ละคร เพียงเธอ Only You 2568 แปดปีก่อน “ตะวัน” คือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยชีวิต “ไอร่า” ไว้จากเงามืด แต่เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้พวกเธอกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะนักร้องซุปตาร์ผู้กำลังถูกปองร้ายกับอดีตคนรักที่ผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ด เปลวไฟในอดีตเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางอันตรายที่คืบคลานเข้ามาพร้อมกับความลับที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในวันวาน ความรักของพวกเธอจะเป็นเหมือนบทเพลงที่ไพเราะหรือเป็นเพียงบทสรุปของโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง?

ละคร เพียงเธอ Only You 2568 ละครแซฟฟิก(Sapphic)แนวโรแมนติกดราม่าแอ็คชั่น เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว “ตะวัน” ช่วยเหลือ “ไอร่า” จากกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ทำให้ไอร่าประทับใจตั้งแต่แรกพบ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกจากกันในคืนฝนพรำ ต่อมาไอร่าย้ายมาเรียนชั้น ม.4 ที่โรงเรียนใหม่ และได้เจอเพื่อนอย่าง “ข้าวตู” รวมถึงได้พบตะวันอีกครั้งในฐานะรุ่นพี่ชั้น ม.6 ทั้งคู่เริ่มสนิทกัน และความรู้สึกของไอร่าก็พัฒนาขึ้น แต่ก่อนที่เธอจะรู้ว่าตะวันคิดเหมือนกันหรือไม่ ตะวันก็หายตัวไปโดยไม่บอกลา

8 ปีต่อมา ไอร่ากลายเป็นนักร้องซุปตาร์ชื่อดัง แต่ความโด่งดังทำให้เธอถูกปองร้าย “ธนา” ผู้เป็นพ่อของไอร่า จึงตัดสินใจจ้างตะวันมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัย ลูกน้องของตะวันอย่าง “ชัญญ่า” “นานา” และ “ไต้ฝุ่น”  เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างตะวันและไอร่า การกลับมาเจอกันครั้งนี้ ไอร่าตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้ตะวันหายไปอีก และอยากเดินเคียงคู่กัน แต่ตะวันกลับให้ความสำคัญกับหน้าที่มากกว่าหัวใจ ท่ามกลางอันตรายรอบตัวและอุปสรรคที่ถาโถม ความรักของทั้งคู่จะสามารถฝ่าฟันไปได้หรือไม่

สารบัญละคร

ละคร “เพียงเธอ Only You The Series” นำเสนอเรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคท่ามกลางอันตรายและความลับที่ซ่อนอยู่ เรื่องราวเริ่มจากความสัมพันธ์ของ ไอร่า (กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์) นักร้องซุปตาร์ที่ชีวิตเต็มไปด้วยแสงสี แต่กลับต้องเผชิญกับภัยคุกคาม และ ตะวัน (ศิริลักษณ์ คอง) อดีตรักแรกที่กลับเข้ามาในชีวิตของเธอในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัว ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร

ในสายฝนแห่งโชคชะตา: จุดเริ่มต้นของรักแรกที่ไม่อาจลืม
ในคืนที่สายฝนโหมกระหน่ำราวกับจะกลบทุกเสียงของโลกใบนี้ หัวใจของ ไอร่า กลับเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวและความหวัง กลุ่มเงามืดแห่งอันธพาลรุมล้อมเธอในตรอกแคบ แต่แล้ว ดุจดั่งอัศวินในนิยาย ตะวัน ปรากฏกายขึ้นราวสายฟ้าฟาด ด้วยความกล้าหาญและสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เธอยื่นมือช่วยไอร่าพ้นจากเงื้อมมือแห่งภัยอันตราย คืนนั้น ใต้ร่มเงาของสายฝน ไอร่ารู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากตะวัน ความรู้สึกพิเศษที่ไม่อาจอธิบายได้ก่อตัวขึ้นในใจของเด็กสาว มันคือรักแรกที่เหมือนถูกสลักไว้ในวิญญาณ

เวลาผ่านไปราวสายลมที่พัดพาความทรงจำ เมื่อไอร่าย้ายมาเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ณ โรงเรียนแห่งใหม่ โชคชะตาก็เล่นตลกด้วยการนำพาเธอมาพบตะวันอีกครั้ง ในฐานะรุ่นพี่ชั้น ม.6 ที่ทั้งเท่และมีเสน่ห์ลึกลับ ตะวันเปรียบเสมือนดวงตะวันในชีวิตอันแสนว่างเปล่าของไอร่า การพูดคุย การหัวเราะด้วยกัน และช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันนั้น ราวกับดอกไม้ที่ผลิบานในใจของไอร่า เธอเริ่มถลำลึกสู่ห้วงรัก โดยไม่รู้เลยว่าตะวันรู้สึกเช่นเดียวกันหรือไม่

แต่แล้ว ดั่งนิยายที่มักมีตอนจบอันโหดร้าย ตะวันกลับหายไปจากชีวิตของไอร่าโดยไร้คำอำลา ไม่มีจดหมาย ไม่มีข้อความ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยให้ตามหา การจากไปอย่างกะทันหันนั้นทิ้งรอยแผลลึกไว้ในหัวใจของไอร่า เธอเปรียบเสมือนนกที่ปีกหัก คอยมองหาดวงตะวันที่ครั้งหนึ่งเคยส่องแสงนำทาง แต่กลับมืดมิดลงในพริบตา ความรักที่เพิ่งเริ่มก่อตัวถูกกลืนหายไปในเงามืดของความไม่แน่นอน ทิ้งไว้เพียงคำถามที่ไร้คำตอบ และความเจ็บปวดที่ฝังลึกในใจของเด็กสาวผู้เปราะบาง

ภาพของไอร่าที่นั่งมองสายฝนผ่านหน้าต่าง ด้วยหัวใจที่ยังคงโหยหาความอบอุ่นจากตะวัน ความทรงจำในคืนนั้นและวันเวลาในโรงเรียนกลายเป็นเหมือนสมุดบันทึกเก่าที่เธอหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับหวังว่าสักวัน หน้าต่อไปของเรื่องราวจะถูกเขียนขึ้นใหม่ และตะวันจะกลับมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่ทิ้งไว้

การหวนคืนท่ามกลางพายุแห่งอันตราย
ในปี 2568 เมืองกรุงที่สว่างไสวด้วยแสงสีแห่งชื่อเสียงกลายเป็นเวทีของ ไอร่า ดาวจรัสฟ้าผู้เป็นที่รักของมวลชน นักร้องซุปตาร์ที่ทุกย่างก้าวของเธอถูกจับจ้อง แต่ภายใต้แสงไฟอันเจิดจ้าซ่อนเงามืดแห่งภัยคุกคาม ผู้ไม่หวังดีคืบคลานเข้ามาใกล้ราวกับเงาแห่งความตาย ธนา (สุพจน์ จันทร์เจริญ) ผู้เป็นบิดา มองเห็นอันตรายที่รุกล้ำ จึงตัดสินใจครั้งใหญ่ด้วยการเรียกตัว ตะวัน อดีตดวงตะวันในชีวิตของไอร่า ผู้ผันตัวเป็นบอดี้การ์ดมือฉมัง มาคุ้มครองบุตรีสุดที่รัก

การกลับมาพบกันครั้งนี้มิใช่การขีดเขียนของโชคชะตาโดยบังเอิญ หากแต่ราวกับบทละครที่ถูกลิขิตไว้ เมื่อสายตาของไอร่าและตะวันประสานกันอีกครั้ง ราวกับเวลาหยุดนิ่ง หัวใจของไอร่าที่เคยแตกสลายในคืนฝนตกเมื่อแปดปีก่อนเริ่มเต้นระรัวอีกครั้ง เธอโหยหาที่จะรื้อฟื้นเปลวไฟแห่งรักแรก สานสายใยที่เคยขาดสะบั้นให้กลับมาผูกมัดอีกครา ไอร่าปรารถนาจะยึดมือตะวันไว้ ไม่ยอมให้หลุดลอยไปเหมือนครั้งอดีต แต่สำหรับตะวัน โลกของเธอถูกปกคลุมด้วยเกราะแห่งหน้าที่ หัวใจที่เคยอบอุ่นถูกเก็บซ่อนไว้ใต้หน้ากากของความเป็นมืออาชีพ

ทุกย่างก้าวของตะวันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการปกป้องไอร่า แววตาของเธอเย็นเยียบราวกับนักรบที่ยึดมั่นในภารกิจ แต่ลึก ๆ ในใจนั้น เงาของอดีตยังคงฉายชัด การปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่กลายเป็นสมรภูมิของอารมณ์ ไอร่าพยายามทุบกำแพงที่ตะวันสร้างขึ้นด้วยความหวังและความรัก ส่วนตะวันกลับยืนหยัดในความรับผิดชอบ แม้หัวใจของเธอจะสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะหรือเห็นรอยยิ้มของไอร่า ความขัดแย้งนี้เปรียบดั่งพายุที่โหมกระหน่ำในใจของทั้งสอง ท่ามกลางภัยคุกคามที่รอคอยฉีกทึ้งทุกโอกาสแห่งความรัก

ภาพของไอร่าที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสปอตไลต์บนเวที แต่สายตาของเธอกลับมองหาตะวันในเงามืดด้านหลัง ความรักของเธอเปรียบเหมือนผีเสื้อที่โบยบินท่ามกลางพายุ เปราะบางแต่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ส่วนตะวันคืออัศวินที่แบกดาบแห่งหน้าที่ไว้บนบ่า ต้องเลือกว่าจะยอมให้หัวใจนำทาง หรือปล่อยให้เกราะแห่งความรับผิดชอบกำหนดชะตา การกลับมาพบกันครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการทดสอบความรัก แต่ยังเป็นการเดินทางสู่การเผชิญหน้ากับอดีตและภัยอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ทางแยกของหัวใจและภารกิจ
ในม่านหมอกแห่งอันตรายที่ปกคลุมชีวิตของ ไอร่า ดาวจรัสฟ้าผู้ถูกตามล่าด้วยเงามืดแห่งความแค้น ทีมบอดี้การ์ดอันประกอบด้วย ชัญญ่า (นิศาชล ต้วมสูงเนิน) ผู้เฉียบคม, นานา (ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ) ผู้เปี่ยมด้วยไหวพริบ และ ไต้ฝุ่น (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ผู้แข็งแกร่งราวพายุหมุน ต่างยืนหยัดเคียงข้าง ตะวัน เพื่อปกป้องนักร้องซุปตาร์จากภัยร้ายที่คืบคลานเข้ามา ทว่า ท่ามกลางภารกิจอันตึงเครียด สายตาของเหล่าสหายเริ่มจับจ้องไปที่ความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างตะวันและไอร่า ราวกับกำลังรอคอยให้ปริศนาในใจของทั้งคู่ถูกคลายออก

ความลับที่ถูกฝังลึกมานานแปดปีเริ่มส่งกลิ่นแห่งความจริง เมื่อเงาอดีตของตะวันค่อย ๆ เผยโฉม เธอผู้เคยหายไปจากชีวิตของไอร่าโดยไร้คำอำลา ไม่ใช่เพียงการจากไปด้วยความเย็นชา หากแต่ถูกขับเคลื่อนด้วยภารกิจลับที่ผูกโยงกับครอบครัวของไอร่า และอาจถึงตัว ธนา ผู้เป็นบิดาของเธอ เงามืดจากอดีตของเขาคืบคลานเข้ามาในปัจจุบัน ราวกับรากไม้ที่ฝังลึกในผืนดินแห่งความลับ ปมปริศนานี้ทำให้ทุกสายตาในทีมเริ่มตั้งคำถาม ตะวันซ่อนอะไรไว้ และความรักที่ไอร่าพยายามจุดไฟขึ้นใหม่นั้น จะรอดพ้นจากเงาของความจริงอันโหดร้ายได้หรือไม่?

ขณะเดียวกัน ภัยคุกคามต่อไอร่ากลับทวีความรุนแรงดุจพายุที่โหมกระหน่ำ กลุ่มศัตรูที่ซ่อนอยู่ในเงามืดไม่ได้มุ่งกำจัดเพียงนักร้องสาวชื่อดัง หากแต่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่และน่าสะพรกลัวยิ่งกว่า ตะวันพบว่าตัวเองยืนอยู่บนทางแยกแห่งโชคชะตา ระหว่างการปกป้องไอร่าด้วยชีวิตและการยึดมั่นในพันธสัญญาลับที่เธอแบกไว้บนบ่า หัวใจของเธอสั่นไหวทุกครั้งที่ไอร่าพยายามฝ่ากำแพงแห่งหน้าที่ด้วยคำพูดและสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง ไอร่าต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่เธอมี เพื่อให้ตะวันยอมรับเปลวไฟแห่งรักที่ยังคงลุกโชนในใจของทั้งคู่

ภาพของตะวันยืนอยู่ในเงามืดของค่ำคืน ดวงตาของเธอสะท้อนทั้งความมุ่งมั่นและความเจ็บปวด ขณะที่ไอร่ายืนอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์ แต่หัวใจของเธอกลับโหยหาความอบอุ่นจากตะวันผู้เป็นทั้งผู้พิทักษ์และปริศนา ความรักของทั้งคู่เปรียบดั่งเรือที่แล่นฝ่าคลื่นลมแห่งภัยอันตรายและความลับที่รอวันถูกเปิดเผย

จุดไคลแมกซ์ พายุแห่งความจริง: จุดแตกหักของรักและหน้าที่
เมื่อม่านแห่งความลับถูกกระชากลงในชั่วพริบตา โลกของ ไอร่า ราวกับถูกฉีกทึ้งด้วยความจริงอันเจ็บปวด อดีตของ ตะวัน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นปริศนาได้เผยโฉมออกมาในแสงสว่างอันโหดร้าย เหตุผลที่เธอหายไปจากชีวิตของไอร่าเมื่อแปดปีก่อนมิใช่การละทิ้งโดยไร้หัวใจ หากแต่เป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องไอร่าจากเงื้อมมือแห่งอันตรายที่ใหญ่เกินกว่าที่เด็กสาวในวันวานจะหยั่งถึง ความลับนี้ผูกโยงกับ ธนา บิดาของไอร่า ผู้ที่ซ่อนเงามืดแห่งอดีตไว้ใต้รอยยิ้มอันอบอุ่น ความจริงที่เปิดเผยนี้เปรียบดั่งสายฟ้าที่ผ่าลงกลางใจของไอร่า ทิ้งรอยแผลใหม่ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าการจากลาครั้งแรก

ในฉากสุดท้ายของโชคชะตา ท่ามกลางสมรภูมิที่ควันไฟแห่งการต่อสู้พวยพุ่ง และเสียงปืนดังก้องราวเพลงมรณะ ตะวันยืนหยัดเผชิญหน้ากับศัตรูที่มุ่งกำจัดไอร่า ฉากแอ็คชั่นอันเข้มข้นนี้ไม่เพียงเป็นการต่อสู้เพื่อชีวิต หากแต่เป็นบททดสอบสูงสุดของหัวใจและความเสียสละ ดวงตาของตะวันฉายแววแห่งความขัดแย้ง ระหว่างพันธสัญญาแห่งหน้าที่ที่ผูกมัดเธอไว้ และเปลวไฟแห่งรักที่ลุกโชนในใจเมื่อได้มองไอร่า เธอต้องเลือก: จะยอมให้เกราะแห่งความรับผิดชอบครอบงำ หรือปลดปล่อยหัวใจให้เป็นอิสระเพื่อคว้ามือของคนที่รัก?

ส่วนไอร่า ดาวจรัสฟ้าผู้เคยยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟแห่งชื่อเสียง กลับพบว่าตัวเองยืนอยู่บนขอบเหวแห่งการตัดสินใจ เธอต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายเกี่ยวกับอดีตของตะวันและครอบครัวของเธอ หัวใจของไอร่าสั่นไหวระหว่างความกลัวต่อความสูญเสียและความมุ่งมั่นที่จะยืนเคียงข้างตะวัน ไม่ว่าพายุแห่งอันตรายจะรุนแรงเพียงใด รอยยิ้มและสัมผัสของเธอกลายเป็นดั่งแสงสว่างที่พยายามเจาะทะลุความมืดในใจของตะวัน

ภาพของตะวันในชุดบอดี้การ์ดที่เปื้อนฝุ่นและคราบเลือด ยืนตระหง่านท่ามกลางสมรภูมิ ขณะที่ไอร่ามองเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยทั้งรักและความหวาดกลัว ฉากนี้คือจุดไคลแมกซ์ที่ทุกอย่างแขวนอยู่บนเส้นด้าย ความรัก ความเสียสละ และโชคชะตา ราวกับบทสุดท้ายของมหากาพย์ที่รอการเขียนต่อว่า ทั้งคู่จะเลือกเดินเคียงกันไปในแสงสว่าง หรือปล่อยให้เงามืดแห่งหน้าที่และอดีตกลืนกินทุกสิ่ง?

ละครนำพาผู้ชมไปสู่การลุ้นระทึกว่าความรักของไอร่าและตะวันจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งจากภายนอกและภายในใจของทั้งคู่ได้หรือไม่ เรื่องราวจบลงด้วยการที่ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งใหญ่ ซึ่งไม่เพียงกำหนดอนาคตของความรัก แต่ยังเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เคมีนักแสดงนำ
การแสดงของ หลิงหลิง คอง ในบทตะวัน นำเสนอคาแรกเตอร์ที่แข็งแกร่งแต่มีปมในใจได้อย่างน่าประทับใจ เธอถ่ายทอดความขัดแย้งระหว่างหน้าที่และความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง ส่วน ออม กรณ์นภัส ในบทไอร่า สามารถแสดงความเปราะบางของซุปตาร์ที่ซ่อนความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความรักได้อย่างลงตัว เคมีระหว่างทั้งคู่เป็นจุดขายหลัก โดยเฉพาะฉากที่ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากันในสถานการณ์ตึงเครียด

เนื้อเรื่องที่ผสมผสานหลากอารมณ์
ละครผสานความโรแมนติกเข้ากับดราม่าและแอ็คชั่นได้อย่างกลมกลืน เรื่องราวย้อนอดีต 8 ปีก่อนที่ตะวันและไอร่าพบกันครั้งแรกสร้างความผูกพันให้ผู้ชม ส่วนปัจจุบันที่มีฉากบู๊และปมลับเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อไอร่าเพิ่มความตื่นเต้น ตัวละครสนับสนุนอย่าง ชัญญ่า, นานา, และ ไต้ฝุ่น เพิ่มสีสันด้วยความสัมพันธ์ในทีมและมุกตลกที่ช่วยผ่อนคลายความเข้มข้น

งานภาพและการกำกับ
ฉากแอ็คชั่นได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะฉากที่ตะวันต้องปกป้องไอร่าจากอันตราย งานภาพสวยงามทั้งในฉากคอนเสิร์ตของไอร่าและฉากดราม่าที่เน้นอารมณ์ การใช้แสงและสีในฉากย้อนอดีตช่วยสร้างบรรยากาศ nostalgic ที่ชวนให้อิน

คะแนน 8.5/10 (จาก sence9.com)

“เพียงเธอ Only You The Series” เป็นละครที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค ผสมผสานความตื่นเต้นจากฉากแอ็คชั่นและปมลับที่ค่อย ๆ คลายออก ละครสามารถดึงอารมณ์ผู้ชมได้ดีผ่านการแสดงของนักแสดงนำและงานโปรดักชันที่ลงตัว แม้จะมีจุดที่อาจต้องปรับจังหวะหรือเพิ่มมิติให้ตัวละครสมทบ แต่โดยรวมแล้วเป็นละครที่ชวนติดตามและน่าจะมีจุดพีคที่ทำให้ผู้ชมลุ้นจนจบ

หากคุณชอบละครที่ผสมความรัก ดราม่า และแอ็คชั่น พร้อมเคมีนักแสดงที่ลงตัว ละครเรื่องนี้คุ้มค่าที่จะติดตามตอนต่อ ๆ ไปจะยิ่งเข้มข้นด้วยการเปิดเผยความลับของตะวันและปมเบื้องหลังภัยคุกคามของไอร่า

ทุกครั้งที่ไอร่าและตะวันอยู่ในเฟรมเดียวกัน ความรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงตาม เคมีระหว่างทั้งคู่ชวนให้จิกหมอน โดยเฉพาะฉากที่ไอร่าพยายามเข้าใกล้ตะวัน แต่ตะวันกลับตั้งกำแพงด้วยหน้าที่ ความขัดแย้งนี้ทำให้อยากตะโกนบอกตะวันว่า “ยอมใจตัวเองบ้างสิ” ฉากย้อนอดีตตอนทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในคืนฝนตก หรือตอนที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียน ยิ่งทำให้รู้สึกอินและผูกพันกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

ฉากที่ตะวันและทีมบอดี้การ์ด (ชัญญ่า, นานา, ไต้ฝุ่น) ต้องปกป้องไอร่าจากภัยคุกคามชวนให้ลุ้นจนนั่งไม่ติด การต่อสู้และการวางแผนที่เข้มข้นทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มใหญ่ ผสมกับความกังวลว่าไอร่าจะปลอดภัยหรือไม่

ปมในอดีตของตะวันและเหตุผลที่เธอหายตัวไปเมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้รู้สึกทั้งสงสารและอยากรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ความรู้สึกของไอร่าที่อยากรั้งตะวันไว้แต่ต้องเผชิญกับกำแพงของหน้าที่ ชวนให้รู้สึกอึดอัดและอยากเห็นทั้งคู่สมหวัง การแสดงอารมณ์ของนักแสดงนำช่วยถ่ายทอดความเจ็บปวดและความหวังได้ดีจนน้ำตาคลอในบางฉาก

ตัวละครอย่าง ข้าวตู (มาริลิน เคท การ์ดเนอร์) และทีมบอดี้การ์ดช่วยเติมความสนุกและเสียงหัวเราะในช่วงที่เรื่องหนักหน่วง การหยอกล้อในทีมหรือความสงสัยในความสัมพันธ์ของตะวันและไอร่าทำให้รู้สึกผ่อนคลายและยิ้มตาม

“เพียงเธอ Only You The Series” เหมือนได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวที่ทั้งหวาน ซึ้ง และตื่นเต้น คุณจะรู้สึกลุ้นไปกับความรักของไอร่าและตะวัน อยากเอาใจช่วยให้ทั้งคู่ฝ่าฟันอุปสรรคได้ และตื่นเต้นกับการเปิดเผยปมลับในแต่ละตอน ละครเรื่องนี้ทำให้รู้สึกอยากนั่งหน้าจอทุกวันศุกร์เพื่อรอดูว่าความรักและหน้าที่จะลงเอยอย่างไร งานภาพที่สวยงามและเพลงประกอบที่เข้ากับอารมณ์ยิ่งทำให้อินเข้าไปอีก


ละคร เพียงเธอ Only You 2568

ละคร เพียงเธอ Only You 2568

ละคร เพียงเธอ Only You 2568 EP.1-4CH3+​​​​​​

ซีน ละคร เพียงเธอ Only You 2568

Moonlight Ost. เพียงเธอ Only You | หลิงหลิง คอง | Official MV [ ENG Sub] ระยะไกลของดวงจันทร์ Ost.เพียงเธอ Only You | ออม กรณ์นภัส | Official MV

ละคร เพียงเธอ Only You 2568

เรื่องราวของ ไอร่า (เล่นโดย ออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์) นักร้องซุปตาร์ที่ปังสุดในวงการ แต่ชีวิตเธอก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะ เพราะมีคนร้ายที่พร้อมจะปองร้ายเธอตลอดเวลา แล้วจู่ ๆ โชคชะตาก็พา ตะวัน (รับบทโดย หลิงหลิง คอง) สาวเท่สุดคูลที่เป็นบอดี้การ์ดมือฉมัง เข้ามาในชีวิตของไอร่าอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยมีโมเมนต์สุดประทับใจเมื่อ 8 ปีก่อน

แต่การกลับมาครั้งนี้มันไม่ใช่แค่บังเอิญ มันเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ ไอร่าอยากจะรื้อฟื้นความรู้สึกเก่า ๆ อยากจับมือตะวันแล้วบอกว่า “พี่ อย่าหายไปอีกนะ” แต่ตะวันดันเป็นคนที่ยึดหน้าที่มากกว่าหัวใจ เธอตั้งกำแพงสูงปรี๊ด ปฏิบัติต่อไอร่าด้วยความเป็นโปรสุด ๆ จนคนดูอย่างเรานี่อยากจะเขย่าเธอแล้วบอกว่า “ตะวัน ปล่อยใจตัวเองบ้างสิ” 😭

ย้อนอดีตรักแรกในคืนฝนตก
เอาล่ะ มาดูจุดเริ่มต้นของทุกอย่างกัน ย้อนไป 8 ปีก่อน ในคืนที่ฝนตกหนักแบบฉากใน MV เพลงรักเลยอะ ตะวันโผล่มาแบบฮีโร่ ช่วยไอร่าจากพวกอันธพาลที่ดูไม่น่าไว้ใจ ไอร่านี่ใจเต้นตึกตักตั้งแต่ตอนนั้นเลย มันเหมือนรักแรกที่เกิดขึ้นในพริบตา แล้วต่อมาไอร่าย้ายมาเรียน ม.4 ที่โรงเรียนใหม่ เธอได้เจอเพื่อนสุดแซ่บอย่าง ข้าวตู (รับบทโดย มาริลิน เคท การ์ดเนอร์) ที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้ชีวิตวัยเรียน

และที่สำคัญ เธอได้เจอตะวันอีกครั้งในฐานะรุ่นพี่ ม.6 ที่โรงเรียนเดียวกัน ฉากตอนที่ทั้งคู่เริ่มสนิทกันนี่มันชวนฟินสุด ๆ เลย ไอร่าเริ่มรู้สึกว่า “เอ๊ะ นี่ฉันชอบพี่ตะวันแล้วใช่มั้ย?” ความรู้สึกของเธอมันค่อย ๆ โตขึ้นเหมือนดอกไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ แต่… ดราม่ามาเลย ตะวันดันหายตัวไปแบบไม่มีคำอำลา 😱 ไอร่านี่ใจสลายเลย มันเหมือนรักแรกที่เพิ่งเริ่มก็พังลงในพริบตา แบบ… อะไรกันเนี่ยยย

ปัจจุบัน ซุปตาร์ vs บอดี้การ์ด
ตัดภาพมาที่ปี 2568 ไอร่ากลายเป็นนักร้องซุปตาร์ระดับชาติไปแล้ว แต่ความดังนี่มันมาพร้อมกับอันตรายนะ ธนา (รับบทโดย สุพจน์ จันทร์เจริญ) คุณพ่อของไอร่า เห็นว่าลูกสาวถูกคุกคามเลยตัดสินใจจ้างตะวันมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว ใช่แล้ว ตะวันคนนั้นแหละ กลับมาแบบเท่ระเบิด มาพร้อมทีมบอดี้การ์ดสุดปังอย่าง ชัญญ่า (นิศาชล ต้วมสูงเนิน), นานา (ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ) และ ไต้ฝุ่น (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ที่แต่ละคนนี่มีคาแรกเตอร์ชัดมากกก

ทีมนี้ทำงานกันเป็นระบบสุด ๆ แต่สิ่งที่ทำให้คนดูอย่างเรานี่ตาเป็นประกายคือ ความสัมพันธ์ของตะวันกับไอร่า ไอร่านี่ตั้งใจเลยว่า “ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมให้พี่ตะวันหายไปอีก” เธอพยายามทุกทางเพื่อให้ตะวันเปิดใจ อยากจะจับมือเดินไปด้วยกันแบบในฝัน แต่ตะวันนี่สิ เธอยึดมั่นในหน้าที่แบบสุดโต่ง ปฏิบัติต่อไอร่าเหมือนลูกค้าคนสำคัญ ไม่ใช่คนที่เคยมีโมเมนต์ด้วยกันเมื่อ 8 ปีก่อน มันทำให้เกิดความขัดแย้งทางอารมณ์ที่แบบ… โอ๊ย ดูแล้วอยากจะเข้าไปเคาะหัวตะวันให้รู้ตัวสักที

