ละคร ดาวเรือง 2556 (EP.1-19 ตอนจบ) END ดาวเรือง หรือ ไอ้เรือง หากินสารพัดเพื่อเลี้ยงดู บานชื่น ผู้เป็นแม่ และส่งเสียพี่ชายคนเดียว พฤกษ์ ที่ร่ำเรียนจนใกล้จบผู้พิพากษาในเร็ววันนี้ เมื่อนายกำจรพาจินตวัฒน์มาร้านกาแฟและได้พบหน้าตาของไอ้เรืองก็ถึงกับงง กิตติศัพท์ที่ว่ามันชอบต้มเหล้าเถื่อน จนถูก จ่าแม่น เก่งหมุด ไล่ตามจับเสียหลายครั้ง จนไอ้เรืองเรียกว่าจ่าแม่น เก่งมุด ซึ่งมันก็หนีรอดไปได้ทุกที ไหนจะเรื่องการพนัน ทั้งไพ่ ไฮโล ถั่วโป สารพัด รวมอยู่ในตัวของเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้น่ะหรือ จินตวัฒน์ หรือ จิ๋น ระวังท่าทีอยู่เสมอในการพบกันครั้งแรกกับไอ้เรือง เพราะไม่แน่ใจในคำโพนทะนาของนายกำจร ว่าจริงเท็จแค่ไหน จนทำให้ไอ้เรืองนึกขันในใจว่าผู้ชายคนนี้น่ะหรือที่จะมาเป็นปลัดคนใหม่ ไอ้เรืองเลยตกลงปลงใจเรียกปลัดหน้าใหม่จอมแหยคนนี้ว่า ปลัดหน้าขี้ไก่ เรื่องราวความสนุกสุดปวนของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ติดตามชม “ดาวเรือง”

จินตวัฒน์ หรือ จิ๋น (ทฤษฎี สหวงษ์) ปลัดหนุ่มไฟแรง ลูกของ จันทรา (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) และพี่ชายของ จุลมณี หรือ โจ๋ง(ณัชรัชร์ พิพัฒน์ไชยศิริ) ถูกส่งตัวไปเป็นปลัดที่ต่างจังหวัด ด้วยความที่เรียนจบใหม่จึงไฟแรง บอกกับจันทราว่าหมายมั่นปั้นมือจะไปพัฒนาหมู่บ้าน ด้วยกำลังและวิชาที่ได้ร่ำเรียนมา โดยหารู้ไม่ว่าส่งที่จะเจอภายหน้านั้น ไม่ว่าจะพลกตำราจากสถาบันไหน ก็หาได้แก้ไขเรื่องราวอันวุ่นวายของหมู่บ้านนี้ได้


ละคร ดาวเรือง 2556

ละคร ดาวเรือง 2556

ละคร ดาวเรือง 2556 EP.1-19CH3+

เชื่อเหอะนะ (Ost. ดาวเรือง) – อ้อม สุนิสา [Official Audio]

สิ่งดีๆ (OST.ดาวเรือง) – โอ๊ต Lowfat (ปราโมทย์ ปาทาน)【OFFICIAL MV】


ละคร ดาวเรือง 2556

นายกำจร (วิชัย จงประสิทธิพร) เป็นคนขับรถอาสาพาปลัดหนุ่มหน้าละอ่อน ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านจนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านกำนัน (ไกรลาศ เกรียงไกร) หรือบ้านผู้ใหญ่ผัน (สันติสุข พรหมศิริ) ที่วัน ๆ นอกจากจะตีไก่แล้ว ยังต้องดูแลเมีย ณ ตอนนี้ ที่มีอยู่ถึงเก้าคน เป็นอันว่าทุกข์ร้อนของชาวบ้านไม่ต้องสนใจ แค่เรื่องในมุ้งก็ยุ่งพอทน ผู้ใหญ่มีลูกชายอยู่หนึ่งคนชื่อว่า นายสุวรรณมาลี หรือ วรรณ (สรวิชญ์ สุบุญ) ออกจากกองปราบ (ศัตรูพืช) มาเป็นนายร้อย (กองควาย) รับจ้างตามหาควายหายหรือไม่ก็ขโมยควายเสียเอง เรื่องราวแปลก ๆ ของหมู่บ้านนี้ยังไม่มีเท่านั้น นายกำจรยังบอกอีกว่า หากจินตวัฒน์ต้องการจะพัฒนาหมู่บ้านนี้ ทางที่ดีต้องพัฒนาบ้านไอ้เรืองก่อน

