ซีรีส์ มูเกิร์ล เดทที่วัด นัดที่ศาลเจ้า MU-Girl Miracle Matchmaking 2568 เมื่อแต้มบุญทำงาน แต่หัวใจดันทำงานหนักกว่า “ในวัยใกล้เลขสามที่คานเริ่มสั่นคลอน ‘มาลา’ สาวสายมูตัวแม่ผู้มีสโลแกนว่า ‘ผัวไม่มี ศักดิ์ศรีช่างมัน แต่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องปัง!’ ตัดสินใจลาก ‘ปกป้อง’ เพื่อนสนิทข้างบ้านไปตะเวนแก้บนขอคู่ทั่วทุกสารทิศ และดูเหมือนเทพเจ้าจะเห็นใจ (หรือรำคาญ?) ถึงได้ส่ง 3 หนุ่มโปรไฟล์เลิศอย่าง หมอนตสุดอบอุ่น, เจษนักธุรกิจมาดเนี้ยบ และกลองรบมือกลองสุดเซอร์ เข้ามาในชีวิตพร้อมกัน! ท่ามกลางความวุ่นวายระดับโบ๊ะบ๊ะ มาลาต้องเลือกว่าจะเชื่อ ‘ลิขิตฟ้า’ หรือจะฟังเสียง ‘หัวใจ’ ที่อยู่ใกล้ตัวกันแน่”

ซีรีส์ มูเกิร์ล เดทที่วัด นัดที่ศาลเจ้า MU-Girl Miracle Matchmaking 2568  แนวรอมคอมเบาสมอง ผสมกลิ่นอายวัฒนธรรมมูเตลูที่คนไทยชอบกันมาก ดูแล้วเพลิน เหมาะกับคนที่อยากหาซีรีส์ชิลๆ ดูคลายเครียด เรื่องราวเริ่มจาก “มาลา” สาวโสดวัยใกล้เลขสามที่เป็นสายมูตัวแม่เลย เชื่อในโชคลาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบสุดๆ แต่ชีวิตความรักนี่ซวยซ้ำซาก อกหักมาหลายรอบจนปิดใจตัวเองไปนานโข พอรู้ตัวอีกทีก็กลัวขึ้นคานเข้าให้แล้ว ล่าสุดไปดูหมอดู ท่านทักว่าดวงเนื้อคู่ยังเปิดอยู่ แต่มีเวลาเหลือแค่สามเดือนก่อนวันเกิด ถ้าไม่รีบหาแฟน อาจโสดไปตลอดกาล มาลาเลยไม่รอช้า ชวนแก๊งเพื่อนสาวและปกป้อง เพื่อนสนิทข้างบ้านที่สนิทกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ออกตะเวนมูเตลูทั่วกรุง ทั้ง 4 ศาลเจ้า 9 วัด ฝ่าฝนฝ่าแดด ขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดทางรักให้ทีเถอะ

แล้วพรก็สัมฤทธิผลแบบปังๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งหนุ่มในฝันมาถึงสามคนเลย คนแรกคือหมอนต หมอหนุ่มหน้าตาดี จิตใจดี อนาคตไกล เพอร์เฟกต์แบบใครเห็นก็หลง คนที่สองคือเจษ หนุ่มหล่อโปรไฟล์หรู นักธุรกิจรวยเนี๊ยบ จีบตรงๆ เต็มสตรีม สุดท้ายคือกลองรบ นักดนตรีอินดี้สุดเท่ ตรงไปตรงมา คิดยังไงพูดอย่างนั้น มาลาเจอพวกเขาจากเหตุบังเอิญระหว่างมู เช่น หมอนตมาช่วยทำแผลให้ เจษชวนถ่ายรูปแล้วขอไลน์ กลองรบเจอกำไลคล้ายกันเลยแลกคอนแท็ก

เรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้นเพราะมาลาต้องเลือกว่าจะตามพรที่ขอ หรือฟังเสียงหัวใจตัวเอง ท่ามกลางความโบ๊ะบ๊ะกับปกป้องที่คอยซัพพอร์ตทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วปกป้องเคยปฏิเสธคำสารภาพรักจากมาลาเพราะเห็นเป็นแค่เพื่อน

เรื่องนี้สนุกตรงที่ผสมความเชื่อแบบไทยๆ เข้ากับโรแมนติกคอมเมดี้ได้ลงตัว ดูแล้วอยากออกไปมูตามเลย ใครชอบซีรีส์เบาๆ ฟีลกู๊ด แนะนำให้ลองสตรีมดูบน Monomax นะ รับรองติดงอมแงม

เนื้อเรื่องสดใหม่ เอาเรื่องมูเตลูที่ฮิตในสังคมไทยมาผสมกับโรแมนติกได้กลมกล่อม ไม่เชย ดูแล้วอยากออกไปไหว้พระตาม ฉากวัดศาลเจ้าถ่ายสวยงาม แสงสีสดใส สมจริงสุดๆ คอสตูมนางเอกมายด์ ลภัสลัล ก็น่ารักแบบสดใส กระโปรงสีสัน เข้ากับคาแรคเตอร์โก๊ะๆ ร่าเริง นักแสดงเล่นดีมาก โดยเฉพาะคู่พระนาง มายด์กับไบร์ท รพีพงศ์ เคมีเข้ากัน กรี๊ดใจฟู ฮาโบ๊ะบ๊ะตลอด ไบร์ทเล่นบทปกป้องได้น่ารัก เป็นเพื่อนสนิทที่พึ่งพาได้ หนุ่มๆ อีกสามคนอย่างณัฐรัฐ โมริส, ชวลิต ชิตตนันท์, อูโน่ หลาวทอง ก็หล่อแต่ละสไตล์ ช่วยเพิ่มสีสัน นักแสดงสมทบอย่างดารินา บุญชู, ทิพปภา ภาสิริรัตนกุล ก็เล่นได้ฮา ดูแล้วหัวเราะงอหาย

โปรดักชันดีงาม กำกับโดยทิชากร ภูเขาทอง เนื้อเรื่องย่อยง่าย ดูชิลๆ ไม่เครียด มีกิมมิคพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ลุ้นว่าใครคือเนื้อคู่จริง จุดด้อยอาจมีบ้างตรงพล็อตคลิชเช่แบบเพื่อนสนิทกลายเป็นแฟน แต่ก็ทำออกมาไม่น่าเบื่อ เพราะมีมูเตลูมาช่วย twist เรื่อง เสียงเพลงประกอบก็เพราะ เข้ากับธีมอินดี้จากตัวละครกลองรบ โดยรวมดูเพลิน แม้ไม่ใช่สายมูก็สนุก

ความรู้สึกหลักคือความฟินจากเคมีระหว่างตัวละคร คู่พระนางสร้างโมเมนต์น่ารักที่ทำให้หัวใจพองโต ฉากมูที่วัดศาลเจ้าให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนได้สัมผัสวัฒนธรรมใกล้ตัว แต่ผสมฮาโบ๊ะบ๊ะจนหัวเราะร่วน หนุ่มๆ สามคนที่เข้ามาเพิ่มความลุ้น ทำให้รู้สึกตื่นเต้นว่าจะเลือกใคร เนื้อเรื่องไหลลื่น ดูเพลินจนลืมเวลา แต่บางตอนก็สร้างความสงสัยเกี่ยวกับพรและหัวใจจริงๆ ทำให้รู้สึกอยากไตร่ตรองชีวิตความรัก การนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเล่าแบบสนุก ไม่เคร่งเครียด ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ดูจบแล้วรู้สึกมองโลกในแง่ดีมากขึ้น อยากออกไปมูตามบ้าง

---

ซีรีส์ มูเกิร์ล เดทที่วัด นัดที่ศาลเจ้า MU-Girl Miracle Matchmaking 2568

---

ซีรีส์ มูเกิร์ล เดทที่วัด นัดที่ศาลเจ้า MU-Girl Miracle Matchmaking 2568

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากนางเอกของเรา ชื่อ “มาลา” รับบทโดย มายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล สาวโสดวัยใกล้เลขสามที่เป็นสายมูตัวจริงเสียงจริงเลยค่ะ เธอเชื่อในโชคลาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบสุดหัวใจ แต่ชีวิตความรักนี่ซวยซ้ำซาก ผ่านรักมาหลายครั้งก็เจ็บทุกที จนปิดประตูหัวใจไปหลายปี พอรู้ตัวอีกทีก็กลัวขึ้นคานเข้าให้แล้ว

มาลาเลยตัดสินใจหันไปพึ่งแก๊งเพื่อนสาวและ “ปกป้อง” รับบทโดย ไบร์ท รพีพงศ์ ทับสุวรรณ เพื่อนสนิทข้างบ้านที่สนิทกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ปกป้องนี่แหละที่ยอมลุยมูด้วยกันทั่วสี่ศาล สี่วัด (จริงๆ แล้วเป็น 4 ศาลเจ้า 9 วัดเลยนะ) ทั้งฝนตกแดดออก ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดทางรักให้สักที เธอไปปรึกษาหมอดู ท่านทักว่าเธอดวงชะตาไร้คู่ แต่ดวงเนื้อคู่ยังเปิดอยู่ ถ้าเจอเนื้อคู่เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี แต่ประตูดวงคู่แท้จะเปิดแค่ช่วงนี้ มีเวลาเหลือแค่ 3 เดือนก่อนวันเกิด ถ้าหาเจอก็จะได้ลงเอยกัน มาลาเลยไม่รอช้า ชวนปกป้องขับรถพาไปมูแบบจริงจัง เพื่อไม่ให้ตายอย่างโดดเดี่ยว

และแล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เห็นใจ ส่งผู้ชายในฝันมาให้เลือกถึงสามคนเลย คนแรกคือ “หมอนต” รับบทโดย ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง หมอหนุ่มใจดีอนาคตไกล เพอร์เฟกต์แบบสุดๆ เจอกันตอนมาลาล้มแล้วเขามาช่วยทำแผลให้ แถมยังให้นามบัตรไว้ด้วย

คนที่สอง “เจษ” รับบทโดย ชวลิต ชิตตนันท์ หนุ่มหล่อโปรไฟล์หรู นักธุรกิจรวยเนี๊ยบ เจอกันที่ศาลเจ้า ชวนถ่ายรูปแล้วขอไลน์ส่งรูปให้ จีบตรงๆ เต็มสตรีมเลย

คนสุดท้าย “กลองรบ” รับบทโดย อูโน่ หลาวทอง หนุ่มนักดนตรีอินดี้สุดเท่ ตรงไปตรงมา คิดยังไงพูดอย่างนั้น เจอกันเพราะกำไลข้อมือคล้ายกัน เลยแลกไลน์เพื่อช่วยหาของที่มาลาอยากได้

มาลาสับสนมากว่าจะเลือกใคร เพราะแต่ละคนก็มีเสน่ห์ต่างกัน แต่ระหว่างนั้น ปกป้องที่คอยซัพพอร์ตทุกอย่างก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับมาลา เขาเคยปฏิเสธคำสารภาพรักจากเธอเพราะเห็นเป็นแค่เพื่อนสนิท แต่ตอนนี้เห็นเธอถูกจีบจากหนุ่มๆ สามคน หัวใจเขาก็ปั่นป่วนไปหมด

เรื่องราวดำเนินไปแบบวุ่นวายฮาๆ มาลาไปเดทกับหนุ่มๆ แต่ละคน ท่ามกลางการมูต่อเนื่อง มีฉากโบ๊ะบ๊ะเยอะมาก เช่น ตอนแต่งตัวมูเต็มยศแต่เจอฝนตก หรือตอนหนุ่มๆ มาปะทะกันแบบไม่ตั้งใจ ซีรีส์มี 12 ตอน  เน้นธีมสดใส แสงสีสมจริง ฉากวัดศาลเจ้าสวยงาม คอสตูมน่ารักสดใสเข้ากับตัวละคร โดยเฉพาะชุดกระโปรงสีสันของมาลา และชุดสบายๆ ของปกป้องที่ดูดีทีเดียว

นักแสดงสมทบอย่าง แนนซี่ ดารินา, โซเฟีย ทิพปภา, น้ำเพชร อิสรีย์ ก็ช่วยเพิ่มสีสัน ฮาๆ กันสุดๆ สุดท้ายมาลาต้องตัดสินใจว่าจะตามพรที่ขอ หรือเลือกคนที่ใช่ตามหัวใจจริงๆ ซึ่งมันมี twist น่ารักๆ เกี่ยวกับมิตรภาพและความรักที่อยู่ใกล้ตัวมาตลอด

เบื้องหลังการถ่ายทำซีรีส์ “มูเกิร์ล เดทที่วัด นัดที่ศาลเจ้า” เรื่องนี้ผลิตโดย Mono Original ออกอากาศบน Monomax ปี 2568 นี่แหละ ถ้าใครชอบดู BTS ของซีรีส์ไทย ต้องชอบแน่นอน เพราะทีมงานและนักแสดงดูสนุกกันมาก

กซีรีส์เรื่องนี้กำกับโดย ทิชากร ภูเขาทอง หรือที่รู้จักในวงการว่า โจ้ ผู้กำกับมากฝีมือที่เคยทำซีรีส์รอมคอมหลายเรื่องมาแล้ว เขาเน้นสไตล์สดใส เบาสมอง แต่มีกิมมิคไทยๆ อย่างการมูเตลูที่ฮิตในปี 2025 นี้ ทิชากรบอกในสัมภาษณ์ว่าอยากนำเทรนด์มูมาผสมกับโรแมนติกให้คนดูอินได้ง่ายๆ การถ่ายทำใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน เริ่มต้นตั้งแต่ต้นปี 2025 ถ่ายทำหลักๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะฉากวัดและศาลเจ้าที่เลือกสถานที่จริงๆ อย่างศาลเจ้าดังๆ เพื่อให้สมจริงและสวยงาม

แสงสีในเรื่องสดใสมากเพราะทีมโปรดักชันใช้เทคนิคแสงธรรมชาติผสมกับไฟเซ็ตอัพให้ดูฟีลกู๊ด คอสตูมก็ออกแบบให้เข้ากับคาแรคเตอร์ นางเอกมายด์ใส่ชุดน่ารักสีสัน กระโปรงบานๆ เพื่อให้ดูโก๊ะๆ ร่าเริง ส่วนพระเอกไบร์ทใส่ชุดสบายๆ แต่ดูหล่อพึ่งพาได้

มาพูดถึงนักแสดงกันบ้าง มายด์ ลภัสลัล กับ ไบร์ท รพีพงศ์ คู่พระนางเคมีเข้ากันสุดๆ มายด์บอกว่าเธอสนุกกับบทมาลามาก เพราะได้เล่นเป็นสาวมูที่โก๊ะๆ เหมือนตัวเองบ้าง ไบร์ทก็เป็นพระเอกครั้งแรกในเรื่องนี้ เล่นบทปกป้องได้ละมุน น่ารัก คอยซัพพอร์ตนางเอกสมชื่อจริงๆ เบื้องหลังพวกเขาฮากันมาก มีคลิปและภาพจากกองถ่ายที่โพสต์บนโซเชียล เช่น บน X (Twitter) ของ Mono Original ที่หลังจบซีรีส์วันที่ 31 พฤษภาคม 2025 พวกเขาโพสต์ภาพ BTS มาฮีลใจแฟนๆ

มีภาพคู่พระนางยิ้มกว้าง ถือแหวน หรือโพสท่าน่ารักกลางแจ้ง ดูแล้วรู้เลยว่าทีมงานสนิทกัน นักแสดงสมทบอย่าง ณัฐรัฐ โมริส (หมอนต), ชวลิต ชิตตนันท์ (เจษ), อูโน่ หลาวทอง (กลองรบ), และแก๊งเพื่อนสาวอย่าง แนนซี่ ดารินา, โซเฟีย ทิพปภา, น้ำเพชร อิสรีย์ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศสนุก มีเบื้องหลังตอนถ่ายฉากมูที่ต้องฝ่าฝนจริงๆ หรือตอนเดทที่ต้องหัวเราะคัตบ่อยเพราะฮาเกิน

ส่วนโปรดักชันอื่นๆ ทีมงานเลือกโลเคชันวัดศาลเจ้าให้ดูศักดิ์สิทธิ์แต่สดใส ไม่เคร่งเครียด มีการใช้เพลงประกอบอินดี้เข้ากับตัวละครกลองรบ เบื้องหลังจาก TikTok และ Instagram ก็มีคลิปสั้นๆ แสดงให้เห็นว่านักแสดงมูจริงๆ ก่อนถ่ายเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ อย่างภาพที่ฉันเห็น มายด์กับไบร์ทโพสท่าเล่นๆ กลางสวน หรือตอนพักกองยิ้มแย้มกัน ดูแล้วอบอุ่นมาก ซีรีส์เรื่องนี้เป็น Original ของ Monomax เลยเน้นคุณภาพสูง สตรีมมิงแบบ HD ดูเพลิน

นักแสดงนำ

→ มายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล รับบท มาลา

สาวโสดวัยใกล้เลขสามที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังบวกและความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เธอคือสายมูตัวจริงที่ยึดมั่นในโชคลางและพิธีกรรมต่างๆ เพื่อหาทางออกจากชีวิตโสดที่ยาวนาน หลังจากอกหักซ้ำซากจนปิดใจมานานหลายปี เธอกลัวว่าจะขึ้นคานและตายอย่างโดดเดี่ยว เลยตัดสินใจลุยมูเต็มสูบ ชวนเพื่อนสนิทอย่างปกป้องและแก๊งเพื่อนสาวออกตะเวน 4 ศาลเจ้า 9 วัด ฝ่าฝนแดดเพื่อขอพรหาคู่แท้ มาลาไม่ใช่แค่สาวธรรมดา เธอโก๊ะๆ ร่าเริง สดใส ออกแนวบ๊องๆ นิดๆ แต่ก็น่ารักแบบที่ทำให้คนดูเอ็นดูมาก การแสดงของมายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล เข้ากับบทนี้สุดๆ เพราะเธอถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติออกมาได้อย่างสมจริง มาลาเริ่มเรื่องด้วยความสิ้นหวังจากดวงชะตาที่หมอดูทักว่าดวงเนื้อคู่เปิดแค่ 3 เดือนก่อนวันเกิด ถ้าพลาดอาจโสดตลอดกาล

เธอจึงพยายามทุกทางเพื่อเปลี่ยนชะตา แต่พรที่ขอสัมฤทธิผลเกินคาด ส่งหนุ่มในฝันถึง 3 คนเข้ามาในชีวิต ทั้งหมอนตหมอหนุ่มเพอร์เฟกต์ เจษนักธุรกิจโปรไฟล์หรู และกลองรบนักดนตรีอินดี้ ทำให้เธอสับสนระหว่างตามพรหรือฟังหัวใจ คาแร็คเตอร์นี้สะท้อนชีวิตสาวโสดยุคใหม่ที่ผสมความเชื่อแบบไทยๆ กับความวุ่นวายในความรัก มาลาเติบโตจากคนที่พึ่งพิงพร กลายเป็นคนที่เรียนรู้ที่จะเลือกตามความรู้สึกจริงๆ การเดินทางของเธอเต็มไปด้วยโมเมนต์ฮาโบ๊ะบ๊ะ เช่น ตอนล้มเจ็บแล้วเจอหนุ่มมาช่วย หรือบังเอิญแลกไลน์เพราะกำไลคล้ายกัน ทำให้เรื่องดูเพลินและน่าติดตาม มายด์เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ สร้างเคมีกับนักแสดงคนอื่นๆ ได้ดี โดยเฉพาะกับปกป้องที่คอยซัพพอร์ต ทำให้มาลาไม่ใช่แค่ตัวเอก แต่เป็นตัวแทนของสาวๆ ที่อยากหาความรักแท้จริง

ฉายาของมาลา คือ สาวมูเต็มสูบ
ฉายานี้เหมาะกับเธอมากเพราะสะท้อนถึงการทุ่มเทในสายมูที่เธอทำเพื่อหาคู่ เธอไม่ใช่แค่มูแบบผิวเผิน แต่ลุยจริงจัง ตะเวนวัดศาลเพื่อขอพร กลัวขึ้นคานจนกลายเป็นแรงผลักดันใหญ่ในชีวิต การเป็นสาวมูเต็มสูบทำให้เธอเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น เจอหนุ่ม 3 คนแบบบังเอิญระหว่างมู ซึ่งนำมาสู่ความวุ่นวายแสนสนุก ฉายานี้ยังเน้นความร่าเริงและความเชื่อที่ทำให้เธอน่ารัก มายด์ ลภัสลัล ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คนดูอยากเอาแบบอย่างไปมูตาม

ข้อคิดจากมาลา คือ ความรักแท้จริงอาจอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด
ข้อคิดนี้มาจากการเดินทางของเธอที่มูเต็มที่เพื่อหาคู่ แต่สุดท้ายเรียนรู้ว่าพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจนำทาง แต่หัวใจต้องเป็นคนตัดสิน เธอสับสนกับหนุ่ม 3 คนที่เข้ามา แต่พบว่าคนที่ใช่คือคนที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอดอย่างปกป้อง ข้อคิดนี้สอนให้เราเปิดใจมองคนรอบตัว ไม่ต้องพึ่งพิงพรอย่างเดียว แต่ผสมผสานกับการฟังเสียงหัวใจ ทำให้ชีวิตสมดุลและพบความสุขแท้จริง มายด์ ลภัสลัล เล่นบทนี้ได้ลึกซึ้ง ทำให้ข้อคิดนี้ติดใจคนดู

→ ไบร์ รพีพงศ์ ทับสุวรรณ รับบท ปกป้อง

เพื่อนสนิทข้างบ้านของมาลา หนุ่มหล่อหน้าตาดีที่คอยซัพพอร์ตเธอในทุกเรื่องตั้งแต่สมัยมัธยม เขาสบายๆ มีน้ำใจ พึ่งพาได้ ชอบปกป้องมาลาสมชื่อจริงๆ อย่างการรับส่งเธอไปทำงานเป็นประจำ หรือยอมลุยมูด้วยกันทั่ว 4 ศาลเจ้า 9 วัด ฝ่าฝนแดดเพื่อช่วยเธอหาคู่ตามพรที่ขอ แต่เบื้องหลัง ปกป้องเคยปฏิเสธคำสารภาพรักจากมาลาเพราะเห็นเธอเป็นแค่เพื่อนสนิท ทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน เมื่อเรื่องดำเนินไปและมาลาเจอหนุ่มในฝันสามคนอย่างหมอนต เจษ และกลองรบ ปกป้องเริ่มรู้สึกแปลกๆ หัวใจปั่นป่วนเห็นเธอถูกจีบ เขาค่อยๆ ตระหนักถึงความรู้สึกจริงๆ ที่ซ่อนอยู่

การแสดงของไบร์ท รพีพงศ์ ทับสุวรรณ ทำให้ตัวละครนี้ละมุน น่ารัก ถ่ายทอดความเป็นผู้ชายอบอุ่นที่ไม่แสดงออกมากแต่คอยอยู่เคียงข้างเงียบๆ คาแร็คเตอร์นี้สะท้อนภาพหนุ่มข้างบ้านในอุดมคติที่หลายคนใฝ่ฝัน ผ่านฉากโบ๊ะบ๊ะระหว่างมู เช่น ขับรถพาไปวัดแล้วเจอเหตุการณ์ฮาๆ หรือตอนที่เขาพยายามช่วยมาลาเลือกหนุ่มแต่แอบรู้สึกอิจฉาเบาๆ ปกป้องเติบโตจากเพื่อนสนิทกลายเป็นคนที่กล้าเผชิญความรู้สึก สร้างเคมีเข้ากับมายด์ ลภัสลัล ได้ดีมาก ทำให้คนดูฟินกับพัฒนาการความรักแบบค่อยเป็นค่อยไป ไบร์ทเล่นออกมาได้ธรรมชาติ สวมบทหนุ่มสบายๆ แต่มีเสน่ห์ลึกซึ้ง ตัวละครนี้ช่วยขับเคลื่อนเรื่องให้อบอุ่น ผสมผสานธีมมิตรภาพและโรแมนติกได้ลงตัว

ฉายาของปกป้อง คือ หนุ่มข้างบ้านผู้พิทักษ์
ฉายานี้เหมาะสมเพราะสะท้อนบทบาทที่เขาเป็นเหมือนผู้พิทักษ์เงียบๆ ของมาลา คอยปกป้องเธอจากความเหงาและปัญหาในชีวิต โดยไม่เคยเรียกร้องอะไรตอบแทน เขาเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างมาตั้งแต่วัยเรียน ขับรถรับส่ง ช่วยเหลือทุกเรื่อง รวมถึงลุยมูเพื่อหาคู่ให้เธอแม้ตัวเองจะไม่เชื่อมากนัก การเป็นผู้พิทักษ์ทำให้เขาแอบปกป้องหัวใจตัวเองด้วยการปฏิเสธความรักจากเธอในอดีต แต่เมื่อเห็นเธอถูกจีบจากหนุ่มอื่นๆ เขาก็เริ่มปกป้องความรู้สึกจริงๆ ของตัวเอง ไบร์ท รพีพงศ์ ถ่ายทอดฉายานี้ออกมาได้อบอุ่น น่ารัก ทำให้คนดูอยากมีเพื่อนแบบนี้ในชีวิตจริง ฉายานี้ยังเน้นความซื่อสัตย์และความทุ่มเทที่ทำให้ตัวละครโดดเด่นในซีรีส์

ข้อคิดจากปกป้อง คือ มิตรภาพที่แท้จริงสามารถพัฒนาไปสู่ความรักได้
ข้อคิดนี้มาจากพัฒนาการของเขาที่เริ่มจากเพื่อนสนิทปฏิเสธความรักเพราะกลัวเสียมิตรภาพ แต่ค่อยๆ ตระหนักว่าความใกล้ชิดและการซัพพอร์ตกันมาตลอดทำให้หัวใจเปลี่ยนไป เขาสอนให้เราเห็นว่าความรักไม่จำเป็นต้องเริ่มจากประกายไฟแรงกล้า แต่สามารถเติบโตจากรากฐานมิตรภาพที่มั่นคง การคอยอยู่เคียงข้างมาลาในทุกสถานการณ์ ทั้งมูเตลูและชีวิตประจำวัน ทำให้ข้อคิดนี้ชัดเจนว่าอย่ามองข้ามคนใกล้ตัว เพราะพวกเขาอาจเป็นเนื้อคู่ที่แท้จริง ไบร์ท รพีพงศ์ เล่นบทนี้ได้ลึกซึ้ง ทำให้คนดูไตร่ตรองชีวิตตัวเองว่ามิตรภาพบางอย่างอาจซ่อนความรักไว้ ข้อคิดนี้ช่วยให้ซีรีส์มีสาระ ผสมผสานกับธีมสายมูได้อย่างกลมกลืน

→ ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง รับบท หมอนต

หมอนต เป็นหนึ่งในหนุ่มที่เข้าหาและจีบมาลา หมอหนุ่มหน้าตาดี จิตใจดี อนาคตไกล ที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก เขาเพอร์เฟกต์แบบสุดๆ ด้วยอาชีพหมอที่มั่นคง บุคลิกสุภาพ อ่อนโยน และมีเสน่ห์ที่ทำให้สาวๆ ใจละลาย การแสดงของณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง ทำให้ตัวละครนี้ดูสมจริงและน่าดึงดูด เขาเจอกับมาลาแบบบังเอิญระหว่างที่เธอมูเตลู เธอล้มเจ็บแล้วเขามาช่วยทำแผลให้อย่างมืออาชีพ แถมยังยื่นนามบัตรให้เพื่อติดต่อกันต่อ หมอนตจีบมาลาแบบสุภาพบุรุษ ชวนเดทแบบโรแมนติก เช่น พาไปทานอาหารหรูหรือเดินเล่นในสวน ทำให้เธอสับสนเพราะเขาเหมือนผู้ชายในฝันที่เธอขอพรไว้ แต่เบื้องหลัง หมอนตมีชีวิตที่ยุ่งกับงานโรงพยาบาล ทำให้เขาเป็นตัวแทนของหนุ่มทำงานเก่งแต่ยังหาสมดุลชีวิตส่วนตัว

คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความลุ้นในเรื่อง เพราะเขาเป็นคู่แข่งสำคัญกับหนุ่มคนอื่นๆ อย่างเจษและกลองรบ รวมถึงปกป้องเพื่อนสนิทของมาลา หมอนตสะท้อนภาพผู้ชายสมบูรณ์แบบในสังคมไทย ที่ทั้งหล่อ รวย เก่ง และใจดี แต่ก็มีจุดที่ทำให้มาลาไตร่ตรองว่าความเพอร์เฟกต์นี้เหมาะกับเธอจริงหรือไม่ การปรากฏตัวของเขาในซีรีส์สร้างโมเมนต์ฟินๆ เช่น ตอนรักษาแผลให้มาลาด้วยรอยยิ้มละมุน หรือตอนเดทที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ ณัฐรัฐเล่นออกมาได้มีเสน่ห์ สวมบทหมอได้เนียนตา ทำให้คนดูเอ็นดูและลุ้นให้เขาได้คู่กับมาลาแม้รู้ว่าอาจไม่ใช่เอ็นเกม ตัวละครนี้ช่วยขับเคลื่อนธีมว่าพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจนำคนดีๆ มา แต่หัวใจต้องเลือกเอง

ฉายาของหมอนต คือ หมอเพอร์เฟกต์
ฉายานี้เหมาะสมเพราะสะท้อนภาพลักษณ์ที่เขามีทุกอย่างเพอร์เฟกต์ ทั้งหน้าตา การงาน และนิสัย อาชีพหมอทำให้เขาดูมั่นคง อนาคตไกล จิตใจดีช่วยเหลือคนอื่นเสมอ การจีบมาลาแบบสุภาพ ชวนเดทโรแมนติก แสดงให้เห็นความเอาใจใส่ที่ทำให้สาวๆ หลงรัก ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง ถ่ายทอดฉายานี้ออกมาได้ละมุน น่าดึงดูด ทำให้คนดูเห็นเขาเป็นอุดมคติ แต่ฉายานี้ยังแฝงว่าความเพอร์เฟกต์อาจไม่ใช่ทุกอย่างในความรัก เพราะเขายุ่งกับงานจนอาจขาดเวลาให้คู่รัก ฉายานี้ช่วยทำให้ตัวละครโดดเด่นในฐานะหนึ่งในหนุ่มที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งมาให้มาลาเลือก

ข้อคิดจากหมอนต คือ ความเพอร์เฟกต์ไม่ได้หมายถึงความเหมาะสมเสมอไป
ข้อคิดนี้มาจากคาแร็คเตอร์ที่เขาดูสมบูรณ์แบบทุกด้าน แต่สุดท้ายมาลาอาจพบว่าเขาไม่ใช่คนที่เข้ากับชีวิตเธอจริงๆ เขาสอนให้เห็นว่าการเลือกคู่ต้องดูความเข้ากันได้ ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ภายนอก การจีบแบบสุภาพและชีวิตที่มั่นคงของเขาทำให้คนดูไตร่ตรองว่าความรักต้องมีมากกว่าแค่ความสมบูรณ์แบบ อย่างเวลาและความเข้าใจกัน ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง เล่นบทนี้ได้ลึกซึ้ง ทำให้ข้อคิดนี้ชัดเจนผ่านโมเมนต์เดทที่ฟินแต่ขาดบางอย่าง ข้อคิดนี้ผสมกลมกลืนกับธีมสายมูว่าพรอาจนำคนดีมา แต่ต้องฟังหัวใจเพื่อหาคนที่ใช่จริงๆ

→ เชา ชวลิต ชิตตนันท์ รับบท เจษ

เจษ เป็นหนุ่มที่เข้ามาจีบมาลา หล่อโปรไฟล์หรู นักธุรกิจดูดีเนี๊ยบแบบสุดๆ มุ่งมั่นจีบเธอเต็มสตรีมด้วยบุคลิกมั่นใจและมีเสน่ห์ที่ทำให้สาวๆ สะดุดตา การแสดงของเชา ชวลิต ชิตตนันท์ ทำให้ตัวละครนี้ดูสมจริงและน่าดึงดูด เขาเจอกับมาลาแบบบังเอิญระหว่างที่เธอมูเตลูที่ศาลเจ้า ชวนเธอถ่ายรูปแล้วขอไลน์เพื่อส่งรูปให้ แสดงให้เห็นความกล้าและตรงไปตรงมา เจษจีบมาลาแบบเต็มที่ ชวนเดทหรูหรา เช่น พาไปดินเนอร์ในร้านอาหารชั้นนำหรือกิจกรรมที่แสดงฐานะมั่งคั่ง ทำให้เธอสับสนเพราะเขาเหมือนผู้ชายในฝันที่เธอขอพรไว้ แต่เบื้องหลัง เจษมีชีวิตที่ยุ่งกับธุรกิจ ทำให้เขาเป็นตัวแทนของหนุ่มรวยที่ประสบความสำเร็จแต่ยังหาความรักแท้จริง

คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความลุ้นในเรื่อง เพราะเขาเป็นคู่แข่งสำคัญกับหนุ่มคนอื่นๆ อย่างหมอนต กลองรบ และปกป้องเพื่อนสนิทของมาลา เจษสะท้อนภาพผู้ชายโปรไฟล์ดีในสังคมไทย ที่ทั้งหล่อ รวย ดูดี แต่ก็มีจุดที่ทำให้มาลาไตร่ตรองว่าความหรูหรานี้เหมาะกับเธอจริงหรือไม่ การปรากฏตัวของเขาในซีรีส์สร้างโมเมนต์ฟินๆ เช่น ตอนส่งรูปพร้อมคำชม หรือเดทที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์ เชา ชวลิต เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ สวมบทนักธุรกิจได้เนียนตา ทำให้คนดูเอ็นดูและลุ้นให้เขาได้คู่กับมาลาแม้รู้ว่าอาจไม่ใช่เอ็นเกม ตัวละครนี้ช่วยขับเคลื่อนธีมว่าพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจนำคนรวยมา แต่หัวใจต้องเลือกเอง

ฉายาของเจษ คือ นักธุรกิจโปรไฟล์หรู
ฉายานี้เหมาะสมเพราะสะท้อนภาพลักษณ์ที่เขามีโปรไฟล์หรูหรา ฐานะมั่งคั่งจากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ดูดีเนี๊ยบแบบสุดๆ การจีบมาลาแบบมุ่งมั่น ชวนเดทหรูหรา แสดงให้เห็นความมั่นใจและสไตล์ที่เหนือชั้น เชา ชวลิต ชิตตนันท์ ถ่ายทอดฉายานี้ออกมาได้น่าดึงดูด ทำให้คนดูเห็นเขาเป็นอุดมคติของหนุ่มรวย แต่ฉายานี้ยังแฝงว่าความหรูหราอาจไม่ใช่ทุกอย่างในความรัก เพราะเขายุ่งกับงานจนอาจขาดเวลาให้คู่รัก ฉายานี้ช่วยทำให้ตัวละครโดดเด่นในฐานะหนึ่งในหนุ่มที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งมาให้มาลาเลือก

