ซีรีส์ เพียงสบตา Eye Contact The Series 2568 เรื่องราวโรแมนติกดราม่าในรั้วมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยความบังเอิญ ความเข้าใจผิด และดราม่าจัดเต็ม เหมือนเอานิยายวายคลาสสิกมาผสมกับชีวิตวัยรุ่นสมัยใหม่ ใครชอบแนวศัตรูกลายเป็นคนรักต้องไม่พลาด แต่เตือนก่อนว่ามี twists เยอะจนบางทีงงได้เลย เรื่องราวของ “นุ” นักศึกษาปี 1 คณะอักษรศาสตร์ ที่ดูเนิร์ด ๆ สวมแว่นหนาเตอะ ชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เพราะชอบไร้ตัวตน แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อโดนรถของ “ซัน” นักศึกษาปี 2 คณะแพทยศาสตร์ หนุ่มฮอตประจำมหา’ลัย ขับเฉี่ยวในวันเปิดเรียน ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกเจอ ซันเป็นหัวโจกดาวเดือน มีแฟนคลับกรี๊ดกร๊าดไปหมด แต่จริง ๆ แล้วซันมีปมในใจเพราะทะเลาะกับ “เชน” รุ่นพี่ที่เคยเป็นเพื่อนสนิท แต่แย่งแฟนกันจนแตกหัก เชนเองก็เข้ามาช่วยนุหลังอุบัติเหตุ ทำให้ nุได้เพื่อนใหม่และเข้าไปพัวพันกับกลุ่มเพื่อนอย่าง “พลอย” และ “ริน” น้องสาวเชน
จากนั้นเรื่องยิ่งซับซ้อน เมื่อโลกเหวี่ยงให้นุกับซันมาเจอกันอีก จนเกิดอุบัติเหตุครั้งที่สองที่ทำให้นุเสีย “จูบแรก” ให้ซันโดยไม่ได้ตั้งใจ นี่แหละจุดเริ่มต้นของความรู้สึกแปลก ๆ ในใจทั้งคู่ ตามคำทำนายของหมอดูที่บอกว่านุจะเจอโชคร้าย 3 ครั้งแล้วกลายเป็นหนุ่มฮอต นุที่แว่นหักเลยถูกชวนไปประกวดเดือนคณะ เพราะทุกคนเห็นความหล่อที่ซ่อนไว้ ซันเองก็เข้าใกล้นุเพราะอยากแก้แค้นเชน คิดว่านุคือจุดอ่อน แต่สุดท้ายกลับตกหลุมรักจริง ๆ มีฉากร้อนแรงแบบคืนเร้าร้อน ซันสารภาพรัก แต่ดราม่ามาเมื่อนุโดนแฟนคลับซันรุมทำร้าย ซันมาช่วยแต่เจ็บตัว แล้วนุก็รู้ความจริงว่าซันเข้าใกล้เพราะเดิมพัน ทำให้ใจสลายไม่อยากเห็นหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น เปิดเผยว่านุไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นลูกคุณหนูบ้านรวย และมีอดีตในวัยเด็กกับซันด้วยซ้ำ! ส่วนเชนก็มีดราม่าของตัวเอง ถูก “จอร์น” เพื่อนเก่าคอยแก้แค้นเพราะเรื่องแฟนเก่า เรื่องราวเต็มไปด้วยความหึงหวง การเข้าใจผิด การต่อสู้เพื่อความรัก และบททดสอบต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยที่ดูใหญ่โตสมจริง มีฉากประกวดดาวเดือน การทำงานกลุ่ม และปาร์ตี้ที่นำไปสู่ twists ใหญ่ ๆ อย่างการทรยศ การลักพาตัว และแม้กระทั่งฉากรุนแรงแบบ non-con ในตอนหลัง ๆ ที่ทำให้เรื่องเข้มข้นแต่ก็ controversial
เรื่องนี้มีทั้งหวาน ดราม่า และ twists ที่ทำให้ติดตาม แต่ก็อาจทำให้บางคนรู้สึกว่ามัน over the top เกินไป ถ้าชอบ BL แนวมหาลัยคลาสสิก ลองดูแล้วจะติดใจ
ซีรีส์นี้มี 6 ตอนสั้น ๆ แต่พยายามยัดเรื่องหลายคู่มาก ทั้งมหาลัยและมัธยม ภาพสวย ฉากมหาวิทยาลัยดูใหญ่โตสมจริง ชุดนักแสดงเข้ากันดี นุดูเนิร์ดแต่ถอดแว่นหล่อ ซันเท่แบบแบดบอย นักแสดงหลักอย่างนิว ชุณวรรณ (ซัน) และแบงค์ ธรณินทร์ (นุ) เคมีดีนะ บทสนทนากัดกันสนุก แต่พอหวานก็หวานเว่อร์ เจมส์ จิรายุ (เชน) และโฟล์ค จักริน (จอร์น) ก็เล่นดี เพิ่มดราม่าได้ ส่วน supporting อย่างแอนท์ วรินดา (ริน) และนัท ธัญญรัตน์ (พลอย) ทำให้เรื่องมี GL น่ารัก ๆ ในตอนหลัง
จุดเด่นคือเคมีคู่หลัก Opposites attract ชัดเจน ซันฮอต นุขี้อาย แต่พออยู่ด้วยกันลงตัว ฉากโรแมนติกแบบจูบแรก คืนร้อนแรง ใน uncut บน WeTV ก็เร้าใจ บางคนบอก nostalgic เหมือน BL ยุค 2016-2019 เชยแต่สนุก การเดินเรื่องไหลลื่น ไม่ยืดเยื้อ ธีมสบตาที่เปลี่ยนชีวิตก็น่ารัก มี humor จากกลุ่มเพื่อนและประกวดดาวเดือน
ความรู้สึกต่อเนื่องคือความเพลิดเพลินจากเคมีระหว่างตัวละครหลัก ที่ทำให้ฉากโรแมนติกดูน่าติดตาม ความต่างระหว่างหนุ่มฮอตกับเนิร์ดสร้างเสน่ห์ แต่ดราม่าหนัก ๆ อย่างการทรยศและฉากรุนแรงกลับทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ โดยเฉพาะตอนที่ handle dark themes แบบไม่ละเอียดพอ ทำให้เกิดความผิดหวังว่าทำไมไม่ resolve ดีกว่านี้
ยิ่งดูยิ่งรู้สึก nostalgic กับ BL ยุคเก่า เชยแต่มีเสน่ห์ ทำให้ยิ้มได้จากฉากตลกและกลุ่มเพื่อน แต่ cliffhanger จบแบบค้างคาทำให้รู้สึกไม่สมบูรณ์ เหมือนเรื่องราวยังไม่จบจริง ๆ visuals สวยงามช่วยให้รู้สึก immersive ในโลกมหาวิทยาลัย แต่ writing messy ทำให้ความรู้สึก overall เป็นกลาง ๆ ไม่สุดทาง
ทำให้อยากกลับไปคิดถึงธีมสบตาที่เปลี่ยนชีวิต แต่ก็เตือนใจว่าความรักในซีรีส์อาจซับซ้อนเกินจริง สร้างแรงบันดาลใจให้มองหาความรักที่ communicate ดีกว่า
ซีรีส์ เพียงสบตา Eye Contact The Series 2568
ซีรีส์ เพียงสบตา Eye Contact The Series 2568 EP.1-6 ตอนจบWETV
ซีน ซีรีส์ เพียงสบตา Eye Contact The Series 2568
ซีรีส์ เพียงสบตา Eye Contact The Series 2568
คำถามที่ว่า “มีใครบ้างมั้ยที่คุณเพียงสบตา แล้วจะไม่มีวันลืมเขาไปชั่วชีวิต?” นี่แหละธีมหลักเลย จากอุบัติเหตุเล็กๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย มันก่อเกิดเรื่องราวระหว่างสองหนุ่มสุดต่างขั้ว “ซัน” (รับบทโดย นิว ชุณวรรณ หมั่นดี) เดือนคณะแพทย์ ปี 2 หัวโจกกลุ่มดาวเดือน หนุ่มฮอตที่ใครๆ ก็กรี๊ดกร๊าด กับ “นุ” (รับบทโดย แบงค์ ธรณินทร์ มโนสุดประสิทธิ์) หนุ่มเนิร์ดปี 1 คณะอักษรศาสตร์ ที่ชอบอยู่เงียบๆ สวมแว่นหนาเตอะ ดูไร้ตัวตนไปเลย แต่ชีวิตนุพลิกผันเพราะหมอดูทักว่าถ้าเจอซวย 3 ครั้ง จะกลายเป็นหนุ่มฮอต