ดาวเรือง หรือ ไอ้เรือง (อุรัสยา เสปอร์บันด์) หากินสารพัดเพื่อเลี้ยงดู บานชื่น (จินตรา สุขพัฒน์) ผู้เป็นแม่ และส่งเสียพี่ชายคนเดียว พฤกษ์ (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) ที่ร่ำเรียนจนใกล้จบผู้พิพากษาในเร็ววันนี้ เมื่อนายกำจรพาจินตวัฒน์มาร้านกาแฟและได้พบหน้าตาของไอ้เรืองก็ถึงกับงง กิตติศัพท์ที่ว่ามันชอบต้มเหล้าเถื่อน จนถูก จ่าแม่น เก่งหมุด (จาตุรงค์ มกจ๊ก) ไล่ตามจับเสียหลายครั้ง จนไอ้เรืองเรียกว่าจ่าแม่น เก่งมุด ซึ่งมันก็หนีรอดไปได้ทุกที ไหนจะเรื่องการพนัน ทั้งไพ่ ไฮโล ถั่งโป สารพัด รวมอยู่ในตัวของเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้น่ะหรือ จินตวัฒน์ระวังท่าทีอยู่เสมอในการพบกันครั้งแรกกับไอ้เรือง เพราะไม่แน่ใจในคำโพนทะนาของนายกำจร ว่าจริงเท็จแค่ไหน จนทำให้ไอ้เรืองนึกขันในใจว่าผู้ชายคนนี้น่ะหรือที่จะมาเป็นปลัดคนใหม่ ไอ้เรืองเลยตกลงปลงใจเรียกปลัดหน้าใหม่จอมแหยคนนี้ว่า ปลัดหน้าขี้ไก่

อิทธิพลของไอ้เรืองแผ่ไปทั่วหมู่บ้าน เพราะนอกจากมันจะเก่งกล้า ฉลาด มีไหวพริบสารพัด ที่สำคัญมันยังเป็นขวัญใจของไอ้วรรณ ลูกผู้ใหญ่ผัน ถึงขนาดไอ้วรรณประกาศห้ามใครแตะต้องไอ้เรืองเด็ดขาด เพราะมันหลงรักไอ้เรืองตั้งแต่เรียนประถม แต่จนบัดนี้ขาอ่อนไอ้เรืองสักนิด ไอ้วรรณก็ไม่เคยได้เห็น ซ้ำร้ายไอ้เรืองกับไอ้วรรณ ยังเป็นคู่แข่งเรื่องขายเหล้าเถื่อนกันอีกต่างหาก จินตวัฒน์หาทางจับไอ้เรืองต้มเหล้าเถื่อนให้ได้ แต่สุดท้าย นอกจากจินตวัฒน์จะถูกไอ้เรืองตีหัวจนแตกแล้ว ไอ้เรืองยังแบกไหเหล้าหนีหายไปกับไอ้เพี้ยน (ด.ช.ยูโร ก้องภพฐิตารีย์) สมุนมือหนึ่งของไอ้เรือง ต่อหน้าจินตวัฒน์อีกด้วย

