ละคร พิษสวาท 2559 (EP.1-18 ตอนจบ) END ความรักที่ได้รับการทรยศเป็นสิ่งตอบแทนจะลงเอยอย่างไร

ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ อัคนี (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) นักโบราณคดีหนุ่ม ได้พบกับหญิงสาวลึกลับนามว่า สโรชินี (วรนุช ภิรมย์ภักดี) เธอแนะนำตัวว่าเธอเป็นนักนิยมโบราณคดี และนักทำนายอดีตอัคนีได้รู้จักกับเธอผ่าน ทับทิมสีเลือด ที่เชษฐา (เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) หมอนิติเวชเพื่อนซี้รุ่นน้องของอัคนีผ่าเจอในศพของโจรผู้ขโมยวัตถุโบราณ ทันทีที่อัคนีได้สัมผัสทับทิมเม็ดนี้เขาก็รู้สึกผูกพันอย่างประหลาด อัคนียอมรับหน้าที่ค้นหาที่มาของทับทิมเพื่อช่วยเชษฐาตามหาตัวฆาตกรในคดี

พิษสวาท FULL EP
ละคร พิษสวาท 2559
หัวใจคนรอ – ปิ่น THE STAR 12【OFFICIAL MV】

ละคร พิษสวาท 2559

ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ อัคนี (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) นักโบราณคดีหนุ่ม ได้พบกับหญิงสาวลึกลับนามว่า สโรชินี (วรนุช ภิรมย์ภักดี) เธอแนะนำตัวว่าเธอเป็นนักนิยมโบราณคดี และนักทำนายอดีตอัคนีได้รู้จักกับเธอผ่าน ทับทิมสีเลือด ที่เชษฐา (เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) หมอนิติเวชเพื่อนซี้รุ่นน้องของอัคนีผ่าเจอในศพของโจรผู้ขโมยวัตถุโบราณ ทันทีที่อัคนีได้สัมผัสทับทิมเม็ดนี้เขาก็รู้สึกผูกพันอย่างประหลาด อัคนียอมรับหน้าที่ค้นหาที่มาของทับทิมเพื่อช่วยเชษฐาตามหาตัวฆาตกรในคดี

อัคนีค้นหาข้อมูลของทับทิมก็ได้พบว่าทุกอย่างตรงกับที่สโรชินีบอกไว้ ทำให้เขา และสโรชินีต้องติดต่อพูดคุย กันจนทำให้ ทิพอาภา (เรวิญานันท์ ทาเกิด) หญิงสาวสวยผู้เป็นเจ้าของแกลลอรี่ย่านใจกลางเมือง เจ้าของหัวใจ และคู่หมั้น ของอัคนีเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซึ่งทันทีที่สโรชินีเข้ามาในชีวิตของอัคนี เรื่องราวแปลกก็เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวของคนใกล้ชิดอัคนีเสมอ รวมถึงคุณหญิงอัมพวัน (ปานเลขา ว่านม่วง) ผู้เป็นแม่ และพลโทอัครา (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) พ่อของอัคนี อดีตเสนาธิการกองทัพบก ผู้ปลดเกษียณตัวเองด้วยทั้งคุณหญิงอัมพวัน และอัครารู้สึกได้ถึงความลึกลับ และน่าเกรงขามของสโรชินี

ต่างกับพันตรีดนัย (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) รองเลขาธิการพรรค เทอดธรรม เพราะทันทีที่เขาได้เจอกับสโรชินี เขาก็รู้สึกสนใจในตัวสโรชินี และพยายามจะเอาตัวสโรชินีมาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่สนใจว่า คุณหญิงอรุณฉาย (ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) ภริยาของเขาจะชอบใจหรือไม่ก็ตาม ดนัยเองนอกจากต้องจัดการเรื่องสโรชินีแล้ว เขายังต้องการกำจัดเสี้ยนหนามอย่าง พันโทณรงค์ (ภูทฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนสนิทร่วมรุ่นของอัครา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไทธำรงค์ พรรคฝ่ายค้าน ผู้ซึ่งคอยขวางทางการคดโกงของดนัยมาโดยตลอด

ด้านอัคนีเองก็พยายามบอกกับทิพอาภาว่าระหว่างสโรชินี และเขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่ทิพอาภา กังวล แต่แท้จริงแล้วในความรู้สึกลึก ๆ ของอัคนี รู้สึกผูกพันกับสโรชินีอย่างประหลาด และยิ่งใกล้ชิดเธอมากเท่าไหร่ ก็ทำให้เขาฝันถึงนางรำในสมัยอยุธยาที่ชื่อ อุบล มากขึ้นเรื่อย ๆ

อุบล คือนางรำหลวงแห่งราชสำนักถูกพระราชทานให้เป็นเมียของ พระอรรคทหารเอกมากฝีมือแห่ง กรุงอโยธยาในปีพุทธศักราช ๒๓๐๓ หลังจากศึกอลองพญาสิ้นสุดลง เธอ และเขาต่างจงรัก และภักดีต่อแผ่นดินยิ่งชีพ แต่เมื่อวาระสุดท้ายของกรุงอโยธยามาถึง พระอรรคจำต้องลงดาบฆ่าเมียอันเป็นที่รัก เพื่อมอบหมายหน้าที่ ผู้เฝ้าทรัพย์แผ่นดิน ให้กับเธอ ซึ่ง สโรชินี คือร่างจำแลงของอุบลเธอพยายามใช้ทับทิมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ศิราภรณ์ในชุดนางรำหลวงของอุบลเป็นสื่อทำให้อัคนีค่อย ๆ ฟื้นความทรงจำในอดีตชาติของอัคนีว่าความจริงในอดีตนั้นเขาคือพระอรรคขุนศึก แห่งอยุธยา สามีผู้ทรยศความรักความภักดีของเธอนั่นเอง อุบลต้องแบกรับภาระหน้าที่อันทรงเกียรติด้วยความทุกข์ทรมานรักแท้จึงแปร เปลี่ยนเป็นอาฆาตเขาผู้นั้นจักต้องเป็นผู้ปลดเปลื้องพิษสวาทนี้ให้แก่เธอ

อุบลจึงขออนุญาตจากท่านยมเทพให้เธอได้ลงมาเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารของมนุษย์ เพียงเพื่อต้องการ จัดการกับอัคนี เธอต้องทำให้เขาจดจำอดีต และสำนึกในสิ่งที่เขาเคยทำต่อเธอให้ได้ เพราะหากถ้าเธอมิอาจทำให้เขาจดจำ และสำนึกในสิ่งที่เขาทำกับเธอไว้ เธอก็จะต้องโดนจองจำให้เป็นผู้เฝ้าทรัพย์สมบัติแห่งแผ่นดินนานต่อไปจนชั่ว กัปชั่วกัลป์ ความแค้น ที่อุบลมีต่อขุนอรรคจะได้รับการให้ ชดใช้ หรือไม่ ? ความรักที่ได้รับการทรยศเป็นสิ่งตอบแทนจะลงเอยอย่างไร ? ตามหาคำตอบได้ใน ละคร

บทประพันธ์โดย : ทมยันตี
บทโทรทัศน์โดย : พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์, วรรณถวิล สุขน้อย, พิมสิรินทร์ พงษ์วานิชสุข, ณัฐกฤตา แย้มศิริ
กำกับการแสดงโดย : สันต์ ศรีแก้วหล่อ

นักแสดง
วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท สโรชินี/อุบล
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท พระอรรค/อัคนี
เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ รับบท เชษฐา
เรวิญานันท์ ทาเกิด รับบท ทิพ/ทิพอาภา
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบท พระโหราจารย์/พลโทอัครา
อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบท พระยาพลเทพ/ดนัย
ภัทรวรินทร์ ทิมกุล รับบท อรุณฉาย
ปานเลขา ว่านม่วง รับบท อัมพวัน
รอน บรรจงสร้าง รับบท ขุนวิจิตร
ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล รับบท ณรงค์
ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบท สุนทร
อนุสรา จันทรังษี รับบท รัมภา
เรืองฤทธิ์ วิสมล รับบท วิชิต
ณัฐกฤต เกษตรภิบาล รับบท ผู้กองกฤษณ์
วรินทร รัตนสรรค์ รับบท จัน
เดชบดินทร์ ฉายทองดี รับบท ใหญ่

นักแสดงรับเชิญ
พีรมณฑ์ ชมธวัช รับบท พระเจ้าเอกทัศน์
กณิการ์ วีรวรรณ รับบท เจ้านายฝ่ายใน

