หมวดหมู่: ละครแนวดราม่า

จากนวนิยายแนวเสียดสีสังคมและการเมือง บทประพันธ์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ถ่ายทอดเรื่องราวสังคมและการเมืองในยุคที่มีการใช้นโยบายต่อต้านลัทธิ “คอมมิวนิสต์” มีชนชั้นนายทุน และชนชั้นกรรมาชีพเกิดขึ้น โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่าน 2 ตัวละครหลัก นายแกว่น แก่นกำจร แสดงโดย ปพนธ์วรรธณ์ เสาว์ทองหยุ่น ชายหนุ่มที่มีอุดมการณ์แนวทางการต่อสู้กับความยากจน ยึดมั่นในวิถีทางของตัวเอง และรอคอยวันแห่งความสำเร็จ เพราะต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้รอดพ้นจาก “สังคมรีดเลือด”

“มณียง” AE สาวที่สร้างรูปลักษณ์สวยงามเคลือบตัวเองไว้เพื่อให้ได้ทุกสิ่งที่ต้องการ มีชายหนุ่มเข้ามาในชีวิตเธอมากมาย ทั้ง “บูรณะ” เจ้านายที่หวังจะเคลมเธอ “กรรณ” คาสโนว่าตัวพ่อที่ใช้เงินซื้อทุกอย่าง “โชว” นายแบบหนุ่มหน้าใหม่ที่กำลังแจ้งเกิด แต่มีเพียงความดีและจริงใจของเด็กหนุ่มอย่าง “ราวี” เท่านั้นที่สั่นคลอนใจของมณียงได้ การมีราวีทำให้มณียงรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นความรัก แต่เมื่อมี “ชลาใส” ก้าวเข้ามา ความสดใสที่ไร้ “เปลือก” เคลือบไว้กำลังทำให้มณียงอาจต้องเสียราวีไป มณียงต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาเปลือกของเธอและหัวใจของราวีไว้ แม้สุดท้ายมันอาจจะทำลายทั้งชีวิตและคุณค่าในตัวเธอเอง

เมื่อความแค้นของตระกูลเมียน้อย เจ็บปวดจนต้องกลับมาทวงแค้นตระกูลเมียหลวง
เรื่องราวสงครามแค้นระหว่าง 2 ตระกูลจึงเริ่มต้นขึ้น

“อรนภา” เมียน้อยของเจ้าสัวแห่งธุรกิจดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ถูก “กรรณิการ์” ที่เป็นเมียหลวง ทำร้ายกลั่นแกล้งสารพัดมาตลอด
จนสุดท้ายหลังจากเจ้าสัวตาย เธอก็โดนกรรณิการ์ไล่ออกจากบ้านไปในที่สุด
ทำให้อรนภาโกรธแค้นบ้านนี้เป็นอย่างมาก

เรื่องราว ความรัก ความสัมพันธ์ของครอบครัว เมื่อมีคนที่รักป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ บางครั้งการรับมือก็ยากเกินจะรับไหว เมื่อ 2 ครอบครัว ต้องดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ที่จำไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง… “แม้ความทรงจำจะเลือนหาย แต่ความรักยังคงอยู่มิลืมเลือน”

ในท่ามกลางความรัก ความงดงาม ความเก่งกาจสามารถของมนุษย์ เราทุกคนมีซอกมุมอันดำมืดเลวร้ายนี้อยู่ ซอกมุมที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ความโกรธแค้นชิงชัง ความอาฆาตพยาบาท สิ่งสำคัญก็คือ เราจะอยู่กับมันอย่างไรต่างหาก อยู่อย่างทำร้ายคนอื่นและทำร้ายตัวเองให้น้อยที่สุด

ธิปไตย เจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดัง หนีความวุ่นวายจากกรุงเทพฯ มาพักผ่อนที่เกาะสมุย และได้รู้จักกับ ปริตา ที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปิดเทอมสุดท้าย การพบกันครั้งนี้ ทำให้มิตรภาพของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างลึก ๆ ในใจ ปริตามีเพื่อนสนิทในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน คือ รัญชิตา กับปัทมาศ ทั้ง 3 คนมีบุคลิกและนิสัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ครอบครัวของสองเพื่อนสนิทไม่ค่อยชอบปริตาเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น คุณหญิงชาลินี แม่ของรัญชิตา ที่รังเกียจฐานะและไม่พอใจที่พลศิษฏ์ น้องชายของรัญชิตาชอบในตัวปริตา ด้านปัทมาศเองก็ชอบพออยู่กับปริเทพ พี่ชายของปริตา แต่ก็ถูกพัชรินทร์ แม่ของปัทมาศบังคับและกีดกัน

อมร กับ นวล ค้าเจริญ เจ้าของร้านบะหมี่ลือชื่อ มีลูกชายหญิง 3 คน คือ ฟ้ามุ่ย (น้ำฝน), ฟ้าลั่น และฟ้าใส โดยอมรและนวลฝึกลูก ๆ ทั้งสามให้ช่วยงานในร้านตั้งแต่เล็กจนโต จนกิจการเจริญรุ่งเรือง พวกเขาขยายร้านและยังทำโรงงานผลิตบะหมี่ขนาดเล็ก ๆ ส่งขายอีกด้วย โดยให้ฟ้ามุ่ยเป็นคนดูแลกิจการในร้านเป็นหลัก เธอจึงสมัครใจที่จะเรียนจบแค่ชั้น ม.6 แล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างเต็มตัว เพื่อเสียสละให้น้อง ๆ ทั้งสองได้เรียนหนังสือกันเต็มที่ ดังนั้นฟ้าลั่นกับฟ้าใสจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย พอจบแล้วฟ้าลั่นก็กลับมาดูแลโรงงาน ส่วนฟ้าใสนั้นช่วยนวลดูแลด้านบัญชีทั่วไป

การต่อสู้ชิงดีชิงเด่นในวงการธุรกิจ การแข่งขันเพื่อแย่งชิงความเป็นสุดยอดผู้นำธุรกิจกำลังร้อนระอุ ระหว่าง 2 ตระกูลมหาอำนาจ วีรยะวาณิช และ ธีรกิจกานต์กุล แข่งกันตั้งแต่รุ่นพ่อถึงรุ่นลูก ทำให้ อนาวิน และ มิลิน ต้องเผชิญหน้ากันในฐานะคู่แข่ง เกมที่ทุกคนเดิมพันด้วยศักดิ์ศรี เกมที่ทุกคนต้องแลก ต้องเลือก ต้องลวง เพื่อไปให้ถึงเส้นชัย เป็นเกมที่ทำให้หัวใจของเธอและเขาต้องหวั่นไหวกับไฟของความปรารถนา

เรื่องราวของ อรวรรณ (แหม่ม คัทลียา) นางเอกภาพยนตร์ที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตก แต่แล้วจู่ ๆ อรวรรณกลับต้องมาเจอเรื่องไม่คาดคิด และเธอถูกคนทั้งวงการตราหน้าว่านอกใจ อิสร์ (แท่ง ศักดิ์สิทธิ์) พระเอกคู่ขวัญและว่าที่เจ้าบ่าวในชีวิตจริง ทำให้อิสร์โกรธถึงขั้นประกาศยกเลิกงานแต่งงาน โดยหารู้ไม่ว่า รุ่งระวี (แอน สิเรียม) นางเอกคู่แข่ง เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง !!