ละคร สารวัตรใหญ่ 2562 ตำรวจนํ้าดีที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมาจัดการกับผู้อิทธิพลและจัดระเบียบตำรวจไม่ให้ตำรวจกดขี่ประชาชน จนสร้างความไม่พอใจให้กับทุกฝ่าย และโดนกลั่นแกล้ง แต่พลังของมวลชนจะปกป้องคุ้มครองทำให้ความดี เอาชนะความชั่วได้หรือไม่

ละคร สารวัตรใหญ่ 2562 ละครแนวแอ็คชั่นอาชญากรรม เรื่องราวเริ่มต้นที่ “พันตำรวจโทใหญ่ เวโรจน์” อดีตตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ผู้กล้าหาญและยึดมั่นในอุดมการณ์ ถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งสารวัตรที่สถานีตำรวจอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล เต็มไปด้วยอาชญากรรมและการคอร์รัปชัน ตำรวจในพื้นที่ขาดความน่าเชื่อถือและไม่ใส่ใจต่อหน้าที่ ใหญ่เดินทางมาพร้อมกับ คำแพง ภรรยาผู้เข้มแข็งที่คอยสนับสนุนเขา

ก่อนรับตำแหน่ง ใหญ่ใช้รถโดยสารเพื่อสำรวจพื้นที่ แต่รถถูกปล้น ทำให้เขาเห็นความบกพร่องของสถานีตำรวจทันที เมื่อแสดงตัวเป็นสารวัตรใหม่ ใหญ่กลับถูก ผู้กำกับตำรวจภูธร ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา แสดงความไม่เป็นมิตรและข่มขู่ เนื่องจากใหญ่เป็นภัยต่อผลประโยชน์ของกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ นำโดย “พลตำรวจตรีอเนก” ผู้มีอิทธิพลและคอร์รัปชัน

ใหญ่เริ่มปฏิรูปสถานีตำรวจด้วยความตรงไปตรงมา ปรับปรุงระบบและทัศนคติของตำรวจเพื่อไม่ให้กดขี่ประชาชน ขณะที่คำแพงดูแลสวัสดิการครอบครัวตำรวจ อย่างไรก็ตาม การทำงานของใหญ่ทำให้เขากลายเป็นเป้าของการกลั่นแกล้งและใส่ร้าย เช่น กรณี “พิทยาธร” ตำรวจหนุ่มที่ถูกยิงและบิดเบือนว่าเกี่ยวข้องกับคำแพง สร้างความสะเทือนใจให้ทั้งคู่

ใหญ่ต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งจากเจ้าพ่อท้องถิ่นและผู้บังคับบัญชาที่ทุจริต แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการสนับสนุนจากคำแพง รวมถึง ว่าที่ร้อยตำรวจตรีพิทยาธร ผู้มองใหญ่เป็นแบบอย่าง เขาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงอำเภอพระลานให้ดีขึ้น ประชาชนเริ่มศรัทธาและรวมตัวปกป้องใหญ่เมื่อเขาถูกกลั่นแกล้ง สุดท้าย เจ้าพ่อท้องถิ่นแตกแยกและพ่ายแพ้ บางรายฆ่าตัวตาย บางรายถูกดำเนินคดี ด้วยพลังของมวลชนและความยุติธรรม ใหญ่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร สะท้อนชัยชนะของความดีเหนือความชั่ว

สารบัญละคร

ละครเน้นความสมจริงของปัญหาสังคมและการทำงานของตำรวจในพื้นที่ทุรกันดาร และได้รับความนิยมสูง ทำเรตติ้งตอนจบ 11.3 (อันดับ 2 ของปี 2562) และคว้ารางวัลช่อสะอาด 2562 จาก ป.ป.ช. รวมถึงรางวัลมายามหาชน 2019 สาขาละครแอ็คชั่นยอดเยี่ยม ต่อไปนี้คือ เนื้อเรื่องสำคัญของละคร

ผู้มาใหม่ในดินแดนร้างไร้ศีลธรรม
ในยามที่สายลมร้อนระยิบพัดผ่านทุ่งนาแห้งผากของอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชายหนุ่มร่างกำยำในเครื่องแบบสีเข้มก้าวลงจากรถโดยสารเก่าแก่ ใบหน้าคมคายของ พันตำรวจโทใหญ่ เวโรจน์ (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) ปกคลุมด้วยความมุ่งมั่นราวนักรบที่พร้อมเผชิญสมรภูมิใหม่ อดีตตำรวจตระเวนชายแดนผู้นี้ถูกโยกย้ายจากชายแดนอันโหดร้ายมาสู่ดินแดนที่ดูเหมือนสงบ แต่กลับซ่อนพิษร้ายยิ่งกว่า

เคียงข้างเขาคือ คำแพง (ทัศนียา การสมนุช) ภรรยาผู้มีดวงตาเปี่ยมเมตตาและหัวใจเข้มแข็งดุจหินผา เธอเป็นเสมือนแสงสว่างที่คอยนำทางใหญ่ในยามที่ทุกอย่างมืดมิด ทั้งคู่ก้าวสู่สถานีตำรวจพระลาน อาคารเก่าทรุดโทรมที่เปรียบดังหลุมศพของความยุติธรรม ภายในนั้น ตำรวจท้องถิ่นต้อนรับเขาด้วยสายตาเย็นชาและรอยยิ้มจอมปลอม ราวกับรู้ว่าเขาคือภัยคุกคามต่อระบอบที่พวกเขายึดครอง

ใหญ่สัมผัสได้ถึงกลิ่นเน่าเฟะของการคอร์รัปชันที่ฝังรากลึก ตำรวจที่นี่ไม่ต่างจากหุ่นเชิด ถูกชักใยโดย พลตำรวจตรีอเนก (ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์) ผู้บังคับบัญชาผู้ทรงอิทธิพลที่มีเงามืดปกคลุม เขาคือราชันแห่งความชั่วร้ายที่ร่วมมือกับเจ้าพ่อท้องถิ่น ควบคุมทุกอย่างตั้งแต่การค้ายาเสพติดไปจนถึงชีวิตของผู้คนในพระลาน ดินแดนนี้มิใช่ที่สำหรับผู้มีอุดมการณ์อย่างใหญ่ แต่เขากลับเลือกที่จะยืนหยัด

เปลวไฟแห่งการปฏิรูปและเงามืดแห่งการขัดขวาง
ใหญ่เริ่มภารกิจอันหนักหน่วงด้วยการปฏิรูปสถานีตำรวจ เขาสั่งให้ตำรวจท้องถิ่นทิ้งความเกียจคร้านและกลับมาเป็นผู้พิทักษ์ประชาชน แต่การกระทำของเขาคือการท้าทายอำนาจของผู้กำกับตำรวจภูธรและกลุ่มอิทธิพลที่ครองเมืองมานาน ความไม่พอใจของพวกมันเปรียบดังพายุที่กำลังก่อตัว

ทุกย่างก้าวของใหญ่เต็มไปด้วยหนามแหลม เขาถูกกลั่นแกล้งสารพัด ถูกใส่ร้ายว่าโกงเงินหลวง ถูกขัดขวางเมื่อสืบคดีสำคัญ คำสั่งจากเบื้องบนราวกับโซ่ตรวนที่พยายามล่ามเขาไว้ แต่หัวใจของใหญ่แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะยอมจำนน เขาสืบคดีค้ายาเสพติดและฆาตกรรมที่โยงใยไปถึงอเนกและเจ้าพ่อท้องถิ่น ทุกการเคลื่อนไหวของเขาคือการเดินบนเส้นด้าย ระหว่างความเป็นและความตาย

ท่ามกลางสมรภูมิอันร้อนระอุ คำแพง กลายเป็นเสาหลักของครอบครัวตำรวจ เธอคอยดูแลสวัสดิการและปลอบโยนจิตใจของเหล่าภรรยาตำรวจที่หวาดกลัว ความเมตตาของเธอเปรียบดังสายน้ำที่ชโลมใจอันแห้งผาก ทำให้ตำรวจบางคนเริ่มหันมาร่วมอุดมการณ์กับใหญ่ โดยเฉพาะ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีพิทยาธร (วาทิต โสภา) ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่มองใหญ่เป็นดั่งดวงดาวนำทาง พิทยาธรคือความหวังของอนาคต แต่โชคชะตากลับมีแผนการอันโหดร้ายรอเขาอยู่

อันตรายรอบตัวใหญ่ทวีคูณ การลอบยิงดังก้องในยามค่ำคืน ระเบิดที่ซ่อนอยู่ในเงามืด แต่เขายังคงยืนหยัดราวนักรบที่ไม่เคยหวั่นเกรง กระนั้น ความสูญเสียครั้งใหญ่ก็มาเยือนเมื่อพิทยาธรถูกยิงตายขณะปฏิบัติหน้าที่ หัวใจของใหญ่และคำแพงราวกับถูกกรีดด้วยมีดคมเมื่อศัตรูใส่ร้ายว่าพิทยาธรมีความสัมพันธ์อันไม่ชอบธรรมกับคำแพง ความเจ็บปวดนี้เปรียบดังพายุที่โหมกระหน่ำ แต่ในความมืดมิดนั้นเอง เมล็ดพันธุ์แห่งการต่อสู้ก็เริ่มงอกเงย

พลังประชาชนและชัยชนะแห่งความยุติธรรม
การบาดเจ็บของพิทยาธรกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ราวกับฟ้าผ่าที่ปลุกชาวบ้านให้ตื่นจากภวังค์แห่งความกลัว ประชาชนที่เคยเงียบงันเริ่มรวมตัวกัน พวกเขาศรัทธาในตัวใหญ่ ผู้ชายที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องพวกเขา การประท้วงของมวลชนเปรียบดังคลื่นยักษ์ที่ซัดโถมใส่กำแพงอิทธิพลของอเนกและเจ้าพ่อท้องถิ่น

ความแตกแยกเริ่มเกิดขึ้นในหมู่ศัตรู เจ้าพ่อบางรายเลือกจบชีวิตตัวเองด้วยความสิ้นหวัง บางรายถูกจับกุมในข้อหาอาชญากรรมที่สะสมมานาน อเนก ผู้เคยหยิ่งผยอง ต้องเผชิญหน้ากับโซ่ตรวนแห่งกฎหมายเมื่อถูกดำเนินคดีข้อหาคอร์รัปชันและสมรู้ร่วมคิด ระบอบอันชั่วร้ายที่ครองพระลานมานานเริ่มพังทลายราวปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัด

ใหญ่ได้รับการเลื่อนยศเป็น ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร รางวัลแห่งความกล้าหาญและความเสียสละ อำเภอพระลานที่เคยมืดมิดกลายเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข ด้วยความร่วมมือระหว่างตำรวจและประชาชนที่เปรียบดังสายใยอันแข็งแกร่ง

ในฉากสุดท้าย ใหญ่และคำแพงยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน มองไปยังขอบฟ้าที่เริ่มสว่างไสว ดวงตาของทั้งคู่เปี่ยมด้วยความหวังและความภาคภูมิใจ ราวกับเป็นสัญญาณว่าความดีจะไม่มีวันพ่ายแพ้ แม้ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา

ละครผสมผสานฉากบู๊เข้มข้น ดราม่าครอบครัว และประเด็นสังคมได้อย่างลงตัว ฉากแอ็คชั่นสมจริง เช่น การต่อสู้กับโจรหรือการสืบคดี ความสัมพันธ์ของใหญ่และคำแพงที่มั่นคงท่ามกลางวิกฤต การแสดงพลังประชาชนที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เนื้อเรื่องเข้มข้นและสมจริง
ละครสะท้อนปัญหาการทุจริตในวงการตำรวจและอิทธิพลท้องถิ่นได้อย่างตรงไปตรงมา การต่อสู้ของใหญ่เพื่อปฏิรูปสถานีตำรวจและปกป้องประชาชนสร้างความลุ้นระทึกและอารมณ์ร่วม การนำเสนอพลังมวลชนที่ลุกขึ้นสนับสนุนความยุติธรรมเป็นจุดพีคที่ทรงพลัง

การแสดงยอดเยี่ยม
กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ ถ่ายทอดบทใหญ่ได้น่าเชื่อถือ ทั้งความเด็ดขาดในฐานะตำรวจและความอ่อนโยนต่อครอบครัว
ทัศนียา การสมนุช โดดเด่นในบท คำแพง ภรรยาที่เข้มแข็งและเป็นกำลังใจสำคัญ
นักแสดงสมทบ เช่น ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ (พลตำรวจตรีอเนก) และ วาทิต โสภา (พิทยาธร) เสริมให้เรื่องมีมิติ

ฉากแอ็คชั่น
การต่อสู้ ปะทะ และสืบสวนคดีทำได้สมจริงและตื่นเต้น โดยเฉพาะฉากการปราบปรามยาเสพติดและการลอบโจมตี

ข้อคิดและคุณธรรม
ละครเน้นย้ำความยุติธรรม คุณธรรม และความสามัคคีของประชาชน สะท้อนค่านิยมที่ดีในสังคมไทย ได้รับรางวัลช่อสะอาด 2562 จาก ป.ป.ช. เป็นเครื่องยืนยัน

โปรดักชัน
การถ่ายทำในพื้นที่ชนบทช่วยสร้างบรรยากาศสมจริง ดนตรีประกอบช่วยเร้าอารมณ์ และจังหวะการเล่าเรื่องกระชับ

คะแนน 8/10 (จาก sence9.com)

“สารวัตรใหญ่” เป็นละครที่ครบรส ทั้งแอ็คชั่น ดราม่า และข้อคิด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบละครแนวตำรวจที่เน้นความยุติธรรมและพลังของประชาชน แม้จะมีจุดที่เป็นสูตรสำเร็จบ้าง แต่การแสดงที่แข็งแกร่งและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นทำให้เป็นละครที่น่าประทับใจและควรค่าแก่การดู

แนะนำสำหรับ ผู้ที่ชอบละครแอ็คชั่นที่มีประเด็นสังคม แฟนละครช่อง 7HD หรือผู้ที่ชื่นชอบงานดัดแปลงจากนิยาย ผู้ที่ต้องการละครที่ให้ทั้งความบันเทิงและข้อคิด

ลุ้นระทึกและตื่นเต้น ฉากแอ็คชั่น เช่น การปะทะกับโจร การสืบสวนคดี หรือการหลบหนีการลอบโจมตีของใหญ่ เวโรจน์ ทำให้หัวใจเต้นแรงและลุ้นไปกับตัวละครทุกครั้งที่เผชิญอันตราย โดยเฉพาะฉากที่ใหญ่ต้องต่อสู้กับอิทธิพลมืดทั้งจากเจ้าพ่อท้องถิ่นและผู้บังคับบัญชาทุจริต

สะใจและชื่นชม การที่ใหญ่ยึดมั่นในความถูกต้องและค่อยๆ ปฏิรูปสถานีตำรวจให้ดีขึ้น รวมถึงการเห็นประชาชนลุกขึ้นสนับสนุนเขาในตอนท้าย ทำให้รู้สึกสะใจและชื่นชมในพลังของความยุติธรรมและความสามัคคี ฉากที่กลุ่มอิทธิพลแตกสลายหรือถูกดำเนินคดีให้ความรู้สึกถึงชัยชนะของความดี

ซาบซึ้งและเห็นใจ ความสัมพันธ์ระหว่างใหญ่และคำแพงที่คอยสนับสนุนกันท่ามกลางความยากลำบากสร้างความซาบซึ้งใจ โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่เผชิญดราม่า เช่น การถูกใส่ร้าย หรือการสูญเสียพิทยาธร ตำรวจหนุ่มที่เป็นเหมือนลูกน้องคนสนิท ทำให้รู้สึกเห็นใจและอินไปกับความเสียสละของตัวละคร

สะท้อนและได้ข้อคิด ละครนำเสนอปัญหาการคอร์รัปชันและความอยุติธรรมในสังคมไทยได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้รู้สึกสะท้อนใจถึงความจริงในสังคม และได้รับข้อคิดเกี่ยวกับความสำคัญของการยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย

บางช่วงรู้สึกสูตรสำเร็จ สำหรับบางคน อาจรู้สึกว่าดราม่าบางจุด เช่น การใส่ร้ายตัวเอกหรือการเสียสละที่ดูเกินจริง เป็นสูตรละครไทยที่คุ้นเคย ซึ่งอาจลดความอินลงบ้าง แต่โดยรวมความเข้มข้นของเนื้อเรื่องก็ยังครองความสนใจได้ดี

ละคร สารวัตรใหญ่ มอบประสบการณ์ที่ทั้งสนุก ลุ้น และซึ้ง ละครทำให้รู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของตัวละครหลักและพลังของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้อง พร้อมทั้งกระตุ้นให้คิดถึงปัญหาสังคมในชีวิตจริง เป็นละครที่ดูแล้วรู้สึก “เต็มอิ่ม” ด้วยอารมณ์หลากหลายและข้อคิดที่ได้กลับมา


ละคร สารวัตรใหญ่ 2562

ละคร สารวัตรใหญ่ 2562

ละคร สารวัตรใหญ่ 2562 EP.1-15CH7

ฉากเด็ด สารวัตรใหญ่ 2562

เพลงประกอบละคร สารวัตรใหญ่ 2562 สยบฟ้า Ost.สารวัตรใหญ่ | ตั้ว ปณิธิ ลีลาบัณฑิต [Official MV]

เพลงประกอบละคร สารวัตรใหญ่ 2562 เธอจะเป็นคนสุดท้าย Ost.สารวัตรใหญ่ | โอ๊ต สุรศักดิ์ [Official MV]


ละคร สารวัตรใหญ่ 2562

เรื่องราวของอดีตตำรวจที่ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สารวัตรในอำเภอชายขอบ สิ่งที่เขาได้พบเจอก็คือ เมืองที่สกปรก เต็มไปด้วยอาชญากรรมและการคอรัปชั่น แต่ด้วยกำลังใจจากภรรยาผู้เข้มแข็งที่คอยสนับสนุนและเคียงข้างทำให้เขาพร้อมฟันฝ่าอุปสรรคอย่างไม่ย่อท้อ

จุดเริ่มต้น ฮีโร่จากชายแดนสู่เมืองแห่งความชั่ว 😎
เรื่องราวเปิดตัวด้วย พันตำรวจโทใหญ่ เวโรจน์ (รับบทโดย กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สุดแกร่งที่ผ่านสมรภูมิเดือดมาแล้ว 💥 ผู้ชายคนนี้คือตัวจริงเรื่องความกล้าและความซื่อตรง บอกเลยว่าเท่สุด ๆ แต่จู่ ๆ เขาก็ถูกโยกย้ายไปเป็น สารวัตร ที่ อำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งฟังดูเหมือนรางวัล แต่จริง ๆ แล้วมันคือการโยนเขาไปใน หลุมเสือ 🐅

พระลานนี่ไม่ใช่เมืองธรรมดานะ มันคือพื้นที่ทุรกันดารที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 ตำรวจที่นี่แทบไม่สนใจประชาชน ทำงานแบบขอไปที เพราะอยู่ใต้อาณัติของ เจ้าพ่อท้องถิ่น และ ผู้กำกับตำรวจภูธร ที่โคตรแสบ 😈 แต่ใหญ่ไม่ได้มาคนเดียวนะ เขามาพร้อม คำแพง (ทัศนียา การสมนุช) ภรรยาสุดสตรองที่เป็นเหมือนแบ็คอัพตัวท็อปของเขา 💖 คำแพงคือผู้หญิงที่ทั้งสวย ใจดี และเข้มแข็ง คอยอยู่เคียงข้างใหญ่ไม่ว่าจะเจออะไร

ดราม่ามาแต่ต้น ก่อนที่ใหญ่จะถึงพระลาน เขานั่งรถบัสมาสำรวจพื้นที่แบบเนียน ๆ แต่ดันเจอ โจรปล้นรถ 🚌💨 ใหญ่เห็นเลยว่าตำรวจที่นี่ห่วยแตกแค่ไหน พอเขาไปถึงสถานีและแนะนำตัวว่าเป็นสารวัตรใหม่ ปรากฏว่า ผู้กำกับ โชว์พลังเก๋าใส่ทันที 😡 บอกว่า “แกอยู่ที่นี่ไม่ได้นานหรอก!” พร้อมข่มขู่แบบไม่เกรงใจ บอกเลยว่าเปิดเรื่องมาก็ลุ้นแล้ววว

ดราม่าและแอ็คชั่นเดือด สู้เพื่อความยุติธรรม 🚨
มาถึงช่วงมันส์ ๆ ใหญ่เริ่มงานแบบไม่ยอมก้มหัวให้ใคร เขาเริ่ม ปฏิรูปสถานีตำรวจ สั่งตำรวจเลิกกดขี่ประชาชน เปลี่ยนระบบให้มันดีขึ้น 👮‍♂️ แต่แบบ… ใครจะยอมง่าย ๆ ล่ะ ผู้กำกับและพวกเจ้าพ่อท้องถิ่นโกรธจัด เพราะใหญ่ไปขัดผลประโยชน์เขานี่เอง 😤

ใหญ่เจอ กลั่นแกล้ง สารพัด ตั้งแต่ถูกใส่ร้ายว่าโกง ไปจนถึงขัดขวางตอนสืบคดีสำคัญ คดีที่ใหญ่สืบก็ไม่ใช่เล่น ๆ นะ มีทั้ง ค้ายาเสพติด และ ฆาตกรรม ที่โยงไปถึง เจ้าพ่อ และผู้กำกับ 😲 ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้บอกเลยว่าเดือดมาก มีทั้งลอบยิง ระเบิดบึ้ม 💣 ใหญ่ต้องเสี่ยงตายแทบทุกตอน

ส่วนคำแพง ก็ไม่น้อยหน้า เธอรับบทเป็น แม่บ้านสุดแกร่ง คอยดูแลครอบครัวตำรวจให้อยู่ดีมีสุข 🏡 แต่ดันไปขัดใจ สมาคมแม่บ้าน ที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน คำแพงเลยเลือกที่จะช่วยเหลือลูกเมียตำรวจโดยตรง สไตล์สาวยุคใหม่ 💪 แต่การที่ทั้งใหญ่และคำแพงยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ทั้งคู่กลายเป็น เป้าใหญ่ ของพวกตัวร้าย

ตัวละครใหม่มาแล้ว เขาคือ พิทยาธร (วาทิต โสภา) ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งจบจากโรงเรียนนายร้อย 👮‍♂️ พิทยาธรนับถือใหญ่เป็นไอดอล แต่… โอ๊ย ดราม่ามาเลย เขาดันไป แอบรักคำแพง 😍 ซึ่งเป็นเมียของใหญ่ โอ้โห ความรักต้องห้ามนี่มันช่างทรมาน พิทยาธรพยายามหนีความรู้สึกโดยไปเข้าวัด แต่ดันไปทำให้ แม่ชีมัทนี หลงรักจนยอมสึกออกมา 😱 เรื่องนี้รักสามเส้า สี่เส้าชัด ๆ

จุดพีคสุดดราม่า พิทยาธรช่วยมัทนีจากคนร้าย แต่ดัน โดนยิง จนสาหัส 😭 ขณะรักษาตัว เขาเพ้อเรียกชื่อคำแพง ใหญ่ได้ยินเข้าเลยเริ่มสงสัยและไม่สบายใจ 😣 แต่เรื่องมันแย่กว่านั้น พวกตัวร้ายบิดเบือนว่า พิทยาธรถูกยิงเพราะเป็นชู้กับคำแพง และมีปัญหากับใหญ่ 😡 คำแพงเจ็บปวดมากที่ถูกใส่ร้ายแบบนี้ ส่วนมัทนีเข้ามาดูแลพิทยาธรจนเขาค่อย ๆ ตัดใจจากคำแพงและหันมาชอบมัทนีแทน 💕

ไคลแมกซ์ พลังมวลชนและชัยชนะของความดี 🙌
มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ววว ใหญ่เจอหนักกว่านั้น เขานำทีมจับโจรปล้นรถบัส แต่ดัน ถูกแทง จนบาดเจ็บ 😱 ขณะรักษาตัว ตัวร้ายฉวยโอกาส สั่งย้ายเขา ออกจากพระลาน 😤 แถมคดีต่าง ๆ ยังถูกบิดเบือนเพื่อทำลายชื่อเสียงเขา แต่… ชาวบ้านที่พระลานไม่ยอม 🏘️ พวกเขารู้ว่าใหญ่คือคนดี เลยรวมตัวกัน ประท้วง เรียกร้องความเป็นธรรมให้ใหญ่ 🙏 บอกเลยว่าฉากนี้โคตรซึ้ง เห็นพลังของประชาชนแล้วน้ำตาจะไหล 😢

เจ้าพ่อท้องถิ่น เริ่มร้อนตัว พวกมันหวาดระแวงกันเองจนแตกแยก บางคนถึงขั้น ฆ่าตัวตาย บางคนก็ ถูกจับ ในที่สุด 👮‍♂️ กระแสสังคมที่ปกป้องใหญ่ ทำให้เขาไม่เพียงแค่รอด แต่ยังได้ เลื่อนยศ เป็น ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร 🎉 อำเภอพระลานที่เคยมืดมิด กลายเป็นเมืองสงบสุขเพราะความร่วมมือของตำรวจและชาวบ้าน

ฉากจบสุดปัง ใหญ่และคำแพงยืนเคียงข้างกัน มองอนาคตที่สดใส 💑 มันคือสัญลักษณ์ว่า ความดีชนะความชั่ว เสมอ บอกเลยว่าดูจบแล้วรู้สึกฮึกเหิมสุด ๆ

บอกเลยว่าละครเรื่องนี้ครบรส มีทั้งแอ็คชั่นที่ลุ้นจนตัวโก่ง ดราม่าที่น้ำตาไหล และรักสามเส้าที่ทำให้ใจเต้น 💓 การแสดงของ กันตพงศ์ และ ทัศนียา คือสุดยอด ทำให้เราเชื่อว่าใหญ่และคำแพงคือคู่ที่เกิดมาเพื่อกันและกัน 🥰 ส่วน วาทิต ในบทพิทยาธรก็เล่นได้น่าสงสารมาก อยากกอดปลอบเลย

ข้อคิดจากเรื่องนี้ คือพลังของความซื่อสัตย์และความสามัคคีมันยิ่งใหญ่จริง ๆ 💪 ไม่ว่าจะเจออุปสรรคหนักแค่ไหน ถ้าเรายืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้องและมีคนที่เชื่อในเรา สุดท้ายความยุติธรรมจะชนะ 🙌

เบื้องหลังละครสุดมันส์ “สารวัตรใหญ่” ปี 2562 ละครนี้ไม่ใช่แค่บู๊เดือด ดราม่าน้ำตาแตก แต่เบื้องหลังการถ่ายทำก็โคตรโหด 🔥

จุดเริ่มต้น จากนิยายตำรวจสุดคลาสสิกสู่จอแก้ว 📚➡️📺

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร

เริ่มที่ต้นกำเนิดเลย “สารวัตรใหญ่” เป็นนิยายสุดเข้มข้นจากฝีมือ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจตัวจริงที่ได้ชื่อว่า ตงฉิน และเป็น ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ 🏆 นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร มติชนสุดสัปดาห์ ปี 2532 และเคยทำเป็นละครมาแล้วในปี 2537 โดยค่าย กันตนา แต่ในปี 2562 ค่าย ดราเมจิก ในเครือ ป๊าสั่งย่าสอน นำโดย เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก หยิบเรื่องนี้มาปัดฝุ่นใหม่ 💨

S 377298975 crop
เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก

เติร์ก ผู้จัดไฟแรงคนนี้เป็นทายาทตระกูล กัลย์จาฤก ที่สืบทอดความปังจากค่ายกันตนา เขาตั้งใจปรับเนื้อเรื่องให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายความดั้งเดิมของนิยายไว้ 📝 บทโทรทัศน์ถูกเขียนโดย ภูเขา ที่ใส่ความเข้มข้น ดราม่า และแอ็คชั่นให้ทันสมัยขึ้น ส่วนการกำกับตกเป็นของ สโนวี่-พลชย เมธา ผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องฉากบู๊สมจริง 🎥 ทีมนี้รวมตัวกันเพื่อสร้างละครที่ทั้งมันส์และมีสาระ สะท้อนวงการตำรวจไทยและปัญหาการคอร์รัปชัน

827427
สโนวี่-พลชย เมธา

ความยากแรก การหยิบนิยายเก่าแก่มาเล่าใหม่ต้องทำให้คนดูยุคนี้ว้าว ทีมงานเลยทุ่มสุดตัว ตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงอย่าง เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ มาเป็น สารวัตรใหญ่ เพราะเติร์กบอกว่า “เอสคือคนที่เหมาะสุด ทั้งในจอและนอกจอ” 😎 ส่วนนางเอก เปรี้ยว-ทัศนียา การสมนุช ก็ถูกเลือกมาเป็น คำแพง เพราะเคมีเข้ากับเอสแบบสุด ๆ 💑

เบื้องหลังฉากเดือด เอสลุยสลิง โกดังฝุ่น PM 2.5 😅💦
มาถึงส่วนที่โคตรมันส์ ละครเรื่องนี้ขึ้นชื่อเรื่อง ฉากแอ็คชั่น ที่สมจริงและลุ้นระทึก หนึ่งในฉากเบื้องหลังสุดปังที่ต้องพูดถึงคือฉากที่ เอส-กันตพงศ์ ต้องขึ้น สลิง เพื่อถ่ายฉากบู๊ช่วย มัทนี (อิงฟ้า เกตุคำ) ที่ถูกคนร้ายจับตัวไป 🦸‍♂️ ฉากนี้ถ่ายทำที่ โกดังเบิร์ดเฟอร์นิเจอร์ ไทรน้อย ซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 😷 บอกเลยว่าสภาพแวดล้อมโหดมาก

เอสเล่าถึงความลำบากว่า “ใจไม่ค่อยอยู่กับตัวเลย” 😅 การขึ้นสลิงต้องตีลังกาและยิงปืนข้ามรถ 🔫 แต่กว่าจะได้ภาพสวย ๆ นี่ไม่ง่าย เอสถึงกับทำ กระสุนตก เพราะมือสั่น และทีมงานที่ดึงสลิงก็เหนื่อยจนแทบหมดแรง 😓 แต่สุดท้ายฉากนี้ออกมาปังมาก สารวัตรใหญ่บุกช่วยมัทนีได้แบบเท่สุด ๆ! ฉากนี้ถ่ายทอดความเป็นฮีโร่ของใหญ่ได้แบบเต็มสิบ 👏 

ฉากเปิดเรื่องก็เดือดไม่แพ้กัน ในตอนแรก ทีมงานยกกองไปถ่ายฉากที่ ใหญ่ เวโรจน์ บุกจับพ่อค้ายาเสพติดตามชายแดน 🌄 ฉากนี้โคตรอลังการ มีทั้งการยิงปะทะ ช่วยตัวประกันเด็กและผู้หญิง และใหญ่ยัง โดนยิง จนบาดเจ็บ 😱 คำแพง ต้องมานอนเฝ้าสามีทั้งวันทั้งคืน สร้างโมเมนต์ซึ้งตั้งแต่เริ่มเรื่อง การถ่ายฉากนี้ทีมงานทุ่มสุดตัวเพื่อให้สมจริงสมชื่อค่าย ดราเมจิก ที่ขึ้นชื่อเรื่องแอ็คชั่น

ความทุ่มเทของทีมงานและนักแสดง 💪
พูดถึงนักแสดงก่อน เอส-กันตพงศ์ ถูกยกย่องว่าเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับบท สารวัตรใหญ่ เพราะทั้งมาดเข้มและทัศนคติในชีวิตจริงที่ตรงกับตัวละคร เติร์กเล่าว่า “ผมดูนักแสดงช่อง 7 ทุกคน แต่ในใจมีแค่เอสคนเดียว” 😍 เอสต้องเจอกับฉากบู๊หนัก ๆ และต้องปะทะคารมกับรุ่นใหญ่แบบ สุเมธ องอาจ (เจ้าพ่อจาตุรนต์) และ ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ (พล.ต.ต.อเนก) ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดแสบ เอสเล่นได้แบบไม่ยอมแพ้รุ่นใหญ่เลย 👊

