย แต่ส้มจี๊ดนั้นอายุเกินทำให้หล่อนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากยืนโวยวายเจ้าหน้าที่กองประกวดเสียงดังลั่น ส้มจี๊ดอิจฉาริษยาเด็กสาวทุกคน และตั้งใจว่าจะกลั่นแกล้งทั้งนกยูง และมะปรางให้หมดทางจรัสแสง สำหรับนกยูงทันทีที่เดินเข้ามาสมัคร นกยูงก็แทบวิ่งหนีกลับบ้าน หล่อนได้พบกับคู่แข่งที่น่ากลัวมากมาย

มินท์ นักร้องจบนอก ไฮโซสาวสวย ที่มีครูเพลง ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และสไตลิสต์ ติดตัว คอยเทรนด์ และเอาใจเธอให้ขึ้นร้องเพลงอย่างมืออาชีพที่สุด และมินท์ก็เป็นคนแรกที่ผ่านเข้ารอบ

พิม นักร้องเพลงป๊อบแดนซ์เท้าไฟ ที่มาพร้อมเสื้อผ้า และรูปร่างเซ็กซี่ จนกรรมการเหลียวหลัง พิมผ่านเข้ารอบเช่นกัน เจ้าหล่อนมีท่าทางจะอยู่ในการประกวดอีกนาน เพราะเธอแสดงตัวว่าพร้อมจะใช้ร่างกายในทุกทางเพื่อเอาชนะ

ปีเตอร์ นักร้องฮิพฮอพ ชอบดูถูกคนบ้านนอก เกลียดความเป็นไทย และความล้าหลังทุกชนิด ปีเตอร์ทำให้นกยูงรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกเวลาที่มีโอกาส

ขุน นักร้องเพลงป๊อบชายจากวงบอยแบนด์ หลงตัวเอง เจ้าชู้ และหวังจะหลอกเคลมสาวทุกคน เขาคือตัวอันตราย ที่นกยูงจะไม่มีวันอยู่ด้วยสองต่อสอง ทั้งหมดผ่านเข้ารอบไป เหลือที่ว่างไว้สำหรับหนึ่งคนสุดท้ายเท่านั้น

ส้มจี๊ดแกล้งทำดีกับนกยูงจนนกยูงผู้ใสซื่อหลงเชื่อ พอนกยูงเผลอส้มจี๊ดก็พานกยูงไปขังไว้ในห้องน้ำที่เปิดประตูไม่ออกโดยตั้งใจว่าจะให้นกยูงอยู่ในนั้นจนหมดเวลาสมัคร นกยูงร้องไห้บอกดอกลั่นทมที่ติดตัวมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากนำทาง นำทางดิ้นพราดอยู่ที่ต้นไม้ ได้ยินคำร้องเรียกของนกยูงแต่ออกไปไม่ได้จนกว่าอาทิตย์จะตกดิน

มะปราง ขึ้นร้องเพลง เล่นบทน่าสงสาร แต่งประวัติของตนใหม่ ว่าตนเองถูกพ่อเลี้ยงตี และถูกแม่ส่งขึ้นมากับคณะลูกทุ่ง พร้อมแสดงทัศนคติเชิดชูเพลงลูกทุ่งให้กรรมการฟัง ทั้งที่ทั้งหมดนั้นเป็นประวัติ และแผนการของน้อยหน่า ที่เตรียมไว้ให้นกยูง เมื่อมะปรางใช้แผนนี้ มะปรางก็เข้ารอบสำเร็จเป็นคนสุดท้าย ไม่มีที่ว่างสำหรับนกยูงอีกแล้ว การรับสมัครสิ้นสุดลง เวทีปิดไปแล้ว

พระอาทิตย์ตกดิน นำทางออกจากต้นลั่นทมสำเร็จ เขารีบวิ่งมาเปิดประตูให้นกยูงออกจากห้องน้ำแล้วพานกยูงไปที่ห้องกระจายเสียงของโรงแรม ทั้งนกยูง และนำทางต่างแปลกใจที่นำทางรู้ทางไปห้องกระจายเสียงของโรงแรม โรงแรมนี้คงมีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติลึกลับของนำทาง แต่ไม่มีเวลาสนใจแล้ว นำทางให้นกยูงร้องเพลงใส่ไมโครโฟนกระจายเสียง

ครูเพลง กรรมการทั้งหลายต่างแปลกใจ และชื่นชอบเพลงของนกยูง แต่พวกเขาไม่มีอำนาจในการรับสมัครนักร้องเพิ่มเติม ในที่สุด เพทาย ลูกชายสุดหล่อเจ้าของบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ผู้จัดงานครั้งนี้ ในฐานะกรรมการคนหนึ่ง รู้สึกประทับใจในความน่ารักของนกยูง ตัดสินใจรับเธอให้เป็นนักร้องอีกคนหนึ่งของโครงการเส้นทางดาว

ในที่สุด ทั้งนกยูง และมะปรางก็ได้เข้าประกวดในรายการเส้นทางดาว ในฐานะสองนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่ง ทั้งสองสาว และนักร้องคนอื่นอีกสี่คน จะต้องซ้อมร้องเพลงแล้วเข้าประกวดทั้งหมดสี่ครั้ง ทุกครั้งจะคัดคนออกหนึ่งคน โดยผู้ตัดสินจะเป็นเหล่ากรรมการ ครูเพลงทั้งหลาย รวมทั้งผู้บริหารค่ายเพลงซึ่งก็คือเพทายนั่นเอง

นกยูงรู้สึกหวาดหวั่นกับการประกวดครั้งนี้มาก ตลอดเวลาหกเดือนนับจากนี้ หล่อนต้องซ้อมอย่างหนัก แถมยังต้องเผชิญกับผู้เข้าแข่งขันสุดโหดอีกห้าคน แค่คิดนกยูงก็แทบจะหนีกลับบ้านแล้ว โชคดีที่นำทางยังคงคอยช่วยเหลือเคียงข้างเธอแม้ว่าทุกๆ คืนจะต้องทะเลาะกันจนนอนแทบไม่ได้ก็ตาม หลังจากที่นกยูงสมัครเข้าโครงการสำเร็จ นกยูงก็คิดช่วยเหลือนำทางเป็นการตอบแทน ด้วยการออกตามสืบว่า เบื้องหลังของนำทางคือใครกันแน่

นกยูงติดตามคดีการขับรถชนต้นลั่นทมที่สถานีตำรวจ และตามไปถึงบ้านใหญ่โตของนำทาง ในที่สุดนกยูง และนำทางจึงได้รู้ว่า นำทางคือเศรษฐีเจ้าของโรงแรมกรีน สปอนเซอร์ และสถานที่จัดงานในโครงการเส้นทางดาวนั่นเอง

นำทางเป็นทายาทของมรดกนับพันล้าน การตายของนำทางมีเงื่อนงำ คนที่น่าสงสัยมากที่สุด คือ มาร์ก นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ หุ้นส่วนคนสำคัญของเขา ทันทีที่นำทางมาถึงบ้าน ความจำของนำทางกลับคืนมาทันที นำทางวิ่งฝ่ากำแพงเข้าไปในคฤหาสถ์ของตนเพื่อเข้าไปดูหญิงสาวคนหนึ่ง นำทางนั่งร้องไห้ข้างหญิงสาวบนรถเข็นนั้น หญิงสาวสวยดวงตาเศร้าบนรถเข็นมีชื่อว่า ตามพร หรือ น้องตาม น้องสาวแท้ๆ ของนำทาง น้องตามนอกจากพิการแล้ว บัดนี้ยังกลายเป็นคนเศร้า และหดหู่ มีน้ำตาอยู่ในดวงตาเสมอ

น้องตามเดินไม่ได้เพราะได้รับอุบัติเหตุจากการขับรถพร้อมนำทางเมื่อปีที่แล้ว นำทางรอดมาได้แต่น้องตามขาพิการต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต นำทางรู้สึกผิดกับการขับรถคราวนั้นจนขับรถไม่ได้อีก แต่ครั้งหลังสุดเขาจำต้องออกจากงานเลี้ยงยืมมอเตอร์ไซด์ของคนแถวนั้นขับรถอีกครั้งเพราะน้องตามตกบันไดพร้อมรถเข็นต้องถูกส่งโรงพยาบาล

คืนนั้น นำทางขับรถมอเตอร์ไซด์เสียหลักรถเซไปหัวของเขากระแทกเข้ากับต้นลั่นทม และถูกพาส่งโรงพยาบาล นกยูงรับรู้เรื่องของนำทางด้วยความสงสาร นำทางมาถึงบ้านแล้ว เขาบอกลานกยูง ตั้งใจจะสิงสถิตที่นี่เพื่อดูแลน้องตาม นำทางห่วงน้องสาวของเขามาก เพราะเมื่อเขาสิ้นชีวิตน้องตามคือทายาทมรดก ในสภาพที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนลอบฆ่าเขา ชีวิตของน้องตามกำลังอยู่ในอันตราย

นกยูงดึงดอกลั่นทมออกจากผมของหล่อนตั้งใจจะวางไว้ที่ผมของน้องตามขณะหลับ แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด ดวงวิญญาณของนำทางกลับตามร่างของนกยูงออกมาอีก แม้ว่าเขาจะเจอบ้าน เจอคนที่เขาห่วงแล้ว เขาก็ยังต้องติดอยู่กับนกยูงอีก น้ำตาของนำทางไหลริน เขาอยากอยู่กับน้อง และบ้านของเขา แต่ทำไม่ได้ นกยูงสงสาร เลยรับปากว่าจะพาเขามาหาน้องสาวบ่อยๆ ที่คฤหาสน์ดังกล่าว และเพื่อให้แนบเนียน นำทางสั่งให้เด็กบ้านนอกจอมเซ่อซ่าอย่างนกยูงปลอมตัวเป็นหมอ

หมอนกยูงจึงกลายเป็นหมอที่พิลึกพิลั่นที่สุดของน้องตาม หมอนกยูงใช้หูฟังฟังเสียงปอดน้องตามแทนเสียงหัวใจ แถมพอได้ยินเสียงหัวใจจริงๆ ก็ตื่นเต้นจนร้องจ๊ากออกมา พอถึงเวลาฉีดยาหมอนกยูงก็วางเข็มฉีดยาบนเก้าอี้แล้วก็เผลอนั่งทับจนทิ่มก้นตนเอง

แต่กระนั้น น้องตามก็ชอบหมอนกยูงเป็นพิเศษ หมอนกยูงเป็นคนเดียวที่ทำให้น้องตามหายเศร้าเรื่องพี่ชายตายได้ ทั้งหมดนี้มีคำอธิบายได้ง่ายมาก เพราะนำทางติดตามหมอนกยูงมาหาน้องสาวทุกครั้ง นำทางขอให้นกยูงช่วยคุยแต่ในเรื่องที่น้องตามชอบ และยังฝากนกยูงให้กำลังใจน้องตามอยู่เสมอ

การแข่งขันครั้งที่ 1 ใกล้มาถึงแล้ว นกยูงได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนผู้เข้าแข่งขันอีกห้าคน งานแรกคือการถ่ายสัมภาษณ์ และถ่ายภาพสำหรับทำโปรโมทรายการ เพื่อนผู้ร่วมแข่งขันของนกยูงออกลวดลาย ใช้สารพัดวิธีเพื่อเอาชนะ มินท์ซื้อมือถือแจกกรรมการทั้งหลาย พิมให้ท่ากรรมการชาย ปีเตอร์ใช้ความป็นเด็กนอกพาเด็กแนวมาให้กำลังใจเขาหลายสิบคน มะปรางเล่นบทน่าสงสารอ้อนเอาคะแนน ส่วนขุนก็แอบจีบกรรมการหญิง หรือแม้แต่แอบดูนกยูงขณะเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว

สารพัดปัญหาทำให้นกยูงอ่อนอกอ่อนใจ นกยูงเอาเรื่องต่างๆ มาเล่าให้ส้มจี๊ดฟังเพราะคิดว่าส้มจี๊ดคือพี่สาวที่เข้าใจหัวอกของหล่อน นกยูงผู้ใสซื่อหลงเชื่อส้มจี๊ด ส้มจี๊ดเห็นว่านกยูงกำลังใจถดถอย จึงมักพูดให้นกยูงละทิ้งความฝันลากลับบ้านนอกเสมอๆ

จนถึงวันแข่งขัน ส้มจี๊ดให้นกยูงใส่ชุดของตนในวันสมัคร นกยูงขึ้นร้องเพลงจนชุดขาดหน้าเวที นกยูงวิ่งหนีลงจากเวทีทั้งที่ร้องเพลงไม่จบ โชคดีที่พระอาทิตย์ลาโลกไปทันเวลา พอตกกลางคืน นำทางก็ช่วยขโมยชุดของคนแถวนั้นมาให้เธอ

นำทางบอกหล่อน นกยูงไม่ใช่นกธรรมดาขอเพียงมีความเชื่อมั่นแล้วนกยูงจะพบวิธี รำแพนหางของตน เมื่อไหร่นกยูงทำสำเร็จนกยูงจะได้เป็นราชินีแห่งนก นกยูงตื้นตัน หล่อนไม่เคยรู้ความหมายของชื่อหล่อนที่พ่อตั้งให้เลย นกยูงเกิดกำลังใจที่จะต่อสู้อีกครั้ง เพทายออกโรงสนับสนุนนกยูงด้วยการให้ขึ้นร้องเพลงอีกครั้ง ผลออกมาผู้ที่ตกรอบไปกลายเป็นขุนนั่นเอง คนอื่นๆ ที่เหลือ จึงเข้ารอบไปโดยเฉพาะนกยูงที่มีคะแนนรั้งท้าย

ส้มจี๊ดเอ่ยคำขอโทษ และใส่ร้ายว่าขุนจอมลามกนั่นเองที่แกล้งตัดชุดนกยูง ตอนที่แอบเข้าไปดูนกยูงเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ละครตบตาของส้มจี๊ดได้ผล นกยูงกลับมาเชื่อใจส้มจี๊ดอีกครั้ง นกยูงขอบคุณนำทาง นำทางขอให้นกยูงพาเขาไปสถานที่แห่งหนึ่งเป็นการตอบแทน บ้านของหญิงสาวสวยชาติตระกูลดี ไฮโซสาวชื่อ มุตตา

นกยูงใจกระตุกเมื่อเห็นสายตาของนำทางที่มองมุตตา ที่แท้สาวสวยอ่อนโยน การศึกษาดีเยี่ยมที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ตรงนั้นคือนางในดวงใจของนำทางนั่นเอง ผู้หญิงคนนี้เหมือนเจ้าหญิงที่เหมาะสมกับเจ้าชายอย่างนำทางก็ไม่ปาน

นกยูงยอมลืมความเจ็บในใจที่ตัวหล่อนเองไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรเข้าไปอยู่ใกล้ๆ มุตตา ในครั้งนี้นกยูงต้องปลอมตัวเป็นหมอนวดแผนโบราณ หมอส่วนตัวของมุตตาเพื่อเข้าบ้านหลังนั้น หมอนวดกำมะลอ แสดงผลงานครั้งแรกก็ทำให้พ่อของมุตตาชื่อ มารวย เศรษฐีผู้เย่อหยิ่งเกือบคอหัก ดีแต่เพทายที่เป็นเพื่อนของมุตตามาช่วยพาส่งโรงพยาบาลทันเวลา

เพทายแปลกใจที่รู้ว่านกยูงรับจ๊อบเป็นหมอนวดแผนโบราณด้วย เพทายหาเรื่องมาหามุตตาเพื่อนรักในวันที่มุตตานัดกับหมอนวดชื่อนกยูงแต่เขาก็พบสิ่งผิดปรกติ นกยูงชอบเอาอกเอาใจมุตตาจัดอาหาร จัดดอกไม้ และดูแลมุตตาอย่างรู้ใจ เพทายพาลคิดไปเรื่อย หรือว่านกยูงเป็นทอมบอยที่แอบหลงรักมุตตา

นกยูงอยากอธิบายแต่ก็ไม่สำเร็จ ที่หล่อนทำไปทั้งหมดนั่นเพราะนำทางสั่งให้ทำต่างหาก ผีหลงทางสุดหล่อ ไม่รู้จะแสดงความรักกับแฟนสาวอย่างไรเลยใช้ให้หล่อนทำ มุตตาเองก็รู้สึกแปลกใจในหมอนวดสาวคนนี้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก

ถึงวันประกวดครั้งที่ 2 นกยูงก็พบอุปสรรคอีก ส้มจี๊ดคอยส่งข่าวให้หล่อนรู้ว่าแม่นวลที่บ้านนอกของนกยูง ถูกพ่อเลี้ยงตบตีอย่างหนักเพราะมีข่าวลือทั่วอำเภอว่า นกยูงเข้ารอบการแข่งขันเพราะไปนอนกับกรรมการชายทุกคน เดือดร้อนนกยูงนั่งไม่ติดต้องเดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อไปดูแม่

นกยูงกลับไปอธิบายกับแม่ ถูกพ่อเลี้ยงมังกรด่าทอเสียหายเพราะพ่อเลี้ยงเชื่อสนิทว่าข่าวลือเป็นความจริง มังกร และนวลทะเลาะกันใหญ่โต นวลหนีออกจากบ้านติดตามนกยูงเข้ากรุงเทพ นำทางและนกยูงต้องออกไปช่วยกันตามหาจนเกือบมาไม่ทันขึ้นร้องเพลงในงานประกวด นำทางจึงเข้าสมาธิเพื่อใช้พลังจิตของตนออกตามหานวล ทั้งที่ไม่ควรทำเพราะนั่นจะทำให้พลังวิญญาณของนำทางเบาบางลงจนเกือบดับสูญ

นกยูงพยายามห้ามนำทาง นำทางบอกลานกยูง และฝากฝังน้องน้องตามของตนไว้กับนกยูง นำทางบอกนกยูง เขาจะตามหานวลมาคืนนกยูงให้ได้ เพื่อให้นกยูงขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีทันเวลา ก่อนจะเข้าสมาธิแล้วหายจากไป

นกยูงเพิ่งรู้ การจากลากับนำทางทำให้หล่อนใจหาย แต่แล้วนำทางก็ทำสำเร็จ นกยูงรู้ข่าวของแม่ นวลอยู่ที่โรงพยาบาล ที่แท้นวลถูกหลอกไป มะปราง และส้มจี๊ดโทรหานวล โกหกว่านกยูงได้รับอุบัติเหตุนั่นจึงเป็นสาเหตุให้นวลหนีออกจากบ้านแล้วหายตัวไป

นกยูงพบนวลแล้ว แต่ดวงวิญญาณของนำทางยังไม่กลับเข้าต้นลั่นทม เพราะพลังเบาบางเกินไป นกยูงจึงตั้งใจขึ้นร้องเพลงอย่างสุดความสามารถ ครั้งนี้หล่อนจะร้องเพลงให้ดวงวิญญาณที่กำลังอ่อนแรงได้มีพลังอีกครั้ง

เพลงของนกยูงในครั้งนี้สะกดคนดูทีวีทั่วประเทศ กรรมการใจอ่อนยอมเทคะแนนให้เพลงของนกยูง ผู้ที่ตกรอบจึงกลายเป็นพิม สาวเซ็กซี่ที่ชอบใช้เรือนร่างแข่งขันมากกว่าเสียงเพลง เหมือนครั้งแรกที่พบกัน เสียงเพลงของนกยูงทำให้ต้นลั่นทมผลิดอกใบขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ดวงวิญญาณของนำทางกลับสดชื่นขึ้นมาใหม่ นำทางกลับมาอีกครั้ง

ผลการประกวดครั้งที่สอง พิมตกรอบ โดยมีนกยูงได้คะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อนกยูงได้คะแนนเสียงท่วมท้น ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนออกลวดลายมากกว่าปรกติ กรรมการหลายคนเทคะแนนไปที่มินท์ เพราะลับหลังมินท์แอบเอาทองไปแจกกรรมการเหล่านั้นถึงที่บ้าน ส่วนปีเตอร์ก็มีพลังของเด็กฮิพฮอพมาสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ ปีเตอร์ประกาศว่าผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้ต้องเป็นผู้ถนัดเพลงฮิพฮอพ เพื่อให้วงการเพลงไปสู่สากลมากยิ่งขึ้น

มะปรางเองก็เริ่มเล่นละครหนักข้อขึ้น สร้างเรื่องว่าถูกพ่อเลี้ยงรังแกตบตีจนไม่สบายเพราะเอาแต่ฝึกร้องเพลง ตำรวจ และนักข่าวจึงมาตามเอาเรื่องครูทินเพราะเข้าใจว่าครูทินคือพ่อเลี้ยงใจร้ายคนนั้น ด้วยหัวอกของคนเป็นพ่อ ครูทินจึงต้องก้มหน้าถูกสังคมตราบาป ยอมรับการด่าว่าเป็นพ่อเลี้ยงใจร้ายเพื่อลูก ทำให้คะแนนสงสารเทมาที่มะปราง และคนที่มีแนวโน้มจะหลุดจากตำแหน่งมากที่สุด กลับกลายเป็นนกยูง