ตอนแรกเลย นุโดนซวยตั้งแต่วันเปิดเรียน โดนรถซันเฉี่ยวแบบจังๆ ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่สบตาแรก นุเจ็บตัว แถมเข้าเรียนสาย แต่โชคดีมีรุ่นพี่ใจดีอย่าง “เชน” (เจมส์ จิรายุ วงศ์ฟู) อดีตเพื่อนสนิทของซันที่ทะเลาะกันเพราะเรื่องแย่งแฟนเก่า โผล่มาช่วย พานุไปหาหมอ แล้วชวนนุเข้ากลุ่มทำงานกับ “พลอย” และ “ริน” น้องสาวเชน ทำให้ชีวิตนุมีเพื่อนขึ้นมาบ้าง แต่ซันนี่แหละตัวซวยตัวจริง เพราะซันมีปมกับเชนหนักมาก เชนเคยแย่งแฟนซัน แล้วยังแย่งแฟนเพื่อนซันอีก ซันเลยอยากแก้แค้น อยากจัดการเชนให้ได้
แล้วความซวยครั้งที่สองมาเลย โลกเหวี่ยงให้นุกับซันเจอกันอีก นุได้ยินแผนซันจะจัดการเชน เลยโดนซันหาเรื่องจนแว่นหัก! พอนุกลับห้องเรียนแบบไม่มีแว่น ทุกคนเห็นความหล่อที่ซ่อนไว้ รุ่นพี่ปี 3 ที่หาตัวแทนประกวดดาวเดือนเลยชวนนุไปประกวดเดือนคณะอักษรศาสตร์ นุจากเนิร์ดกลายเป็นว่าที่เดือนฮอตทันที แต่ซันยังไม่หยุด ทำให้นุเสีย “จูบแรก” โดยบังเอิญในอุบัติเหตุครั้งต่อมา จูบนี้นี่แหละที่จุดประกายความรู้สึกแปลกๆ ในใจทั้งคู่ ซันที่ห้าวๆ เท่ๆ เริ่มสนใจนุจริงๆ แต่ตอนแรกซันเข้าใกล้นุเพราะอยากใช้เป็นเครื่องมือชนะเชน
เรื่องยิ่งร้อนแรงขึ้น หลังคืนเร้าร้อนที่ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน ซันสารภาพรักนุ แต่ดราม่ามาเลย นุโดนแฟนคลับซันรุมทำร้ายเพราะหึง ซันรีบมาช่วย ยอมเจ็บตัวปกป้อง แต่แล้วนุรู้ความจริงว่าซันเข้าใกล้เพราะเดิมพันกับเชน นุใจสลาย ไม่อยากเห็นหน้าซันอีก ยิ่งไปกว่านั้น ซันรู้ว่านุไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นลูกคุณหนูบ้านรวย และเคยมีอดีตวัยเด็กด้วยกัน สบตากันตอนเด็กๆ ที่สวนสาธารณะ ความจริงเปิดเผย ซันพยายามง้อ แต่สายไปเพราะนุเกลียดซันแล้ว
ส่วนเชนก็ไม่รอดดราม่านะ นอกจากปวดใจจากนุ (ที่เชนแอบชอบ?) ยังโดน “จอร์น” (โฟล์ค จักริน แสงเรือน) อดีตเพื่อนรักคอยแก้แค้น เพราะเชนเคยเข้าใกล้แฟนเก่าจอร์น จอร์นเก็บดอกเบี้ยความแค้น ชีวิตเชนยิ่ง乱 เรื่องราวเต็มไปด้วยการหึงหวง การทรยศ การเข้าใจผิด การประกวดดาวเดือนที่นำไปสู่ twists ใหญ่ๆ อย่างการลักพาตัว การถูกวางยา และแม้กระทั่งฉากรุนแรงที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญความจริง สุดท้ายทั้งซันกับนุต้องตามหาเสียงในหัวใจตัวเอง ก้าวผ่านอุปสรรคเพื่อความรักแท้จริง
นักแสดงเล่นดีมากเลย นิวเล่นซันออกมาเท่ ห้าว แต่มีมุมอ่อนโยน แบงค์เล่นนุสุภาพ น่ารัก เนิร์ดแต่หล่อ เคมีเข้ากันสุดๆ ชุดคอสตูมก็ดี ชุดนักศึกษาสุภาพแต่เท่ ฉากมหา’ลัยใหญ่โตสมจริง บ้านเรือนถนนดูเป็นเมืองใหญ่ เรื่องเดินเรื่อยๆ ไม่ยืด แต่สนุกเพราะพล็อตโรแมนติกดราม่า ตอนแรกไม่ถูกกันแต่สุดท้ายรักกันหวานหยด
นักแสดง
→ นิว ชุณวรรณ หมั่นดี รับบท ซัน
