ละคร เพลงรักรอยแค้น Love and Revenge 2566 (EP.1-42 ตอนจบ) END

เรื่องราวของความรัก ความแค้นของคนสองครอบครัว ที่ทั้งผูกพันและฟาดฟันกันโดยมีเขาและเธออยู่ระหว่างกลาง ผ่านเสียงเพลงลูกทุ่งอันเป็นตัวแทนของยุคสมัย กับเพลงดังระดับตำนานของอาร์เอส ถูกทำใหม่ในเวอร์ชั่นลูกทุ่งสุดไพเราะ ผนึกรวมเนื้อเรื่องที่เข้มข้นลงตัว ความรัก หรือ ความแค้น จะมีอำนาจมากกว่ากัน ชีวิตของเขา และเธอ จะลงเอยเช่นไร เสียงเพลงสุดท้ายจะเป็นเพลงรักหรือเพลงแห่งความเสียใจ



ละคร เพลงรักรอยแค้น Love and Revenge 2566

ละคร เพลงรักรอยแค้น Love and Revenge 2566

ละคร เพลงรักรอยแค้น Love and Revenge 2566 EP.1-42TRUEID

ฉากเด็ด ละคร เพลงรักรอยแค้น Love and Revenge 2566

[MV] เทพีบ้านไพร – Ost.เพลงรักรอยแค้น : เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม [MV] ปากหมา (แต่ว่าจริงใจ) – Ost.เพลงรักรอยแค้น : เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม [MV] ไร่อ้อยคอยรัก (Ost.เพลงรักรอยแค้น) : เบิ้ล ปทุมราช

แสง (เคลลี่ ธนะพัฒน์) กับ ปลิว (ลิฟท์ สุพจน์) เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองต่างชอบ พิกุล (จอย ศิริลักษณ์) แต่พิกุลคบหากับแสง พ่อของพิกุลทิ้งหนี้ไว้มากมายก่อนตาย ทำให้แม่ของพิกุลต้องเอาที่นาไปใช้ค้ำจนเกิดเป็นหนี้สินบานปลาย ปลิวกับแสงตั้งใจช่วยพิกุล แต่แสงไปพลั้งมือฆ่าคนจึงต้องหลบหนี และยังเผลอไปมีอะไรกับ แตงอ่อน (เต๋า สโรชา) เพื่อนสนิทของพิกุล ทำให้พิกุลตัดสินใจแต่งงานกับปลิว

แสงโกรธแค้นมาก เขาแต่งงานกับแตงอ่อน และมีลูกสาวด้วยกัน 3 คน คือ แสงดาว (ดาว พิมพ์ทอง) แสงเดือน (แซนดี้ ชลิดา) และ แสงพราว (ใบหม่อน กิตติยา) ส่วนปลิวกับพิกุลมีลูกชาย 2 คน คือ ประภาส (ไต้ฝุ่น กนกฉัตร) และ ปกรณ์ (เบิ้ล ปทุมราช) แสงขอซื้อที่ดินของปลิวในราคาถูกก่อนที่จะขายไปในราคาแพงจนร่ำรวย ทำให้ปลิวเจ็บใจกินเหล้าเมาจนขับรถไปชนแตงอ่อนตาย ส่วนตัวเองก็กลายเป็นอัมพาต แสงยิ่งอาฆาตปลิว ส่วนพิกุลก็โทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของแสงที่หักหลังปลิว ทำให้ทั้งสองครอบครัวบาดหมางกันตั้งแต่นั้น

เมื่อลูก ๆ ของทั้งสองครอบครัวโตขึ้น แสงดาวเกิดไปชอบพอกับประภาส ส่วนปกรณ์ก็แอบคบหากับแสงพราว แสงดาวถูก หยก (จอย ชลธิชา) เมียใหม่ของแสง ยุยงให้พี่น้องแตกกัน จึงแอบบอกแสงเรื่องของแสงพราวกับปกรณ์ แสงโกรธมาก หาวิธีกลั่นแกล้งปกรณ์สารพัด จนปกรณ์ต้องหนีไปทำงานที่ไร่อ้อย โดยยังคงติดต่อทางจดหมายกับแสงพราวอยู่