ทัศนียา ในบท คำแพง ก็ไม่น้อยหน้า เธอต้องถ่ายฉากดราม่าหนัก ๆ และฉากที่ต้องดูแลครอบครัวตำรวจ บอกเลยว่าเคมีของเอสและทัศนียาคือจุดขายของเรื่อง 💖 ส่วน วาทิต โสภา (พิทยาธร) และ อิงฟ้า เกตุคำ (มัทนี) ก็เพิ่มความดราม่าด้วยรักสามเส้าที่ทำคนดูใจสลาย 😢

ผู้กำกับสโนวี่-พลชย เมธา คือหัวใจของกองถ่าย เขาคุมทุกฉากให้ออกมาสมจริง โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่ต้องใช้เทคนิคเยอะ 🕹️ ส่วน เติร์ก-คหบดี ในฐานะผู้จัดและควบคุมการผลิตก็ทุ่มงบและพลังเพื่อให้ละครออกมาปัง เขาเป็นทายาทของ นิรัตติศัย กัลย์จาฤก ผู้ก่อตั้งค่ายกันตนา ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณภาพต้องมาเต็ม

ความยากของกองถ่าย นอกจากฉากสลิงในโกดังฝุ่นเยอะแล้ว ทีมงานยังต้องถ่ายทำในสภาพอากาศร้อนจัด 🌞 เอสเล่าว่า “แดดร้อนก็ไม่หวั่น” 😎 แต่เบื้องหลังนี่เหงื่อตกกันทั้งกอง 😅 การถ่ายทำฉากแอ็คชั่นต้องใช้เวลาเซ็ตฉากนาน เพื่อให้ทุกอย่างดูสมจริงแบบที่แฟน ๆ ช่อง 7 ชอบ

ความสำเร็จและกระแส 🏆
บอกเลยว่าละครเรื่องนี้ปังมาก “สารวัตรใหญ่” ปี 2562 ทำ เรตติ้งตอนจบ 11.3 สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของปี 📈 และยังครองเรตติ้งอันดับ 1 ถึง 5 สัปดาห์ติด 😱 ละครถูกนำไป รีรัน ถึง 2 ครั้งในปี 2562 และ 2566 เพราะแฟน ๆ รักมาก

รางวัลก็มาเต็ม ละครคว้า รางวัลช่อสะอาด 2562 จาก ป.ป.ช. เพราะส่งเสริมคุณธรรมและต่อต้านการทุจริต 🏅 และยังได้ รางวัลมายามหาชน 2019 สาขาละครแอ็คชั่นยอดเยี่ยม 🎉 แฟน ๆ ในโซเชียลมีเดียก็พูดถึงเยอะมาก บอกว่าชอบฉากบู๊สมจริงและข้อคิดที่สะท้อนสังคม

 เบื้องหลัง “สารวัตรใหญ่” นี่มันโคตรทุ่มเท จากนิยายของ พล.ต.อ.วสิษฐ ที่เขียนจากประสบการณ์จริง สู่การทำงานหนักของทีม ดราเมจิก ที่นำโดย เติร์ก และ สโนวี่ ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นตำนาน ฉากแอ็คชั่นที่เอสต้องขึ้นสลิง โหนตัวในโกดังฝุ่น PM 2.5 หรือฉากใหญ่บุกจับพ่อค้ายาเสพติด มันคือความพยายามที่ทำให้คนดูอย่างเราว้าว 😍

ข้อคิดจากเบื้องหลัง คือการทำงานหนักและความทุ่มเทของทีมงานทุกคนมันทำให้ผลงานออกมาปัง เหมือนที่ใหญ่ในเรื่องสู้เพื่อความยุติธรรม ทีมงานก็สู้เพื่อให้ละครออกมาสมบูรณ์แบบ 💪

นักแสดง

→ กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ รับบท พ.ต.ต.ใหญ่ เวโรจน์

hq720
กันตพงศ์ บำรุงรักษ์

ฮีโร่ตำรวจน้ำดีที่โคตรแกร่ง 💪
ใหญ่ เวโรจน์ คือ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สุดแกร่งที่ผ่านสมรภูมิโหด ๆ มาแล้ว เขาเป็น นายตำรวจชั้นประทวน ที่ไม่ได้จบจากโรงเรียนนายร้อย แต่ไต่เต้าด้วย ฝีมือ และ ความซื่อตรง 😤 ในเรื่อง ใหญ่ถูกย้ายไปเป็น สารวัตร ที่ อำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งฟังดูเหมือนรางวัล แต่จริง ๆ แล้วมันคือ หลุมกับดัก 😱 พระลานคือเมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน อบายมุข และ เจ้าพ่อท้องถิ่น ที่ครองทุกอย่าง

ลักษณะเด่นของใหญ่
กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว ใหญ่ไม่กลัวใครหน้าไหน เขาเผชิญหน้ากับทั้ง ผู้กำกับทุจริต และ เจ้าพ่อ อย่างไม่ยอมถอย! ฉากที่ใหญ่บุกจับโจรปล้นรถบัสหรือปราบพ่อค้ายาเสพติดคือโคตรมันส์ 🔫 ซื่อสัตย์และยึดมั่นในความยุติธรรม ใหญ่ปฏิเสธทุกการติดสินบนและยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะถูกกลั่นแกล้งหนักแค่ไหน 😡 เขาคือ ตำรวจน้ำดี ที่อยากเปลี่ยนพระลานให้เป็นเมืองที่น่าอยู่

สมถะและใฝ่ธรรมะ ใหญ่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ และมี คุณธรรม เป็นเกราะกำบัง เขามักพูด คำคม สไตล์ตำรวจที่ทำให้คนดูสะเทือนใจ เช่น การเน้นเหตุและผลในการทำงาน ผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ ใหญ่เปลี่ยนทัศนคติของตำรวจในสถานีให้กลับมาเป็นผู้พิทักษ์ประชาชน และยังได้ใจชาวบ้านจนลุกขึ้นปกป้องเขา 🙌 ฉากที่มวลชนประท้วงเพื่อใหญ่คือพีคมาก สามีที่รักครอบครัว ใหญ่รักและเคารพ คำแพง ภรรยาสุดสตรองของเขา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คือจุดซึ้งที่ทำให้คนดูยิ้มตาม 💖

เอส-กันตพงศ์ ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบ สมบูรณ์แบบ ผู้จัด เติร์ก-คหบดี ถึงกับบอกว่า “ในใจผมมีแค่เอสคนเดียว ทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง เอสคือสารวัตรใหญ่ตัวจริง” 😍 เอสเล่นได้ทั้ง มาดเข้ม ในฉากบู๊และ อบอุ่น ในฉากครอบครัว ทำให้คนดูเชื่อว่าเขาคือใหญ่ เวโรจน์

ฉายาของใหญ่ เวโรจน์ ตำนานตำรวจที่แฟน ๆ ตั้งให้ 🏆
“สารวัตรใหญ่” (Chief Inspector) 🦸‍♂️
ฉายาหลักจากชื่อเรื่องเลย คำว่า “ใหญ่” ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่สื่อถึง หัวใจที่ยิ่งใหญ่ และ อิทธิพลต่อความยุติธรรม ใหญ่คือผู้นำที่เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองได้ ในต่างประเทศ ละครนี้ถูกเรียกว่า The Law Enforcement ซึ่งแปลว่า “ผู้บังคับใช้กฎหมาย” สุดเท่

“ฮีโร่แห่งพระลาน” 🌟
ฉายานี้มาจากการที่ใหญ่เปลี่ยน อำเภอพระลาน จากเมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมให้กลายเป็นเมืองสงบสุข ชาวบ้านในเรื่องถึงกับรวมตัวปกป้องเขา ราวกับเขาเป็น วีรบุรุษ ของเมือง 🙌

“ตำรวจคำคม” 🗣️
ใหญ่ชอบพูด คำคม ที่คมคายและสะท้อนอุดมการณ์ ผู้จัดเติร์กบอกว่าเรื่องนี้เน้น บู๊ด้วยไดอะล็อก ไม่ใช่แค่ต่อยตี ทำให้ใหญ่มีฉายานี้จากแฟน ๆ ที่ชอบวลีเด็ดของเขา

“นักสู้เพื่อความยุติธรรม” ⚖️
ฉายานี้สะท้อน อุดมการณ์ ของใหญ่ที่ไม่ยอมก้มหัวให้การคอร์รัปชัน เขาคือตำรวจที่สู้กับทั้ง เจ้าพ่อ และ ผู้บังคับบัญชาทุจริต อย่าง พล.ต.ต.อเนก (ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์) ทำให้แฟน ๆ ตั้งฉายานี้ให้

“สามีแห่งชาติ” 💕
อันนี้แฟน ๆ ตั้งให้ เอส ในบทใหญ่ 😍 เพราะทั้งมาดเข้ม เท่ และรักเมียมาก ฉากที่ใหญ่และคำแพง (ทัศนียา การสมนุช) อยู่ด้วยกันคือหวานละมุนสุด ๆ ทำให้สาว ๆ กรี๊ดอยากได้สามีแบบนี้

ทำไมเอสถึงปังในบทนี้ 😎
เอส-กันตพงศ์ ไม่ได้แค่เล่นเป็นใหญ่ เวโรจน์ แต่เขาคือ ใหญ่ เวโรจน์ จริง ๆ เขาเตรียมตัวหนักมาก ทั้งฝึก ยิงปืน เรียน ศิลปะการต่อสู้ และทำความเข้าใจชีวิตตำรวจจากนิยายต้นฉบับของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เอสยังบอกว่า “บทนี้ท้าทายมาก เพราะต้องเล่นทั้งแอ็คชั่นและดราม่า แต่ผมทุ่มสุดตัว” 😤

เอสถูกเลือกเพราะ บุคลิก และ ทัศนคติ ในชีวิตจริงเหมือนใหญ่ ผู้จัดเติร์กบอกว่า “เอสมีอุดมการณ์และพูดจามีเหตุผล เหมือนสารวัตรใหญ่ตัวจริง” ฉากแอ็คชั่นสุดโหด เช่น ฉากขึ้น สลิง ในโกดังฝุ่น PM 2.5 หรือฉากบุกจับพ่อค้ายา เอสเล่นเองเกือบทั้งหมด 😱จากข้อมูลเบื้องหลัง ละครเรื่องนี้ทำให้เอสได้ เสนอชื่อชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก คมชัดลึก อวอร์ด 2563 และได้ รางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น จากราชบัณฑิตยสภา 🏆

ข้อคิดจากใหญ่ คือไม่ว่าชีวิตจะเจออุปสรรคหนักแค่ไหน ถ้าเรายึดมั่นในความถูกต้องและมีคนที่เชื่อในเรา สุดท้ายเราจะชนะ 🙌 ละครเรื่องนี้ยังสะท้อนวงการตำรวจไทยได้อย่างสมจริง ทำให้เราเห็นว่ามีทั้งคนดีและคนไม่ดีในทุกวงการ

→ ทัศนียา การสมนุช รับบท คำแพง

1cba2fe0 a04e 11ec 8cf8 018b5c4a2ab3 original
ทัศนียา การสมนุช

นางเอกสตรองที่เป็นมากกว่าเมียตำรวจ 💪
คำแพง คือ ภรรยาสุดสตรอง ของ พันตำรวจโทใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) ตำรวจน้ำดีที่ถูกย้ายไปอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 คำแพงไม่ใช่แค่นางเอกที่ยืนข้างพระเอกเฉย ๆ แต่เธอคือ นักสู้เงา ที่คอยสนับสนุนใหญ่และเปลี่ยนเมืองนี้ไปพร้อมกัน 🏡

ลักษณะเด่นของคำแพง
เข้มแข็งและใจเย็น คำแพงคือ เสาหลัก ของครอบครัว เธอเผชิญทุกปัญหาด้วยความนิ่งและสติ ไม่ว่าจะเป็นการถูกใส่ร้ายหรือแรงกดดันจาก สมาคมแม่บ้าน ที่เต็มไปด้วยดราม่า 😤 ฉากที่คำแพงยืนหยัดปฏิเสธการเข้าร่วมกลุ่มแม่บ้านที่ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันคือโคตรเท่ 💥

คำแพงรับบทเป็น แม่บ้านตำรวจ ที่ดูแลสวัสดิการครอบครัวลูกน้องของใหญ่ เธอช่วยให้เมียและลูกตำรวจมีชีวิตที่ดีขึ้น ราวกับเป็น นางฟ้า ของสถานี 😇 ฉากที่คำแพงปลอบใจครอบครัวตำรวจที่เดือดร้อนคือซึ้งมาก คำแพงไม่ใช่แค่สวย แต่ยังฉลาด เธอรู้วิธีรับมือกับการกลั่นแกล้งจาก ภรรยาผู้กำกับ และช่วยใหญ่แก้ปัญหาคดีต่าง ๆ ด้วยมุมมองที่เฉียบคม 🧠

ความสัมพันธ์ของคำแพงกับใหญ่คือ เคมีสุดปัง 💑 เธอเป็นทั้งเพื่อน คู่หู และกำลังใจของใหญ่ ฉากที่ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกันตอนจบคือทำให้คนดูยิ้มน้ำตาไหล 🥰 คำแพงเจอดราม่าใหญ่เมื่อ พิทยาธร (วาทิต โสภา) ตำรวจหนุ่มแอบรักเธอ และถูกใส่ร้ายว่าเป็นชู้ 😢 เธอต้องเผชิญความเจ็บปวดจากข่าวลือ แต่ก็ยืนหยัดด้วยศักดิ์ศรี

เปรี้ยว-ทัศนียา เล่นบทนี้ได้แบบ เต็มสิบไม่หัก ผู้จัด เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก บอกว่า “ทัศนียาคือคำแพงตัวจริง เธอมีทั้งความสวยและความเข้มแข็งที่ลงตัว” 😍 เปรี้ยวถ่ายทอดคำแพงได้ทั้ง ความนุ่มนวล ในฉากครอบครัว และ ความแกร่ง ในฉากที่ต้องสู้กับดราม่า

ฉายาของคำแพง นางเอกที่แฟน ๆ รักสุดใจ 💕
“นางฟ้าแห่งพระลาน” 😇
ฉายานี้มาจากความเมตตาของคำแพงที่คอยช่วยเหลือครอบครัวตำรวจ เธอเหมือนแสงสว่างในเมืองที่มืดมิด ทำให้ทุกคนรักและเคารพ 🌟

“เมียหลวงสุดสตรอง” 💪
คำแพงคือภรรยาที่ทั้งรักและซัพพอร์ตใหญ่แบบสุดใจ แม้จะเจอดราม่าถูกใส่ร้ายว่าเป็นชู้ เธอก็ยืนหยัดด้วยความเข้มแข็ง แฟน ๆ เลยยกให้เป็น เมียหลวงตัวแม่ 😎

“หัวใจของสารวัตรใหญ่” 💖
ฉายานี้สะท้อนว่า คำแพงคือกำลังใจ ที่ทำให้ใหญ่สู้ต่อได้ ความรักของทั้งคู่คือจุดเด่นของเรื่อง ทำให้แฟน ๆ กรี๊ด

“สาวแกร่งผู้เปลี่ยนเมือง” 🏙️
คำแพงไม่ใช่แค่นั่งสวย ๆ เธอช่วยใหญ่ปฏิรูปพระลานด้วยการดูแลครอบครัวตำรวจและสร้างความศรัทธาให้ชาวบ้าน ฉายานี้เลยเหมาะสมสุด ๆ

“นางเอกดราม่าหัวใจแกร่ง” 😢
ฉายานี้มาจากการที่คำแพงต้องเจอดราม่าหนัก ๆ โดยเฉพาะการถูกใส่ร้ายเรื่องพิทยาธร แต่เธอก็ผ่านมันมาได้ด้วยความเข้มแข็ง