ถึงวันแข่งขันครั้งที่สาม นกยูงพกกำลังใจ และฝึกซ้อมมาอย่างเต็มที่ แต่แล้วก่อนขึ้นเวที นำทาง และนกยูงก็ได้รับข่าวร้าย น้องตามน้องสาวของนำทางหายตัวไป มาร์กนั่นเองที่ลักพาตัวน้องตามไป มาร์กต้องการหุ้นโรงแรมที่เหลือที่อยู่ในมือของน้องตาม จึงจับตัวน้องตามไปเพื่อให้เซ็นขายหุ้นให้เขา เขาจะได้ครอบครองกิจการโรงแรมของนำทางได้อย่างสมบูรณ์ นกยูงออกไปช่วยเหลือน้องตาม โดยมีชายหนุ่มชื่อ ไม้ เพื่อนสนิทของนำทางที่แอบหลงรักน้องตามตามไปเป็นกำลังสำคัญ นกยูง และไม้ช่วยกันฝ่านักเลงเข้าไปช่วยน้องตามออกมา

ที่เวทีการประกวด ทุกคนร้องเพลงไปหมดแล้ว นกยูงยังไม่มานำทางขอให้นกยูงกลับไปที่เวทีการประกวด นกยูงออกไปได้เพียงครู่ก็กลับมาใหม่ หล่อนคิดว่าชีวิตของน้องตามสำคัญกว่าการแข่งขัน นกยูงอยู่ช่วยไม้ต่อไป จนพาน้องตามออกมาได้

นำทางน้ำตาคลอ ขอบคุณการเสียสละของนกยูง เขาแอบจูบที่หน้าผากของนกยูงขณะหลับ ไม่รู้ว่าด้วยความรู้สึกอันใด แต่ในเวลานี้หัวใจของนำทางผูกพันกับนกยูงแนบแน่น แต่นกยูงไม่รู้ตัวหล่อนไม่สามารถรับรู้สัมผัสจากร่างอันไร้ตัวตนของวิญญาณได้

นกยูงกลับบ้านครูทิน ตัดสินใจเก็บข้าวของกลับบ้านนอก เพราะการแข่งขันผ่านไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว หล่อนกำลังจะขึ้นรถกลับแต่เพทายไปตามหล่อนกลับมา เพทายพาหล่อนมาดูทีวีที่บ้านของเขา

นกยูงจึงได้รู้ว่า ขณะแข่งขันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กลุ่มคนรักเพลงลูกทุ่งบุกมาประท้วงปีเตอร์ที่กล่าววาจาดูถูกเพลงลูกทุ่ง และยกย่องเพลงฮิพฮอพ ทำให้คณะกรรมการทุกคนต้องตัดปีเตอร์ออกจากการแข่งขัน นกยูงจึงได้เข้ารอบโดยไม่ต้องขึ้นร้องเพลง เพทายยังบอกอีกว่า เขาเดือดร้อนมากที่นกยูงหายตัวไป กว่าจะคิดแผนนี้ได้ต้องใช้เวลานานเหมือนกัน แต่ในที่สุดก็รวบรวมคนรักเพลงลูกทุ่งให้ออกมารวมตัวกันได้

เพทายทำทั้งหมดนี้เพื่อนกยูง เขาอยากให้นกยูงที่รักเพลงลูกทุ่งจริงๆ เป็นคนชนะ และโดยส่วนตัวแล้ว เขาก็ชื่นชอบนกยูงด้วย เพทายพูดจบก็จูบที่หน้าผากของนกยูง นกยูงตกใจเป็นลมไป รู้สึกอายเพทายเพราะเข้าใจว่าเพทายขโมยจูบแรกของหล่อน นำทางได้แต่เศร้า เขาต่างหากที่จูบหน้าผากหล่อนเป็นคนแรก แต่เพราะเขาเป็นผีไม่ใช่คน เขาจึงรักนกยูงเหมือนที่เพทายรักไม่ได้ คืนนั้น ต้นลั่นทมหลังบ้านครูทินปลิดใบร่วงหล่นลงมาจนเกือบหมด เพราะความเศร้าใจของชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ประหลาดต้นนั้น

การที่น้องตามถูกจับตัวไป ทำให้พี่ไม้ของน้องตามวางมาตรการรักษาความปลอดภัยที่บ้านของน้องตามอย่างหนัก เขาไม่มีหลักฐานเอาผิดมาร์ก แต่ไม้ตั้งใจจะรักษาโรงแรมของเพื่อนรักต่อไป ไม้ไม่รู้ว่าเพื่อนรักของเขากลายเป็นผี ไม้ไม่มีทีท่าจะเชื่อเรื่องผีสาง นำทาง และนกยูงจึงไม่ได้บอกความจริงกับไม้

มุตตาให้ความสนใจในตัวนกยูงมากขึ้น หล่อนเริ่มสงสัยว่านกยูงมาทำดีกับหล่อนเพราะอะไร หมู่นี้มุตตาร้องไห้คิดถึงนำทางบ่อยขึ้น เริ่มซึมเศร้าไม่ยอมออกไปเล่นดนตรี และไม่ออกจากบ้านไปไหน อาการป่วยของมุตตาทรุดหนักลงเรื่อยๆ นกยูงจึงบอกความจริงให้มุตตารู้ว่า นำทางฝากความรักมาถึงหล่อน เพราะเขาเป็นวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นลั่นทม