หนุ่มนักศึกษาปีสองคณะแพทยศาสตร์ ผู้เป็นดาวเด่นประจำมหาวิทยาลัย มีเสน่ห์แบบแบดบอยที่ใครๆ ก็กรี๊ดกร๊าด ไปไหนมาไหนก็มีแฟนคลับตามติด ซันถูกสร้างให้ดูห้าวหาญ เท่ๆ ด้วยบุคลิกมั่นใจและรูปลักษณ์ที่เข้ากับชุดนักศึกษาที่ใส่ออกมาแบบคูลสุดๆ แต่เบื้องหลังความฮอตนี้คือปมใหญ่จากอดีต โดยเฉพาะความขัดแย้งกับเชน อดีตเพื่อนสนิทที่เคยแย่งแฟนกันจนแตกหัก ทำให้ซันกลายเป็นคนอยากแก้แค้น ใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะ การพบกับนุครั้งแรกก็มาจากอุบัติเหตุขับรถเฉี่ยว ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากัน แต่ซันกลับใช้โอกาสนี้เข้าใกล้นุเพื่อเป็นเครื่องมือแก้แค้นเชน
ตอนแรกดูเหมือนแผนร้าย แต่ยิ่งใกล้ชิดซันยิ่งพัฒนาความรู้สึกจริงใจ จนสารภาพรักหลังคืนร้อนแรง อย่างไรก็ตาม ซันมีด้านมืดที่ทำให้คนดูสงสัย เช่น การฟังศัตรูมากกว่าแฟน ข้อสรุปเร็ว และการกระทำแบบ force บางครั้ง เช่น บังคับนุขึ้นรถเพื่อรักษาแผลแล้วเตะออก นิวเล่นบทนี้ได้ดี โดยนำเสนอซันให้มีเลเยอร์ จากภายนอกที่เย็นชาแข็งกร้าว กลายเป็นคนอ่อนโยนเมื่อรักจริง มีฉากปกป้องนุจากแฟนคลับรุมทำร้าย ยอมเจ็บตัวเพื่อแสดงความจริงใจ สุดท้ายเปิดเผยว่านุกับซันมีอดีตวัยเด็ก สบตากันตอนเล่นสวนสาธารณะ ทำให้ซันต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกตัวเอง ก้าวผ่านอุปสรรคเพื่อความรักแท้ ซันจึงเป็นตัวละครที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่นที่มีทั้งเสน่ห์และข้อบกพร่อง ทำให้เรื่องน่าติดตาม
ฉายาของซันคือ “แบดบอยผู้มีหัวใจ”
เพราะซันถูกมองว่าเป็นหนุ่มร้ายๆ ที่ห้าวหาญและมีแผนการแก้แค้น แต่ลึกๆ แล้วเขามีด้านอ่อนโยนที่ซ่อนไว้ นิว ชุณวรรณนำเสนอซันให้ดูเท่แบบมีเสน่ห์ดึงดูด แต่ก็มีปมจากอดีตที่ทำให้กระทำแบบ impulsive เช่น การเข้าใกล้นุเพราะเดิมพัน แต่สุดท้ายตกหลุมรักจริงจนยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อปกป้อง ฉายานี้เหมาะเพราะสะท้อน duality ของตัวละคร จากภายนอกที่ดูเย็นชาและเป็นหัวโจกดาวเดือน กลายเป็นคนที่เรียนรู้จากความผิดพลาด สุดท้ายพิสูจน์ว่าหัวใจของเขาอบอุ่นและซื่อสัตย์เมื่อพบรักแท้ ทำให้คนดูเห็นพัฒนาการจาก bad boy สู่คนรักที่ดี
ข้อคิดจากซันคือ “ความรักต้องผ่านการเข้าใจและให้อภัย”
เพราะซันสอนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเข้าใจผิดและแผนร้าย สามารถกลายเป็นรักแท้ได้หากทั้งคู่เรียนรู้ที่จะฟังและให้โอกาสกัน นิว ชุณวรรณถ่ายทอดซันให้มี journey จากคนที่ข้อสรุปเร็วและฟังศัตรูมากกว่าแฟน กลายเป็นคนที่ยอมรับความผิดและง้อขอคืนดี สะท้อนชีวิตจริงที่ความรักไม่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องอาศัยการสื่อสารเพื่อก้าวผ่านอุปสรรค เช่น การเปิดเผยอดีตวัยเด็กที่ทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้น ข้อคิดนี้เตือนใจว่าอย่าปล่อยให้ปมเก่าควบคุม แต่ใช้มันเป็นบทเรียนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง
→ แบงค์-ธรณินทร์ มโนสุดประสิทธิ์ รับบท นุ
นักศึกษาปีหนึ่งคณะอักษรศาสตร์ ผู้ดูเนิร์ดๆ ทำให้คนทั่วไปมองข้ามไป ชอบอยู่เงียบๆ แบบไร้ตัวตน ไม่สุงสิงกับใครเพราะชอบความสงบ แต่ชีวิตพลิกผันจากคำทำนายหมอดูว่าเจอซวยสามครั้งจะกลายเป็นหนุ่มฮอต การพบซันครั้งแรกมาจากอุบัติเหตุโดนรถเฉี่ยว ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่สบตา นุมองซันเป็นตัวซวย แต่หลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้แว่นหัก เผยให้เห็นความหล่อที่ซ่อนไว้ รุ่นพี่ปีสามเลยชวนประกวดเดือนคณะอักษรศาสตร์ นุจากคนไม่มีเพื่อนกลายเป็นจุดสนใจ แต่ยังคงสุภาพ เรียบร้อย น่ารักแบบไม่ตั้งใจ แบงค์เล่นบทนี้ได้ดี โดยนำเสนอนุให้มีเลเยอร์
จากภายนอกที่ขี้อายและโดดเดี่ยว กลายเป็นคนเข้มแข็งเมื่อเผชิญดราม่า เช่น การเสียจูบแรกโดยบังเอิญกับซัน จุดประกายความรู้สึกแปลกๆ แล้วยังโดนแฟนคลับซันรุมทำร้ายเพราะหึง แต่โชคดีซันช่วยไว้ นุรู้ความจริงว่าซันเข้าใกล้เพราะเดิมพันกับเชน ทำให้ใจสลายและไม่อยากเห็นหน้า แต่สุดท้ายเปิดเผยว่านุเป็นลูกคุณหนูบ้านรวย มีอดีตวัยเด็กกับซัน สบตากันตอนเล่นสวนสาธารณะ นุต้องเผชิญความรู้สึกตัวเอง ก้าวผ่านอุปสรรคอย่างความหึง การทรยศ และบททดสอบในมหาวิทยาลัย นุจึงเป็นตัวละครที่สะท้อนการเติบโต จากเนิร์ดไร้ตัวตนสู่คนที่พบความมั่นใจและรักแท้ ทำให้เรื่องน่าติดตาม
ฉายาของนุคือ “เนิร์ดผู้ซ่อนเสน่ห์”
เพราะนุถูกมองว่าเป็นหนุ่มแว่นธรรมดาที่ไม่มีใครสนใจ แต่ลึกๆ แล้วเขามีเสน่ห์ที่ซ่อนไว้ภายใต้แว่นหนาเตอะ แบงค์ ธรณินทร์นำเสนอนุให้ดูสุภาพและเรียบร้อย แต่พอถอดแว่นทุกคนเห็นความหล่อและเสน่ห์ที่แท้จริง ฉายานี้เหมาะเพราะสะท้อน duality ของตัวละคร จากภายนอกที่ขี้อายและไร้ตัวตน กลายเป็นว่าที่เดือนคณะฮอตหลังอุบัติเหตุ ทำให้คนดูเห็นพัฒนาการจากคนโดดเดี่ยวสู่จุดสนใจ สุดท้ายพิสูจน์ว่าเสน่ห์แท้มาจากภายใน ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก
ข้อคิดจากนุคือ “ความเปลี่ยนแปลงมาจากโอกาสที่ไม่คาดคิด”
เพราะนุสอนให้เห็นว่าชีวิตที่ดูธรรมดาสามารถพลิกผันได้จากเหตุการณ์ซวยๆ ที่นำไปสู่การค้นพบตัวเอง แบงค์ ธรณินทร์ถ่ายทอดนุให้มี journey จากคนเงียบๆ ไม่มีเพื่อน กลายเป็นคนเข้มแข็งหลังผ่านอุบัติเหตุและดราม่า สะท้อนชีวิตจริงที่โชคร้ายอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆ เช่น การพบรักกับซันและการประกวดเดือน ข้อคิดนี้เตือนใจว่าอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ใช้มันเป็นบทเรียนเพื่อเติบโตและพบโอกาสใหม่ๆ