ทำไมเปรี้ยวถึงปังในบทคำแพง 😍
เปรี้ยว-ทัศนียา คือตัวเลือกที่ ลงตัวสุด ๆ สำหรับบทคำแพง เธอเตรียมตัวหนักมากเพื่อถ่ายทอดความเป็น ผู้หญิงแกร่ง ที่ทั้งอ่อนโยนและเด็ดเดี่ยว เปรี้ยวต้องฝึก การพูดจานุ่มนวล แต่แสดงความเข้มแข็งในฉากดราม่า เช่น ตอนที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นชู้กับพิทยาธร 😭 เธอยังต้องเรียนรู้ชีวิต แม่บ้านตำรวจ จากข้อมูลในนิยายต้นฉบับของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เพื่อให้บทสมจริง

เติร์ก-คหบดี ผู้จัด เลือกเปรี้ยวเพราะ “ทัศนียามีทั้งความหวานและความแกร่ง เหมือนคำแพงในนิยาย” 😊 ฉากที่คำแพงต้องร้องไห้ตอนถูกใส่ร้าย เปรี้ยวถ่ายทำซ้ำหลายรอบเพื่อให้อารมณ์ถึงขีดสุด 😢 จากข้อมูลเบื้องหลัง ทีมงานบอกว่า “เปรี้ยวร้องไห้จนตาแดง แต่ยังสวย” 

เปรี้ยวและ เอส-กันตพงศ์ มี เคมีสุดปัง ฉากที่ทั้งคู่คุยกันในบ้านคือหวานจนคนดูกรี๊ด 💕 เปรี้ยวได้รับคำชมจากแฟน ๆ ว่าเป็น นางเอกที่สมจริง และได้เสนอชื่อชิง รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จาก คมชัดลึก อวอร์ด 2563 🏆

ข้อคิดจากคำแพง คือผู้หญิงไม่ได้แค่สวยหรืออ่อนโยน แต่ยังสามารถเป็น แรงผลักดัน ให้คนรอบข้างและสังคมดีขึ้นได้ เหมือนที่คำแพงช่วยใหญ่และครอบครัวตำรวจจนเมืองเปลี่ยน 🙌

→ วาทิต โสภา รับบท ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร

f1dee470 f1f9 11ec aee7 e3277958415d original
วาทิต โสภา

ตำรวจหนุ่มไฟแรงกับรักต้องห้าม 💥
พิทยาธร คือ นายร้อยตำรวจหนุ่ม ที่เพิ่งจบจาก โรงเรียนนายร้อยสามพราน 👮‍♂️ เขาเป็นตำรวจหน้าใหม่ที่เต็มไปด้วย พลังและอุดมการณ์ แต่ดันต้องมาทำงานใน อำเภอพระลาน เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 พิทยาธรรู้สึกอึดอัดกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยตำรวจสีเทา จนกระทั่งได้เจอกับ สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) ตำรวจน้ำดีที่กลายเป็น ไอดอล ของเขา 🙌

แต่เดี๋ยวก่อน ชีวิตของพิทยาธรไม่ได้มีแค่เรื่องงาน เพราะเขาดันไป แอบรักคำแพง (ทัศนียา การสมนุช) ภรรยาของสารวัตรใหญ่ 😭 รักต้องห้ามครั้งนี้ทำให้พิทยาธรต้องทนทุกข์ทรมานใจสุด ๆ

ลักษณะเด่น ของพิทยาธร
หนุ่มไฟแรงและคนดี พิทยาธรเป็นตำรวจที่ ซื่อสัตย์ และอยากทำความดี เขานับถือใหญ่เป็นแบบอย่าง และพยายามทำงานอย่างตรงไปตรงมา แม้จะอยู่ในสถานีที่เต็มไปด้วยการทุจริต 💪 ฉากที่เขาช่วยใหญ่สืบคดีโจรปล้นรถบัสคือโชว์ความกล้าหาญเต็มที่

พิทยาธรแอบรักคำแพงแบบถอนตัวไม่ขึ้น 😍 เขารู้ว่ามันผิด แต่ใจมันสั่งไม่ได้ ฉากที่เขาพยายามหนีความรู้สึกโดยไปเข้าวัดคือทั้งน่าสงสารและดราม่าสุด พิทยาธรเสี่ยงชีวิตช่วย มัทนี (อิงฟ้า เกตุคำ) แม่ชีสาวจากคนร้าย แต่ดัน โดนยิง จนสาหัส 😢 ขณะรักษาตัว เขาเพ้อถึงคำแพงจนใหญ่ได้ยิน ทำให้เกิด ดราม่าหนัก

หลังจากเจอดราม่าและถูกใส่ร้ายว่าเป็นชู้กับคำแพง พิทยาธรค่อย ๆ เติบโต เขาเรียนรู้ที่จะตัดใจจากคำแพงและหันมารักมัทนีที่คอยดูแลเขา 💕 ฉากนี้คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนดูเห็นว่าเขาเป็นคนที่ มีหัวใจ และ พร้อมเริ่มใหม่ ความสัมพันธ์ของพิทยาธรกับมัทนี (ที่สึกจากแม่ชีเพื่อเขา) คือ โมเมนต์หวาน ๆ ที่ทำให้คนดูยิ้มได้ในตอนท้าย 🥰

วิน-วาทิต โสภา ถ่ายทอดบทพิทยาธรได้แบบ ครบรส ทั้งความเท่ของตำรวจหน้าใหม่ ความเจ็บปวดจากรักต้องห้าม และการเติบโตเป็นชายหนุ่มที่เข้มแข็ง ผู้จัด เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก ถึงกับชมว่า “วินเล่นบทนี้ได้น่าสงสารและน่าชื่นชมมาก” 😊

ฉายาของพิทยาธร หนุ่มตำรวจที่แฟน ๆ รักและสงสาร 💔
“หมวดหน้าใสหัวใจสลาย” 😢
ฉายานี้มาจากความ หล่อหน้าใส ของพิทยาธรที่วินเล่นได้น่ารักสุด ๆ แต่หัวใจดันสลายเพราะรักคำแพงที่เป็นเมียคนอื่น แฟน ๆ สงสารมาก

“ตำรวจหนุ่มไฟแรง” 🔥
พิทยาธรเป็นตำรวจหน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังและความตั้งใจ ฉายานี้สะท้อนความ มุ่งมั่น ของเขาที่อยากเป็นตำรวจน้ำดีเหมือนสารวัตรใหญ่

“หนุ่มรักต้องห้าม” 💘
ฉายานี้มาจาก ดราม่ารักสามเส้า ที่พิทยาธรแอบรักคำแพง! ความรักที่เป็นไปไม่ได้ทำให้แฟน ๆ ลุ้นและสงสารเขาไปพร้อมกัน

“หมวดจิตใจดี” 😇
พิทยาธรเป็นคนดีและมีจิตใจบริสุทธิ์ แม้จะหลงรักคนผิด เขาก็พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง ฉายานี้แฟน ๆ ให้เพราะความ ใจดี และ อ่อนโยน ของเขา

“พระรองสุดปัง” 🌟
ถึงจะไม่ใช่พระเอก แต่พิทยาธรขโมยซีนด้วยความน่าสงสารและเคมีกับมัทนี แฟน ๆ เลยยกให้เป็น พระรอง ที่ปังไม่แพ้พระเอก

ทำไมวินถึงปังในบทพิทยาธร 😎
วิน-วาทิต โสภา คือตัวเลือกที่ ลงตัวสุด ๆ สำหรับบทพิทยาธร เขาเริ่มต้นในวงการจากการเป็นนักร้องวง The Unknown ก่อนผันตัวมาเป็นนักแสดงโดยการชักชวนของ เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร และได้เซ็นสัญญากับช่อง 7HD ใน “สารวัตรใหญ่” วินต้องเล่นทั้ง ฉากแอ็คชั่น ในฐานะตำรวจ และ ฉากดราม่า ที่ต้องร้องไห้เพราะรักต้องห้าม

วินเตรียมตัวหนักมาก เขาฝึก การแสดงฉากบู๊ และเรียนรู้ ชีวิตตำรวจ จากนิยายต้นฉบับของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เพื่อให้บทสมจริง ฉากที่พิทยาธร โดนยิง และเพ้อถึงคำแพง วินต้องถ่ายซ้ำหลายรอบเพื่อให้อารมณ์ถึง ทีมงานบอกว่า “วินร้องไห้จนตาแดง แต่ยังหล่อ” 😅

วินและ อิงฟ้า เกตุคำ (มัทนี) มี เคมีสุดน่ารัก ฉากที่ทั้งคู่ตกหลุมรักกันในตอนท้ายคือหวานจนแฟน ๆ กรี๊ด 💕 วินได้รับคำชมว่าเป็น นักแสดงดาวรุ่ง และบทพิทยาธรทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น ละครเรื่องนี้มีเรตติ้งตอนจบสูงถึง 11.2

ข้อคิดจากพิทยาธร คือถึงเราจะเจอความผิดหวังในความรักหรือชีวิต แต่ถ้าเรายังยึดมั่นในความดีและก้าวต่อไป สุดท้ายเราจะพบแสงสว่าง เหมือนที่พิทยาธรตัดใจจากคำแพงและพบรักใหม่กับมัทนี 💖

→ อิงฟ้า เกตุคำ รับบท มัทนี

5a999730 f1e6 11ec abce 454310bded67 original
อิงฟ้า เกตุคำ

จากแม่ชีสู่สาวแกร่งที่หัวใจเต็มไปด้วยรัก 🌸
มัทนีคือสาวน้อยที่เริ่มต้นในฐานะ แม่ชี ในวัดที่อำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร 😇 เธอใช้ชีวิตอย่างสงบและบริสุทธิ์ แต่โชคชะตาดันพาเธอมาเจอกับ ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร (วิน-วาทิต โสภา) ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่เข้ามาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง 💓 มัทนีไม่ใช่แค่ตัวละครสมทบ แต่เธอคือ กุญแจสำคัญ ที่ทำให้เรื่องราวรักสามเส้าในละครนี้พีคสุด ๆ 😱

ลักษณะเด่นของมัทนี
บริสุทธิ์และใจดี ในฐานะแม่ชี มัทนีมี จิตใจงดงาม และเต็มไปด้วยความเมตตา เธอช่วยเหลือคนในชุมชนและใช้ชีวิตอย่างสมถะ ราวกับเป็น นางฟ้าตัวน้อย 😊 เมื่อมัทนีตกหลุมรักพิทยาธร เธอตัดสินใจ สึกจากแม่ชี เพื่อตามหัวใจ 😍 การตัดสินใจนี้โคตรกล้า แต่ก็ทำให้เธอต้องเจออันตรายเมื่อถูก คนร้ายจับตัว 😢

มัทนีรักพิทยาธรแบบหมดใจ ฉากที่เธอคอยดูแลพิทยาธรตอน โดนยิง สาหัสคือซึ้งสุด ๆ เธอช่วยเยียวยาหัวใจของพิทยาธรที่เคยแอบรัก คำแพง (ทัศนียา การสมนุช) จนเขาหันมารักเธอ 💕 จากแม่ชีที่เงียบขรึม มัทนีกลายเป็น สาวแกร่ง ที่ยืนหยัดเคียงข้างพิทยาธรและสนับสนุนความยุติธรรมในพระลาน ตัวละครนี้เติบโตจนแฟน ๆ ต้องปรบมือให้ 👏

ความสัมพันธ์ของมัทนีกับพิทยาธรคือ โมเมนต์หวาน ที่ทำให้คนดูยิ้มแก้มปริ ฉากที่ทั้งคู่เริ่มรักกันในตอนท้ายคือฟินสุด 🥰

อิงฟ้า ถ่ายทอดบทมัทนีได้แบบ ครบรส ทั้งความน่ารักในฐานะแม่ชี ความเปราะบางในรัก และความแกร่งเมื่อต้องเผชิญดราม่า ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “อิงฟ้านำความสดใสและพลังบวกมาสู่บทมัทนีได้อย่างลงตัว” 😊

ฉายาของมัทนี สาวน้อยที่แฟน ๆ รักและเอ็นดู 🌟
“แม่ชีใจสั่น” 😍
ฉายานี้มาจากตอนที่มัทนีในฐานะแม่ชีดัน ใจสั่น เพราะพิทยาธร การที่เธอหลงรักจนยอมสึกคือพีคมาก แฟน ๆ เลยตั้งฉายานี้ให้แบบขำ ๆ แต่ก็น่ารัก

“นางฟ้าของพิทยาธร” 😇
มัทนีคือคนที่ช่วยเยียวยาหัวใจพิทยาธรจากรักต้องห้าม เธอเหมือน นางฟ้า ที่พาเขาออกจากความเจ็บปวด ฉายานี้เลยเหมาะสุด ๆ

“สาวน้อยหัวใจแกร่ง” 💪
ถึงจะดูบอบบาง แต่การที่มัทนีกล้าสึกและเผชิญอันตรายเพื่อความรักทำให้แฟน ๆ ยกให้เป็น สาวแกร่ง ฉายานี้สะท้อนความกล้าหาญของเธอ

“รักแท้ของหมวดหนุ่ม” 💕
ฉายานี้มาจากความรักที่มัทนีมอบให้พิทยาธร เธอคือ รักแท้ ที่ทำให้พิทยาธรตัดใจจากคำแพงได้ ฉากหวาน ๆ ของทั้งคู่คือฟินสุด

“น้องสาวแห่งพระลาน” 🥰
ด้วยความน่ารักและจิตใจดี มัทนีเหมือน น้องสาว ที่ทุกคนในพระลานเอ็นดู แฟน ๆ เลยให้ฉายานี้เพื่อแสดงความรักที่มีต่อเธอ

ทำไมอิงฟ้าถึงปังในบทมัทนี 😎
อิงฟ้า คือดาวรุ่งที่ส่องแสงในบทมัทนี เธอเริ่มต้นในวงการด้วยการเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของช่อง 7HD และ “สารวัตรใหญ่” เป็นหนึ่งในผลงานที่ทำให้คนจดจำ อิงฟ้าต้องเล่นทั้ง ฉากสงบ ในฐานะแม่ชี ฉากดราม่า ตอนถูกจับตัว และ ฉากหวาน กับพิทยาธร

อิงฟ้าต้องฝึก การแสดงแบบแม่ชี โดยไปศึกษาการเดิน นั่ง และพูดของแม่ชีจริง ๆ เพื่อให้บทสมจริง 😇 ฉากที่มัทนี ถูกจับตัว และสารวัตรใหญ่ (เอส-กันตพงศ์) ต้องขึ้นสลิงมาช่วย อิงฟ้าต้องถ่ายใน โกดังฝุ่น PM 2.5 ที่โหดมาก เธอเล่าว่า “ฝุ่นเยอะจนแสบตา แต่ต้องเล่นให้เต็มที่” 😅 

เคมี ระหว่างอิงฟ้ากับ วิน-วาทิต ในบทพิทยาธรคือ จุดขาย ฉากที่ทั้งคู่เริ่มรักกันคือหวานจนแฟน ๆ กรี๊ด 💕 อิงฟ้าได้รับคำชมว่าเป็น นักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตา ละครเรื่องนี้ทำ เรตติ้งตอนจบ 11.3 และช่วยแจ้งเกิดเธอในวงการ

ข้อคิดจากมัทนี คือความรักที่แท้จริงต้องกล้าเผชิญทุกอุปสรรค เหมือนที่มัทนีกล้าสึกและยืนหยัดเคียงข้างพิทยาธรจนได้รักที่สมหวัง 💖