จากนั้นก็เริ่มมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่ต้นลั่นทม มาร์กส่งคนมาขอซื้อต้นไม้จากครูทิน มาร์กเอารถแบคโฮมาตั้งใจจะขุดรากถอนโคนต้นลั่นทม ทุกครั้งที่ต้นลั่นทมโดนกระทบกระเทือน นำทางจะเจ็บปวดอย่างหนัก นกยูงจึงวิ่งออกไปขวางรถเหล่านั้นไว้ และขู่ครูทินว่าจะออกจากการแข่งขัน จะเปิดโปงเรื่องมะปรางโกหกกรรมการ ถ้าครูทินทำอะไรต้นลั่นทม การออกโรงปกป้องต้นลั่นทมของนกยูง ทำให้ผู้คนเริ่มสนใจว่ามีผีสิงอยู่ที่ต้นลั่นทม ผู้คนแห่แหนมาขอหวย มาขูดต้นไม้ มาบนบานศาลกล่าว จนดวงวิญญาณของนำทางไม่เป็นสุข ที่สำคัญหมู่นี้พลังของเขาเริ่มอ่อนลง นำทางเริ่มสงสัยว่าเขาจะมีเวลาอยู่ในโลกนี้ได้ไม่นาน ดวงวิญญาณของเขากำลังจะเดินทางเปลี่ยนภพไป ไม่สามารถอาศัยอยู่กับนกยูงได้อีก

นกยูงแทบไม่มีเวลาซ้อมร้องเพลง เพราะส่วนใหญ่ต้องปกป้อง และดูแลต้นลั่นทม หลายครั้งนกยูงต้องนั่งมองดูนำทางเจ็บปวดเพราะถูกคนมาแอบรังแก การแข่งขันรอบสุดท้ายใกล้เข้ามา เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงสามคน มินท์ มะปราง และนกยูง ครั้งนี้จะไม่มีการคัดคนออกแต่จะคัดเลือกหาคนที่ร้องเพลงดีที่สุด เพื่อให้เป็นผู้ชนะเลิศ

ในช่วงเวลานี้เอง นกยูงยังพบความจริงว่า ที่แท้คนที่ตามรังควานครอบครัวของนำทางไม่ใช่มาร์กคนเดียวแต่มีมุตตารวมอยู่ด้วย มุตตาคบกับมาร์กมานานแล้ว ทั้งสองคนตั้งใจฮุบกิจการโรงแรมของนำทาง จึงแอบตัดสายเบรกทำให้รถของนำทางคว่ำจนน้องตามพิการ และยังดัดแปลงรถมอเตอร์ไซด์ที่นำทางขับในคืนวันที่เขาตายใต้ต้นลั่นทมด้วย มุตตาเป็นคนทำให้น้องตามพิการ และวางแผนฆ่านำทาง

ด้วยเหตุนี้เมื่อนกยูงเผลอเล่าเรื่องผีนำทางที่ต้นลั่นทมให้มุตตาฟัง จึงมีคนมาวุ่นวายกับต้นลั่นทม มุตตานี่เองที่หักหลังนกยูง และนำทาง สั่งคนมาตัดต้นลั่นทมเมื่อไม่นานมานี้ นกยูงพบเรื่องนี้ในเวลากลางวันขณะที่นำทางไม่อยู่ด้วย นำทางไม่เชื่อหล่อน เขาไม่เชื่อว่ามุตตาจะทรยศเขาเพียงเพื่อจะฮุบโรงแรม ทั้งสองทะเลาะกันอย่างหนัก นกยูงน้อยใจจึงละทิ้งต้นลั่นทมไปไม่ดูแลอีก นกยูงหันไปสนิทสนมกับเพทายที่เสนอตัวมาช่วยหล่อนซ้อมร้องเพลง

น้องตามได้ข่าวเรื่องต้นลั่นทม หล่อนเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าวิญญาณที่สิงอยู่นั้นคือพี่นำทาง พี่ชายของหล่อน แต่หล่อนเป็นคนพิการที่สำคัญหมู่นี้ไม้ก็หายตัวไป ไม่มีใครสามารถพาหล่อนไปที่ต้นลั่นทมได้ หล่อนจึงไปที่ต้นลั่นทมเพียงลำพังกับคนขับรถ

มาร์ก และมุตตาตามน้องตามไป ขณะที่กำลังจะทำอันตรายน้องตาม น้องตามตกจากรถเข็น นาทีนั้นหล่อนจำเป็นต้องลุกเดินเองให้ได้เพื่อเอาชีวิตรอด นำทางที่ต้นลั่นทมตั้งสมาธิปรากฏกายให้น้องตามเห็น น้องตามมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อเห็นนำทาง หล่อนขยับขาออกแรงเดินไปหยิบปืนที่หล่นอยู่ และยิงต่อสู้กับมาร์ก ไม้เดินทางมาช่วยทันเวลา มาร์ก และมุตตาถูกตำรวจจับ เวลานี้นำทางอ่อนแรงลง นำทางรู้สึกว่าดวงวิญญาณของเขาอาจดับสูญภายในคืนนี้

น้องตามบอกเรื่องวิญญาณในต้นลั่นทมให้ไม้รู้ ไม้ตกใจมาก นำทางบอกลาน้องตาม และฝากน้องตามไว้กับไม้ เขาสบายใจเรื่องน้องตามแล้ว ผู้หญิงสองคนที่ยึดเหนี่ยววิญญาณของนำทางไว้ คนหนึ่งปลอดภัยแล้ว แต่อีกคนนี่สิ …นกยูงกำลังตกอยู่ในอันตราย

ขณะที่เพทายกำลังจะพานกยูงไปสถานที่จัดประกวดรถของทั้งคู่ถูกปล้น ส้มจี๊ด มะปรางและมินท์นั่นเอง ส่งคนมาตีหัวเพทาย และนกยูง ทั้งคู่หมดสติในรถ มะปราง และมินท์กำลังจะขึ้นร้องเพลงโดยไร้เงาคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างนกยูง นำทางตัดสินใจใช้พลังสมาธิ พลังงานเฮือกสุดท้ายออกตามหานกยูง ภาระหน้าที่สุดท้ายเพื่อตอบแทนนกยูง เขาต้องพานกยูงไปที่งานประกวดให้ได้ จากนั้นชีวิตนกยูงจะเป็นของเพทาย ผู้ที่รักนกยูงด้วยใจจริง