หลังจากซีรีส์ “เพียงสบตา” (Eye Contact The Series) ภาคแรก ด้วยเคมีที่ลงตัวระหว่างคู่หลักอย่างซันและนุ รวมถึงพล็อตโรแมนติกดราม่าในรั้วมหาวิทยาลัยที่ทำให้แฟนๆ ติดงอมแงม หลายคนจึงอดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าถ้ามีภาค 2 จะเป็นอย่างไร ภาคแรกจบลงด้วยการที่ทั้งคู่ก้าวผ่านอุปสรรคและสบตากันอย่างเข้าใจ แต่ชีวิตจริงไม่ได้จบแค่นั้น ถ้าจะมีภาคต่อ เราอาจได้เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ท่ามกลางโลกภายนอกที่ท้าทายกว่าเดิม
ในภาค 2 ชื่อว่า “เพียงสบตา: เสียงสะท้อนหัวใจ” (Eye Contact: Echo of the Heart) เรื่องราวจะย้ายจากรั้วมหาวิทยาลัยมาสู่โลกการทำงานและชีวิตผู้ใหญ่ หลังจากจบการศึกษา ซัน (นิว ชุณวรรณ) ได้งานเป็นแพทย์ฝึกหัดในโรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ขณะที่นุ (แบงค์ ธรณินทร์) ใช้พื้นเพลูกคุณหนูเปิดบริษัทสตาร์ทอัพด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะมั่นคง แต่ปัญหาใหม่เริ่มก่อตัว เมื่อซันต้องเจอกับแรงกดดันจากงานที่หนักหน่วง รวมถึงการกลับมาของเชน (เจมส์ จิรายุ) ที่ตอนนี้เป็นแพทย์รุ่นพี่ในโรงพยาบาลเดียวกัน เชนที่ยังไม่ลืมความแค้นเก่า พยายามสร้างสถานการณ์ให้ซันกับนุเข้าใจผิดกันอีกครั้ง โดยร่วมมือกับจอร์น (โฟล์ค จักริน) ที่กลายเป็นนักธุรกิจคู่แข่งกับบริษัทของนุ
พล็อตหลักจะหมุนรอบ “เสียงสะท้อน” จากอดีตที่ตามหลอกหลอน เมื่อนุค้นพบเอกสารเก่าเกี่ยวกับอุบัติเหตุในวัยเด็กที่เชื่อมโยงซันกับครอบครัวตัวเองมากกว่าที่คิด อาจมี twists ใหญ่ เช่น การเปิดเผยว่าอุบัติเหตุรถเฉี่ยวในภาคแรกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกี่ยวข้องกับความลับของพ่อแม่นุที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ นอกจากนี้ จะมีตัวละครใหม่เข้ามาเพิ่มสีสัน เช่น “ลิน” (รับบทโดยนักแสดงหญิงหน้าใหม่) เพื่อนสนิทของนุที่แอบชอบเขา และ “ไค” (รับบทโดยนักแสดงชายหนุ่มฮอต) แพทย์รุ่นน้องของซันที่เข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์ ทำให้เกิดความหึงหวงและบททดสอบใหม่ๆ เรื่องราวจะสลับฉากระหว่างโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยดราม่าชีวิต-ตาย กับโลกธุรกิจที่โหดร้าย รวมถึงฉากโรแมนติกแบบผู้ใหญ่ เช่น การเดทลับๆ ท่ามกลางงานเลี้ยงสังคม หรือการเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อหลบหนีปัญหา
ดราม่าจะเข้มข้นขึ้นด้วยธีม “การให้อภัยและเติบโต” เช่น ซันต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับความรัก เมื่อเขาได้รับข้อเสนอไปเรียนต่อต่างประเทศ ขณะที่นุต้องเผชิญกับแรงกดดันจากครอบครัวที่ไม่ยอมรับความสัมพันธ์แบบ BL มีฉากอารมณ์หนักหน่วง เช่น การทะเลาะใหญ่ที่นำไปสู่การแยกทางชั่วคราว แต่สุดท้ายทั้งคู่จะกลับมาสบตากันอีกครั้งในตอนจบ ด้วยการแก้ไขความเข้าใจผิดและต่อสู้กับศัตรูภายนอก ภาคนี้จะมีตอนมากขึ้นประมาณ 8-10 ตอน เพื่อขยายเรื่องราวให้ลึกซึ้ง โดยยังคงเคมีคู่หลักที่หวานฉ่ำแต่เพิ่มความสมจริงในชีวิตคู่