ส่วนพิกุลก็โกรธแค้นที่แสงทำให้ปกรณ์ต้องหนีไป จึงยุให้ประภาสได้เสียกับแสงดาวจนแสงดาวตั้งท้อง ประภาสหนีไปกรุงเทพฯ แสงโมโหมากออกตามล่า แสงดาวเสียใจอยากไปทำแท้ง แต่แสงเดือนและแสงพราวห้ามเอาไว้และสัญญาว่าจะช่วยเลี้ยงลูกของแสงดาว ต่อมาแสงจับได้ว่าแสงพราวแอบส่งจดหมายหาปกรณ์ แสงสั่งห้ามไม่ให้ติดต่ออีก ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายปกรณ์ แสงพราวจึงจำใจเลิกติดต่อปกรณ์

แสงเดือนถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับ จอมพล (เชน ธวัชสรรค์) ลูกของเสี่ยจิว ส่วนแสงพราวได้พบกับ นิพนธ์ (ไกด์ กันตพล) นิพนธ์ชอบแสงพราวมาก แสงพราวคิดกับนิพนธ์แค่พี่ชาย แต่ต้องใช้เขาเป็นกันชนจากจอมพลที่มักจะมาก้อร่อก้อติกเธอ จนคนร่ำลือว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน เมื่อปกรณ์รู้ข่าวก็เสียใจ

ปกรณ์ต้องไปทำงานอยู่ในไร่อ้อย และเข้ากรุงเทพฯ ทำงานก่อสร้าง จนได้พบกับ วีระพล เพชรบ้านไผ่ (กุ้ง สุธิราช) วีระพลสนับสนุนปกรณ์ให้มีโอกาสได้ขึ้นร้องเพลง และผลักดันปกรณ์ให้ได้ออกเทป จนปกรณ์เริ่มมีชื่อเสียง ในขณะที่ประภาสแสดงภาพยนตร์จนมีชื่อเสียงโด่งดังและแอบคบกับ จันทร์เพ็ญ (ต้อม ณหทัย) ในฐานะนายบำเรอ เมื่อกลับมาบ้านเจอกับปกรณ์ก็เขม่นจนเกิดเรื่องทะเลาะกัน ทำให้ปลิวหัวใจวายตาย

เรื่องราวความสัมพันธ์ที่วุ่นวายระหว่างสองบ้านจะจบลงอย่างไร ปกรณ์ และแสงพราว จะมีโอกาสกลับมารักกันได้อีกหรือไม่ ตามลุ้นกันต่อได้ในละคร เพลงรักรอยแค้น

บทประพันธ์โดย : ฝนพรำ
บทโทรทัศน์โดย : อาณาจินต์, วรรณศร
กำกับการแสดงโดย : สมุทร น่วมเศรษฐี
ผลิตโดย : บริษัท มอนทาจ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : ต่าย นัฐฐพนท์ ลียะวณิช

นักแสดง
เคลลี่ ธนะพัฒน์ รับบท แสง
ศิริลักษณ์ ผ่องโชค รับบท พิกุล
สโรชา วาทิตตพันธ์ รับบท แตงอ่อน
สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท ปลิว
อาทิตย์ สมน้อย (เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม) รับบท ปกรณ์
กิตติยา จิตรภักดี รับบท แสงพราว
กนกฉัตร มรรยาทอ่อน รับบท ประภาส
พิมพ์ทอง วชิราคม รับบท แสงดาว
กันตพล ชมภูพันธ์ รับบท นิพนธ์
ชลิดา กล่ำปาน รับบท แสงเดือน
ธวัชสรรค์ เปล่งศิริวัธน์ รับบท จอมพล
ชุติญา เจียรกุล รับบท เพียงเพ็ญ
อารียา ศิลปนาวา รับบท ยุพิน
ชลธิชา โลหะชาละ รับบท หยก
วิรายา ภัทรโชคชัย รับบท เพลินพิศ
สุธิราช วงศ์เทวัญ รับบท วีระพล เพชรบ้านไผ่
ชานนท์ ทิพกนก รับบท สมชาย
ณหทัย พิจิตรา รับบท คุณนายจันทร์เพ็ญ
ศุกล ศศิจุลกะ รับบท วิสูตร