น้องตามร้องไห้พยายามห้ามเขาแต่นำทางยืนยัน เขาต้องทำเพื่อให้นกยูงชนะ นำทางเข้าสมาธิอีกครั้ง เขาค้นพบนกยูง และเพทาย เขาทำให้ทั้งสองคนตื่นขึ้น นำทางกระซิบบอกนกยูง เขาเชื่อมั่นว่านกยูงไม่ใช่นกธรรมดา ขอแค่ให้นกยูงเชื่อมั่นในตัวเอง นกยูงจะต้องรำแพนหางอย่างสง่างามบนเวทีสำเร็จ แล้วดวงวิญญาณของนำทางก็แตกสลายเป็นผุยผงต่อหน้าของนกยูง

เพทายรีบขับรถพานกยูงไปร้องเพลง นกยูงร้องไห้เสียใจเรื่องดวงจิตของนำทางแตกสลายเพทายบอกให้นกยูงร้องเพลงให้นำทางฟัง เขาอาจกลับมาเพราะเสียงเพลงของนกยูงเหมือนครั้งที่แล้ว อีกครั้งที่นกยูงร้องเพลงด้วยหัวใจ ด้วยความรักต่อผู้ชายที่อยู่คนละภพ ชายในชุดสูทขาวเนคไทเหลืองเหมือนดอกลั่นทม ในที่สุดนกยูงก็ชนะคู่แข่งอย่างสง่างาม

นกยูงวิ่งไปที่ดอกลั่นทมหวังว่ามันจะเบ่งบานผลิดอกเหมือนทุกครั้ง แต่ตรงกันข้ามครั้งนี้ต้นลั่นทมเหี่ยวแห้งลง กิ่งต่างๆ หล่นลงมาราวกับหมดชีวิต นกยูงทรุดตัวลงร้องไห้ หัวใจสลายแทบจะตายตามต้นลั่นทมไป

หลายวันต่อมา เพทายพยายามทำให้นกยูงลุกขึ้นมาใช้ชีวิตอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จนกยูงอยู่ในอาการซึมเศร้า เธอไม่สามารถรัก และแต่งงานกับเพทายได้ตามคำสั่งของนำทาง ที่สำคัญเธอไม่สามารถร้องเพลงได้อีก

หลายเดือนต่อมา….บ้านของครูทินถูกซื้อไปด้วยเงินของชายปริศนา นกยูงเกิดเอะใจ วิ่งไปหาชายคนนั้น แล้วเธอก็ต้องผิดหวัง ไม้ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับน้องตามที่บัดนี้เดินได้แล้ว ไม้และน้องตามชี้ให้ดูต้นลั่นทม วันนี้มีสิ่งผิดปรกติ ตัวอักษรจางๆ ถูกใครบางคนสลักไว้ นกยูง…นำทาง นกยูงน้ำตาไหล เมื่อน้องตามบอกเธอ พี่ชายของเธอ คงอยากบอกเช่นนั้น เขารักนกยูงนำทาง

น้องตามและไม้ขอร้องให้นกยูงมางานเลี้ยงคืนนี้ที่หลังบ้านครูทิน เราจะมีคอนเสิร์ตเล็กๆ ให้นกยูงร้องเพลง ไม่แน่นะ… ถ้านกยูงร้องเพลงได้อีก ต้นลั่นทมอาจมีชีวิตขึ้นมาอีกก็ได้ นกยูงตกลง คืนนั้นนวลและเพทายมาด้วย มังกรโผล่มาอย่างไม่คาดฝัน เขามาขอโทษนกยูง และขอคืนดีกับนวล เขาเชื่อว่านกยูงคือนกธรรมดาแต่ไม่เคยเห็นคุณค่าที่แท้จริงของนกยูง นกยูงให้อภัยพ่อเลี้ยงของเธอเช่นเดียวกับนวล

และแล้วนกยูงก็ขึ้นร้องเพลง สายตาหล่อนมองไปที่ต้นลั่นทม หวังว่ามันจะผลิดอก แต่แล้วก็ไม่ มันยังคงเหี่ยวแห้งอยู่เช่นนั้น แต่ชายคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นแทน ชายตัวเป็นๆ ในชุดสูทขาวเนคไทสีเหลือง เดินออกมาจากต้นลั่นทมนั้น… นำทาง ในฐานะมนุษย์กำลังเดินมาหาหล่อน