ปมลับและความสงสัยจากทีม
สิ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้มันยิ่งน่าติดตามคือ ทีมบอดี้การ์ดของตะวันเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ชัญญ่า นานา และไต้ฝุ่นนี่เริ่มจับตาดูว่า “เอ๊ะ ตะวันกับไอร่านี่มันมีอะไรในกอไผ่รึเปล่า?” ฉากที่ทีมนี้แซวกันหรือตั้งคำถามนี่มันทั้งตลกทั้งน่ารักเลยอะ ช่วยเบรกความตึงเครียดของเรื่องได้ดีมาก

แถมยังมีปมลับที่เริ่มโผล่มานิด ๆ ว่า การที่ตะวันกลับมาเป็นบอดี้การ์ดของไอร่ามันไม่ใช่แค่โชคชะตานะ มันเหมือนมีอะไรใหญ่กว่านั้นซ่อนอยู่ แล้วภัยคุกคามที่ไอร่าต้องเจอมันก็ไม่ใช่แค่การปองร้ายธรรมดา มันเหมือนมีแผนการอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น เกี่ยวข้องกับตัวธนาด้วยรึเปล่า?  ปมนี้มันชวนให้อยากดูต่อแบบหยุดไม่ได้

ละครเรื่องนี้มันเหมือนเครื่องดื่มที่ผสมทุกอย่างไว้เลย หวานก็ได้จากฉากที่ไอร่าพยายามใกล้ชิดตะวัน ดราม่าก็มาเต็มจากปมที่ตะวันหายไปเมื่อ 8 ปีก่อน แล้วยังมีฉากแอ็คชั่นที่แบบ… ว้าว การต่อสู้ของตะวันและทีมมันดูเท่สุด ๆ เหมือนดูหนังฮอลลีวูดเลย งานภาพสวย เพลงประกอบดี ทุกอย่างมันลงตัว

แต่ที่พีคสุดคือเคมีของ ออม กรณ์นภัส กับ หลิงหลิง คอง อ่ะ เคมีเขาดีมากกก ฉากที่ไอร่ามองตะวันด้วยสายตาแบบ “ฉันยังรักเธอนะ” แต่ตะวันตอบกลับด้วยสายตาเย็นชาแบบ “ฉันมีหน้าที่” มันทั้งฟินทั้งเจ็บในใจไปพร้อมกัน แล้วตัวละครสมทบอย่างข้าวตูและทีมบอดี้การ์ดก็ช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องไม่หนักเกินไป มีมุกให้ยิ้มตามตลอด

ถ้าคุณชอบละครที่ผสมความรักแบบหวานปนดราม่า กับฉากแอ็คชั่นที่ลุ้นจนนั่งไม่ติด บวกกับปมลับที่ทำให้อยากรู้ว่ามันจะคลายยังไง เพียงเธอ Only You คือคำตอบ เรื่องนี้มันจะพาคุณไปเจอกับคำถามที่ว่า “รักแท้จะชนะหน้าที่ได้มั้ย?” แล้วไอร่ากับตะวันจะได้จับมือกันเดินต่อไปรึเปล่า? ต้องไปลุ้นกันทางช่อง 3 HD หรือดูย้อนหลังในแอปของช่อง 3 ได้เลย

งานสร้างสุดปังของละคร “เพียงเธอ Only You The Series 2568” ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟน ๆ ละครแซฟฟิกและแฟนคลับของคู่จิ้นสุดฮอต

เบื้องหลังสุดฮอต เมื่อเดือนกันยายน 2567 ทางทีมงานเค้าได้ปล่อยภาพ ฟิตติ้ง หรือการลองชุดของสองนักแสดงนำ หลิงหลิง ศิริลักษณ์ (ตะวัน) และ ออม กรณ์นภัส (ไอร่า) ออกมาให้แฟน ๆ ได้กรี๊ดกัน บอกเลยว่าชุดของทั้งคู่คือปังมากกก หลิงหลิงในลุคบอดี้การ์ดสุดเท่ และออมในลุคซุปตาร์สุดแกลม มันแบบ… เอาสิ เคมีเขานี่มาเต็มตั้งแต่ยังไม่ถ่ายเลย

ย้อนไปนิดนึง ก่อนหน้านั้นวันที่ 8 กันยายน 2567 ทางทีมงานได้เซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการปล่อย มินิไพลอต หรือตัวอย่างสั้น ๆ ของละครในงาน แฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 ของหลิงหลิงและออมในประเทศไทย โอ้โห ทุกคนในงานนี่กรี๊ดลั่นเลย เพราะแค่ตัวอย่างสั้น ๆ ก็ชวนให้ใจเต้นแล้ว ฉากที่ตะวันช่วยไอร่าตอนฝนตกนี่มันแบบ… โรแมนติกสุด ๆ ไปเลย

jpg
 มินิไพลอต หรือตัวอย่างสั้น ๆ ของละครในงาน แฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 ของหลิงหลิงและออมในประเทศไทย

แล้วก็มาถึงโมเมนต์สำคัญ วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ในงาน LINGORM BIRTHDAY CHARITY 2025 ทีมงานประกาศอย่างเป็นทางการว่า เพียงเธอ Only You จะออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง 3 HD โดยเริ่มตอนแรกวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 วันนั้นแฟน ๆ นี่แบบนับวันรอเลย เพราะรู้ว่าเราจะได้เห็นเคมีของคู่จิ้นคู่นี้แบบเต็ม ๆ บนจอ

ความพิเศษของ “เพียงเธอ”: ละครแซฟฟิกสุดปังจากช่อง 3
มาพูดถึงตัวงานสร้างกันบ้าง เพียงเธอ Only You เป็นละครแนว แซฟฟิก (หรือที่แฟน ๆ เรียกว่ารักระหว่างสาว ๆ นั่นแหละ) ที่กำกับโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่าเรื่องรักได้แบบถึงใจ นำแสดงโดย หลิงหลิง ศิริลักษณ์ และ ออม กรณ์นภัส ซึ่งบอกเลยว่าเคมีของคู่นี้มันคือเหตุผลที่ทุกคนต้องดู

ที่น่าสนใจคือ ละครเรื่องนี้เป็นละครแซฟฟิกเรื่องที่ 2 ของช่อง 3 ภายใต้การผลิตของ BEC World Original ซึ่งต่อยอดความสำเร็จจากละคร ใจซ่อนรัก ที่เคยทำให้แฟน ๆ ฟินจิกหมอนมาแล้ว การที่ช่อง 3 หันมาลงทุนทำละครแนวนี้เองแบบเต็มตัว มันแสดงให้เห็นเลยว่าวงการละครไทยกำลังก้าวไปข้างหน้าสุด ๆ และตอบโจทย์ความหลากหลายที่แฟน ๆ รอคอย

 หลิงหลิง-ออม

งานโปรดักชัน ทำไมถึงน่าดู?
จากที่เห็นในมินิไพลอตและภาพฟิตติ้ง บอกเลยว่างานสร้างของ เพียงเธอ มันปังไม่ไหว ฉากที่ปล่อยออกมานี่ให้ฟีลทั้งดราม่า โรแมนติก และแอ็คชั่น ผสมกันแบบลงตัวสุด ๆ  ลุคของไอร่าที่เป็นซุปตาร์นี่มันอลังการมาก ชุดสวย ๆ บนเวทีคอนเสิร์ตคือตะโกนคำว่าซุปตาร์ ส่วนตะวันในชุดบอดี้การ์ดนี่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแต่ก็มีมุมอบอุ่นซ่อนอยู่ ซึ่งหลิงหลิงถ่ายทอดออกมาได้แบบ… โอ้โห สมบูรณ์แบบ

แล้วที่สำคัญ ทีมงานเค้าใส่ใจรายละเอียดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากย้อนอดีตตอนวัยเรียนที่ให้ฟีล nostalgic หรือฉากแอ็คชั่นที่ตะวันต้องปกป้องไอร่าจากอันตราย มันดูยิ่งใหญ่เหมือนหนังโรงเลย แถมยังมีทีมนักแสดงสมทบอย่าง มาริลิ เคท การ์ดเนอร์ (ข้าวตู), นิศาชล ต้วมสูงเนิน (ชัญญ่า), ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ (นานา), และ ภาสวิชญ์ บูรณนัติ (ไต้ฝุ่น) ที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องนี้ครบรสยิ่งขึ้น

บอกเลยว่าตั้งแต่เห็นภาพฟิตติ้งและมินิไพลอต แฟน ๆ ในโซเชียลนี่กรี๊ดกันหนักมาก โดยเฉพาะแฟนคลับของ หลิงหลิง-ออม ที่รอคอยเคมีคู่นี้มานาน การที่ทั้งคู่ได้มาเล่นละครแซฟฟิกแบบเต็มตัวในโปรเจกต์ใหญ่ของช่อง 3 มันคือฝันที่เป็นจริงของแฟน ๆ เลย แล้วการที่ช่อง 3 กล้าทำละครแนวนี้ต่อจาก ใจซ่อนรัก มันทำให้รู้สึกว่าเค้าใส่ใจกลุ่มแฟน ๆ ที่อยากเห็นความรักหลากหลายรูปแบบบนจอจริง ๆ

เบื้องหลังงานสร้างสุดปังของละคร “เพียงเธอ Only You The Series 2568” นี้คือตัวท็อปของวงการเลย ไปดูกันว่าใครเป็นใคร และทำไมละครเรื่องนี้ถึงน่าจับตามองสุด ๆ

ละคร เพียงเธอ Only You เรื่องนี้ได้ทีมงานระดับเทพมาร่วมสร้างสรรค์ ทำให้แฟน ๆ มั่นใจได้เลยว่างานนี้คุณภาพคับจอแน่นอน! มาดูกันทีละคนเลย

ผู้กำกับ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร

hq720
สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร

ก่อนอื่นเลย ต้องกรี๊ดให้กับ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ผู้กำกับตัวแม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่าเรื่องรักได้แบบถึงใจ ถ้าคุณเคยดูผลงานของพี่เค้า คุณจะรู้เลยว่าเค้ามีสไตล์ที่ทำให้คนดูอินสุด ๆ โดยเฉพาะฉากดราม่าและฉากโรแมนติกที่แบบ…  ใจสั่น ในเรื่องนี้ พี่สรัสวดีมากำกับละครแซฟฟิกที่เต็มไปด้วยความรัก ดราม่า และแอ็คชั่น บอกเลยว่าเค้าจะต้องถ่ายทอดเรื่องราวของ ไอร่า และ ตะวัน ออกมาได้แบบตราตรึงใจแน่นอน ฉากที่ทั้งคู่มองตากันนี่ คงต้องเตรียมทิชชู่ไว้ร้องไห้เลยล่ะ

ผู้จัด ปิ่นกมล มาลีนนท์

ปิ่นกมล มาลีนนท์

ต่อมา มาที่ ปิ่นกมล มาลีนนท์ ผู้จัดละครที่ชื่อนี้คือการันตีความปัง พี่ปิ่นกมลคือคนที่อยู่เบื้องหลังละครดัง ๆ มาแล้วเพียบ และครั้งนี้เค้ามาคุมโปรเจกต์ เพียงเธอ เองเลย ด้วยความที่พี่เค้ามีวิสัยทัศน์ในการเลือกเรื่องราวที่โดนใจคนดู บวกกับการควบคุมคุณภาพงานสร้างให้เป๊ะทุกจุด ทำให้รู้เลยว่าละครเรื่องนี้จะต้องออกมาสมบูรณ์แบบ ทั้งเรื่องโปรดักชัน เรื่องราว และเคมีของนักแสดง แค่เห็นชื่อพี่ปิ่นกมลก็รู้สึกวางใจแล้วอะ

กำกับภาพ เรืองวิทย์ รามสูต
และที่ขาดไม่ได้คือ เรืองวิทย์ รามสูต ผู้กำกับภาพที่เป็นเหมือนจิ๊กซอว์สำคัญของความสวยงามในละครเรื่องนี้ พี่เรืองวิทย์คือคนที่ทำให้ทุกฉากมันดูดี๊ดี จากที่เห็นในมินิไพลอตเมื่อวันที่ 8 กันยา 2567 ฉากคืนฝนตกที่ตะวันช่วยไอร่านี่มันสวยแบบ MV ระดับโลกเลย แล้วฉากคอนเสิร์ตของไอร่าที่ให้ฟีลซุปตาร์ หรือฉากแอ็คชั่นที่ตะวันต้องปกป้องไอร่าจากอันตราย มันดูยิ่งใหญ่และตื่นเต้นมากกก งานภาพของพี่เรืองวิทย์นี่คือช่วยยกระดับให้ละครดูพรีเมียมสุด ๆ ไปเลย

บริษัทผู้ผลิต BEC World Original
สุดท้าย ต้องพูดถึง BEC World Original บริษัทผู้ผลิตที่อยู่ภายใต้ช่อง 3 HD  ทีมนี้เค้าปังมาก เพราะ เพียงเธอ เป็นละครแซฟฟิกเรื่องที่ 2 ที่ BEC World Original ลงทุนสร้างเอง ต่อจากความสำเร็จของ ใจซ่อนรัก ที่ทำให้แฟน ๆ ฟินจิกหมอนไปแล้ว การที่ BEC กล้าลงทุนทำละครแนวแซฟฟิกแบบเต็มตัว มันแสดงให้เห็นว่าเค้าใส่ใจกลุ่มแฟน ๆ ที่อยากเห็นความรักหลากหลายบนจอ และพร้อมผลักดันงานคุณภาพให้ออกมาปัง งานนี้เลยเหมือนเป็นการยกระดับวงการละครไทยไปอีกขั้นเลยล่ะ

นอกจากทีมงานสุดเจ๋งแล้ว เบื้องหลังของ เพียงเธอ ยังมีโมเมนต์ที่ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นสุด ๆ อย่างตอนที่ปล่อยภาพ ฟิตติ้ง ในเดือนกันยายน 2567 ที่เราได้เห็น หลิงหลิง ศิริลักษณ์ ในลุคบอดี้การ์ดสุดเท่ และ ออม กรณ์นภัส ในลุคซุปตาร์สุดแกลม แฟนคลับนี่กรี๊ดกันลั่นโซเชียลเลย เพราะเคมีของคู่นี้มันปังตั้งแต่ยังไม่เริ่มถ่าย

w1200
ในงาน แฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 ของหลิงหลิงและออมในประเทศไทย