→ ดราภดา กีรติภัคดี รับบท อรทัย

give101
ดราภดา โสตถิพิทักษ์

ตำรวจหญิงสุดคูลที่ทำงานด้วยเหตุผล 🧠
อรทัยคือ พนักงานสอบสวน หรือ ตำรวจหญิง ที่ทำงานใน สำนักงานตำรวจนครบาล และถูกส่งมาช่วยทีมของ สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) และ หมวดพิทยาธร (วิน-วาทิต โสภา) ที่สถานีตำรวจอำเภอพระลาน 👮‍♀️ เธอคือคนที่อยู่เบื้องหลังการสืบสวนคดีต่าง ๆ ในเมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 อรทัยไม่ใช่ตัวละครที่มีซีนแอ็คชั่นหรือดราม่าหนัก ๆ แต่เธอคือ เงียบแต่โคตรสำคัญ

ลักษณะเด่นของอรทัย
มืออาชีพสุด ๆ อรทัยคือตำรวจที่ทำงานด้วย เหตุผล และ ระบบ เธอช่วยวิเคราะห์คดีด้วยความรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นคดีโจรปล้นรถบัสหรือคดีค้ายาเสพติด 📋 ฉากที่เธอนั่งเคลียร์เอกสารคดีหรือช่วยใหญ่หาเบาะแสคือโชว์ความเนี๊ยบสุด อรทัยไม่หวั่นไหวง่าย ๆ ในสถานีที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและการกลั่นแกล้ง เธอยังคงทำงานอย่างสงบและมั่นคง ราวกับเป็น สมองกล ของทีม 🧠

ทีมเวิร์คตัวแม่ อรทัยไม่ใช่ตัวละครที่เด่นคนเดียว แต่เธอคือ ผู้สนับสนุน ที่ช่วยให้ทีมของใหญ่และหมวดพิทยาธรเดินหน้าได้ เธอทำงานเคียงข้างทุกคนแบบไม่มีดราม่า 🤝 ไร้รักไร้ดราม่า ไม่มีฉากรักหรือดราม่าส่วนตัวของอรทัยเลย เธอโฟกัสที่งานล้วน ๆ ทำให้คนดูเห็นภาพ ตำรวจหญิง ที่ทุ่มเทเพื่อความยุติธรรม ⚖️

อรทัยช่วยให้เราเห็นว่า การทำงานของตำรวจ มีทั้งด้านบู๊และด้านเอกสาร เธอคือตัวแทนของตำรวจที่ทำงานเบื้องหลังอย่างเงียบ ๆ แต่ขาดไม่ได้

ดราภดา กีรติภัคดี ถ่ายทอดบทอรทัยได้แบบ เนี๊ยบสุด เธอเล่นเป็นตำรวจหญิงที่ดูน่าเชื่อถือและเยือกเย็น แม้จะไม่มีซีนเด่นมาก แต่ก็ทำให้คนดูรู้สึกว่า อรทัยคือส่วนสำคัญของทีม ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “ดราภดานำความเป็นมืออาชีพมาสู่บทอรทัยได้อย่างลงตัว” 😊

ฉายาของอรทัย ตำรวจหญิงที่แฟน ๆ ชื่นชม 🌟
“ตำรวจหญิงเนี๊ยบสุด” 👮‍♀️
ฉายานี้มาจากความ มืออาชีพ ของอรทัยที่ทำงานเป๊ะทุกขั้นตอน เธอคือตำรวจที่ช่วยเคลียร์คดีด้วยความรอบคอบ ทำให้แฟน ๆ ชื่นชม

“สมองกลของสถานี” 🧠
อรทัยคือคนที่ช่วยวิเคราะห์คดีและจัดการเอกสาร ทำให้ทีมของสารวัตรใหญ่รันงานได้ราบรื่น ฉายานี้เลยเหมาะกับความฉลาดของเธอ

“เงียบแต่ทรงพลัง” 🤫
อรทัยไม่มีซีนดราม่าหรือแอ็คชั่น แต่การทำงานเงียบ ๆ ของเธอคือ พลังสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว แฟน ๆ เลยให้ฉายานี้

“สาวแกร่งไร้ดราม่า” 💪
อรทัยคือตำรวจหญิงที่ไม่ติดอยู่ในดราม่ารักหรือเรื่องส่วนตัว เธอโฟกัสงานล้วน ๆ ทำให้แฟน ๆ ยกให้เป็น สาวแกร่ง แบบแท้จริง

“ฟันเฟืองของความยุติธรรม” ⚖️
ฉายานี้สะท้อนบทบาทของอรทัยที่เป็น ส่วนหนึ่งของระบบ ที่ช่วยให้ความยุติธรรมในพระลานสำเร็จ เธอคือฟันเฟืองที่ขาดไม่ได้

ทำไมดราภดาถึงปังในบทอรทัย 😎
ดราภดา กีรติภัคดี คือนักแสดงที่นำความ น่าเชื่อถือ มาสู่บทอรทัย เธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของช่อง 7HD ที่เริ่มต้นด้วยบทสมทบ แต่สามารถทำให้คนดูจำได้ ดราภดาต้องเล่นเป็น ตำรวจหญิง ที่ดูเป็นมืออาชีพ โดยไม่มีซีนแอ็คชั่นหรือดราม่าหนัก ๆ แต่เธอก็ถ่ายทอดความ เยือกเย็น และ ความรอบคอบ ได้แบบเป๊ะ

ดราภดาศึกษา การทำงานของพนักงานสอบสวน จริง ๆ เพื่อให้เข้าใจบทบาท เธอต้องฝึกพูดจาให้ดูเป็นทางการและน่าเชื่อถือ 📋 ฉากที่อรทัยช่วยทีมสารวัตรใหญ่สืบคดี เช่น คดีโจรปล้นรถบัส ดราภดาต้องจำศัพท์ตำรวจและขั้นตอนการสืบสวนให้เป๊ะ 😅 เคมี กับทีมนักแสดงอย่าง เอส-กันตพงศ์ (ใหญ่) และ วิน-วาทิต (พิทยาธร) ทำให้อรทัยดูเป็นส่วนหนึ่งของทีมแบบเนียน ๆ 🤝 ละคร “สารวัตรใหญ่” ทำ เรตติ้งตอนจบ 11.3 และบทอรทัยของดราภดาได้รับคำชมว่าเป็น ตัวละครสมทบที่ลงตัว

ข้อคิดจากอรทัย คือถึงเราจะไม่ได้เป็นตัวเด่น แต่การทำงานอย่างทุ่มเทและเป็นส่วนหนึ่งของทีมก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนที่อรทัยช่วยให้ความยุติธรรมในพระลานสำเร็จ 🙌

→ อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ รับบท ร.ต.อ.เมธี

1427281502 MM6A1383re o
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์

ตำรวจคู่หูสุดแกร่งและซื่อสัตย์ 🛡️
ร.ต.อ.เมธี คือ รองสารวัตร ที่ทำงานใน สถานีตำรวจอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 เมธีเป็นตำรวจหนุ่มที่อยู่ภายใต้การนำของ สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) และเป็นหนึ่งในคนที่คอยสนับสนุนการปฏิรูปสถานีของใหญ่ 💥 เขาไม่ใช่แค่ลูกน้อง แต่เป็น เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่พร้อมลุยเคียงข้างใหญ่ในทุกสมรภูมิ

ลักษณะเด่นของเมธี
ซื่อสัตย์และทุ่มเท เมธีเป็นตำรวจที่ ยึดมั่นในความถูกต้อง เขาเลือกยืนข้างสารวัตรใหญ่ แม้ว่าจะต้องเผชิญแรงกดดันจาก ผู้กำกับทุจริต และ เจ้าพ่อท้องถิ่น 😤 ฉากที่เมธีช่วยใหญ่สืบคดี เช่น คดีโจรปล้นรถบัสหรือคดีค้ายาเสพติด คือโชว์ความมุ่งมั่นสุด ๆ เมธีอาจไม่ใช่ตัวละครที่บู๊เดือดเท่าสารวัตรใหญ่ แต่เขามี ความกล้า และรู้จักใช้สติในการทำงาo เขาคอยช่วยเหลือทีมในฉากแอ็คชั่น เช่น การบุกจับคนร้าย 🔫

เมธีคือ คู่หู ที่ใหญ่ไว้ใจ เขาคอยช่วยประสานงานและเป็นกำลังเสริมให้ทีม ทำให้คนดูรู้สึกว่าเมธีคือคนที่ขาดไม่ได้ 🤝 เมธีเป็นตัวละครที่โฟกัสงานล้วน ๆ ไม่มีซีนรักหรือดราม่าส่วนตัว ทำให้เขาเป็น ตำรวจสายบู๊ ที่เน้นภารกิจแบบเต็มตัว เมธีช่วยให้เราเห็นว่า การทำงานของตำรวจ ต้องอาศัยทีม เขาคือตัวแทนของตำรวจที่ทำงานเพื่อประชาชนและสนับสนุนผู้นำที่ดีอย่างใหญ่

อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ ถ่ายทอดบทเมธีได้แบบ ลงตัวสุด เขาเล่นเป็นตำรวจหนุ่มที่ทั้งเท่และน่าเชื่อถือ ทำให้คนดูรู้สึกว่าเมธีคือ เพื่อนร่วมทีม ที่ทุกสถานีตำรวจอยากมี ผู้จัด เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก ชมว่า “อนุวัฒน์นำความแกร่งและความเป็นทีมเพลเยอร์มาสู่บทเมธีได้เป๊ะ” 😊

ฉายาของเมธี ตำรวจหนุ่มที่แฟน ๆ ชื่นชม 🌟
“คู่หูสารวัตรใหญ่” 🤝
ฉายานี้มาจากบทบาทของเมธีที่เป็น เพื่อนคู่ใจ ของสารวัตรใหญ่ เขาคอยช่วยเหลือและสนับสนุนใหญ่ในทุกภารกิจ ทำให้แฟน ๆ รักความเป็นทีมของทั้งคู่

“ตำรวจหนุ่มสายซัพพอร์ต” 💪
เมธีคือตำรวจที่คอย ซัพพอร์ต ทีม ไม่ว่าจะช่วยสืบคดีหรือประสานงาน เขาทำได้ดีทุกอย่าง ฉายานี้เลยเหมาะกับบทบาทของเขา

“เงียบแต่แกร่ง” 🤫
เมธีไม่มีซีนเด่นแบบพระเอก แต่ความ เงียบขรึม และ ความแกร่ง ในการทำงานทำให้แฟน ๆ ชื่นชม ฉายานี้สะท้อนสไตล์ของเขาได้ดี

“นักสู้แห่งพระลาน” ⚔️
ฉายานี้มาจากการที่เมธีร่วมต่อสู้เคียงข้างใหญ่เพื่อเปลี่ยนพระลานให้ดีขึ้น เขาคือหนึ่งในนักสู้ที่ช่วยให้ความยุติธรรมชนะ

“ตำรวจน้ำดีตัวจริง” 🛡️
เมธีเป็นตำรวจที่ ซื่อสัตย์ และไม่ยอมก้มหัวให้อิทธิพลมืด แฟน ๆ เลยให้ฉายานี้เพื่อยกย่องความดีของเขา

ทำไมอนุวัฒน์ถึงปังในบทเมธี 😎
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ คือนักแสดงที่นำความ เท่และน่าเชื่อถือ มาสู่บทเมธี เขาเป็นนักแสดงที่เคยฝากผลงานในละครช่อง 7HD และ “สารวัตรใหญ่” ทำให้เขาได้โชว์ศักยภาพในบท ตำรวจหนุ่ม ที่ทั้งแกร่งและเป็นทีมเพลเยอร์ อนุวัฒน์ต้องฝึก ฉากแอ็คชั่น ร่วมกับทีมสารวัตรใหญ่ และถ่ายทอดความเป็น ตำรวจที่ไว้ใจได้ ได้อย่างลงตัว

อนุวัฒน์ศึกษาการทำงานของ ตำรวจชั้นสัญญาบัตร เพื่อให้เข้าใจบทบาทของร.ต.อ.เมธี เขายังต้องฝึก การยิงปืน และ การประสานงานในทีม เพื่อให้ฉากสมจริง 🔫 เคมี ระหว่างอนุวัฒน์กับ เอส-กันตพงศ์ (ใหญ่) และ วิน-วาทิต (พิทยาธร) ทำให้ทีมตำรวจในเรื่องดูเป็นทีมที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ 🤝 

ข้อคิดจากเมธี คือการเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ยึดมั่นในความดีสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนที่เมธีช่วยสารวัตรใหญ่เปลี่ยนพระลานให้ดีขึ้น 🙌

→ ภุชิสสะ ศุภธนพัฒน์ รับบท นวคุณ

262a4475 0949 41df a1c2 4c975c1ea188
ภุชิสสะ ศุภธนพัฒน์

หนุ่มลึกลับแห่งวงการสีเทา 🕶️
นวคุณคือตัวละครที่อยู่ใน โลกสีเทา ของอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย อาชญากรรม และ การคอร์รัปชัน 😈 เขาไม่ใช่ตำรวจอย่าง สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) หรือ หมวดพิทยาธร (วิน-วาทิต) แต่เป็น บุคคลที่มีอิทธิพล ในวงการที่ไม่ค่อยสะอาดนัก นวคุณปรากฏตัวในฐานะคนที่เกี่ยวข้องกับ เครือข่ายอิทธิพลมืด ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับ เจ้าพ่อจาตุรนต์ (สุเมธ องอาจ) หรือ พล.ต.ต.อเนก (ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์)

ลักษณะเด่นของนวคุณ
ลึกลับและเจ้าเล่ห์ นวคุณคือตัวละครที่ คาดเดายาก เขาดูสุภาพ เรียบร้อย แต่แววตาและการกระทำบ่งบอกว่า มีอะไรซ่อนอยู่ 😏 ฉากที่เขาคุยกับตัวละครอื่น ๆ มักจะมีกลิ่นของความลับที่ทำให้คนดูอยากรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ นวคุณเหมือนเป็น ตัวเชื่อม ระหว่างโลกของกฎหมายและโลกใต้ดิน เขาอาจไม่ใช่ตัวร้ายหลัก แต่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแผนการของกลุ่มอิทธิพลมืด 💼

นวคุณไม่ใช่คนที่แสดงอารมณ์เยอะ เขามักจะพูดจา นิ่ง ๆ แต่คำพูดแต่ละคำมี น้ำหนัก การแสดงของบิ๊กทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาคือคนที่ อันตรายในความสงบ นวคุณไม่มีเส้นเรื่องรักหรือดราม่าส่วนตัว เขาโฟกัสที่ บทบาทในเกมอำนาจ ทำให้คนดูเห็นว่าเขาเป็นตัวละครที่ เย็นและคำนวณ

นวคุณสะท้อนให้เห็นว่าในสังคมที่เต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน มีคนแบบเขาที่ อยู่ตรงกลาง ระหว่างความดีและความชั่ว

บิ๊ก-ภุชิสสะ ศุภธนพัฒน์ ถ่ายทอดบทนวคุณได้แบบ สุดปัง เขาใช้ สายตา และ น้ำเสียง สร้างความลึกลับให้ตัวละครนี้จนคนดูต้องจับตา ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “บิ๊กเหมาะกับบทที่ต้องเล่นแบบนิ่ง ๆ แต่มีพลังซ่อนอยู่” 😊

ฉายาของนวคุณ หนุ่มลึกลับที่แฟน ๆ พูดถึง 🕵️‍♂️
“หนุ่มเงามืด” 🖤
ฉายานี้มาจากความ ลึกลับ และบทบาทของนวคุณที่เหมือนอยู่ในเงามืดของวงการอิทธิพล เขาคือคนที่โผล่มาเงียบ ๆ แต่ทิ้งความประทับใจ

“เจ้าแห่งความลับ” 🔒
นวคุณเหมือนคนที่รู้ ความลับ เยอะมาก การกระทำและคำพูดของเขาทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาคือ ตัวละครที่ซ่อนไพ่ตาย

“สุภาพบุรุษสีเทา” 🕴️
ฉายานี้สะท้อนความ สุภาพ แต่ เย็นชา ของนวคุณ เขาอยู่ในโลกที่ไม่ขาวสะอาด แต่ก็ไม่ใช่ตัวร้ายเต็มตัว ทำให้แฟน ๆ ชอบสไตล์นี้