ข้อคิดจากเจษ คือ ความมั่งคั่งไม่ได้หมายถึงความสุขเสมอไป
ข้อคิดนี้มาจากคาแร็คเตอร์ที่เขาดูหรูหราทุกด้าน แต่สุดท้ายมาลาอาจพบว่าเขาไม่ใช่คนที่เข้ากับชีวิตเธอจริงๆ เขาสอนให้เห็นว่าการเลือกคู่ต้องดูความเข้ากันได้ ไม่ใช่แค่ฐานะหรือโปรไฟล์ การจีบแบบเต็มสตรีมและชีวิตที่มั่งคั่งของเขาทำให้คนดูไตร่ตรองว่าความรักต้องมีมากกว่าแค่ความหรูหรา อย่างความเข้าใจและเวลาให้กัน เชา ชวลิต ชิตตนันท์ เล่นบทนี้ได้ลึกซึ้ง ทำให้ข้อคิดนี้ชัดเจนผ่านโมเมนต์เดทที่ฟินแต่ขาดบางอย่าง ข้อคิดนี้ผสมกลมกลืนกับธีมสายมูว่าพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจนำคนรวยมา แต่ต้องฟังหัวใจเพื่อหาคนที่ใช่จริงๆ

→ อูโน่ หลาวทอง รับบท กลองรบ

กลองรบ เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตของมาลา นักดนตรีอินดี้สุดเท่ ตรงไปตรงมา คิดยังไงพูดอย่างนั้น ทำให้เขาดูมีเสน่ห์แบบไม่เสแสร้ง การแสดงของอูโน่ หลาวทอง ทำให้ตัวละครนี้ดูสมจริงและน่าดึงดูด เขาเจอกับมาลาแบบบังเอิญระหว่างที่เธอมูเตลูเพราะกำไลข้อมือคล้ายกัน เลยขอไลน์เพื่อช่วยหากำไลที่เธออยากได้ แสดงให้เห็นความตรงและไม่เกรงใจ กลองรบจีบมาลาแบบสบายๆ ชวนเดทแนวอินดี้ เช่น พาไปคอนเสิร์ตหรือเล่นดนตรีด้วยกัน ทำให้เธอสับสนเพราะเขาเหมือนผู้ชายในฝันที่เธอขอพรไว้ แต่เบื้องหลัง กลองรบมีชีวิตอิสระ เน้น passion ในดนตรี ทำให้เขาเป็นตัวแทนของหนุ่มศิลปินที่ไม่ชอบกรอบสังคม

คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความลุ้นในเรื่อง เพราะเขาเป็นคู่แข่งสำคัญกับหนุ่มคนอื่นๆ อย่างหมอนต เจษ และปกป้องเพื่อนสนิทของมาลา กลองรบสะท้อนภาพผู้ชายอินดี้ในสังคมไทย ที่ทั้งเท่ ตรง แต่ก็มีจุดที่ทำให้มาลาไตร่ตรองว่าสไตล์อิสระนี้เหมาะกับเธอจริงหรือไม่ การปรากฏตัวของเขาในซีรีส์สร้างโมเมนต์ฟินๆ เช่น ตอนแลกไลน์พร้อมคำพูดตรงๆ หรือเดทที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ อูโน่ หลาวทอง เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ สวมบทนักดนตรีได้เนียนตา ทำให้คนดูเอ็นดูและลุ้นให้เขาได้คู่กับมาลาแม้รู้ว่าอาจไม่ใช่เอ็นเกม ตัวละครนี้ช่วยขับเคลื่อนธีมว่าพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจนำคนเท่มา แต่หัวใจต้องเลือกเอง

ฉายาของกลองรบ คือ นักดนตรีอินดี้สุดเท่
ฉายานี้เหมาะสมเพราะสะท้อนภาพลักษณ์ที่เขาเป็นศิลปินอินดี้ มีสไตล์เท่ไม่เหมือนใคร การตรงไปตรงมา คิดยังไงพูดอย่างนั้น ทำให้ดูมีเสน่ห์แบบธรรมชาติ อูโน่ หลาวทอง ถ่ายทอดฉายานี้ออกมาได้น่าดึงดูด ทำให้คนดูเห็นเขาเป็นอุดมคติของหนุ่มศิลปิน แต่ฉายานี้ยังแฝงว่าความอินดี้อาจไม่ใช่ทุกอย่างในความรัก เพราะเขาอิสระเกินไปจนอาจขาดความมั่นคง ฉายานี้ช่วยทำให้ตัวละครโดดเด่นในฐานะหนึ่งในหนุ่มที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ส่งมาให้มาลาเลือก

ข้อคิดจากกลองรบ คือ ความตรงไปตรงมาช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริง
ข้อคิดนี้มาจากคาแร็คเตอร์ที่เขาพูดตรง คิดยังไงแสดงออก ทำให้คนดูเห็นว่าการไม่เสแสร้งนำไปสู่ความเข้าใจกัน เขาสอนให้เห็นว่าการเลือกคู่ต้องดูความจริงใจ ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ การจีบแบบสบายๆ และชีวิตอิสระของเขาทำให้คนดูไตร่ตรองว่าความรักต้องมีมากกว่าแค่เสน่ห์ อย่างความตรงและความเข้ากันได้ อูโน่ หลาวทอง เล่นบทนี้ได้ลึกซึ้ง ทำให้ข้อคิดนี้ชัดเจนผ่านโมเมนต์เดทที่สนุกแต่ตรงไปตรงมา ข้อคิดนี้ผสมกลมกลืนกับธีมสายมูว่าพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจนำคนตรงมา แต่ต้องฟังหัวใจเพื่อหาคนที่ใช่จริงๆ

→ ดารินา บุญชู

เพื่อนสนิทตัวยงของมาลา สาวร่าเริง ขี้เล่น และเป็นแก๊งค์สายมูที่คอยเชียร์และชวนมาลาไปตะเวนขอพรที่วัดศาลเจ้า เธอเป็นคนเปิดเผย มั่นใจ ชอบแซวเพื่อนๆ และมักเป็นคนจุดประกายไอเดียมูเตลูแบบสุดโต่ง ทำให้กลุ่มเพื่อนสนุกสนานตลอด การแสดงของดารินา บุญชู ทำให้ตัวละครนี้ดูมีชีวิตชีวา เธอปรากฏในฉากกลุ่มเพื่อนที่ช่วยมาลาวางแผนหาคู่ เช่น ชวนไปวัดใหม่ๆ หรือแซวตอนมาลาเจอหนุ่มๆ สามคน มีบุคลิกสดใส ฮาๆ ชอบพูดตรงๆ และเป็นคนที่ทำให้มาลาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในการตามหาความรัก

เธอเป็นตัวแทนของเพื่อนสาวที่คอยซัพพอร์ตแบบไม่ยอมแพ้ ช่วยสร้างโมเมนต์ฮาโบ๊ะบ๊ะในเรื่อง เช่น ตอนที่แก๊งเพื่อนไปมูด้วยกันแล้วเกิดเรื่องวุ่นๆ หรือตอนแซวมาลาเรื่องหนุ่มที่เข้ามา คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความเบาสมองให้ซีรีส์ ผสมผสานธีมมิตรภาพและการมูเตลูได้ดี ดารินา บุญชู เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้กลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและหัวเราะตามทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของมาลาดูสนุกและอบอุ่นมากขึ้น

→ ทิพปภา ภาสิริรัตนกุล

เป็นพี่สาวหรือเพื่อนรุ่นพี่ในแก๊งค์ของมาลา สาวมั่นใจ ร่าเริง และเป็นสายมูตัวยงที่คอยให้คำแนะนำเรื่องความรักและพิธีกรรมมูเตลูแบบมืออาชีพ เธอเป็นคนเปิดเผย ชอบแซวเพื่อนๆ และมักเป็นคนนำทีมออกตะเวนวัดศาลเจ้าใหม่ๆ เพื่อช่วยมาลาหาคู่ การแสดงของทิพปภา ภาสิริรัตนกุล ทำให้ตัวละครนี้ดูมีพลัง เต็มเปี่ยมด้วยความสดใสและความห่วงใย เธอปรากฏในฉากกลุ่มเพื่อนที่ช่วยวางแผนมู เช่น ชวนไปขอพรที่ศาลเจ้าดังๆ หรือให้กำลังใจมาลาเมื่อเจอหนุ่มสามคนแบบสับสน

เธอมีบุคลิกเป็นพี่ใหญ่ที่อบอุ่น ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์มูเก่าๆ ให้ฟัง และเป็นคนที่ทำให้แก๊งค์ไม่เคยรู้สึกเหงา เธอช่วยสร้างโมเมนต์ฮาโบ๊ะบ๊ะในเรื่อง เช่น ตอนที่แก๊งไปมูด้วยกันแล้วเกิดเรื่องวุ่นๆ หรือตอนแซวมาลาเรื่องเดทกับหนุ่มต่างๆ คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความเบาสมองและความอบอุ่นให้ซีรีส์ ผสมผสานธีมมิตรภาพและการมูเตลูได้ดี ทิพปภา ภาสิริรัตนกุล เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้กลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและหัวเราะตามทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของมาลาดูสนุกและมีพลังบวกมากขึ้น

→ อิสรีย์ ธรากูลพิพัฒน์

เพื่อนสนิทในแก๊งค์ของมาลา สาวสวยมั่นใจ ร่าเริง และเป็นสายมูตัวยงที่คอยให้คำแนะนำเรื่องความรักและพิธีกรรมมูเตลูแบบไม่ยอมแพ้ เธอเป็นคนเปิดเผย ชอบแซวเพื่อนๆ และมักเป็นคนนำทีมออกตะเวนวัดศาลเจ้าใหม่ๆ เพื่อช่วยมาลาหาคู่ การแสดงของอิสรีย์ ธรากูลพิพัฒน์ ทำให้ตัวละครนี้ดูมีพลัง เต็มเปี่ยมด้วยความสดใสและความห่วงใย เธอปรากฏในฉากกลุ่มเพื่อนที่ช่วยวางแผนมู เช่น ชวนไปขอพรที่ศาลเจ้าดังๆ หรือให้กำลังใจมาลาเมื่อเจอหนุ่มสามคนแบบสับสน

เธอมีบุคลิกเป็นเพื่อนที่อบอุ่น ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์มูเก่าๆ ให้ฟัง และเป็นคนที่ทำให้แก๊งค์ไม่เคยรู้สึกเหงา เธอช่วยสร้างโมเมนต์ฮาโบ๊ะบ๊ะในเรื่อง เช่น ตอนที่แก๊งไปมูด้วยกันแล้วเกิดเรื่องวุ่นๆ หรือตอนแซวมาลาเรื่องเดทกับหนุ่มต่างๆ คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความเบาสมองและความอบอุ่นให้ซีรีส์ ผสมผสานธีมมิตรภาพและการมูเตลูได้ดี อิสรีย์ ธรากูลพิพัฒน์ เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้กลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและหัวเราะตามทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของมาลาดูสนุกและมีพลังบวกมากขึ้น

→ จุมพล ทองตัน

พ่อของมาลา เป็นพ่อที่ใจดี อ่อนโยน และเป็นที่พึ่งทางใจของมาลาเสมอ เขาเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ชีวิตเยอะ คอยให้คำแนะนำลูกสาวเรื่องความรักและชีวิตด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่แค่พ่อที่เคร่งครัด แต่เป็นคนที่เปิดกว้างกับความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของลูก การแสดงของจุมพล ทองตัน ทำให้ตัวละครนี้ดูอบอุ่นและน่าเคารพ เขาปรากฏในฉากครอบครัวที่มาลามาเล่าเรื่องมูหาคู่ให้ฟัง หรือตอนที่เธอสับสนกับหนุ่มสามคน พ่อของมาลามักให้คำปรึกษาแบบเบาๆ แต่ลึกซึ้ง เช่น กระตุ้นให้ลูกฟังหัวใจตัวเองมากกว่าพึ่งพรอย่างเดียว

เขามีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ที่สงบ ใจดี ชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ให้ลูกฟัง และเป็นคนที่ทำให้มาลารู้สึกปลอดภัยเมื่อเจอปัญหา คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มมิติให้ซีรีส์ จากเรื่องรอมคอมสายมูกลายเป็นเรื่องที่มีความอบอุ่นครอบครัว จุมพล ทองตัน เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้พ่อของมาลากลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ปรากฏตัว เขาไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาการของมาลาให้เติบโตขึ้นผ่านคำแนะนำจากผู้ใหญ่

→ สุปราณี เจริญผล

แม่ของมาลา เป็นแม่ที่รักลูกมาก อ่อนโยน และเป็นที่ปรึกษาทางใจของมาลาเสมอ เธอเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ชีวิตเยอะ คอยให้คำแนะนำลูกสาวเรื่องความรักและการมูเตลูด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่แค่แม่ที่เคร่งครัด แต่เป็นคนที่เปิดกว้างกับความเชื่อของลูกและสนับสนุนให้ลุยตามใจตัวเอง การแสดงของสุปราณี เจริญผล ทำให้ตัวละครนี้ดูอบอุ่นและน่าเคารพ เธอปรากฏในฉากครอบครัวที่มาลามาเล่าเรื่องมูหาคู่ให้ฟัง หรือตอนที่เธอสับสนกับหนุ่มสามคน แม่ของมาลามักให้คำปรึกษาแบบเบาๆ แต่ลึกซึ้ง เช่น กระตุ้นให้ลูกเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่าพึ่งพรอย่างเดียว

เธอมีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่ที่สงบ ใจดี ชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ให้ลูกฟัง และเป็นคนที่ทำให้มาลารู้สึกปลอดภัยเมื่อเจอปัญหา คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มมิติให้ซีรีส์ จากเรื่องรอมคอมสายมูกลายเป็นเรื่องที่มีความอบอุ่นครอบครัว สุปราณี เจริญผล เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้แม่ของมาลากลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาการของมาลาให้เติบโตขึ้นผ่านคำแนะนำจากผู้ใหญ่