แล้วย้อนไปวันที่ 8 กันยายน 2567 ในงาน แฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 ของหลิงหลิงและออมในประเทศไทย ทีมงานเซอร์ไพรส์ด้วยการปล่อย มินิไพลอต ของละคร ฉากที่ตะวันช่วยไอร่าตอนฝนตกนี่มันแบบ… โรแมนติกสุดใจ แฟน ๆ ในงานนี่ถึงกับร้องว้าวกันทั้งฮอลล์ และสุดท้ายในงาน LINGORM BIRTHDAY CHARITY 2025 วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เค้าประกาศวันออกอากาศอย่างเป็นทางการว่า 18 กรกฎาคม 2568 ทุกวันศุกร์ 20:30 น. ทางช่อง 3 HD! โอ้โห แค่เห็นตารางงานสร้างและการโปรโมตก็รู้แล้วว่าทีมนี้ตั้งใจทำสุด ๆ

บอกเลยว่าเห็นรายชื่อทีมงานแล้วใจมันพองโตมาก สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร มากำกับการเล่าเรื่องรักแบบแซฟฟิกนี่มันต้องออกมาฟินแน่นอน ปิ่นกมล มาลีนนท์ กับประสบการณ์จัดละครปัง ๆ มาคุมโปรเจกต์นี้คือการันตีคุณภาพ แล้ว เรืองวิทย์ รามสูต ที่มาดูแลงานภาพนี่คือทำให้ทุกฉากมันดูสวยจนอยากกรี๊ด และ BEC World Original ที่กล้าผลักดันละครแนวแซฟฟิกเรื่องที่ 2 มันคือการยกระดับวงการละครไทยที่เราต้องปรบมือให้

นักแสดง

→ หลิงหลิง คอง รับบท ตะวัน

000133a9 3007 42f2 bf17 c5a5190fd1fa
หลิงหลิง คอง

บอดี้การ์ดสุดเท่ที่หัวใจมีปม
ตะวัน (รับบทโดย หลิงหลิง ศิริลักษณ์) คือตัวละครที่แบบ…  เท่ไม่ไหว เธอเป็น บอดี้การ์ดมือฉมัง ที่ทั้งเก่ง ฉลาด และเย็นชาแบบมีสไตล์ ลุคของตะวันในชุดบอดี้การ์ดนี่คือให้ฟีลแข็งแกร่งสุด ๆ เหมือนพร้อมลุยทุกสถานการณ์ ในละคร ตะวันได้รับมอบหมายให้ปกป้อง ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) นักร้องซุปตาร์จากภัยคุกคามที่โคตรอันตราย

แต่ ตะวันไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดธรรมดานะ เธอมีปมในใจที่ลึกซึ้งมากกก ย้อนไป 8 ปีก่อน ตะวันเคยช่วยไอร่าจากพวกอันธพาลในคืนฝนตก และทั้งคู่ก็เคยสนิทกันสมัยเรียน แต่จู่ ๆ เธอก็หายตัวไปแบบไม่บอกลา ซึ่งมันทิ้งรอยแผลในใจให้ไอร่า ในปัจจุบัน ตะวันกลับมาในฐานะบอดี้การ์ดของไอร่า แต่เธอยึดมั่นใน หน้าที่ มากกว่าหัวใจ ถึงแม้ว่าไอร่าจะพยายามรื้อฟื้นความรู้สึกเก่า ๆ ก็ตาม

คาแรกเตอร์ของตะวันเลยเป็นคนที่ เข้มแข็งแต่เปราะบาง เธอเหมือนกำแพงเหล็กที่ปกป้องทุกคน แต่ข้างในใจน่ะ มีความรู้สึกที่ซ่อนอยู่เยอะมาก การแสดงของหลิงหลิงในบทนี้คือแบบ… ว้าว เธอถ่ายทอดความขัดแย้งระหว่างหน้าที่และความรักได้แบบถึงอารมณ์สุด ๆ ฉากที่ตะวันต้องตัดสินใจระหว่างปกป้องไอร่าหรือยึดมั่นในภารกิจลับนี่คือทำให้คนดูอย่างเรานี่ลุ้นจนตัวโก่ง

ฉายาของตะวัน “อัศวินแห่งเงามืด”
เพราะตะวันคือคนที่โผล่มาในยามที่ไอร่าต้องการความช่วยเหลือที่สุด เหมือนอัศวินที่ปกป้องเงียบ ๆ จากในเงา ไม่ว่าจะเป็นคืนฝนตกเมื่อ 8 ปีก่อน หรือตอนที่ต้องสู้กับศัตรูในฐานะบอดี้การ์ด ตะวันคือคนที่พร้อมเสียสละเพื่อคนที่รัก แม้ว่าเธอจะไม่เคยพูดออกมาก็ตาม ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความเท่และความลึกลับของเธอได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากตะวัน “หน้าที่สำคัญ แต่หัวใจก็สำคัญไม่แพ้กัน”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของตะวันคือ “หน้าที่สำคัญ แต่หัวใจก็สำคัญไม่แพ้กัน” ตะวันเป็นคนที่ยึดมั่นในหน้าที่มาก ๆ จนบางครั้งเธอเลือกที่จะกดความรู้สึกของตัวเองไว้เพื่อทำสิ่งที่ “ถูกต้อง” แต่ในชีวิตจริงเนาะ การที่เราจะสมดุลระหว่างหน้าที่และความรู้สึกของตัวเองมันสำคัญมาก การที่ตะวันต้องต่อสู้กับตัวเองเพื่อเลือกว่าจะฟังหัวใจหรือทำตามภารกิจ มันสอนให้เราเห็นว่า บางครั้งการยอมให้หัวใจนำทางบ้างก็อาจจะนำพาเราไปสู่ความสุขที่แท้จริง ฉากที่ตะวันมองไอร่าด้วยสายตาที่แบบ… มีความรู้สึกแต่ต้องเก็บไว้นี่ มันทำให้เราอยากบอกตะวันว่า “พี่ตะวัน ปล่อยใจตัวเองบ้างนะ” 😭

บอกเลยว่าตัวละครตะวันคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ เพียงเธอ Only You น่าดูสุด ๆ หลิงหลิง ศิริลักษณ์ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความเท่ในฉากแอ็คชั่น ความดราม่าในฉากที่ต้องเก็บความรู้สึก และความอบอุ่นในโมเมนต์ที่อยู่กับไอร่า มันทำให้คนดูอย่างเรานี่ทั้งลุ้นทั้งฟิน แล้วปมลับที่ว่า “ทำไมตะวันถึงหายไปเมื่อ 8 ปีก่อน?” นี่คือสิ่งที่ทำให้อยากดูต่อทุกตอนเลย

คาแรกเตอร์ตะวันมันเหมือนเป็นตัวแทนของคนที่ต้องแบกอะไรหนัก ๆ ไว้ในใจ แต่ก็ยังเลือกที่จะปกป้องคนที่รัก มันทำให้เราอินและอยากเอาใจช่วยให้ตะวันได้สมหวังกับไอร่า

→ กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ รับบท ไอร่า

oardefault
กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์

ซุปตาร์ที่หัวใจแกร่ง
ไอร่า (รับบทโดย ออม กรณ์นภัส) คือ นักร้องซุปตาร์ ที่ปังสุดในวงการ เธอคือดาวจรัสฟ้าที่ทุกคนกรี๊ด ขึ้นเวทีทีไรคือแสงสปอตไลต์ต้องส่อง ลุคของไอร่านี่แบบแกลมสุด ๆ ชุดสวย ๆ ผมเป๊ะ ๆ ฟีลซุปตาร์ตัวจริง แต่ชีวิตของไอร่าไม่ได้มีแค่แสงสี เพราะเธอต้องเผชิญกับ ภัยคุกคาม จากคนที่ไม่หวังดี ทำให้ ธนา (สุพจน์ จันทร์เจริญ) คุณพ่อของเธอ ต้องจ้าง ตะวัน (หลิงหลิง ศิริลักษณ์) มาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว

ย้อนไป 8 ปีก่อน ไอร่าเคยเจอตะวันในคืนฝนตกที่ตะวันช่วยเธอจากพวกอันธพาล มันคือโมเมนต์ที่ทำให้ไอร่าตกหลุมรักครั้งแรกเลย แล้วตอนที่ย้ายมาเรียน ม.4 เธอก็ได้เจอตะวันอีกครั้งในฐานะรุ่นพี่ ม.6 ทำให้ความรู้สึกของเธอค่อย ๆ โตขึ้น แต่ตะวันดันหายไปแบบไม่บอกลา 😭 มันทิ้งรอยแผลในใจไอร่าแบบลึกมากกก มาถึงปัจจุบัน ปี 2568 ไอร่ากลายเป็นซุปตาร์ แต่เมื่อตะวันกลับมาเป็นบอดี้การ์ด เธอตัดสินใจเลยว่า “ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมเสียพี่ตะวันไปอีก”

ไอร่าจึงเป็นตัวละครที่ เปราะบางแต่แข็งแกร่ง เธออาจจะดูเป็นซุปตาร์ที่อ่อนไหว แต่ในเรื่องความรักนี่มุ่งมั่นสุด ๆ เธอพยายามทุกทางเพื่อให้ตะวันเปิดใจ ถึงแม้ว่าตะวันจะยึดมั่นในหน้าที่แบบสุดโต่ง การแสดงของ ออม กรณ์นภัส ในบทนี้คือแบบ… ว้าวมาก เธอถ่ายทอดความรู้สึกของไอร่าได้แบบถึงใจ ฉากที่มองตะวันด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวัง หรือฉากที่ต้องเผชิญอันตรายนี่คือทำให้คนดูอย่างเราน้ำตาคลอเลย

ฉายาของไอร่า “ดาวจรัสที่โหยหาความรัก”
เพราะไอร่าคือซุปตาร์ที่สว่างไสวบนเวที แต่ในใจลึก ๆ เธอยังคงโหยหาความรักจากตะวัน ผู้เป็นรักแรกและคนที่เธอไม่อยากเสียไปอีก ฉายานี้มันบ่งบอกถึงตัวตนของไอร่าได้แบบเป๊ะ สวย สตรอง แต่ก็มีมุมที่อ่อนไหวและต้องการคนที่เข้าใจหัวใจของเธอจริง ๆ

ข้อคิดจากไอร่า “ความรักที่แท้จริงต้องกล้าต่อสู้เพื่อมัน”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของไอร่าคือ “ความรักที่แท้จริงต้องกล้าต่อสู้เพื่อมัน”  ไอร่าไม่ใช่แค่ซุปตาร์ที่รอให้คนมารัก เธอเลือกที่จะสู้เพื่อความรักของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับกำแพงของตะวันหรืออันตรายรอบตัว ฉากที่ไอร่าพยายามเข้าใกล้ตะวันทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตะวันตั้งกำแพงไว้ มันสอนให้เราเห็นว่า ถ้าเรารักใครสักคนจริง ๆ การยอมเสี่ยงและทุ่มสุดใจเพื่อรักษาความรักนั้นมันคุ้มค่า ไอร่าคือตัวอย่างของคนที่กล้าเผชิญหน้ากับทุกอย่างเพื่อคนที่รัก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วยเธอสุด ๆ

บอกเลยว่า ไอร่า คือตัวละครที่ขโมยใจคนดูไปเต็ม ๆ ออม กรณ์นภัส เล่นบทนี้ได้แบบครบทุกอารมณ์ ทั้งความแกลมในฐานะซุปตาร์ ความเปราะบางในฉากดราม่า และความมุ่งมั่นในฉากที่พยายามรื้อฟื้นความรักกับตะวัน มันทำให้เราอินสุด ๆ! โดยเฉพาะฉากที่ไอร่ามองตะวันด้วยสายตาที่แบบ “ฉันยังรักเธอนะ” มันคือฟีลที่ทำให้ใจสั่น 😭 แล้วปมที่ว่าทำไมตะวันถึงทิ้งเธอไปเมื่อ 8 ปีก่อนนี่มันชวนให้ลุ้นทุกตอนเลย

ไอร่าคือตัวละครที่ทำให้เราเห็นว่า ต่อให้คุณจะดังแค่ไหน สุดท้ายหัวใจก็ยังต้องการความรักที่แท้จริง มันทำให้อยากเชียร์ให้ไอร่าได้สมหวังกับตะวัน

→ มาริลิน เคท การ์ดเนอร์ รับบท ข้าวตู

มาริลิน เคท การ์ดเนอร์

เพื่อนซี้สุดแซ่บที่ขาดไม่ได้
ข้าวตู (รับบทโดย มาริลิน เคท การ์ดเนอร์) คือตัวละครที่เป็น เพื่อนสนิทสุดปัง ของ ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ในละคร เธอเป็น แอร์โฮสเตส ที่ทั้งขี้เล่น มุกเยอะ และรักเพื่อนแบบสุดใจ ตั้งแต่สมัยเรียน ม.4 ข้าวตูคือคนที่คอยทักทายไอร่าด้วยความสดใส ฟีลแบบ “เฮ้ เด็กใหม่ชื่ออะไรอะ?” ทำให้ไอร่ารู้สึกอบอุ่นตั้งแต่ย้ายมาโรงเรียนใหม่

ข้าวตูคือตัวละครที่มาเติมความฟีลกู้ดให้กับเรื่องนี้เลย เธอเป็นเหมือน แสงสว่างในกลุ่มเพื่อน ที่คอยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ต่อให้สถานการณ์จะตึงเครียดแค่ไหน ในเรื่อง เราเห็นข้าวตูคอยอยู่ข้าง ๆ ไอร่า ไม่ว่าจะตอนที่ไอร่ากำลังตกหลุมรัก ตะวัน (หลิงหลิง ศิริลักษณ์) หรือตอนที่ไอร่าต้องเจอกับดราม่าหนัก ๆ จากภัยคุกคามในฐานะซุปตาร์ ข้าวตูคือคนที่แบบ “เพื่อนฉันต้องรอด” คอยให้กำลังใจและซัพพอร์ตเต็มที่