“เงียบแต่เดือด” 🤫
นวคุณพูดน้อยแต่ ทุกคำมีพลัง การแสดงที่เงียบแต่ทรงพลังของบิ๊กทำให้แฟน ๆ ตั้งฉายานี้ให้

“ตัวละครปริศนา” ❓
ฉายานี้มาจากความ คาดเดายาก ของนวคุณ คนดูไม่รู้ว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศัตรู ทำให้เขาคือ ปริศนา ที่น่าติดตาม

ทำไมบิ๊กถึงปังในบทนวคุณ 😎
บิ๊ก-ภุชิสสะ ศุภธนพัฒน์ คือนักแสดงที่เกิดมาเพื่อบทแบบนวคุณ เขาเริ่มต้นในวงการจากการเป็น นายแบบ และคว้ารางวัลจากเวที ดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล 2002 ก่อนผันตัวมาเป็นนักแสดงของช่อง 7HD และปัจจุบันเป็นนักแสดงอิสระ ใน “สารวัตรใหญ่” บิ๊กต้องเล่นเป็นตัวละครที่ นิ่งแต่ทรงพลัง ซึ่งเขาทำได้ดีจนคนดูจำได้

บิ๊กเตรียมตัวหนักเพื่อถ่ายทอดความ ลึกลับ ของนวคุณ เขาศึกษาการแสดงแบบ น้อยแต่มาก โดยเน้นใช้สายตาและน้ำเสียงสร้างอิมแพค 😏 เคมี กับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง สุเมธ องอาจ (เจ้าพ่อจาตุรนต์) และ ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ (พล.ต.ต.อเนก) ทำให้ฉากของนวคุณดูเข้มข้นและน่าติดตาม 💼

ข้อคิดจากนวคุณ คือในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน บางครั้งคนที่เงียบที่สุดอาจมีพลังมากที่สุด เหมือนที่นวคุณเคลื่อนเกมในเงามืดของพระลาน 🕶️

→ สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ รับบท ร.ต.อ. กอบเกียรติ

12256845 925658107527641 1402038176 n 1451201264
สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์

จากตำรวจสายเทาสู่ฮีโร่แห่งพระลาน 🛡️
ร.ต.อ.กอบเกียรติ คือ รองสารวัตรฝ่ายสืบสวน ที่ทำงานใน สถานีตำรวจอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 ในตอนแรก กอบเกียรติเป็นตำรวจที่ ใจอ่อน และยอมตกอยู่ภายใต้การครอบงำของ เสี่ยน้อย ตัวร้ายที่คอยบงการสถานี 😈 แต่เมื่อ สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) เข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า กอบเกียรติก็เริ่ม ตื่นจากความมืด และกลายเป็นตำรวจที่ยึดมั่นในความถูกต้อง 💪

ลักษณะเด่นของกอบเกียรติ
เริ่มจากสีเทา กอบเกียรติเคยเป็นเด็กยากจน ทำให้เขากลัวการกลับไปลำบากจนยอม รับเงินสกปรก จากเสี่ยน้อย 😢 ฉากที่เขาแอบรับเงินใต้โต๊ะคือทำให้คนดูรู้สึกว่า “ผู้กอง อย่าหลงผิดไปกว่านี้” หลังจากได้แรงบันดาลใจจาก สารวัตรใหญ่ กอบเกียรติตัดสินใจ กลับตัว เขาเริ่มทำงานเพื่อความยุติธรรม ช่วยทีมสืบคดีใหญ่ ๆ เช่น คดีโจรปล้นรถบัสหรือคดีค้ายา 🔫 ฉากที่เขายืนหยัดเคียงข้างใหญ่คือโคตรเท่

เมื่อกอบเกียรติเลือกทางที่ถูกต้อง เขากลายเป็น นักสู้ ที่พร้อมลุยทุกภารกิจ เขาไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับอิทธิพลมืดเพื่อปกป้องประชาชน 🛡️ กอบเกียรติทำงานเคียงข้าง ร.ต.อ.เมธี (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) และ ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร (วิน-วาทิต) ทำให้ทีมของสารวัตรใหญ่แข็งแกร่งขึ้น 🤝 กอบเกียรติโฟกัสที่งานและการเปลี่ยนตัวเอง ไม่มีเส้นเรื่องรัก ทำให้เขาเป็น ตำรวจสายบู๊ ที่เน้นภารกิจล้วน ๆ

โอ๊ต-สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ ถ่ายทอดบทกอบเกียรติได้แบบ ครบรส เขาเล่นทั้งความ ลังเล ในช่วงที่ยังเป็นตำรวจสายเทา และความ เด็ดเดี่ยว เมื่อกลับตัวเป็นตำรวจน้ำดี ผู้จัด เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก ชมว่า “โอ๊ตคือมือโปรด้านแอ็คชั่นที่นำมิติใหม่มาสู่กอบเกียรติ” 😊

ฉายาของกอบเกียรติ ตำรวจที่แฟน ๆ รักและลุ้น 🌟
“ผู้กองกลับใจ” 🔄
ฉายานี้มาจากการที่กอบเกียรติ เปลี่ยนจากสายเทาเป็นน้ำดี การตัดสินใจกลับตัวของเขาคือจุดเด่นที่ทำให้แฟน ๆ ชื่นชม

“ตำรวจสายเทาที่รอดเงื้อมมือมืด” 😈
กอบเกียรติเคยเกือบจมในความมืดของเสี่ยน้อย แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ ฉายานี้สะท้อนการต่อสู้ของเขากับอิทธิพลชั่ว

“คู่หูน้ำดีของสารวัตรใหญ่” 🤝
เมื่อกอบเกียรติกลับตัว เขากลายเป็น คู่หู ที่ช่วยสารวัตรใหญ่ลุยภารกิจ แฟน ๆ เลยยกให้เป็นหนึ่งในทีมน้ำดี

“นักสู้แห่งการเปลี่ยนแปลง” ⚔️
ฉายานี้มาจากการที่กอบเกียรติช่วยเปลี่ยนสถานีพระลานให้ดีขึ้น เขาคือ นักสู้ ที่ต่อสู้ทั้งศัตรูภายนอกและตัวเอง

“ตำรวจผู้กอบกู้เกียรติ” 🏅
ชื่อ “กอบเกียรติ” แปลว่ากอบกู้เกียรติยศ และเขาก็ทำได้จริง ฉายานี้สะท้อนการกอบกู้ความดีของตัวเอง

ทำไมโอ๊ตถึงปังในบทกอบเกียรติ 😎
โอ๊ต-สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ คือนักแสดงสายบู๊ที่เกิดมาเพื่อบทนี้ เขาเป็น มือโปรด้านแอ็คชั่น ที่มีผลงานในวงการมานาน และ “สารวัตรใหญ่” ทำให้เขาได้โชว์ทั้ง การแสดงดราม่า และ ฉากบู๊ โอ๊ตต้องเล่นทั้งความ ลังเล ในช่วงที่กอบเกียรติยังหลงผิด และความ เด็ดเดี่ยว เมื่อกลับตัว

โอ๊ตฝึก ฉากแอ็คชั่น หนักมากเพื่อถ่ายทอดความเป็นตำรวจสืบสวน เขายังต้องเรียนรู้ จิตวิทยาตัวละคร เพื่อแสดงความขัดแย้งภายในของกอบเกียรติ 🔫 เคมี กับ เอส-กันตพงศ์ (สารวัตรใหญ่) และ อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ (เมธี) ทำให้ทีมตำรวจในเรื่องดูแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ 🤝

ข้อคิดจากกอบเกียรติ คือไม่ว่าเราจะเคยผิดพลาดแค่ไหน ถ้ามีโอกาสและใจที่อยากเปลี่ยนแปลง เราก็สามารถกลับมาเป็นคนที่ดีได้ เหมือนที่กอบเกียรติกอบกู้เกียรติยศของตัวเอง 🏅

→ นันทศัย พิศลยบุตร รับบท ท่านรองเชิงชาย

52ec7d70 28a4 11eb bed4 0972e345f90c original
นันทศัย พิศลยบุตร

ตำรวจสายดาร์กที่ครองอำนาจในเงา 🕶️
ท่านรองเชิงชาย หรือ รองฯ ทรัพย์อนันต์ คือ รองผู้กำกับการ ที่ทำงานในจังหวัดพระกำแพง เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 เขาเป็น มือขวา ของ ผู้กำกับฯ อเนก (ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์) ตำรวจเลวที่ครองอำนาจในจังหวัด และมีส่วนในการดูแล ส่วย และ ผลประโยชน์ผิดกฎหมาย 💰 ท่านรองไม่ใช่แค่ตำรวจธรรมดา แต่เป็นคนที่ ฉลาด เจ้าเล่ห์ และ เย็นชา ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าทึ่ง

ลักษณะเด่นของท่านรองเชิงชาย
เจ้าแห่งอำนาจมืด ท่านรองเป็นคนที่บริหารจัดการ เครือข่ายส่วย ได้เก่งสุด ๆ เขาคอยสั่งการและปกป้องผลประโยชน์ของผู้กำกับฯ อเนก และมีส่วนในการข่มขู่ตำรวจน้ำดีอย่าง สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) 😈 ฉากที่เขาคุยกับอเนกในห้องลับคือโชว์พลังอำนาจชัดเจน

ท่านรองมี ความลับส่วนตัว ที่ทำให้เขาเป็นตัวละครที่น่าสนใจ ในเรื่องมีการกล่าวหาว่าเขาอาจ แอบชอบผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่แสดงออก ทำให้ตัวละครนี้มีมิติที่ไม่เหมือนใคร 😏 ท่านรองพูดน้อยแต่ ทุกคำมีน้ำหนัก เขามักจะปรากฏตัวในชุดตำรวจที่เนี๊ยบสุด ๆ และมีท่าทางที่ เย็นชา แต่เต็มไปด้วย พลังอำนาจ การแสดงของเต้ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาคือ ตัวร้ายที่เท่

ท่านรองมี ความมั่งคั่ง จากการหาเงินผิดกฎหมาย เขาใช้ชีวิตแบบไฮโซ แต่ก็ซ่อนความโหดไว้เบื้องหลัง ฉากที่เขาใช้เงินซื้อใจคนคือโคตรสะท้อนตัวละครนี้ 💸 ท่านรองคือหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่สารวัตรใหญ่ต้องเผชิญ เขาคอยขัดขวางและวางแผนให้ใหญ่เจอปัญหา ทำให้คนดูลุ้นว่าใหญ่จะจัดการเขาได้ยังไง ⚔️

เต้-นันทศัย พิศลยบุตร ถ่ายทอดบทท่านรองเชิงชายได้แบบ สุดปัง เขาใช้ สายตา และ น้ำเสียง ที่เย็นชาแต่ทรงพลัง ทำให้คนดูทั้งเกลียดและหลงเสน่ห์ตัวละครนี้ ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “เต้เหมาะกับบทตำรวจที่ซ่อนความลับและอำนาจไว้ในตัว” 😊

ฉายาของท่านรองเชิงชาย ตำรวจสายดาร์กที่แฟน ๆ ไม่ลืม 🕵️‍♂️
“รองฯ สายดาร์ก” 😈
ฉายานี้มาจากความ มืดมน และ เจ้าเล่ห์ ของท่านรอง เขาคือตำรวจที่อยู่ในเงามืดของอำนาจ ทำให้แฟน ๆ ตั้งฉายานี้ให้แบบเป๊ะ

“เจ้าแห่งส่วย” 💰
ท่านรองเก่งเรื่องจัดการ ส่วย และผลประโยชน์ผิดกฎหมาย ฉายานี้สะท้อนความสามารถของเขาในการครองอำนาจในโลกสีเทา

“ตำรวจลับสุดไฮโซ” 🕴️
ด้วยความร่ำรวยและสไตล์ที่ ไฮโซ แต่ซ่อนความลับไว้ ท่านรองเลยได้ฉายานี้ แฟน ๆ ชอบความเท่และความลึกลับของเขา

“เงียบแต่ร้าย” 🤫
ท่านรองพูดน้อยแต่ ทุกการกระทำโคตรร้าย การแสดงที่เงียบแต่ทรงพลังของเต้ทำให้แฟน ๆ ตั้งฉายานี้ให้

“มือขวาผู้กำกับเลว” 🖤
ฉายานี้มาจากบทบาทของท่านรองที่เป็น มือขวา ของผู้กำกับฯ อเนก เขาคือคนที่ช่วยอเนกครองอำนาจ ทำให้แฟน ๆ เกลียดแต่ก็ยอมรับว่าเท่

ทำไมเต้ถึงปังในบทท่านรองเชิงชาย 😎
เต้-นันทศัย พิศลยบุตร คือนักแสดงมากประสบการณ์ที่เกิดมาเพื่อบทนี้ เขาเริ่มต้นในวงการตั้งแต่อายุ 13 ด้วยโฆษณากล้องโพลารอยด์ และคว้ารางวัลจากเวที ดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล 2540 เต้เคยเป็นพิธีกรรายการ Time for Teen และมีผลงานละครมากมาย เช่น สุภาพบุรุษซาตาน และ ปิศาจหรรษา ใน “สารวัตรใหญ่” เต้ต้องเล่นเป็น ตำรวจสายร้าย ที่ทั้งลึกลับและมีมิติ ซึ่งเขาทำได้ดีจนคนดูจำได้

เต้เตรียมตัวหนักเพื่อบทท่านรอง เขาศึกษาการแสดงแบบ น้อยแต่มาก โดยเน้นใช้ สายตา และ ท่าทาง เพื่อถ่ายทอดความเย็นชาและอำนาจ 😏 เคมี กับ ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ (ผู้กำกับฯ อเนก) ทำให้ฉากของทั้งคู่ดูเข้มข้นและน่ากลัว การปะทะคารมกับ เอส-กันตพงศ์ (สารวัตรใหญ่) ก็โคตรเดือด ⚔️

ข้อคิดจากท่านรอง คืออำนาจและเงินทองอาจทำให้คนหลงทาง แต่สุดท้ายความยุติธรรมก็จะชนะ เหมือนที่สารวัตรใหญ่ต่อสู้เพื่อโค่นเครือข่ายของท่านรอง ⚖️

→ สุเมธ องอาจ รับบท กำนันฉลองโชค

สุเมธ องอาจ

เจ้าพ่อสุดโหดแห่งอำเภอพระลาน 🕴️
กำนันฉลองโชคคือ เจ้าพ่อตัวท็อป ในอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 เขาเป็นหุ้นส่วนใน พระลานคาเฟ่ ร่วมกับ เสี่ยจาตุรนต์ (ตัวร้ายอีกคน) และมีส่วนใน ธุรกิจผิดกฎหมาย มากมาย ตั้งแต่ค้ายาไปจนถึงข่มขู่ชาวบ้าน 💰 กำนันฉลองโชคไม่ใช่แค่กำนันธรรมดา แต่เป็น จอมวางแผน ที่ครองอำนาจด้วยความโหดและเล่ห์เหลี่ยม

ลักษณะเด่นของกำนันฉลองโชค
โหดและเจ้าเล่ห์ กำนันฉลองโชคคือตัวร้ายที่ โหดสุดขีด เขาไม่ลังเลที่จะข่มขู่หรือกำจัดใครก็ตามที่ขวางทาง 😈 ฉากที่เขาสั่งลูกน้องจัดการศัตรูคือโคตรน่ากลัว เขาคือ เจ้าพ่อค้าที่ดิน ในพระลาน ใช้ตำแหน่งกำนันบังหน้าเพื่อยึดที่ดินชาวบ้านและทำธุรกิจสกปรก ฉากที่เขาข่มขู่ชาวบ้านให้ยอมขายที่คือสะท้อนความร้ายกาจ 