→ วสุ ปลื้มสกุลไทย

น้องสาวในแก๊งค์เพื่อนของมาลา สาวตัวเล็ก ร่าเริง ขี้เล่น และเป็นสายมูตัวน้อยที่คอยตามพี่ๆ ไปตะเวนวัดศาลเจ้าแบบติดต่อง่าย เธอเป็นคนสดใส ซื่อๆ พูดอะไรก็ตรงไปตรงมา ทำให้แก๊งค์มีพลังบวกตลอดเวลา การแสดงของวสุ ปลื้มสกุลไทย ทำให้ตัวละครนี้ดูน่ารักและมีเสน่ห์แบบเด็กสาว เธอปรากฏในฉากกลุ่มเพื่อนที่ช่วยมาลาวางแผนมูหาคู่ เช่น ชวนไปศาลเจ้าใหม่ๆ หรือแซวมาลาเบาๆ ตอนเจอหนุ่มสามคน เธอชอบทำตัวเป็นน้องเล็กในแก๊งค์ คอยถามคำถามใสๆ หรือช่วยพี่ๆ จัดของไหว้พระ ทำให้บรรยากาศในกลุ่มอบอุ่นและสนุก

เธอช่วยสร้างโมเมนต์ฮาโบ๊ะบ๊ะในเรื่อง เช่น ตอนที่แก๊งไปมูแล้วน้องเล็กทำอะไรพลาดแต่กลับกลายเป็นเรื่องตลก หรือตอนที่เธอแซวมาลาเรื่องเดทแบบไม่ยั้ง คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความสดใสและความเป็นมิตรภาพให้ซีรีส์ ผสมผสานธีมสายมูกับความน่ารักของน้องเล็กได้ดี วสุ ปลื้มสกุลไทย เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้นกลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและยิ้มตามทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของมาลาดูสนุกและมีพลังบวกมากขึ้น

→ ลาภิสรา อินทรสูต

เพื่อนสนิทในแก๊งค์ของมาลา สาวสวยมั่นใจ ร่าเริง และเป็นสายมูตัวยงที่คอยให้คำแนะนำเรื่องความรักและพิธีกรรมมูเตลูแบบมือโปร เธอเป็นคนเปิดเผย ชอบแซวเพื่อนๆ และมักเป็นคนนำทีมออกตะเวนวัดศาลเจ้าใหม่ๆ เพื่อช่วยมาลาหาคู่ การแสดงของลาภิสรา อินทรสูต ทำให้ตัวละครนี้ดูมีพลัง เต็มเปี่ยมด้วยความสดใสและความห่วงใย เธอปรากฏในฉากกลุ่มเพื่อนที่ช่วยวางแผนมู เช่น ชวนไปขอพรที่ศาลเจ้าดังๆ หรือให้กำลังใจมาลาเมื่อเจอหนุ่มสามคนแบบสับสน เธอมีบุคลิกเป็นเพื่อนที่อบอุ่น ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์มูเก่าๆ ให้ฟัง และเป็นคนที่ทำให้แก๊งค์ไม่เคยรู้สึกเหงา

เธอช่วยสร้างโมเมนต์ฮาโบ๊ะบ๊ะในเรื่อง เช่น ตอนที่แก๊งไปมูด้วยกันแล้วเกิดเรื่องวุ่นๆ หรือตอนแซวมาลาเรื่องเดทกับหนุ่มต่างๆ คาแร็คเตอร์นี้ช่วยเพิ่มความเบาสมองและความอบอุ่นให้ซีรีส์ ผสมผสานธีมมิตรภาพและการมูเตลูได้ดี ลาภิสรา อินทรสูต เล่นออกมาได้มีเสน่ห์ ทำให้กลายเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูและหัวเราะตามทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของมาลาดูสนุกและมีพลังบวกมากขึ้น

---

หลังจากที่ภาคแรกจบแบบหวาน ๆ ฟิน ๆ หลายคนก็แอบสงสัยว่าถ้ามีภาค 2 จะเป็นยังไง

เรื่องราวในภาค 2 เริ่มต้นหลังจากที่มาลา (มายด์ ลภัสลัล) เลือกได้คนที่ใช่ในใจแล้ว ชีวิตคู่ของเธอดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะราบรื่นอย่างที่คิด เพราะหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน มาลาก็เจอปัญหาใหญ่ที่ไม่เคยคาดคิด คือ การปรับตัวเข้ากับชีวิตครอบครัวใหม่ที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง ทั้งเรื่องนิสัย การงาน และความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธออยู่ตลอดเวลา เธอจึงเริ่มรู้สึกว่าตัวเอง “มูเกิร์ล” ที่เคยลุยเต็มที่เพื่อหาคู่ กลับกลายเป็น “มูเมียร์ล” ที่ต้องมูเพื่อรักษาความรักให้อยู่ยงคงกระพัน

ในขณะเดียวกัน แก๊งเพื่อนสนิทของมาลา (รวมถึงปกป้องที่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม) ก็เจอชีวิตใหม่ ๆ ของตัวเอง เช่น ชมพู่ (ดารินา บุญชู) กับพี่โซเฟีย (ทิพปภา ภาสิริรัตนกุล) ที่เริ่มมีแฟน แต่ก็เจอปัญหาความรักที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ทั้งแก๊งต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาแบบ “มูหมู่” อีกหน แถมครั้งนี้ยังมีกิมมิคใหม่ ๆ มาเพิ่ม เช่น การมูเพื่อแก้เคล็ดครอบครัว การมูเพื่อให้ลูกคนแรกคลอดมาแบบสุขภาพดี หรือแม้แต่การมูเพื่อให้สามีเลิกติดเกม

ส่วนหนุ่ม ๆ ในฝันจากภาคแรกก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง หมอนต (ณัฐรัฐ โมริส) กลายเป็นหมอประจำครอบครัว เจษ (ชวลิต ชิตตนันท์) ยังคงเป็นนักธุรกิจที่ยุ่งมาก ส่วนกลองรบ (อูโน่ หลาวทอง) เริ่มมีวงดนตรีดังขึ้น ทำให้เกิดโมเมนต์เจอกันแบบไม่ตั้งใจและความรู้สึกเก่า ๆ ผุดขึ้นมาเล็กน้อย สร้างดราม่าเบา ๆ ให้คนดูลุ้นกันต่อ

เนื้อเรื่องภาค 2 จะเน้นไปที่การเติบโตของตัวละครทุกคน จาก “การหาคู่” กลายเป็น “การรักษาคู่” และ “การสร้างครอบครัว” พร้อมกับกิมมิคสายมูที่อัปเกรดขึ้น เช่น การไปมูขอพรให้ลูก การแก้เคล็ดบ้านใหม่ หรือแม้แต่การมูเพื่อให้สามีภรรยาเข้าใจกันมากขึ้น เรื่องราวยังคงเต็มไปด้วยความฮา โบ๊ะบ๊ะ และโมเมนต์ฟิน แต่เพิ่มความอบอุ่นและความลึกซึ้งของชีวิตคู่มากขึ้น

---

• Facebook
• X
• Line