จินตวัฒน์ เริ่มกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้านด้วยการจัดงานวัด โดยให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างสะพาน และขนดินเข้ามาสร้างถนนเข้าวัด ซึ่งการละเล่นต่าง ๆ ภายในงานก็ยังหนีไม่พ้นการพนันขันต่อเหมือนเดิม ไอ้เรืองกับไอ้วรรณพนันกันเรื่องแข่งขี่ม้า หากไอ้เรืองชนะ นอกจากได้เงินหนึ่งพันบาทแล้ว ไอ้วรรณยังต้องให้ไอ้เรืองขี่คอแห่ทั่วหมู่บ้านอีกต่างหาก หากไอ้เรืองแพ้ต้องให้ไอ้วรรณหอมหนึ่งที การแข่งขันขี่ม้าของไอ้วรรณกับไอ้เรือง มีชาวบ้านแห่มาดูกันแน่นวัด โดยมีแม่บานชื่นตั้งตัวเป็นเจ้ามือคอยรับแทงพนันกันอย่างเปิดเผย ผลสุดท้ายไอ้เรืองเป็นผู้กรำชัย ไอ้วรรณทั้งเสียใจ เสียเงินและเสียหน้า แต่พอนึกได้ว่าจะมีโอกาสใกล้ชิดโดยให้ไอ้เรืองขี่คอรอบหมู่บ้านมันก็ถึงกับหายเศร้า เพราะงานนี้แหละมันจะได้เห็นขาอ่อนไอ้เรืองสักที จินตวัฒน์ไม่ชอบใจนักที่ไอ้เรืองเสียเปรียบไอ้วรรณในข้อนี้ สุดท้ายไอ้เรืองจึงให้แม่บานชื่นขี่คอไอ้วรรณแทน สร้างความผิดหวังให้กับไอ้วรรณเป็นอย่างมาก

ไอ้วรรณคิดแก้แค้นไอ้เรือง ด้วยการไปหาฤกษ์ฉุดไอ้เรืองกับอดีต หลวงตาคง (อนันต์ บุญนาค) พี่ชายแท้ ๆ ของผู้ใหญ่ผันที่สึกออกมาจากผ้าเหลืองแล้วตั้งตนเป็นพ่อหมอประจำหมู่บ้าน เรื่องจึงถึงหูไอ้เรืองจนได้ สุดท้ายคนที่ไอ้วรรณจับใส่กระสอบ หวังจะได้เข้าห้องหอด้วย ก็เลยเป็น แม่ไหว หมอตำแยประจำหมู่บ้านที่อายุรุ่นราวคราวแม่ไอ้วรรณนั่นเองตามแผนของไอ้เรือง ไอ้วรรณคิดไม่ตกเรื่องแม่ไหว สุดท้ายจึงหลอกผู้ใหญ่ผันมาเข้าห้องหอแทน เป็นอันว่าสมญานามผู้ใหญ่ผันเมียสิบ ก็มาได้ด้วยเหตุอันนี้เอง

ไอ้เรืองยังหาทางแก้แค้นไอ้วรรณไม่เลิก เรื่องที่วางแผนจะฉุดตน จึงชวนจินตวัฒน์ไปเผาไร่กัญชาของไอ้วรรณ ขากลับนอกจากต้องวิ่งหนีลูกปืนของลูกน้องไอ้วรรณแล้ว ไอ้เรืองยังแหย่เอารูงูจงอางเข้าจนไอ้เรืองกับจินตวัฒน์ต้องโกยกันแทบไม่ทัน จินตวัฒน์รู้สึกสนุกไม่น้อยที่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน รวมทั้งแง่คิดของไอ้เรืองมากขึ้น เขาเริ่มเอ็นดูไอ้เรืองทีละนิด ทั้งยังอดคิดไม่ได้ว่า หากน้องสาวของเขาได้มาพบกับไอ้เรือง ต้องมาสมัครเป็นลูกน้องต้มเหล้าเถื่อนขายด้วยกันแน่แท้