นกยูงทรุดตัวลงนั่งแทบล้มทั้งยืน นำทางเดินมาหาจูบหล่อนที่หน้าผาก และบอกหล่อนว่า เขาสามารถจูบหล่อนได้เหมือนชายที่มีความรักกระทำต่อหญิงคนรัก นกยูงเข้าใจว่าหล่อนฝันไป แต่น้องตามและไม้ช่วยกันยืนยัน แท้จริงแล้วสิ่งที่มาสิงอยู่ที่ต้นลั่นทมไม่ใช่วิญญาณ แต่เป็นดวงจิตที่หาทางเข้าร่างไม่ได้ของนำทาง ร่างของนำทางถูกพาไปส่งโรงพยาบาลในคืนที่ประสบอุบัติเหตุ ไม้เข้าไปดูแลนำทาง และจัดการย้ายโรงพยาบาลให้นำทางเพื่อรักษาด้วยหมอมืออาชีพ แต่นักข่าวเข้าใจผิดว่านำทางตายแล้ว ไม้เห็นว่านำทางมีคนปองร้าย จึงเก็บเรื่องนำทางยังไม่ตายไว้เป็นความลับ ร่างของนำทางเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นานหลายเดือน การรักษาดำเนินไปด้วยการจัดการของไม้ แต่นำทางก็ไม่ฟื้นจนไม้รู้จากน้องตามในคืนที่มาที่ต้นลั่นทมว่ามีดวงจิตสิงอยู่ที่ต้นลั่นทมไม้จึงให้น้องตามนำดอกลั่นทมดอกสุดท้ายจากต้นไปไว้ที่ร่างของนำทางจากนั้นมาการรักษานำทางก็คืบหน้ามากขึ้น นำทางกลับฟื้นคืนมาราวปาฎิหาริย์จนสามารถลุกเดินมาหานกยูงได้ในที่สุด

นำทางกลับคืนมาหานกยูง ตำนานรักต่างภพสิ้นสุดลงทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงาน และใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ และช่วยกันปลูกต้นลั่นทมขึ้นมาใหม่ ชีวิตใหม่ของทั้งคู่ ออกดอกผลิบานด้วยความรักบริสุทธิ์ของนำ ทางและเสียงเพลงของนกยูง

บทประพันธ์ : น.ส.สุขยิ่ง
บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
กำกับการแสดง : วัชรา สังข์สุวรรณ

นักแสดง
วงศกร ปรมัตถากร รับบทเป็น นำทาง
เขมนิจ จามิกรณ์ รับบทเป็น นกยูง
พาทิศ พิสิฐกุล รับบทเป็น เพทาย
ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ รับบทเป็น มุตตา
พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์ รับบทเป็น ตามพร หรือ น้องตาม
เมย์ เพื่องอารมย์ รับบทเป็น มะปราง
อัมรินทร์ สิมะโรจน์ รับบทเป็น มาร์ก
ดาว มยุรี รับบทเป็น ส้มจี๊ด
ชาย เมืองสิงห์ รับบทเป็น น้อยหน่า
บริพันธ์ ชัยภูมิ รับบทเป็น มังคุด
แดน บุรีรัมย์ รับบทเป็น ลำไย
รชยา รักกสิกรณ์ รับบทเป็น นวล
นึกคิด บุญทอง รับบทเป็น มารวย
ทนงศักดิ์ ศุภกร รับบทเป็น มังกร
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ รับบทเป็น ไม้
พนม นพพร รับบทเป็น ครูทิน
สุรชัย สมบัติเจริญ รับบทเป็น ก้องหล้า (ดารารับเชิญ)

เบื้องหลัง
เพลงรักข้ามภพเป็นละครตลก เบาสมอง ผสมแฟนตาซีเข้าไปด้วย เนื้อหาเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่ง มีเพลงลูกทุ่งประกอบมากมายร้องด้วยนักแสดงต่าง ๆ ในเรื่อง ในบทของนกยูง ผู้สร้างไว้วางตัว ตั๊กแตน ชลดา เป็นผู้แสดง และได้ถ่ายทำในส่วนนี้ไปกว่า 20 เปอร์เซนต์แล้ว แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงต่อมาเพราะตั๊กแตนติดงานออกอัลบั้มชุดใหม่

ในส่วนของการโปรโมท ได้มีการออกอัลบั้มเพลงประกอบละครจัดจำหน่ายในเวลาเดียวกัน และให้นักแสดงทั้งหมดออกเวทีเจ็ดสีคอนเสิร์ตในวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2552 เพื่อเป็นการเป็นการโปรโมทละครด้วย โดยเพลงทั้งหมดเป็นการผลิตของ บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น ซึ่งครู ไพรัช สังวริบุตรเป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้ทั้งหมด พร้อมทั้งยังได้ครูเพลงจากดีด้าหลายท่านมาแต่งเพลงละครเรื่องนี้ด้วย ในส่วนของผู้สร้างได้ทุ่มทุนสร้างฉากให้เหมือนกับเวทีคอนเสิร์ตจริง ๆ อีกทั้งตัวประกอบที่เป็นผู้ชมอีกมากกว่าเรื่องที่ผ่านมา และเป็นละครโทรทัศน์เรื่องแรกของไทยที่ออกอากาศในระบบเสียงสเตอริโอ

เพลงประกอบละคร
ดวงใจ ร้องโดย เขมนิจ จามิกรณ์
ใจนำทาง ร้องโดย วงศกร ปรมัตถากร
ท้องนาอินคอนเสิร์ต ร้องโดย เขมนิจ จามิกรณ์
เพลงรักข้ามภพ ร้องโดย วงศกร ปรมัตถากร, เขมนิจ จามิกรณ์
ตะกายดาว ร้องโดย รวมศิลปิน
สมจี๊ด ร้องโดย ดาว มยุรี
เอ้อละเหย อดอยาก ร้องโดย รวมศิลปิน
เวทีแห่งฝัน ร้องโดย เขมนิจ จามิกรณ์
สวยเด้งดึ๋ง ร้องโดย เมย์ เฟื่องอารมณ์
ไปที่ชอบ ที่ชอบเถอะ ร้องโดย วงศกร ปรมัตถากร, เขมนิจ จามิกรณ์
ใจคนรอ ร้องโดย เขมนิจ จามิกรณ์
ดวงใจ ร้องโดย สุรชัย สมบัติเจริญ