การแสดงของ มาริลิน เคท ในบทนี้คือแบบ… สุดยอดมาก เธอถ่ายทอดความสดใสและความเป็นเพื่อนแท้ของข้าวตูได้แบบเป๊ะ! ฉากที่ข้าวตูแซวไอร่าเรื่องตะวัน หรือฉากที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน มันทำให้คนดูอย่างเรานี่ยิ้มตามเลย ข้าวตูคือตัวละครที่ช่วยให้เรื่องนี้ไม่หนักเกินไป และเป็นเหมือนกาวใจที่เชื่อมทุกคนในเรื่องไว้ด้วยกัน

ฉายาของข้าวตู “นางฟ้าแห่งความฟีลกู้ด”
เพราะข้าวตูคือคนที่พกความสดใสมาเต็ม ไม่ว่าไอร่าจะเจอดราม่าหนักแค่ไหน หรือสถานการณ์จะตึงเครียดจากภัยคุกคาม ข้าวตูจะมาพร้อมมุกตลกและพลังบวกที่ทำให้ทุกคนยิ้มได้ เธอเหมือนนางฟ้าที่คอยโบยบินมาเติมความสุขให้กับเพื่อนและคนดูอย่างเรา ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความน่ารักและความเป็นเพื่อนสุดซี้ของข้าวตูได้แบบลงตัวสุด ๆ

ข้อคิดจากข้าวตู “เพื่อนแท้คือคนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเรื่องจะหนักแค่ไหน”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของข้าวตูคือ “เพื่อนแท้คือคนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าเรื่องจะหนักแค่ไหน”  ข้าวตูสอนให้เราเห็นว่าการเป็นเพื่อนที่ดีไม่ใช่แค่การอยู่ด้วยกันตอนสนุก ๆ แต่คือการยืนเคียงข้างเพื่อนในวันที่ทุกอย่างมันพัง ไม่ว่าไอร่าจะเจอกับรักที่ซับซ้อนกับตะวัน หรืออันตรายจากคนที่ปองร้าย ข้าวตูคือคนที่คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือเสมอ มันทำให้เรานึกถึงเพื่อนในชีวิตจริงที่แบบ… ไม่ว่าจะเจออะไร ก็มีเค้าคนนั้นคอยซัพพอร์ต ฉากที่ข้าวตูอยู่ข้างไอร่านี่คือแบบ… อยากมีเพื่อนแบบนี้บ้างเลย 😭

บอกเลยว่า ข้าวตู คือตัวละครที่ขโมยซีนไปเลย มาริลิน เคท การ์ดเนอร์ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสสุด ๆ ความสดใส ความขี้เล่น และความเป็นเพื่อนแท้ที่เธอถ่ายทอดผ่านข้าวตูนี่มันทำให้คนดูอย่างเรายิ้มตามทุกฉาก โดยเฉพาะฉากที่ข้าวตูแซวไอร่าเรื่องตะวัน หรือตอนที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน มันให้ฟีลเหมือนมีเพื่อนซี้ที่คอยทำให้ชีวิตเราสนุกขึ้น 

ข้าวตูคือตัวละครที่ช่วยให้ เพียงเธอ Only You มีสีสันและไม่หนักเกินไป แล้วยิ่งรู้ว่า มาริลิน เคท เป็นนักแสดงลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่กำลังเรียนด้านการแสดงที่จุฬาฯ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อบทนี้จริง ๆ

→ ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ รับบท นานา

capture 20250810 121520
ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ

บอดี้การ์ดสายไอทีที่บ้าดารา
หนึ่งในทีมบอดี้การ์ดสุดเท่ของ ตะวัน เธอเป็น บอดี้การ์ดคลาส A ผู้เชี่ยวชาญด้าน ไอที เก่งสุด ๆ ในการสืบค้นข้อมูล อยากรู้อะไรในโลกนี้ มอบหมายให้พี่นานา แป๊บเดียวได้ข้อมูลครบ แต่ นานาไม่ได้มีแค่ความเก่ง เธอยังเป็น ติ่งตัวยง ที่บ้าดาราสุด ๆ โดยเฉพาะ ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ที่เธอต้องช่วยปกป้อง

ในเรื่อง นานาคือสมาชิกทีมบอดี้การ์ดที่ทำงานร่วมกับ ชัญญ่า (นิศาชล ต้วมสูงเนิน) และ ไต้ฝุ่น (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ภายใต้การนำของตะวัน เธอมีบทบาทสำคัญในการสืบหาความจริงเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ไอร่าต้องเผชิญ แต่ที่ทำให้ข้าวตูเด่นคือความ น่ารักและความติ่ง ที่แอบกรี๊ดไอร่าตลอดเวลา ฟีลแบบ “โอ๊ย ซุปตาร์ของชั้น” แต่ถึงจะติ่ง นานาก็โปรสุด ๆ นะ งานไอทีของเธอคือเป๊ะ ช่วยทีมได้เยอะมาก

การแสดงของ เนเน่ ธันย์ชนก ในบทนี้คือแบบ… ปังไม่ไหว เธอถ่ายทอดความเก่งและความน่ารักของนานาได้แบบลงตัวสุด ๆ ฉากที่นานาแอบกรี๊ดไอร่าหรือตอนที่โชว์สกิลไอทีนี่คือทำให้คนดูอย่างเราทั้งขำทั้งทึ่ง นานาคือตัวละครที่เพิ่มความสนุกและพลังบวกให้กับทีมบอดี้การ์ด และทำให้เรื่องนี้ครบรสยิ่งขึ้น

ฉายาของนานา “สายลับติ่งดารา”
เพราะนานาคือบอดี้การ์ดที่เก่งฉกาจด้านไอที ฟีลสายลับสุดคูล แต่ก็มีมุมติ่งที่แอบกรี๊ดไอร่าจนใจเต้น ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความสามารถและความน่ารักของนานาได้แบบเป๊ะ ๆ เธอคือสายลับที่พร้อมสืบทุกอย่าง แต่ก็พร้อมกรี๊ดดาราคนโปรดทุกเมื่อ

ข้อคิดจากนานา “ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของนานาคือ “ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ” นานาคือตัวอย่างของคนที่รักในงานของตัวเอง อย่างการเป็นบอดี้การ์ดสายไอทีที่เก่งกาจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่ความรักและแพสชันส่วนตัวอย่างการติ่งดาราเข้าไปในชีวิต การที่นานาทั้งเก่งในงานและยังมีความสุขกับการได้ใกล้ชิดไอร่า มันสอนให้เราเห็นว่า การทำงานที่เรารักและใส่ความเป็นตัวเองลงไป มันจะทำให้ชีวิตเราสนุกและมีสีสันขึ้น ฉากที่นานาโชว์สกิลไอทีแล้วแอบยิ้มตอนเจอไอร่านี่คือแบบ… ชีวิตดี๊ดี 😄

บอกเลยว่า นานา คือตัวละครที่มาเติมความสนุกให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดปัง เนเน่ ธันย์ชนก เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความเก่งในฉากที่โชว์สกิลไอที ความน่ารักในโมเมนต์ติ่งไอร่า และความเป็นทีมเวิร์กที่ช่วยตะวันและทีมปกป้องซุปตาร์ มันทำให้เราอยากเชียร์นานาในทุกฉาก โดยเฉพาะโมเมนต์ที่นานาแอบกรี๊ดไอร่านี่คือขำมาก ฟีลเหมือนตัวเองตอนเจอดาราที่ชอบเลย

นานาคือตัวละครที่ทำให้เราเห็นว่า ถึงจะอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดอย่างการเป็นบอดี้การ์ด แต่ก็ยังมีมุมน่ารัก ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างดูเบาลง แล้วยิ่งรู้ว่าเนเน่เคยเล่นใน ใจซ่อนรัก มาแล้ว (รับบทรอส พยาบาลสุดน่ารัก) ยิ่งรู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อบทสมทบที่ขโมยซีนแบบนี้จริง ๆ 

→ นิศาชล ต้วมสูงเนิน รับบท ชัญญ่า

q1 110
นิศาชล ต้วมสูงเนิน

บอดี้การ์ดสาวแกร่งที่สายตาเฉียบ
หนึ่งในสมาชิกทีมบอดี้การ์ดสุดปังของ ตะวัน ชัญญ่าคือ บอดี้การ์ดสาวสุดแกร่ง ที่ทั้งเก่งบู๊และมีสายตาเฉียบคมราวกับเหยี่ยว เธอเป็นคนที่จริงจังกับงานสุด ๆ และมีความเป็น สายสืบ ที่คอยจับตาทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างตะวันและ ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ที่ทีมต้องปกป้อง

ในเรื่อง ชัญญ่าทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับ นานา (ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ) และ ไต้ฝุ่น (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ภายใต้การนำของตะวัน เธอคือคนที่พร้อมลุยทุกภารกิจ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอันตรายแค่ไหน แต่ที่ทำให้ชัญญ่าเด่นคือ ความสงสัย และความ แซ่บ ในแบบของเธอ เธอเป็นคนแรก ๆ ที่เริ่มจับพิรุธว่าตะวันกับไอร่ามีอะไรในกอไผ่รึเปล่า? ฟีลแบบ “เดี๋ยว ๆ สองคนนี้มันยังไงกันนะ?” ฉากที่ชัญญ่าแอบสังเกตหรือแซวตะวันนี่คือขำมาก ช่วยเพิ่มความสนุกให้เรื่องได้สุด ๆ

การแสดงของ นิศาชล ในบทนี้คือแบบ… ปังไม่ไหว เธอถ่ายทอดความแข็งแกร่งและความแซ่บของชัญญ่าได้แบบเป๊ะ ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ที่โชว์ความเก่ง หรือฉากที่แอบแซวเพื่อนร่วมทีม มันทำให้ชัญญ่ากลายเป็นตัวละครที่ทั้งเท่และมีเสน่ห์สุด ๆ! เธอคือคนที่คอยทำให้ทีมบอดี้การ์ดดูครบรส มีทั้งความเข้มและความขำ

ฉายาของชัญญ่า “เหยี่ยวสายสืบ”
เพราะชัญญ่าคือบอดี้การ์ดที่สายตาเฉียบคมเหมือนเหยี่ยว เธอจับพิรุธได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามที่กำลังคืบคลานมาหาไอร่า หรือความสัมพันธ์ลับ ๆ ของตะวันกับไอร่า ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความเก่งและความแซ่บของชัญญ่าได้แบบลงตัวสุด ๆ เธอคือสายสืบที่พร้อมลุยและพร้อมแซวทุกสถานการณ์

ข้อคิดจากชัญญ่า “ความจริงใจและความใส่ใจคือกุญแจของทีมที่แข็งแกร่ง”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของชัญญ่าคือ “ความจริงใจและความใส่ใจคือกุญแจของทีมที่แข็งแกร่ง” ชัญญ่าเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับทีมและภารกิจสุด ๆ เธอไม่ใช่แค่เก่งบู๊ แต่ยังใส่ใจรายละเอียดรอบตัว คอยสังเกตทั้งศัตรูและเพื่อนร่วมทีม การที่เธอจับตาดูความสัมพันธ์ของตะวันกับไอร่า มันไม่ใช่แค่การแซว แต่แสดงถึงความห่วงใยและความจริงใจที่อยากให้ทุกอย่างในทีมมันชัดเจน มันสอนให้เราเห็นว่า ในทีมที่ดี การใส่ใจและจริงใจต่อกันคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนไปต่อได้ ฉากที่ชัญญ่าช่วยทีมวางแผนหรือแซวตะวันนี่คือแบบ… เธอคือกาวใจของทีมเลย 😎

บอกเลยว่า ชัญญ่า คือตัวละครที่มาเพิ่มความแซ่บให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดปัง นิศาชล ต้วมสูงเนิน เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความเท่ในฉากบู๊ ความเฉียบในโมเมนต์สายสืบ และความขำในฉากที่แซวตะวันกับไอร่า มันทำให้คนดูอย่างเรานี่ยิ้มตามทุกครั้ง โดยเฉพาะฉากที่ชัญญ่าแอบจับพิรุธความสัมพันธ์ของคู่หลัก ฟีลเหมือนเรากำลังนั่งเมาท์กับเพื่อนเลย

ชัญญ่าคือตัวละครที่ทำให้ทีมบอดี้การ์ดดูมีมิติขึ้น เธอเป็นทั้งนักสู้และเพื่อนร่วมทีมที่คอยเติมพลังให้ทุกคน แล้วยิ่งรู้ว่า นิศาชล เป็นนักแสดงที่เคยฝากผลงานในละครดัง ๆ มาแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อบทนี้จริง ๆ

→ ภาสวิชญ์ บูรณนัติ รับบท ไต้ฝุ่น

ภาสวิชญ์ บูรณนัติ

บอดี้การ์ดสุดเก๊กที่ใจเขียวขจี
หนึ่งในสมาชิกทีมบอดี้การ์ดสุดเจ๋งของ ตะวัน ไต้ฝุ่นเป็น บอดี้การ์ดคลาส A และอดีตหน่วยซีลที่ฝีมือฉกาจ ลุคของเขาคือแบบ… เท่จัด ปากเก่ง ฟอร์มจัดเต็ม คาแรกเตอร์ของไต้ฝุ่นคือคนที่ ขี้เก๊ก ชอบวางมาด แต่จริง ๆ แล้วเป็น เพื่อนร่วมทีมที่น่ารักและจริงใจ สุด ๆ

ในเรื่อง ไต้ฝุ่นทำงานเคียงข้าง ชัญญ่า (นิศาชล ต้วมสูงเนิน) และ นานา (ธันย์ชนก ยุทธสารศิริ) เพื่อปกป้อง ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์จากภัยคุกคาม เขาเป็นคนที่คอยเพิ่มสีสันให้ทีมด้วยความขี้เล่นและมุกตลก แต่ที่เด่นสุด ๆ คือ ความเป็นธงเขียว จากโพสต์บนโซเซียล บอกว่าไต้ฝุ่นคือคนที่มองออกว่าบอสของเขา (ตะวัน) มีใจให้ไอร่า และยังคอยเชียร์เจ้านายแบบสุดน่ารัก ฟีลแบบ “บอสชอบใคร ผมซัพพอร์ต” ทำให้แฟน ๆ หลงรักความเป็นเพื่อนที่ดีของเขา