กำนันเทิ้มถูกงูกัดตายอย่างกะทันหัน เหตุนี้เองจึงต้องมีการเลือกตั้งกำนันขึ้นมาใหม่ ไอ้วรรณเดินเครื่องสนับสนุนผู้เป็นพ่ออย่างเต็มที่ เพื่อที่จะได้เป็นกำนัน ส่วนไอ้เรืองก็ถือหางอดีตหลวงตาคง พี่ชายร่วมสายเลือดเดียวกับผู้ใหญ่ ขึ้นเป็นคู่แข่งในการเลือกตั้ง ไอ้วรรณต้องใช้เงินจำนวนมากในการจัดงานทั้งฉายหนัง มีดนตรี เพื่อหาเสียงให้พ่อ ส่วนไอ้เรืองก็ใช้กลยุทธ์การเป็นนักเทศน์เก่าของหลวงตาคง หาเสียงแบบเงียบ ๆ เรียกคะแนนสงสารได้ไม่น้อย ไอ้เรืองดูผลกับจินตวัฒน์ในการส่งหลวงตาคงเป็นคู่แข่ง ว่าถึงแม้จะแพ้คะแนนผู้ใหญ่ผัน แต่ก็อยากให้มีคนมาทัดทานอำนาจของผู้ใหญ่ผันเอาไว้บ้าง เพราะหากผู้ใหญ่ผันได้เป็นกำนันแล้วเอื้อประโยชน์ให้กับบรรดาญาติ ๆ ของเมียทั้งสิบคน มีหรือความสุขสบายจะตกถึงมือลูกบ้าน ไอ้เรืองจึงออกอุบายเรื่องทรงเจ้าเข้าผีให้ผู้ใหญ่ผันสาบานว่า หากได้เป็นกำนันจะไม่โกงกิน มิเช่นนั้นจะต้องมีอันเป็นไป ในสามวันเจ็ดวัน จินตวัฒน์ทึ่งไม่น้อยในความคิดความอ่านของไอ้เรือง ว่าความเฉลียวฉลาดนั้นไม่มีใครเกิน ซึ่งสุดท้ายผู้ใหญ่ผันก็ได้เลื่อนขั้นเป็นกำนันผัน ดังความฝันของไอ้วรรณ ลูกกำนันผันเมียสิบ

ไอ้เรืองเริ่มแวะเวียนมาหาปลัดบ่อยขึ้น ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน เสมือนปลัดเป็นเพื่อนเล่นคนหนึ่ง ถึงแม้ไอ้เรืองจะเริ่มจับสังเกตได้ว่าแววตาที่จินตวัฒน์มองมานั้น มีความนัยอะไรอยู่ลึก ๆ แต่ไอ้เรืองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซ้ำยังกระซิบบอกปลัดอีกว่า พวกตัดไม้ทำลายป่า กำลังเลื่อยไม้อยู่ในป่าทั้งวันทั้งคืน แต่ตนไม่สามารถเป็นกำลังให้ปลัดได้ในงานนี้ เหตุเพราะว่าไอ้เรืองรู้จักดีอยู่กับพวกคนขับรถลากซุง จึงแนะให้ปลัดไปขอความช่วยเหลือจากไอ้วรรณ เพราะมันมีลูกน้องเยอะและชำนาญทางในป่าเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เองอีกไม่กี่วันต่อมา จินตวัฒน์ ไอ้วรรณพร้อมด้วยลูกสมุน จ่าแม่น นายอำเภอ ผู้กำกับ พร้อมด้วยตำรวจอีกมาก จึงเดินทางเข้าป่าตามคำแนะนำของไอ้เรือง เพื่อไปจับพวกค้าไม้ ไอ้เรืองนั่งแทบไม่ติด เพราะงานนี้ตัวเองไม่ได้เป็นแกนนำเหมือนดั่งเคย แม่บานชื่นไม่เข้าใจว่าที่ไอ้เรืองกระวนกระวายนั้น ห่วงไอ้วรรณจะพลาดพลั้งถูกยิง เพราะตัวนั้นแนะนำให้ไอ้วรรณนำทีมทุกคนไป หรือว่าห่วงปลัดหน้าขี้ไก่ของไอ้เรืองกันแน่