เรื่องย่อบอกว่าเขาหน้าตา อัปลักษณ์ แต่แต่งตัวดีและมักมี สาวสวย อยู่ข้างกาย สไตล์ของเขาคือ ไฮโซแต่โฉด ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาเป็นตัวร้ายที่เก๋ 😎 กำนันฉลองโชคคือหนึ่งใน ศัตรูตัวฉกาจ ของสารวัตรใหญ่ เขาคอยวางแผนให้ใหญ่เจอปัญหา เช่น ส่งคนไปขัดขวางหรือใส่ร้าย การปะทะกับ เอส-กันตพงศ์ ในเรื่องคือเดือดสุด ๆ ⚔️

กำนันฉลองโชคในตอนท้าย ความชั่วของเขาถูกเปิดโปงโดยสารวัตรใหญ่และพลังของชาวบ้าน 😤 ฉากนี้คือสะใจคนดูสุด ๆ

สุเมธ องอาจ ถ่ายทอดบทกำนันฉลองโชคได้แบบ สุดยอด เขาใช้ น้ำเสียง และ ท่าทาง ที่ทั้งเจ้าเล่ห์และน่ากลัว ทำให้คนดูเกลียดแต่ก็ยอมรับว่าเท่

ฉายาของกำนันฉลองโชค ตัวร้ายสุดแสบที่แฟน ๆ จำไม่ลืม 🌟
“เจ้าพ่อพระลาน” 🕴️
ฉายานี้มาจากการที่กำนันฉลองโชคคือ ตัวท็อป ในวงการอิทธิพลมืดของพระลาน เขาคือเจ้าพ่อที่ครองทุกอย่างในเมือง

“กำนันสายโหด” 😈
ด้วยความโหดและการข่มขู่ที่ไม่เลือกหน้า ฉายานี้เหมาะสุด ๆ กับความร้ายกาจของเขา

“จอมวางแผนแห่งพระลาน” 🧠
กำนันฉลองโชคเก่งเรื่อง วางแผนชั่ว ทุกการเคลื่อนไหวของเขาคือเล่ห์เหลี่ยมล้วน ๆ ทำให้แฟน ๆ ตั้งฉายานี้ให้

“ตัวร้ายสุดเก๋” 😎
ถึงจะร้าย แต่สไตล์ไฮโซและการมีสาวสวยเคียงข้างทำให้เขาดู เก๋ ในแบบตัวร้าย! แฟน ๆ เลยยกฉายานี้ให้

“ราชาแห่งส่วย” 💸
กำนันฉลองโชคคือตัวท็อปเรื่อง เก็บส่วย และทำธุรกิจสกปรก ฉายานี้สะท้อนความเป็นเจ้าพ่อของเขาได้ดี

ทำไมสุเมธถึงปังในบทกำนันฉลองโชค 😎
สุเมธ องอาจ คือนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เกิดมาเพื่อบท ตัวร้าย เขามีผลงานในวงการมานาน เช่น ชุมทางรถไฟผี และ ลูกผู้ชายหัวใจทองคำ และใน “สารวัตรใหญ่” เขาก็โชว์ฝีมือการเป็น เจ้าพ่อสุดโหด ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สุเมธต้องเล่นทั้งความ เจ้าเล่ห์ และ ความโหด ซึ่งเขาทำได้ดีจนคนดูจำได้

สุเมธเตรียมตัวหนักเพื่อบทกำนันฉลองโชค เขาศึกษาการแสดงแบบ ตัวร้ายที่มีสไตล์ โดยเน้น น้ำเสียง และ ท่าทาง ที่ทั้งน่ากลัวและมีเสน่ห์ 😈 เคมี กับ ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ (ผู้กำกับฯ อเนก) และ นันทศัย พิศลยบุตร (รองฯ ทรัพย์อนันต์) ทำให้ฉากของกลุ่มตัวร้ายดูเข้มข้นและน่ากลัว 💼

ข้อคิดจากกำนันฉลองโชค คืออำนาจและเงินอาจทำให้คุณครองเมืองได้ แต่ถ้าเลือกทางชั่ว สุดท้ายก็ต้องเจอจุดจบ เหมือนที่กำนันถูกจับในตอนท้าย ⚖️

→ ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง รับบท ร.ต.อ.อัครเดช

487a3940 4477 11ed bb4d 2b3b20a37d2c webp original
ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง

ตำรวจหนุ่มไฟแรงแห่งทีมสารวัตรใหญ่ 🛡️
ร.ต.อ.อัครเดช คือ รองสารวัตรฝ่ายสืบสวน ที่ทำงานใน สถานีตำรวจอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 เขาเป็นตำรวจหนุ่มที่ทำงานเคียงข้าง สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ และ ร.ต.อ.เมธี (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) เพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมในเมือง อัครเดชอาจเริ่มต้นด้วยความ ลังเล เพราะแรงกดดันจากอิทธิพลมืด แต่สุดท้ายเขาก็เลือกยืนหยัดเคียงข้างความถูกต้อง 💥

ลักษณะเด่นของอัครเดช
หนุ่มไฟแรง อัครเดชเป็นตำรวจที่ มุ่งมั่น และเต็มไปด้วยพลัง เขาเก่งเรื่องการสืบสวนและพร้อมลุยภารกิจเสี่ยง ๆ ฉากที่เขาช่วยทีมบุกจับคนร้ายในคดีโจรปล้นรถบัสคือโชว์ความกล้าเต็มที่ 🔫 ในช่วงแรก อัครเดชอาจรู้สึก กดดัน จากการทำงานในสถานีที่เต็มไปด้วยตำรวจสีเทา แต่เมื่อได้เห็นอุดมการณ์ของสารวัตรใหญ่ เขาก็ตัดสินใจ ยึดมั่นในความดี การพัฒนานี้ทำให้คนดูเอาใจช่วย 🙌

อัครเดชทำงานร่วมกับ ร.ต.อ.กอบเกียรติ (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) และ ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร (วิน-วาทิต) ได้อย่างลงตัว เขาคือ ฟันเฟืองสำคัญ ในทีมของสารวัตรใหญ่ 🤝 อัครเดชมีลุค ตำรวจหนุ่มหล่อ ที่มาพร้อมความคูล การแสดงของปราปต์ปฎลทำให้เขาดูเป็นตำรวจที่ทั้งน่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ 😍

ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ถ่ายทอดบทอัครเดชได้แบบ สุดคูล เขาเล่นทั้งความ มุ่งมั่น ในฉากแอ็คชั่นและความ ลังเล ในช่วงที่ต้องเลือกข้าง ทำให้คนดูรู้สึกว่าอัครเดชคือตำรวจที่มีมิติ ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “ปราปต์ปฎลนำพลังหนุ่มและความเท่มาเติมเต็มบทอัครเดชได้เป๊ะ” 😊

ฉายาของอัครเดช ตำรวจหนุ่มที่แฟน ๆ เอ็นดู 🌟
“ผู้กองหนุ่มไฟแรง” 🔥
ฉายานี้มาจากความ มุ่งมั่น และพลังของอัครเดชในการสู้เพื่อความยุติธรรม เขาคือตำรวจหนุ่มที่พร้อมลุยทุกภารกิจ

“ตำรวจสายคูล” 😎
ด้วยลุคหล่อและสไตล์การทำงานที่เท่ อัครเดชเลยได้ฉายานี้ แฟน ๆ ชอบความคูลของเขาในชุดตำรวจ

“นักสู้แห่งทีมใหญ่” ⚔️
อัครเดชเป็นส่วนหนึ่งของทีมสารวัตรใหญ่ที่ต่อสู้กับอิทธิพลมืด ฉายานี้สะท้อนความกล้าของเขาในภารกิจ

“ผู้กองหน้าใสหัวใจน้ำดี” 💖
ฉายานี้มาจากความ หล่อหน้าใส และการเลือกยืนหยัดในความดีของอัครเดช แฟน ๆ เอ็นดูความน่ารักของเขา

“ดาวรุ่งแห่งสถานีพระลาน” 🌟
อัครเดชคือตำรวจหนุ่มที่เหมือน ดาวรุ่ง ในทีม การเติบโตของเขาทำให้แฟน ๆ ยกให้เป็นอนาคตของสถานี

ทำไมปราปต์ปฎลถึงปังในบทอัครเดช 😎
ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง คือนักแสดงหนุ่มที่แจ้งเกิดในวงการด้วยบทบาทที่เต็มไปด้วยพลัง เขาเคยฝากผลงานในละครช่อง 7HD และใน “สารวัตรใหญ่” เขาได้โชว์ทั้ง ฉากแอ็คชั่น และ การแสดงดราม่า ที่แสดงถึงการเติบโตของตัวละคร ปราปต์ปฎลนำความ เท่ และ ความจริงใจ มาสู่บทอัครเดช ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาเป็นตำรวจที่ทั้งน่าเชื่อถือและน่าติดตาม

ปราปต์ปฎลฝึก ฉากแอ็คชัน หนักมากเพื่อถ่ายทอดความเป็นตำรวจสืบสวน เขายังวลว่า “กลัวยิงปืนไม่เท่” แต่สุดท้ายฉากบู๊ออกมาเดือดสุด 🔫 เคมี กับ เอส-กันตพงศ์ (สารวัตรใหญ่) และ อนุวัตถร (เมธี) ทำให้ทีมตำรวจในเรื่องดูแข็งงแกร่งและน่าเชื่อถือ 🤝

ข้อคิดจากอัครเดช คือถึงเราจะเจอแรงกดดันแค่ไหน ถ้าเลือกยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง สุดท้ายเราจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง เหมือนที่อัครเดชเลือกข้างความยุติธรรม ⚖️

→ ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ รับบท ผู้การฯ อเนก

238787
ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์

จอมวายร้ายแห่งเมืองพระลาน 🕴️
ผู้การฯ อเนก หรือ พล.ต.ต.อเนก คือ ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ที่ดูเหมือนจะเป็นตำรวจระดับสูง แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็น หัวหน้าอิทธิพลมืด ที่ครองเมืองพระลาน 😱 เขาคือตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง การคอร์รัปชัน ส่วย และ ธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นค้ายา การพนัน หรือการยึดที่ดินชาวบ้าน อเนกคือตัวร้ายที่ทั้ง ฉลาด เจ้าเล่ห์ และ โหด ทำให้เขาเป็นศัตรูที่น่ากลัวสุด ๆ สำหรับสารวัตรใหญ่

ลักษณะเด่นของผู้การฯ อเนก
เจ้าแห่งคอร์รัปชัน อเนกคือ หัวหน้าใหญ่ ที่ควบคุมเครือข่ายส่วยและอิทธิพลมืดในเมือง เขาคอยสั่งการ รองฯ ทรัพย์อนันต์ (นันทศัย พิศลยบุตร) และทำงานร่วมกับ กำนันฉลองโชค (สุเมธ องอาจ) และ เสี่ยจาตุรนต์ เพื่อรักษาอำนาจ 💰 ฉากที่เขานั่งในห้องลับสั่งการลูกน้องคือโคตรน่ากลัว

อเนกไม่เคยลังเลที่จะ กำจัด ใครก็ตามที่ขวางทาง เขาใส่ร้ายสารวัตรใหญ่และข่มขู่ทุกคนที่กล้าท้าทาย การแสดงของอาร์ตทำให้คนดูรู้สึกว่าเขา ร้ายจนเข้ากระดูก 😈 อเนกคือ จอมวางแผน ที่คอยวางหมากให้สารวัตรใหญ่ติดกับ เขาใช้ทั้งอำนาจและเล่ห์เหลี่ยมเพื่อรักษาตำแหน่งและผลประโยชน์ ฉากที่เขาปะทะคารมกับใหญ่คือเดือดสุด ๆ ⚔️

อเนกปรากฏตัวในชุดตำรวจที่ เนี๊ยบกริบ แต่ซ่อนความชั่วไว้ข้างใน การแสดงของอาร์ตในลุคผู้การคือทั้งเท่และน่ากลัวในเวลาเดียวกัน 😎 

อาร์ต-ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ ถ่ายทอดบทผู้การฯ อเนกได้แบบ สุดยอด!นี่เป็นครั้งแรกที่อาร์ตเล่นบท ตัวร้าย ในละครช่อง 7 และเขาก็ทำได้ดีจนคนดูเกลียดจนเข้ากระดูก ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “อาร์ตนำความน่าเกรงขามและความร้ายกาจมาสู่บทผู้การฯ อเนกได้เป๊ะ” 😊

ฉายาของผู้การฯ อเนก ตัวร้ายที่แฟน ๆ เกลียดแต่ทึ่ง 🌟
“ผู้การฯ สายมืด” 🖤
ฉายานี้มาจากการที่อเนกเป็น ตำรวจที่อยู่ในเงามืด เขาคือหัวหน้าใหญ่ของการคอร์รัปชันที่ครองเมือง

“ราชาแห่งอิทธิพล” 👑
อเนกคือ จอมอิทธิพล ที่ควบคุมทุกอย่างในพระลาน ฉายานี้สะท้อนความยิ่งใหญ่และความร้ายของเขา

“จอมวายร้ายแห่งกำแพงเพชร” 😈
ด้วยความโหดและเล่ห์เหลี่ยม อเนกคือ วายร้ายตัวท็อป ของจังหวัด แฟน ๆ เลยตั้งฉายานี้ให้

“ตำรวจร้ายสุดเนี๊ยบ” 🕴️
อเนกมีลุค ตำรวจเนี๊ยบ แต่ใจร้ายสุด ๆ ฉายานี้สะท้อนความเท่ผสมความชั่วของเขา

“ศัตรูตัวฉกาจของสารวัตรใหญ่” ⚔️
อเนกคือ คู่ปรับหลัก ของสารวัตรใหญ่ การปะทะกันในเรื่องทำให้แฟน ๆ ตั้งฉายานี้ให้

ทำไมอาร์ตถึงปังในบทผู้การฯ อเนก 😎
อาร์ต-ศุภวัฒน์ อ่ำประสิทธิ์ คือนักแสดงลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่คร่ำหวอดในวงการมานาน เขาเริ่มจากงานนายแบบในนิวยอร์กและแจ้งเกิดในละคร เพชรตาแมว (2542) ก่อนมีผลงานดังอย่าง สะพานดาว และ โสนบานเช้า ใน “สารวัตรใหญ่” อาร์ตพลิกบทบาทจากพระเอกมาเป็น ตัวร้าย ครั้งแรก และเขาก็ทำได้ดีจนคนดูเกลียดผู้การฯ อเนกจนเข้ากระดูก

อาร์ตเตรียมตัวหนักเพื่อบทผู้การฯ อเนก เขาศึกษาการแสดงแบบ ตัวร้ายที่เย็นชาแต่ทรงพลัง โดยเน้น สายตา และ น้ำเสียง ที่น่ากลัว 😏 เคมี กับ นันทศัย พิศลยบุตร (รองฯ ทรัพย์อนันต์) และ สุเมธ องอาจ (กำนันฉลองโชค) ทำให้ฉากของกลุ่มตัวร้ายดูเข้มข้นและน่ากลัว 💼

ข้อคิดจากผู้การฯ อเนก คืออำนาจและเงินอาจทำให้ครองเมืองได้ชั่วคราว แต่ความชั่วไม่เคยชนะความดี เหมือนที่อเนกต้องพบจุดจบเพราะสารวัตรใหญ่และพลังของชาวบ้าน ⚖️

→ วสุ แสงสิงแก้ว รับบท หมู่ปราการ

วสุ แสงสิงแก้ว

ตำรวจสายบู๊ที่เดือดสุดในสถานีพระลาน 💥
หมู่ปราการคือ ตำรวจสายตรวจ-ปราบปราม ประจำ สถานีตำรวจอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 เขาคือลูกน้องคนสำคัญในทีมของ สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) และทำงานเคียงข้าง ร.ต.อ.เมธี (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) และ ร.ต.อ.กอบเกียรติ (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) เพื่อปราบเหล่าร้าย หมู่ปราการอาจจะยศแค่ หมู่ แต่บอกเลยว่าเขา ไม่ใช่สายกาก ๆ เขาคือตำรวจที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์