การแสดงของ สมิธ ภาสวิชญ์ ในบทนี้คือแบบ… ว้าวมาก เขาถ่ายทอดความเท่ของไต้ฝุ่นในฉากแอ็คชั่นได้แบบสมจริง และยังใส่มุมขี้เล่นและความอบอุ่นลงไปได้อย่างลงตัว ฉากที่ไต้ฝุ่นแซวตะวันหรือช่วยทีมสู้กับศัตรูคือทั้งขำทั้งลุ้น ทำให้คนดูอย่างเรานี่ยิ้มตามเลย ไต้ฝุ่นคือตัวละครที่ช่วยให้ทีมบอดี้การ์ดดูครบรสและน่าติดตามสุด ๆ

ฉายาของไต้ฝุ่น “พายุแห่งความซัพพอร์ต”
เพราะไต้ฝุ่นคือพายุพลังบวกที่พัดพาความเท่และความน่ารักมาสู่ทีม เขาเป็นบอดี้การ์ดที่เก่งฉกาจเหมือนพายุ แต่ก็ซัพพอร์ตเจ้านายและเพื่อน ๆ ด้วยใจที่เขียวขจีเหมือนป่าอเมซอน ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความสามารถและความเป็นเพื่อนที่ดีของไต้ฝุ่นได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากไต้ฝุ่น “เป็นเพื่อนที่ดี ต้องรู้ใจและซัพพอร์ตสุดตัว”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของไต้ฝุ่นคือ “เป็นเพื่อนที่ดี ต้องรู้ใจและซัพพอร์ตสุดตัว” ไต้ฝุ่นสอนให้เราเห็นว่า การเป็นเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานที่ดีไม่ใช่แค่การทำงานเก่ง แต่ต้องเข้าใจและสนับสนุนคนรอบข้างด้วย การที่ไต้ฝุ่นมองออกว่าตะวันชอบไอร่าและเลือกที่จะเชียร์เจ้านายแบบไม่จัสต์ มันแสดงถึงความจริงใจและความใส่ใจที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น ฉากที่ไต้ฝุ่นแซวตะวันหรือช่วยทีมในภารกิจนี่คือแบบ… ผู้ชายธงเขียวตัวจริง มันทำให้เราอยากมีเพื่อนแบบไต้ฝุ่นในชีวิตจริงเลย 😄

บอกเลยว่า ไต้ฝุ่น คือตัวละครที่ขโมยซีนไปเต็ม ๆ สมิธ ภาสวิชญ์ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสสุด ๆ ทั้งความเท่ในฉากแอ็คชั่นที่สมกับเป็นอดีตหน่วยซีล ความขี้เล่นในโมเมนต์ที่แซวตะวัน และความน่ารักที่คอยซัพพอร์ตความรักของบอส โดยเฉพาะจากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ อวยว่าไต้ฝุ่นคือ “ผู้ชายธงเขียวป่าอเมซอน” นี่คือจริงมาก เขาทำให้ทีมบอดี้การ์ดดูสนุกและอบอุ่นขึ้นเยอะ

ยิ่งรู้ว่า สมิธ เป็นนักแสดงและนักร้องที่เคยฝากผลงานไว้ในละครดัง ๆ อย่าง ทุ่งเสน่หา และ ลออจันทร์ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาถ่ายทอดไต้ฝุ่นได้แบบเกิดมาเพื่อบทนี้ ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าไต้ฝุ่นจะมีโมเมนต์ขี้เก๊กหรือซัพพอร์ตบอสในฉากไหนอีกบ้าง

→ เข็มอัปสร สิริสุขะ รับบท ประธานบริษัท BEC Music

08P13AA3
เข็มอัปสร สิริสุขะ

บอสสาวสุดแซ่บแห่งวงการบันเทิง
บิ๊กบอส ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เธอคือผู้บริหารที่ทั้งสวย เก่ง และมีอำนาจเต็มมือ ลุคของประธานคือแบบ… สวยเฉียบ มาดนิ่ง แต่แฝงไปด้วยความเข้มแข็งและความเฉลียวฉลาด เธอเป็นคนที่ดูแล ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ของค่าย และต้องจัดการกับสถานการณ์วายป่วงเมื่อไอร่าถูกปองร้าย

ในเรื่อง ประธาน BEC Music คือคนที่ควบคุมทุกอย่างในค่ายด้วยความเด็ดขาด จากโพสต์บนโซเซียล บอกว่าเธอถึงกับเดือดเมื่อรู้ว่าไอร่า ศิลปินตัวท็อปของค่าย โดนลอบทำร้ายถึงหน้าตึก ฟีลแบบ “ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?” แสดงให้เห็นว่าเธอทั้งจริงจังและปกป้องคนของตัวเองสุด ๆ แต่ที่ทำให้ประธานน่าสนใจคือ เธอไม่ได้เป็นแค่บอสที่เข้มงวด เธอยังมี มุมน่ารัก ที่ทำให้แฟน ๆ กรี๊ด อย่างในงานแฟนมีตติ้ง เธอสลัดลุคบอสมาโชว์ร้องเต้นกับ หลิงหลิง คอง และ ออม กรณ์นภัส ในเพลง “เหรอ” ซึ่งแฟน ๆ อวยว่าเป็นเซอร์ไพรส์สุดปัง

การแสดงของ เชอรี่ เข็มอัปสร ในบทนี้คือแบบ… ตัวแม่สุด ๆ เธอถ่ายทอดความเป็นผู้นำที่ทั้งสง่าและน่าเกรงขามได้แบบเป๊ะ แต่ก็แอบมีมุมที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเธอเข้าถึงได้ อย่างฉากที่ประธานต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญของค่าย หรือโมเมนต์ที่เธอแสดงความห่วงใยต่อไอร่า มันทำให้คนดูอย่างเรานี่ยกนิ้วให้เลย ประธาน BEC Music คือตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้เรื่องนี้ และเป็นตัวละครที่แฟน ๆ สาววายจับตาว่าจะมีเคมีเด็ด ๆ กับใครในเรื่องบ้าง (แอบสปอยล์ว่าแฟน ๆ จิ้นเธอกับ ดิว ปิ่นกมล ผู้จัดละครด้วยนะ)

ฉายาของประธาน “ตัวแม่แห่งวงการ”
เพราะประธาน BEC Music คือบอสสาวที่ทั้งสวย สตรอง และมีพลังควบคุมทุกอย่างในวงการบันเทิง เธอคือคนที่ทุกคนในค่ายต้องฟัง และแค่ปรากฏตัวก็ขโมยซีนได้แบบเต็ม ๆ ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่และออร่าของเธอได้แบบลงตัวสุด ๆ

ข้อคิดจากประธาน “ความเป็นผู้นำคือการปกป้องและรับผิดชอบ”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของประธานคือ “ความเป็นผู้นำคือการปกป้องและรับผิดชอบ” ประธาน BEC Music สอนให้เราเห็นว่า การเป็นผู้นำที่ดีไม่ใช่แค่การสั่งงานหรือควบคุมทุกอย่าง แต่คือการปกป้องคนในทีมและรับผิดชอบต่อทุกสถานการณ์ อย่างฉากที่เธอเดือดเมื่อไอร่าถูกลอบทำร้าย มันแสดงให้เห็นว่าเธอห่วงใยศิลปินของตัวเองมากแค่ไหน และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ค่ายและคนของเธอปลอดภัย! มันทำให้เรารู้สึกว่า การเป็นบอสที่ดีต้องมีทั้งความเข้มแข็งและหัวใจที่ยิ่งใหญ่

บอกเลยว่า ประธานบริษัท BEC Music คือตัวละครที่มาเพิ่มความปังให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดยอด เชอรี่ เข็มอัปสร เล่นบทนี้ได้แบบสมศักดิ์ศรีตัวแม่ ความสง่าในลุคบอสสาว ความเด็ดขาดในฉากบริหารงาน และความน่ารักในโมเมนต์ที่โชว์ร้องเต้นในงานแฟนมีต มันทำให้เราอยากกรี๊ด! โดยเฉพาะจากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ พูดถึงความเดือดของประธานตอนปกป้องไอร่า นี่คือแบบ… บอสตัวจริง แล้วยิ่งรู้ว่าเชอรี่เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เคยฝากผลงานในละครดัง ๆ อย่าง กระทิง หรือ ลมเล่นไฟ และยังเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยง ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อบทบอสที่มีมิติแบบนี้

ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าประธานจะมีโมเมนต์เด็ดอะไรในเรื่องนี้อีกบ้าง โดยเฉพาะฉากที่ต้องจัดการวิกฤตของค่าย หรือจะมีเคมีจิ้น ๆ กับใครรึเปล่า?น้า

→ พิมพลอย ปัญจชัยโยกุล รับบท เลขาประธานบริษัท BEC Music

60c59efff5b6e0ba0a20a4af637cebc6 1461818505
พิมพลอย ปัญจชัยโยกุล

เลขาสุดเป๊ะที่รู้ทุกซอกทุกมุม
เลขาประธานบริษัท BEC Music ที่ทำงานเคียงข้าง ประธาน (เชอรี่ เข็มอัปสร) แห่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ลุคของกี้คือแบบ… สวย เนี้ยบ มาดมั่น ฟีลเลขาคนเก่งที่พร้อมจัดการทุกอย่างให้บอส เธอเป็นคนที่รู้ทุกความเคลื่อนไหวในค่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องดราม่า หรือแม้แต่ซุบซิบในวงการ

ในเรื่อง บุ๊คกี้มีบทบาทเป็น ผู้ช่วยคนสำคัญ ของประธานบริษัท BEC Music คอยประสานงานทุกอย่าง ตั้งแต่จัดการตารางงานของ ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ตัวท็อป ไปจนถึงช่วยประธานรับมือกับวิกฤตเมื่อไอร่าถูกปองร้าย จากโพสต์บนโซเซียล บอกว่าเธอมีประโยคเด็ดฟีล “ทางเรากำลังตรวจสอบอยู่นะคะ” ซึ่งให้อารมณ์เลขาคนเก่งที่พร้อมแก้ปัญหาทุกสถานการณ์ เธอเป็นคนที่ทั้งฉลาด ไว และมีไหวพริบสุด ๆ แต่ก็แอบมีมุมน่ารัก ๆ ที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเธอไม่ใช่แค่เลขาธรรมดา

การแสดงของ พิมพลอย ในบทนี้คือแบบ… สุดยอดมาก เธอถ่ายทอดความเป็นเลขาคนเก่งที่ทั้งมืออาชีพและมีเสน่ห์ได้แบบเป๊ะ ฉากที่กี้ต้องจัดการงานให้ประธาน หรือตอนที่แอบแซวสถานการณ์ในค่าย มันทำให้คนดูอย่างเรานี่ยิ้มตามเลย บุ๊คกี้คือตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสนุกและความสมจริงให้กับโลกของวงการบันเทิงในเรื่องนี้

ฉายาของบุ๊คกี้ “เลขาแห่งความเป๊ะ”
เพราะบุ๊คกี้คือเลขาที่จัดการทุกอย่างได้แบบไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเป็นตารางงานของซุปตาร์ หรือการช่วยประธานแก้ปัญหาดราม่า เธอคือคนที่เป๊ะทุกองศา ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความสามารถและความมั่นใจของกี้ได้แบบลงตัวสุด ๆ

ข้อคิดจากบุ๊คกี้ “ความเก่งคือการเตรียมพร้อมและจัดการได้ทุกสถานการณ์”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของบุ๊คกี้คือ “ความเก่งคือการเตรียมพร้อมและจัดการได้ทุกสถานการณ์” บุ๊คกี้สอนให้เราเห็นว่า การเป็นคนที่เก่งในงานไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จ แต่ต้องมีไหวพริบและความพร้อมในการรับมือกับทุกปัญหา ไม่ว่าประธานจะเจอดราม่าหนักแค่ไหน หรือค่ายจะวุ่นวายยังไง บุ๊คกี้ก็จัดการได้แบบเนียน ๆ มันทำให้เรานึกถึงว่า ในชีวิตจริง การเตรียมตัวดีและมีสติจะช่วยให้เราผ่านทุกวิกฤตได้ ฉากที่บุ๊คกี้คอยประสานงานหรือช่วยประธานแก้ปัญหานี่คือแบบ… เลขาคนนี้คือ MVP เลย 😎

บอกเลยว่า บุ๊คกี้ คือตัวละครที่มาเพิ่มความแซ่บให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดปัง พิมพลอย ปัญจชัยโยกุล หรือ บุ๊คกี้ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความเนี้ยบในลุคเลขาคนเก่ง ความฉลาดในการจัดการงาน และมุมน่ารักที่แอบโผล่มาในบางฉาก มันทำให้คนดูอย่างเราอยากเห็นกี้ในทุกตอน โดยเฉพาะจากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ อวยความเป๊ะของเธอในบทเลขา นี่คือแบบ… เหมาะสมสุด ๆ

ยิ่งรู้ว่า พิมพลอย เป็นนักแสดงที่เคยฝากผลงานในวงการบันเทิงมาแล้ว และมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ (จากข้อมูลว่าเธอชอบข้าวอบสับปะรดและเล่นกอล์ฟ) ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอถ่ายทอดกี้ได้แบบมีเสน่ห์สุด ๆ ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าบุ๊คกี้จะมีโมเมนต์เด็ดอะไรในค่าย BEC Music อีกบ้าง

→ สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท ธนา

71173c00 5448 11ed 9ac0 45800dcf7ce9 webp original
สุพจน์ จันทร์เจริญ

พ่อสุดแกร่งที่รักลูกสาวสุดหัวใจ
เจ้าของบริษัทก่อสร้าง และที่สำคัญคือ พ่อของไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ตัวท็อปในละคร เพียงเธอ Only You  ธนาคือพ่อที่ทั้งเข้มแข็งและทุ่มเทให้ลูกสาวแบบสุดตัว ลุคของเขาคือแบบ… ผู้ชายมาดนิ่ง สุขุม แต่ลึก ๆ แล้วคือพ่อที่พร้อมทุ่มทุกอย่างเพื่อปกป้อง ไอร่า ลูกสาวสุดที่รัก

จากโพสต์บนโซเซียล บอกว่า ธนามีประโยคเด็ดว่า “ผมคงทนอยู่ไม่ได้นะ ถ้าลูกสาวผมเป็นอะไรไป” ซึ่งโชว์ให้เห็นเลยว่าเขาเป็นพ่อที่รักและห่วงลูกสาวมากแค่ไหน ในเรื่อง ธนาต้องเผชิญกับสถานการณ์สุดตึง เมื่อไอร่าถูกปองร้าย และเขาต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและเจ้าของบริษัทที่ต้องจัดการกับปัญหาต่าง ๆ คาแรกเตอร์ของธนาคือคนที่ดูนิ่ง ๆ แต่มีมุมอบอุ่น และเป็นเสาหลักของครอบครัวที่มั่นคงสุด ๆ

การแสดงของ ลิฟท์ สุพจน์ ในบทนี้คือแบบ… สมกับเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ เขาถ่ายทอดความเป็นพ่อที่ทั้งเข้มแข็งและเปราะบางได้แบบถึงใจ ฉากที่ธนาแสดงความห่วงใยต่อไอร่า หรือตอนที่ต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ในบริษัท มันทำให้คนดูอย่างเรานี่อินสุด ๆ ธนาคือตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นและความอบอุ่นให้กับเรื่องนี้ และทำให้เราเห็นภาพพ่อที่พร้อมสู้เพื่อลูกได้ชัดเจนมาก

ฉายาของธนา “พ่อแห่งความทุ่มเท”
เพราะธนาคือพ่อที่ทุ่มสุดตัวเพื่อลูกสาว ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เขาก็พร้อมลุยและปกป้องไอร่าแบบไม่มีถอย ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความรักและความเสียสละของเขาได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากธนา “ความรักของพ่อคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของธนาคือ “ความรักของพ่อคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ธนาสอนให้เราเห็นว่า ความรักของพ่อที่มีต่อลูกนั้นแข็งแกร่งและไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ไม่ว่าไอร่าจะเจออันตรายหรือสถานการณ์ยากลำบากแค่ไหน ธนาก็ยืนหยัดเป็นกำแพงให้ลูกสาวเสมอ ประโยคเด็ดจากโซเซียล ที่ว่า “ผมคงทนอยู่ไม่ได้นะ ถ้าลูกสาวผมเป็นอะไรไป” มันแสดงให้เห็นถึงความรักที่ลึกซึ้งและพร้อมเสียสละทุกอย่าง ข้อคิดนี้ทำให้เรานึกถึงคนในครอบครัวที่เรารัก และอยากใช้เวลากับพวกเขาให้มากขึ้น

บอกเลยว่า ธนา คือตัวละครที่ทำให้เราน้ำตาคลอ ลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ เล่นบทนี้ได้แบบครบทุกอารมณ์ ทั้งความเข้มแข็งในฐานะเจ้าของบริษัท ความนิ่งที่แฝงด้วยพลัง และความอบอุ่นในฐานะพ่อที่รักลูกสาวสุดหัวใจ จากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ พูดถึงความทุ่มเทของธนา นี่คือแบบ… พ่อคนนี้คือของจริง ยิ่งรู้ว่า ลิฟท์ เป็นนักแสดงและนักร้องรุ่นใหญ่ที่ฝากผลงานไว้ตั้งแต่สมัย ลิฟท์-ออย และมีผลงานละครอย่าง กามเทพผิดคิว หรือ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาถ่ายทอดธนาได้แบบสุดปัง

ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าธนาจะมีโมเมนต์อะไรบ้างในการปกป้องไอร่า และจะจัดการกับวิกฤตในเรื่องยังไง

→ อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล รับบท ทรงกลด

e33223b0 1da7 11eb b6b7 eb068f70e05b original
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล

พ่อสุดแกร่งและบอสแห่งวงการก่อสร้าง
เจ้าของบริษัทก่อสร้าง และที่สำคัญคือ พ่อของตะวัน (หลิงหลิง คอง) บอดี้การ์ดสุดเท่ในละคร เพียงเธอ Only You จากโพสต์บนโซเซียล บอกว่า ทรงกลดคือพ่อที่ทั้งเข้มงวดและมุ่งมั่นอยากให้บริษัทของตัวเองยิ่งใหญ่ ลุคของเขาคือแบบ… ผู้ชายมาดนิ่ง สุขุม แต่เต็มไปด้วยพลังและความรับผิดชอบ

ในเรื่อง ทรงกลดเป็นหัวหน้าครอบครัวที่แข็งแกร่งและเป็นผู้นำในวงการธุรกิจก่อสร้าง เขาคอยสนับสนุน ตะวัน ลูกสาวให้เติบโตเป็นคนเก่งและรับผิดชอบหน้าที่บอดี้การ์ดคลาส S แต่เบื้องหลังความเข้มแข็ง เขาก็มีมุมที่ห่วงใยครอบครัวสุด ๆ โดยเฉพาะกับตะวัน ที่เขาเหมือนจะทั้งภูมิใจและกังวลในเวลาเดียวกัน คาแรกเตอร์ของทรงกลดคือคนที่ดูน่าเกรงขาม แต่ก็มี หัวใจพ่อ ที่อบอุ่นและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูก

การแสดงของ เอ็ม อภินันท์ ในบทนี้คือแบบ… ปังสุด ๆ ด้วยประสบการณ์ในวงการมากว่า 20 ปี (จากละครดัง ๆ อย่าง วิวาห์พาวุ่น, แตงสากับอาฉี, และ ใต้ร่มเงารัก) เขาถ่ายทอดความเป็นผู้นำที่ทั้งเด็ดขาดและมีมิติได้อย่างลงตัว ฉากที่ทรงกลดต้องตัดสินใจเรื่องธุรกิจหรือแสดงความห่วงใยต่อตะวัน มันทำให้คนดูอย่างเรานี่รู้สึกถึงพลังของพ่อที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ

ฉายาของทรงกลด “เสาหลักแห่งครอบครัว”
เพราะทรงกลดคือคนที่ยืนหยัดเป็นหลักให้ทั้งครอบครัวและบริษัท ไม่ว่าจะเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน เขาก็พร้อมรับมือและปกป้องคนที่รัก โดยเฉพาะตะวันลูกสาวสุดที่รัก ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและความรับผิดชอบของเขาได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากทรงกลด “ความแข็งแกร่งของผู้นำมาจากการปกป้องคนที่รัก”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของทรงกลดคือ “ความแข็งแกร่งของผู้นำมาจากการปกป้องคนที่รัก” ทรงกลดสอนให้เราเห็นว่า การเป็นผู้นำที่ดีไม่ใช่แค่การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่คือการดูแลและปกป้องครอบครัวให้มั่นคง ความทุ่มเทของเขาที่มีต่อตะวันและบริษัท แสดงให้เห็นว่า ความรักและความรับผิดชอบคือพลังที่ทำให้เราก้าวผ่านทุกอุปสรรคได้ ฉากที่ทรงกลดพูดถึงความยิ่งใหญ่ของบริษัทหรือตอนที่เขาแอบห่วงตะวันนี่คือแบบ… ใจพ่อสุดยอด

บอกเลยว่า ทรงกลด คือตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นและความอบอุ่นให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบลงตัว เอ็ม อภินันท์ เล่นบทนี้ได้แบบสมศักดิ์ศรีนักแสดงรุ่นใหญ่ ทั้งความน่าเกรงขามในฐานะเจ้าของบริษัท ความเข้มแข็งในบทผู้นำ และมุมอบอุ่นในฐานะพ่อของตะวัน มันทำให้คนดูอย่างเรานี่ทั้งอินทั้งประทับใจ จากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ พูดถึงบททรงกลดว่าเป็น “พ่อตะวัน” ที่ดูน่าเกรงขามแต่ก็น่ารัก นี่คือแบบ… จริงมาก

ยิ่งรู้ว่า เอ็ม อภินันท์ เป็นนักแสดงมากประสบการณ์ที่เคยรับทั้งบทพระเอก บทร้าย และบทพ่อ (อย่างใน The Loyal Pin หรือ Dhevaprom) และยังเป็นคุณพ่อลูกแฝดในชีวิตจริง ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาถ่ายทอดทรงกลดได้แบบสุดปัง ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าทรงกลดจะมีโมเมนต์อะไรกับตะวัน หรือจะจัดการกับวิกฤตในธุรกิจยังไง

→ มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท ดวงเนตร

8bd94230 3d51 11ed 9675 817e10841b57 webp original
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์

คุณแม่สุดสตรองที่เป็นหัวใจของครอบครัว
ภรรยาของทรงกลด (เอ็ม อภินันท์) และ แม่ของตะวัน (หลิงหลิง คอง) จากโพสต์บนโซเซียล บอกว่า ดวงเนตรคือผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างสามีและคอยสนับสนุนครอบครัว โดยเฉพาะลูกสาวอย่างตะวัน ลุคของเธอคือแบบ… สวยสง่า อบอุ่น แต่ก็มีความแข็งแกร่งในแบบคุณแม่ที่พร้อมปกป้องครอบครัว

ในเรื่อง ดวงเนตรเป็น แม่ที่ทั้งรักและเข้าใจลูก เธอรู้ว่าตะวันต้องรับหน้าที่หนักในฐานะบอดี้การ์ดคลาส S และต้องเผชิญกับความกดดันในวงการรักษาความปลอดภัย เธอจึงเป็นเหมือนที่พักใจให้ตะวัน และยังช่วยสามีอย่างทรงกลดดูแลบริษัทก่อสร้างให้มั่นคง จากโพสต์บนโซเซียล ดวงเนตรมีประโยคเด็ดว่า “ฉันจะรักษาบริษัทนี้ไว้” ซึ่งโชว์ให้เห็นว่าเธอไม่ใช่แค่คุณแม่ที่อ่อนโยน แต่ยังเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นและรับผิดชอบต่อครอบครัวและธุรกิจ

การแสดงของ กิ๊ก มยุริญ ในบทนี้คือแบบ… สมกับเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ เธอถ่ายทอดความเป็นแม่ที่ทั้งอบอุ่นและเข้มแข็งได้อย่างลงตัว ฉากที่ดวงเนตรให้กำลังใจตะวันหรือยืนหยัดเคียงข้างทรงกลด มันทำให้คนดูอย่างเรานี่รู้สึกถึงความรักและพลังของครอบครัว ดวงเนตรคือตัวละครที่เพิ่มความอบอุ่นและมิติให้กับเรื่องนี้ และทำให้เราเห็นภาพคุณแม่ที่เป็นเสาหลักของบ้านได้ชัดเจน

ฉายาของดวงเนตร “คุณแม่ใจแกร่ง”
เพราะดวงเนตรคือคุณแม่ที่มีหัวใจแข็งแกร่ง คอยสนับสนุนทั้งลูกสาวและสามี ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เธอก็พร้อมยืนหยัดและปกป้องครอบครัว ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความรักและความเข้มแข็งของเธอได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากดวงเนตร “ครอบครัวคือพลังที่ทำให้เราก้าวต่อไป”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของดวงเนตรคือ “ครอบครัวคือพลังที่ทำให้เราก้าวต่อไป” ดวงเนตรสอนให้เราเห็นว่า ไม่ว่าชีวิตจะเจอความท้าทายแค่ไหน การมีครอบครัวที่คอยสนับสนุนและเข้าใจคือสิ่งที่ทำให้เรามีแรงสู้ ความทุ่มเทของเธอที่มีต่อตะวันและทรงกลด รวมถึงการรักษาความมั่นคงของบริษัท แสดงให้เห็นว่า ความรักในครอบครัวคือพลังที่ยิ่งใหญ่ ฉากที่ดวงเนตรให้กำลังใจตะวันหรือพูดถึงความรับผิดชอบต่อบริษัทนี่คือแบบ… คุณแม่คนนี้คือสุดยอด

บอกเลยว่า ดวงเนตร คือตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจ กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความสง่าในลุคคุณแม่ ความเข้มแข็งในการช่วยสามีดูแลธุรกิจ และความอบอุ่นในโมเมนต์ที่อยู่กับตะวัน มันทำให้คนดูอย่างเรานี่อยากมีคุณแม่แบบนี้เลย จากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ อวยความเป็นคุณแม่สุดสตรองของดวงเนตร นี่คือแบบ… จริงสุด ๆ

ยิ่งรู้ว่า กิ๊ก มยุริญ เป็นนักแสดงมากฝีมือที่โลดแล่นในวงการมานานตั้งแต่ปี 2538 กับผลงานดัง ๆ อย่าง แรงเงา, เกมรักเอาคืน, และ เจ้าสาวจำยอม รวมถึงบทบาทคุณแม่ในหลายเรื่องอย่าง The Loyal Pin และ Dhevaprom ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอเกิดมาเพื่อบทคุณแม่ที่มีมิติแบบนี้ ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าดวงเนตรจะมีโมเมนต์อะไรกับตะวันและครอบครัวอีกบ้าง

→ ธิดารัตน์ ปรือทอง รับบท แยม

ธิดารัตน์ ปรือทอง

นักร้องสาวสุดปังที่แอบมีซัมติง
นักร้องสาวแห่งค่าย BEC Music ในละคร เพียงเธอ Only You จากโพสต์บนโซเซียลบอกว่า แยมคือหนึ่งในศิลปินของค่ายที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ประธาน (เข็มอัปสร สิริสุขะ) และทำงานร่วมกับ ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ตัวท็อป ลุคของแยมคือแบบ… สวย เฉี่ยว มีสไตล์ ฟีลนักร้องสาวที่พร้อมขโมยซีน

แต่ แยมไม่ได้มีแค่ความปังในฐานะนักร้องนะ เธอยังเป็นตัวละครที่ ชวนให้สงสัย จากโพสต์บนโซเซียล มีแฟน ๆ คาดเดาว่าแยมอาจจะมีบทบาทที่มากกว่าศิลปินธรรมดา อย่างในโพสต์ที่บอกว่า “ตะวันอาจจะคิดว่าเป็นแยม แต่จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ใช่” ทำให้คนดูอย่างเรานี่ลุ้นหนักมากว่าแยมจะเป็น ตัวร้าย หรือแค่ ตัวละครที่เข้าใจผิด กันแน่ ในเรื่อง แยมมีโมเมนต์ที่ทำให้คนสงสัยว่าเธออาจจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ไอร่าต้องเจอ หรืออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในดราม่าของค่าย