ผลสุดท้ายก็คือมีการปะทะกันในป่าอย่างดุเดือด จนข่าวหนังสือพิมพ์ลงกันให้ครึกโครม พวกคนร้ายถูกตำรวจจับได้ในที่สุด จินตวัฒน์ถูกยิงแค่เฉียดไป แต่กระนั้น ไอ้เรืองก็รู้สึกผิดไม่น้อย เพราะครั้งที่แล้วก็ตีหัวจินตวัฒน์แตก มาครั้งนี้ยังส่งตัวปลัดไปเสี่ยงอีก ส่วนไอ้วรรณก็เช่นกัน ต้องไปหยอดน้ำข้าวต้มเสียที่โรงพยาบาลหลายวัน แต่พอไอ้เรืองลงทุนไปเยี่ยมไอ้วรรณที่โรงพยาบาลเท่านั้น ก็ทำเอาไอ้วรรณปลื้มจนลืมตาย คุยฟุ้งทั้งโรงพยาบาลว่าไอ้เรืองเป็นแฟนมาเยี่ยม

พฤกษ์ เรียนจบกลับมาบ้าน บานชื่นกับไอ้เรืองดีใจไม่น้อย แต่พฤกษ์เองกลับเสียใจที่ปล่อยให้ไอ้เรืองต้องกลายเป็นนักเลงหัวไม้ ทำเรื่องผิดกฎหมายอยู่หลายประเภท เพื่อหาเงินส่งเสียเขาจนเรียนจบ พฤกษ์จึงขอร้องให้ไอ้เรืองเลิกทำตัวแบบนี้แล้วไปเรียนต่อสักที แถมพฤกษ์นั้นก็รู้จักกับจินตวัฒน์ เหตุที่พฤกษ์เป็นนักเรียนรุ่นน้องของจินตวัฒน์นั่นเอง

พวกคนงานในป่าที่หลุดรอดไปด้อม ๆ มอง ๆ ที่บ้านปลัดอยู่หลายวัน จนไอ้เรืองเริ่มสังเกตได้ว่าจินตวัฒน์จะมีภัย จึงไปเตือนจินตวัฒน์ที่บ้านพัก พร้อมทั้งชวนไอ้วรรณหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อคุ้มกันปลัด แล้วคืนนั้นคนร้ายก็ลงมือจริง ๆ ไอ้เรืองกับไอ้วรรณช่วยจินตวัฒน์ยิงคนร้าย แถมยังซัดทอดไปถึงหัวหน้าแก๊งรวบจับได้ทั้งทีม โดยความดีความชอบครั้งนี้ไอ้เรืองยกให้ไอ้วรรณรับไปเต็ม ๆ เพราะตนเองนั้นไม่อยากเปิดเผยตัว สุดท้ายนายอำเภอกับผู้กำกับบอกความลับให้จินตวัฒน์ได้รู้ว่า ดาวเรืองนั้นเป็นสายของตำรวจ เหตุที่จ่าแม่น เก่งมุด แกล้งทำเป็นจับไอ้เรืองขึ้นโรงพักนั้น ก็เพื่อต้องการนำตัวไอ้เรืองมาที่โรงพัก แล้วคุยเรื่องงานสายลับต่างหาก จินตวัฒน์รู้สึกว่าตัวเองนั้นรู้ไม่เท่าทันดาวเรืองสักที งานนี้ก็เช่นกันไอ้เรืองหวังจะให้จินตวัฒน์เข้าไปจับผู้ร้ายในป่าเพื่อให้เขาได้ความดีความชอบในการทำงานนั่นเอง