ลักษณะเด่นของหมู่ปราการ
สายบู๊ตัวพ่อ หมู่ปราการคือ นักสู้แห่งสถานี เขาเก่งฉากแอ็คชั่น ไม่ว่าจะบุกจับโจรหรือปะทะผู้ร้าย ฉาก เผาโรงพัก ที่เขาลุยเดี่ยวท่ามกลางความโกลาหลคือ ซีนฮิต ที่คนพูดถึงในโซเชียล 🔥หมู่ปราการพร้อมเผชิญหน้ากับผู้ร้ายทุกคน ไม่ว่าจะเจอ กำนันฉลองโชค (สุเมธ องอาจ) หรือ เสี่ยจาตุรนต์ เขาก็ไม่เคยถอย 💪

บุคลิกของหมู่ปราการคือ พูดน้อยแต่ต่อยหนัก เขาตรงไปตรงมา แต่แฝงด้วยความดุดันที่ทำให้คนดูรู้สึกว่า “หมู่คนนี้ของจริง” 😤 หมู่ปราการคือ กำลังสำคัญ ในทีมสารวัตรใหญ่ เขาคอยช่วยสืบสวน จับกุม และสนับสนุนภารกิจ ทำให้ทีมดูแข็งแกร่งและเข้มข้น 🤝 

วสุ แสงสิงแก้ว ถ่ายทอดบทหมู่ปราการได้แบบ เดือดสุด เขาเล่นทั้งความ กล้าหาญ ในฉากบู๊และความ ดุดัน ในบทสนทนา ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาคือตำรวจสายลุยที่แท้ทรู ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “วสุนำพลังแอ็คชั่นและความเป็นตำรวจสายบู๊มาเติมเต็มบทหมู่ปราการได้เป๊ะ” 😊

ฉายาของหมู่ปราการ ตำรวจสายบู๊ที่แฟน ๆ รัก 🌟
“หมู่บู๊เดือด” 🔥
ฉายานี้มาจากความ ดุเดือด ในฉากแอ็คชั่น โดยเฉพาะซีน เผาโรงพัก ที่หมู่ปราการลุยเดี่ยวจนกลายเป็นไวรัล

“ตำรวจสายลุยแห่งพระลาน” 💪
หมู่ปราการคือตำรวจที่ พร้อมลุย ทุกภารกิจในเมืองพระลาน ฉายานี้สะท้อนความกล้าของเขา

“นักสู้เผาโรงพัก” 🔥
ฉายานี้มาจากซีน เผาโรงพัก ที่กลายเป็นตำนาน หมู่ปราการคือคนที่ทำให้ฉากนี้เดือดจนคนดูกรี๊ด

“หมู่ดุเดือด” 😤
ด้วยบุคลิก ตรงไปตรงมา และความ ดุดัน ฉายานี้เหมาะกับหมู่ปราการสุด ๆ

“กำลังเสริมสุดแกร่ง” 🛡️
หมู่ปราการคือ ฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยทีมสารวัตรใหญ่ ฉายานี้สะท้อนความแข็งแกร่งของเขาในทีม

ทำไมวสุถึงปังในบทหมู่ปราการ 😎
วสุ แสงสิงแก้ว คือนักแสดงที่เกิดมาเพื่อบท ตำรวจสายบู๊! เขามีผลงานในวงการมานาน และใน “สารวัตรใหญ่” เขาได้โชว์สกิลทั้ง ฉากแอ็คชั่น และ ความดุดัน ที่ทำให้หมู่ปราการกลายเป็นตัวละครที่แฟน ๆ จดจำ วสุนำความ เท่ และ พลัง มาสู่บทนี้ ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาคือตำรวจสายลุยของจริง

วสุฝึก ฉากแอ็คชั่น หนักมากเพื่อบทหมู่ปราการ เขาต้องเรียนรู้การใช้ ปืน และ ต่อสู้ เพื่อให้ฉากบู๊สมจริง โดยเฉพาะซีน เผาโรงพัก ที่ถ่ายท่ามกลางควันและไฟ 🔥 เคมี กับ เอส-กันตพงศ์ (สารวัตรใหญ่), อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ (เมธี) และ สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ (กอบเกียรติ) ทำให้ทีมตำรวจในเรื่องดูแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ 🤝

ข้อคิดจากหมู่ปราการ คือถึงยศจะเล็ก แต่ถ้ามีใจที่กล้าและทุ่มเท คุณก็เป็นฮีโร่ได้ เหมือนที่หมู่ปราการลุยเคียงข้างสารวัตรใหญ่เพื่อความยุติธรรม ⚖️

→ ราตรี วิทวัส รับบท ครูแสงดาว

hq720
ราตรี วิทวัส

ครูใจดีที่เป็นแสงสว่างของเมืองพระลาน 🌟
ครูแสงดาวคือ ครูสาว ที่สอนในโรงเรียนประจำอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย อาชญากรรม และ อิทธิพลมืด 😱 เธอเป็นตัวละครที่ อบอุ่น และ ใจดี คอยดูแลเด็ก ๆ และเป็นที่พึ่งของชาวบ้านในยามยาก เธอยังมีบทบาทในการสนับสนุน สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) และ คำแพง (ทัศนียา การสมนุช) ในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ครูแสงดาวคือตัวแทนของ ความหวัง ในเมืองที่มืดมน

ลักษณะเด่นของครูแสงดาว
ใจดีและอบอุ่น ครูแสงดาวคือ แม่พระ ของเด็ก ๆ และชาวบ้าน เธอคอยให้คำแนะนำและปลอบใจทุกคนที่เจอปัญหา ฉากที่เธอคุยกับเด็กนักเรียนคือโคตรซึ้ง 🥰 ถึงจะเป็นครู แต่ครูแสงดาวไม่ธรรมดา เธอแต่งตัวสวย มีสไตล์ และมีความ เปรี้ยว ที่ทำให้คนดูรู้สึกว่า “ครูคนนี้แซ่บเวอร์” 😏

ครูแสงดาวอาจไม่ใช่สายบู๊ แต่เธอกล้าที่จะยืนหยัดในความถูกต้อง เธอคอยช่วยเหลือสารวัตรใหญ่ในแบบที่ครูทำได้ เช่น ให้ข้อมูลสำคัญหรือปกป้องชาวบ้าน 💪 ครูแสงดาวโฟกัสที่ การช่วยเหลือผู้อื่น และไม่มีเส้นเรื่องรัก ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ บริสุทธิ์ใจ และน่าชื่นชมสมชื่อ แสงดาว เธอคือแสงที่ส่องสว่างให้ชาวบ้านในเมืองที่เต็มไปด้วยความมืด เธอช่วยสร้างความหวังและกำลังใจให้ทุกคน 🌌

แตน-ราตรี วิทวัส ถ่ายทอดบทครูแสงดาวได้แบบ สุดปัง เธอใช้ รอยยิ้ม และ น้ำเสียง ที่อบอุ่นทำให้คนดูรู้สึกถึงความใจดี แต่ก็แฝงความเปรี้ยวที่ทำให้ครูแสงดาวไม่จืดชืด ผู้จัด เติร์ก-คหบดี กัลย์จาฤก ชมว่า “แตนคือตัวเลือกที่ลงตัวสุดสำหรับบทครูที่ทั้งใจดีและมีเสน่ห์” 😊

ฉายาของครูแสงดาว ครูสาวที่แฟน ๆ หลงรัก 💖
“ครูแสงสว่าง” 🌟
ฉายานี้มาจากชื่อ แสงดาว และบทบาทที่เป็นแสงสว่างของชุมชน เธอคือครูที่นำความหวังมาให้ทุกคน

“ครูสาวแซ่บ” 😏
ด้วยลุคสวยและสไตล์ที่เปรี้ยว ครูแสงดาวเลยได้ฉายานี้ แฟน ๆ ชอบความแซ่บของเธอในบทครู

“แม่พระแห่งพระลาน” 🙏
ครูแสงดาวคือ ที่พึ่ง ของเด็ก ๆ และชาวบ้าน ฉายานี้สะท้อนความใจดีและจิตใจที่งดงามของเธอ

“ครูใจนักสู้” 💪
ถึงไม่ใช่สายบู๊ แต่ครูแสงดาวกล้าช่วยเหลือสารวัตรใหญ่ในแบบของเธอ ฉายานี้ยกให้ความกล้าหาญของเธอ

“ดาวเจิดจรัสของโรงเรียน” ✨
ครูแสงดาวคือ ดาวเด่น ของโรงเรียนและชุมชน ฉายานี้สะท้อนความสว่างและเสน่ห์ของเธอ

ทำไมแตนถึงปังในบทครูแสงดาว 😎
แตน-ราตรี วิทวัส คือนักแสดงและนางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่อยู่ในวงการมานาน เธอเริ่มจากถ่ายแบบในนิตยสาร Yours เมื่อปี 2529 และมีผลงานโฆษณา เช่น ตู้เย็นมิตซูบิชิ ก่อนผันตัวมาเป็นนักแสดง ใน “สารวัตรใหญ่” แตนได้โชว์ฝีมือการแสดงที่ทั้ง อบอุ่น และ มีเสน่ห์ ทำให้ครูแสงดาวกลายเป็นตัวละครที่แฟน ๆ รัก

แตนเตรียมตัวหนักเพื่อบทครูแสงดาว เธอศึกษาการแสดงแบบ ครูใจดี โดยเน้น รอยยิ้ม และ น้ำเสียง ที่ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่น 😊 เคมี กับ ทัศนียา การสมนุช (คำแพง) และ เอส-กันตพงศ์ (สารวัตรใหญ่) ทำให้ฉากที่ครูแสงดาวช่วยเหลือทีมดูน่ารักและน่าเชื่อถือ 🤝

ข้อคิดจากครูแสงดาว คือถึงเราจะอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ถ้ามีใจที่อยากช่วยเหลือผู้อื่น เราก็สามารถเป็นแสงสว่างให้คนรอบข้างได้ เหมือนที่ครูแสงดาวทำเพื่อชาวบ้านและเด็ก ๆ ✨

→ นึกคิด บุญทอง รับบท จ่าบุญเชิด

1024 dg6i85fj6bbcgfh8daaef
นึกคิด บุญทอง

ตำรวจขี้เมาที่พัฒนาสู่ฮีโร่ตัวเล็ก 🍻➡️🛡️
จ่าบุญเชิดคือ จ่าสิบตำรวจ ประจำ สถานีตำรวจอำเภอพระลาน จังหวัดกำแพงเพชร เมืองที่เต็มไปด้วย การคอร์รัปชัน และ อิทธิพลมืด 😱 ในช่วงแรก จ่าบุญเชิดคือ ตำรวจสายขี้เมา ที่ชีวิตพังสุด ๆ ติดเหล้า ขี้หึงเมีย และมีปัญหาครอบครัวเพราะความเสื่อมสมรรถภาพ 😅 แต่เมื่อได้เจอ สารวัตรใหญ่ เวโรจน์ (เอส-กันตพงศ์) ที่ให้โอกาสและจุดประกาย จ่าก็ค่อย ๆ เปลี่ยนตัวเองกลายเป็น ตำรวจน้ำดี ที่ช่วยทีมปราบอิทธิพลมืด

ลักษณะเด่นของจ่าบุญเชิด
ขี้เมาแต่มีจิตใจดี ตอนแรกจ่าบุญเชิดคือ ขี้เหล้าตัวพ่อ ฉากที่เขานั่งกินเหล้าในสถานีคือโคตรฮา 😂 แต่ลึก ๆ เขามีจิตใจดีและอยากทำสิ่งที่ถูกต้อง เพียงแต่หลงทางนิดหน่อย จ่าบุญเชิดระแวงว่า แอ๋ว (วรารัตน์ เทพโสธร) เมียของเขาจะมีชู้ เพราะตัวเองเสื่อมสมรรถภาพ ฉากที่เขาหึงเมียคือทั้งขำทั้งสงสาร 😜

จากจ่าขี้เมา จ่าบุญเชิดได้รับโอกาสจากสารวัตรใหญ่ให้พิสูจน์ตัวเอง เขาค่อย ๆ เลิกเหล้าและกลายเป็น กำลังเสริม ของทีมในการสืบสวนและจับกุมผู้ร้าย ฉากที่เขากลับตัวคือซึ้งสุด ๆ 😢 จ่าบุญเชิดคือ ตัวละครสีสัน ที่ทำให้สถานีพระลานมีรอยยิ้ม คำพูดและท่าทางของเขาในฉากคอมเมดี้คือขโมยซีน

จ่ามีครอบครัวที่ลำบาก เมียต้องขายของเลี้ยงลูก ทำให้เขามีมิติเป็น คนธรรมดา ที่คนดูเข้าถึงได้

หนึ่ง-นึกคิด บุญทอง ถ่ายทอดบทจ่าบุญเชิดได้แบบ สุดยอด เขาเล่นทั้งความ ฮา ในฉากเมา ความ ดราม่า ในฉากครอบครัว และความ จริงจัง ในฉากที่กลับตัว ทำให้คนดูทั้งขำและซึ้ง ผู้กำกับ สโนวี่-พลชย เมธา ชมว่า “พี่หนึ่งทำให้จ่าบุญเชิดเป็นตัวละครที่คนดูรักและเอาใจช่วย” 😊

ฉายาของจ่าบุญเชิด ตำรวจสายฮาที่แฟน ๆ เอ็นดู 🌟
“จ่าขี้เมา” 🍻
ฉายานี้มาจากภาพลักษณ์แรกของจ่าบุญเชิดที่ ติดเหล้า หนักมาก ฉากเมาในสถานีคือตำนาน

“จ่าสายฮาแห่งพระลาน” 😂
จ่าบุญเชิดคือ ตัวตบมุก ของสถานี ฉายานี้สะท้อนความสนุกที่เขานำมาให้คนดู

“จ่ากลับใจ” 🙏
ฉายานี้ยกให้ พัฒนาการ ของจ่าที่เลิกเหล้าและกลายเป็นตำรวจน้ำดี คนดูชื่นชมการเปลี่ยนแปลงของเขา

“จ่าหึงโหด” 😣
ด้วยความขี้หึงเมียสุดขีด ฉายานี้เหมาะกับจ่าบุญเชิดในช่วงแรกของเรื่อง ฉากหึงแอ๋วคือขำกลิ้ง

“จ่าตัวเล็กใจใหญ่” 💖
ถึงจะเป็นแค่จ่า แต่จ่าบุญเชิดมี หัวใจที่ใหญ่ เมื่อได้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ฉายานี้สะท้อนความน่ารักของเขา

ทำไมหนึ่งถึงปังในบทจ่าบุญเชิด 😎
หนึ่ง-นึกคิด บุญทอง คือนักแสดงและนักร้องมากฝีมือที่อยู่ในวงการมานาน เขาเริ่มจากเป็นสมาชิกวง มะลิลา บราซิลเลี่ยน ในแนวเพลงละติน กับค่ายคีตาเรคคอร์ดส ออกอัลบั้มแรก “กล้าได้กล้าเสีย” ปี 2533 ที่ฮิตสุด ๆ ใน “สารวัตรใหญ่” พี่หนึ่งได้โชว์ฝีมือทั้ง สายคอมเมดี้ และ สายดราม่า ทำให้จ่าบุญเชิดกลายเป็นตัวละครที่แฟน ๆ จำได้

พี่หนึ่งเตรียมตัวหนักเพื่อบทจ่าบุญเชิด เขาศึกษาการแสดงแบบ ตัวละครขี้เมา โดยเน้น ท่าทาง และ น้ำเสียง ที่ทั้งฮาและน่าสงสาร😅 เคมี กับ วรารัตน์ เทพโสธร (แอ๋ว) ทำให้ฉากครอบครัวของจ่าดูทั้งขำและซึ้ง ส่วนเคมีกับ เอส-กันตพงศ์ (สารวัตรใหญ่) ก็ทำให้ฉากที่จ่าได้รับโอกาสดูน่าประทับใจ 🤝

ข้อคิดจากจ่าบุญเชิด คือไม่ว่าเราจะหลงทางแค่ไหน ถ้ามีโอกาสและตั้งใจเปลี่ยนตัวเอง เราก็สามารถเป็นคนที่ดีขึ้นได้ เหมือนที่จ่ากลับตัวเพื่อครอบครัวและความยุติธรรม ⚖️