การแสดงของ เอ็นจอย ธิดารัตน์ ในบทนี้คือแบบ… ปังไม่ไหว เธอถ่ายทอดความเป็นนักร้องสาวที่มีทั้งเสน่ห์และความลึกลับได้แบบลงตัว ฉากที่แยมปรากฏตัวในงานของค่ายหรือตอนที่เธอมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ มันทำให้คนดูอย่างเรานี่อยากรู้ว่าเธอกำลังซ่อนอะไรอยู่ แยมคือตัวละครที่เพิ่มความตื่นเต้นและดราม่าให้กับเรื่องนี้ และทำให้เราต้องจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของเธอ

ฉายาของแยม “นักร้องปริศนา”
เพราะแยมคือศิลปินที่ทั้งสวย ปัง และมีอะไรบางอย่างที่ชวนให้สงสัย เธอเหมือนกล่องปริศนาที่ทำให้คนดูอย่างเราต้องเดาว่าเธอจะมาในบทบาทไหนกันแน่ ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความมีเสน่ห์และความลับของแยมได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากแยม “อย่าตัดสินคนจากแค่สิ่งที่เห็น”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของแยมคือ “อย่าตัดสินคนจากแค่สิ่งที่เห็น” แยมสอนให้เราเห็นว่า บางครั้งคนที่ดูเหมือนจะเป็นตัวร้าย อาจจะมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น จากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ คาดเดาว่าแยมอาจจะไม่ใช่ตัวร้ายจริง ๆ มันทำให้เรานึกถึงว่า ในชีวิตจริง บางครั้งเราก็ต้องมองให้ลึกถึงเจตนาและที่มาของคน ๆ นั้นก่อนจะตัดสิน คาแรกเตอร์ของแยมที่ทั้งมีเสน่ห์และชวนสงสัย ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวของเธอมากขึ้น และเตือนใจให้เราไม่รีบตีตราผู้คนจากแค่ผิวเผิน

บอกเลยว่า แยม คือตัวละครที่มาเพิ่มความลุ้นระทึกให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดปัง เอ็นจอย ธิดารัตน์ ปรือทอง เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความสวยเฉี่ยวในลุคนักร้อง ความลึกลับที่ชวนให้สงสัย และโมเมนต์ที่ทำให้เราต้องจับตาดูว่าเธอจะทำอะไรต่อ จากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ พูดถึงแยมว่าเป็นตัวละครที่อาจจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น นี่คือแบบ… ทำให้อยากดูทุกตอนเลย

ยิ่งรู้ว่า เอ็นจอย เป็นนักแสดงที่เริ่มจากพิธีกรใน สตอเบอรี่ชีสเค้ก GEN.6 และมีผลงานเด่น ๆ อย่าง ต้อยติ่ง ใน ลูกผู้ชาย ภูผา หรือ เข็มจิรา ใน Denied Love ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอถ่ายทอดแยมได้แบบมีเสน่ห์สุด ๆ ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าแยมจะมีบทบาทอะไรในค่าย BEC Music และจะเกี่ยวข้องกับดราม่าของไอร่ายังไง

→ พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ รับบท พีท

hq720
พีระกฤตย์ พชรบุณยเกียรติ

นักร้องหนุ่มสุดคูลที่แอบมีปริศนา
นักร้องหนุ่มแห่งค่าย BEC Music ในละคร เพียงเธอ Only You พีทเป็นหนึ่งในศิลปินของค่ายที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ประธาน (เข็มอัปสร สิริสุขะ) และทำงานร่วมกับ ไอร่า (ออม กรณ์นภัส) ซุปตาร์ตัวท็อป ลุคของพีทคือแบบ… หล่อ มาดเท่ มีสไตล์ ฟีลนักร้องหนุ่มที่พร้อมขโมยหัวใจแฟน ๆ

แต่ พีทไม่ได้มีแค่ความหล่อและความปังในฐานะนักร้องนะ เขายังเป็นตัวละครที่ ชวนให้สงสัย เหมือนกับ แยม (ธิดารัตน์ ปรือทอง) จากโพสต์บนโซเซียล มีแฟน ๆ คาดเดาว่าพีทอาจจะมีบทบาทสำคัญในดราม่าของเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องภัยคุกคามที่ไอร่าต้องเจอ บางคนถึงกับเดาว่าพีทอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ทำให้ ตะวัน (หลิงหลิง ศิริลักษณ์) ต้องเข้ามาดูแลไอร่าในฐานะบอดี้การ์ด ฟีลแบบ “หนุ่มคนนี้มีอะไรซ่อนอยู่รึเปล่านะ?” ทำให้คนดูอย่างเรานี่ลุ้นหนักมากว่าเขาจะเป็น ตัวดี หรือ ตัวร้าย กันแน่

การแสดงของ เฟรนด์ พีระกฤตย์ ในบทนี้คือแบบ… ว้าวสุด ๆ เฟรนด์ที่เคยฝากผลงานไว้ใน ธี่หยด และ คู่เวร ถ่ายทอดความเป็นนักร้องหนุ่มที่มีทั้งเสน่ห์และความลึกลับได้แบบลงตัว ฉากที่พีทปรากฏตัวในงานของค่าย หรือตอนที่เขามีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ มันทำให้เรานี่อยากรู้ว่าเขาจะพาเรื่องไปในทิศทางไหน! พีทคือตัวละครที่เพิ่มความตื่นเต้นและความสงสัยให้กับละครเรื่องนี้

ฉายาของพีท “หนุ่มหล่อปริศนา”
เพราะพีทคือหนุ่มนักร้องที่ทั้งหล่อ เท่ และมีบางอย่างที่ชวนให้เราต้องเดา เขาจะเป็นแค่ศิลปินที่อยู่ในค่าย หรือจะมีบทบาทลับ ๆ ที่ทำให้เรื่องนี้ระทึกขึ้น? ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความมีเสน่ห์และความลับของพีทได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากพีท “อย่ารีบตัดสินจากแค่ภาพลักษณ์”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของพีทคือ “อย่ารีบตัดสินจากแค่ภาพลักษณ์” พีทสอนให้เราเห็นว่า บางครั้งคนที่ดูหล่อ เท่ และเป็นดาวเด่น อาจจะมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น จากโพสต์บนโซเซียล ที่แฟน ๆ คาดเดาว่าพีทอาจจะมีบทบาทที่ซับซ้อน มันทำให้เรานึกถึงว่า ในชีวิตจริง เราควรให้โอกาสตัวเองได้รู้จักคน ๆ นั้นให้ลึกซึ้งก่อนจะตัดสิน คาแรกเตอร์ของพีทที่ทั้งมีเสน่ห์และชวนสงสัย ทำให้เราอยากรู้เรื่องราวของเขามากขึ้น และเตือนใจให้เราไม่ตัดสินคนจากแค่ภายนอก

บอกเลยว่า พีท คือตัวละครที่มาเพิ่มความลุ้นระทึกให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดปัง เฟรนด์ พีระกฤตย์ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความหล่อในลุคนักร้อง ความเท่ที่ทำให้แฟน ๆ กรี๊ด และความลึกลับที่ชวนให้เราต้องจับตาดูทุกการเคลื่อนไหว แฟน ๆ พูดถึงพีทว่าเป็นตัวละครที่อาจจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น นี่คือแบบ… ทำให้อยากดูทุกตอนเลย

ยิ่งรู้ว่า เฟรนด์ เป็นนักแสดงดาวรุ่งที่เคยฝากผลงานไว้ใน ธี่หยด (รับบทยอด) และ คู่เวร (รับบทนีโม่) รวมถึงเป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติเยาวชนไทย และกำลังเรียนวิศวะที่จุฬาฯ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาถ่ายทอดพีทได้แบบมีเสน่ห์สุด ๆ ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าพีทจะมีบทบาทอะไรในค่าย BEC Music และจะเกี่ยวข้องกับดราม่าของไอร่ายังไง

→ กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช รับบท เมฆ

c8ab7180 7bb5 11ee 86b7 add049256698 webp original
กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช

พี่ชายสุดกวนที่แอบมีปม
พี่ชายของตะวัน (หลิงหลิง คอง) เมฆเป็นตัวละครที่ เอาแต่ใจ และ ไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย ฟีลแบบพี่ชายที่ดูเหมือนจะชิล ๆ แต่จริง ๆ แล้วมีปมในใจที่ทำให้คนดูอย่างเรานี่สงสัยหนักมาก ลุคของเมฆคือแบบ… หล่อ มาดกวน ๆ แต่แฝงด้วยความซับซ้อนที่ชวนให้อยากรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ในเรื่อง เมฆเป็นลูกชายของ ทรงกลด (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) และ ดวงเนตร (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) เจ้าของบริษัทก่อสร้าง และเป็นพี่ชายของตะวัน ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดคลาส S จากโพสต์บนโซเซียล มีแฟน ๆ คาดเดาว่าเมฆอาจจะมีปมกับครอบครัว โดยเฉพาะกับตะวัน อาจจะเพราะความกดดันจากพ่อที่อยากให้เมฆเป็นผู้นำที่ดี แต่เมฆกลับเลือกใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยรับผิดชอบ มีประโยคเด็ดจากโซเซียล ที่เมฆพูดว่า “พ่อจะต้องภูมิใจในตัวผม” ซึ่งบ่งบอกว่าเขาอยากพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็ยังมีมุมที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาอาจจะพาเรื่องไปสู่ดราม่าหนัก ๆ

การแสดงของ เพ้นท์ กฤตกานต์ ในบทนี้คือแบบ… ปังสุด เพ้นท์ที่เคยฝากผลงานไว้ในละครอย่าง กลเกมรัก, แก้วกุมภัณฑ์, และ ปี่แก้วนางหงส์ ถ่ายทอดความเป็นพี่ชายที่ทั้งกวน หล่อ และมีปมในใจได้อย่างลงตัว ฉากที่เมฆมีปฏิสัมพันธ์กับตะวันหรือครอบครัว มันทำให้เรานี่ลุ้นว่าเขาจะเป็นแค่พี่ชายจอมเกเร หรือจะมีอะไรมากกว่านั้น เมฆคือตัวละครที่เพิ่มความดราม่าและความน่าสงสัยให้กับเรื่องนี้แบบสุด ๆ

ฉายาของเมฆ “พี่ชายจอมป่วน”
เพราะเมฆคือพี่ชายที่ทั้งเอาแต่ใจ กวนประสาท และเหมือนจะพาครอบครัวไปเจอดราม่า แต่ในความป่วนนั้นก็แอบมีปมและความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเอง ฉายานี้มันบ่งบอกถึงความซับซ้อนและความสนุกของเมฆได้แบบเป๊ะ

ข้อคิดจากเมฆ “ทุกคนมีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ไม่ว่าจะเริ่มจากจุดไหน”
ข้อคิดที่ได้จากคาแรกเตอร์ของเมฆคือ “ทุกคนมีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ไม่ว่าจะเริ่มจากจุดไหน” จากโพสต์บนโซเซียล ที่เมฆพูดว่า “พ่อจะต้องภูมิใจในตัวผม” มันแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้เขาจะดูไม่เป็นโล้เป็นพายในสายตาคนอื่น แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็อยากพิสูจน์ตัวเองและทำให้ครอบครัวภูมิใจ คาแรกเตอร์ของเมฆสอนให้เราเห็นว่า ทุกคนมีปมและความท้าทายของตัวเอง แต่ถ้ามีใจสู้และพยายาม ก็ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้ เมฆทำให้เรานึกถึงว่า อย่ามองแค่ด้านนอกของคน แต่ให้มองถึงความตั้งใจของเขาด้วย

บอกเลยว่า เมฆ คือตัวละครที่มาเพิ่มความสนุกและความดราม่าให้ เพียงเธอ Only You ได้แบบสุดยอด เพ้นท์ กฤตกานต์ เล่นบทนี้ได้แบบครบรสมาก ทั้งความกวนในลุคพี่ชายจอมป่วน ความหล่อที่ทำให้แฟน ๆ กรี๊ด และความลึกซึ้งในปมครอบครัวที่ชวนให้เราอยากรู้ว่าเขาจะพาเรื่องไปทางไหน แฟน ๆ พูดถึงเมฆว่าเป็นพี่ชายที่มีอะไรมากกว่าที่เห็น นี่คือแบบ… ทำให้อยากดูทุกตอนเลย

ยิ่งรู้ว่า เพ้นท์ เป็นนักแสดงที่เคยฝากผลงานไว้ในบทแบดบอยอย่าง กระทิง ใน กลเกมรัก และมีประสบการณ์ในวงการตั้งแต่ชนะการประกวดเต้น To Be Number 1 สองปีซ้อน ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเขาถ่ายทอดเมฆได้แบบมีเสน่ห์และน่าจับตา ทุกคนต้องไปลุ้นกันว่าเมฆจะมีโมเมนต์อะไรกับตะวัน หรือจะพาดราม่ามาให้ครอบครัวยังไง


ละคร เพียงเธอ Only You ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวของความรักระหว่างตะวันและไอร่า แต่ยังพาเราไปสำรวจความสัมพันธ์ของครอบครัว เพื่อน และทีมที่เต็มไปด้วยพลัง ทุกตัวละครมีปม มีความฝัน และมีหัวใจที่ทำให้เราได้ทั้งลุ้น ฟิน ขำ และน้ำตาคลอ ไม่ว่าจะเป็นความทุ่มเทของพ่อแม่ ความภักดีของทีมบอดี้การ์ด หรือความลับที่ซ่อนอยู่ในวงการบันเทิง เรื่องนี้สอนให้เราเห็นว่า ความรักและความเชื่อมั่นในกันและกันคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างก้าวต่อไปได้

ถ้าทุกคนอยากรู้ว่าเรื่องราวจะพาไปถึงจุดไหน ตะวันและไอร่าจะสมหวังมั้ย หรือปริศนาของแยมและพีทจะคลายออกยังไง ต้องไปติดตามกันทางช่อง 3 HD หรือดูย้อนหลังได้ที่ 3Plus Premium และ Netflix น้า