พิษสวาท เป็นนวนิยาย บทประพันธ์ของทมยันตี แนวลึกลับสยองขวัญและดราม่า นวนิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารสกุลไทยรายสัปดาห์ในเวลานั้น(เกือบ 50 ปีที่แล้วจากปีพ.ศ. 2559) เป็นเรื่องราวความรักข้ามภพของวิญญาณผู้เฝ้าสมบัติแผ่นดินผู้เปี่ยมด้วยความรักและหน้าที่ ทำให้เกิดอาถรรพณ์ต่างๆนานาตามมาด้วยแรงของกฏแห่งกรรมและผลลัพธ์ของการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งอยู่ในแกนของความจงรักภักดีซื่อสัตย์ต่อชาติและแผ่นดิน สุดท้ายก็ลงเอยด้วยปรัชญาที่ว่า รักที่แท้จริง คือการเสียสละและให้อภัย

บทประพันธ์เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์, ละครวิทยุและละครโทรทัศน์มาก่อนปีพ.ศ. 2559 จำนวน 3 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่สร้างก็จะเกิดเรื่องราวลี้ลับและปรากฏการณ์แปลกต่างๆกับผู้คนและนักแสดงที่เกี่ยวข้อง

ละครเรื่อง พิษสวาท ทำเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 สร้างโดย เทิ่ง สติเฟื่อง แสดงโดย เสาวนีย์ สกุลทอง รับบท อุบล ออกอากาศทางช่อง 7 ขาวดำ (ช่อง 5) และต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ได้สร้างเป็นละครวิทยุ โดยคณะละครวิทยุอัชชาวดี และเป็นภาพยนตร์ในปีเดียวกันนั้นเอง

ต่อมาทำเป็นละครโทรทัศน์อีก 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2524 โดย รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ออกอากาศทาง ช่อง 3 นำแสดงโดย รัชนู บุญชูดวง, สมภพ เบญจาธิกุล, ลินดา ค้าธัญเจริญ, อนุสรณ์ เดชะปัญญา และในปี พ.ศ. 2534 ออกอากาศทางช่อง 5 สร้างโดย กันตนา นำแสดงโดย เล็ก ไอศูรย์, ลีลาวดี วัชรโลบล, จอนนี่ แอนโฟเน่, วรรณิศา ศรีวิเชียร (ปัทมา ปานทอง เล่นแทนครึ่งหลัง)

ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 ทางเอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ มีแผนจะรีเมคละครโทรทัศน์เรื่องนี้ใหม่ ออกอากาศทางช่อง 5 อีกครั้ง โดยให้ ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์และพิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกรนำแสดงแต่แล้วก็ยกเลิกไป จนกระทั่งใน พ.ศ. 2558 ทางเอ็กแซ็กท์และช่องวัน ได้รื้อแผนงานละครเรื่องนี้กลับมาทำอีกครั้งเพื่อออกอากาศทางช่องวัน ใน พ.ศ. 2559 โดยที่ได้เปลี่ยนนักแสดงบทอุบลเป็นวรนุช ภิรมย์ภักดี และยังคงนักแสดงหลักหลายคนตามเดิม แต่หลังจากที่พิมมาดาขอถอนตัวไปรักษาอาการมะเร็งรังไข่ จึงมีการเปลี่ยนนักแสดงในบทคุณทิพอาภาเป็นเรวิญานันท์ ทาเกิด ในภายหลัง

ฉบับภาพยนตร์ เป็นภาพยนตร์ 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม สร้างโดย รณภพฟิล์ม กำกับการแสดงและอำนวยการสร้างโดย รุจน์ รณภพ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, อรัญญา นามวงษ์, มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, รุจน์ รณภพ ร่วมด้วย สมชาย, พัชนี, เสริมพันธ์, เทพ เทียนชัย, ทานทัต, เปี๊ยก ปัตตานี ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2517 ที่โรงหนังเพชรรามา

เพลงประกอบละคร
เพลง หัวใจคนรอ (เพลงเปิด) – ขับร้องโดย พรชนก เลี่ยนกัตวา (ปิ่น เดอะสตาร์)
เพลง หัวใจคนรอ (เพลงปิด) – ขับร้องโดย รวิสรารัตน์ พิบูลภานุวัธน (พรีน เดอะสตาร์)