Posted: วันที่ 26 กรกฎาคม ปี 2020
เรื่องราวของนางแก้วมณีอดีตนางฟ้าบนสวรรค์ที่ถูกสาปให้มาเกิดเป็นหญิงสาวชาวบ้านที่มีใบหน้าเป็นม้า วันหนึ่งพระปิ่นทองพระโอรสของท้าวภูวดลแห่งเมืองมิถิลาได้ออกมาเล่นว่าวด้านนอกพระราชวัง ว่าวพระปิ่นทองเกิดสายป่านขาดลอยไปตกที่ทุ่งนา นางแก้วมณีเห็นจึง เก็บกลับไปไว้ที่บ้าน เมื่อพระปิ่นทองมาขอว่าวคืนนางแก้วได้ขอให้พระปิ่นทองรับตนเองไปเป็นพระมเหสี ด้วยความอยากได้ว่าวคืนพระปิ่นทองจึงตกปากรับคำไปส่งเดช จนในที่สุดนางแก้วมณีก็ได้เข้าไปอยู่ในวังแต่ก็ต้องถูกกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา โดยท้าวภูวดลให้นางแก้วมณีไปตัดเขาพระสุเมรุ ระหว่างทางก็ได้พระฤๅษีช่วยและพระฤๅษีนี้เองเป็นผู้ที่ถอดหน้าม้าและมอบเรือเหาะกับมีดโต้วิเศษไว้ให้ เมื่อได้เขาพระสุเมรุกลับมาท้าวภูวดลสั่งให้พระปิ่นทองเดินทางไปยังเมืองโรมวิถีเพื่ออภิเษกกับเจ้าหญิงทัศมาลี และพระปิ่นทองยังยื่นคำขาดว่าหากกลับมา นางแก้วมณียังไม่มีลูกกับพระองค์ก็จะให้นำตัวไปประหารเสีย
Posted: วันที่ 7 พฤษภาคม ปี 2021
ความเคียดแค้นพยาบาทไม่เคยสร้างคุณประโยชน์ให้ใคร มีแต่ทำลายและสร้างความทุกข์ ความฉิบหายแก่ทั้งตนเองและผู้คนรอบข้าง ทุกคนต่างรู้ดีแต่กว่าจะเข้าใจลึกซึ้งก็มักจะสายเกินไปเสียแล้ว เฉกเช่นผู้หญิงที่ชื่อ สร้อย
ปี 2521 “คนอย่างกู อีสร้อย ไม่มีวันยกโทษให้ไอ้อีหน้าไหนทั้งนั้น ใครทำอะไรกับกูไว้ พวกมันจะต้องชดใช้เป็นร้อยเท่าพันเท่า” ความแค้นที่ถูกช่วงชิงคนรักมันหนักยิ่งกว่าขุนเขา แต่คนชั้นต่ำอย่างอีสร้อยจะมีปัญญาไปทำอะไรได้ เมื่อคุณหญิงแม่ของก้องกิจ คนรักของหล่อน ประกาศิตให้ลูกชายคนเดียวแต่งงานกับจินดา ลูกสาวของผู้มีพระคุณ เมียบ่าวอย่างอีสร้อยจึงถูกเฉดหัวลงจากเรือนไป แต่ด้วยคำสัญญาจากปากของก้องกิจว่าจะไม่ทอดทิ้งหล่อน ทำให้สร้อยยอมข่มใจไม่อาละวาด