จินตวัฒน์ตามไปถามความจริงทุกอย่างด้วยตนเองกับไอ้เรือง ซ้ำยังบอกอีกว่าจะให้ตนเองบวชหรือแต่งงานก่อน เป็นคำถามหยั่งเชิงกับไอ้เรือง ซึ่งไอ้เรืองก็ทำเป็นไม่รับรู้ในสิ่งที่ได้ยิน เรื่องหัวใจของไอ้เรืองกับจินตวัฒน์ยังคาราคาซัง ไอ้วรรณก็ขอร้องให้ปลัดตอบแทนคุณงามความดีเรื่องที่ช่วยชีวิตพร้อมทั้งพาไปจับผู้ร้าย ด้วยการให้ปลัดเป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอไอ้เรือง นอกจากจินตวัฒน์จะอึ้งกิมกี่ไป ไอ้เรืองก็ผิดหวังเช่นกัน ด้วยความโกรธ ไอ้เรืองจึงบอกว่าหากพานายกฯ มาขอได้ ก็จะยอมแต่งให้ชาติหน้า ไอ้วรรณเสียอกเสียใจเพราะยังไงก็ไม่สามารถหานายกฯ มาสู่ขอไอ้เรืองได้แน่นอน สุดท้ายจึงยอมทำใจบอกกับไอ้เรืองว่าจะขออยู่เป็นโสดไปจนตายพร้อมกับไอ้เรืองนั่นเอง

เหนือฟ้ายังมีฟ้า หลายเพลาผ่านไปจินตวัฒน์ก็พานายกสมาคมศพไม่มีญาติพร้อมผู้กำกับ นายอำเภอ หลวงตาคง มาสู่ขอไอ้เรือง ไอ้เรืองหมดท่าเพราะตอนที่ลั่นวาจาไปนั้นไม่ได้บอกว่าเป็นนายกอะไร แถมหลวงตาคงยังบอกอีกว่า คำว่าชาติหน้านั้น คำพระถือว่า นอนหลับแล้วตื่นขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นอีกชาติหนึ่งแล้ว สุดท้ายไอ้เรืองจึงยอมจำนนปลัดหน้าขี้ไก่ด้วยประการฉะนี้

จันทรากับโจ๋ง เตรียมตัวแทบไม่ทัน หลังจากได้รับจดหมายจากจินตวัฒน์เรื่องที่จะให้แม่ไปดูหน้าลูกสะใภ้ที่ชื่อดาวเรือง ชาวบ้านลือกันไปหลายคุ้งน้ำว่า ปลัดจินตวัฒน์ ควงสาวสวยมาโชว์ทั้งตลาด ซ้ำไอ้วรรณก็ยังยืนยันหนักแน่นว่าเห็นมากับตา ลมเพชรหึงขึ้นหน้าไอ้เรือง ถึงขนาดร่อนไปที่บ้านปลัดพร้อมไอ้วรรณแทบไม่ทัน ครั้นรู้ว่าสาวสวยคนนั้นคือ โจ๋ง น้องสาวของปลัดจินตวัฒน์ ก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ จันทราเกลี้ยกล่อมดาวเรืองไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน หากจินตวัฒน์ต้องย้ายไปประจำยังจังหวัดต่าง ๆ โดยมีอุบายขอดาวเรืองไปเป็นลูก ดาวเรืองได้ทีคิดว่าครั้งนี้รอดน้ำมือจินตวัฒน์เป็นแน่แท้จึงตกลงรับคำ เพราะคนเป็นพี่น้องจะแต่งงานกันมิได้ แต่สุดท้ายจันทราก็บอกกับบานชื่นว่า จะขอไปเป็นลูกสะใภ้ นั่นแหละเป็นอันว่าไอ้เรืองเสียรู้แม่ของปลัดหน้าขี้ไก่แล้วนั่นเอง

ในวันแต่งงานของดาวเรือง แม่ไหวเมียสิบของกำนันผันก็อาสามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวโดยไม่ต้องเชิญ เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ไอ้เรืองทำให้ตนนั้นได้เป็นเมียกำนันผัน ส่วนไอ้วรรณ แขกคนสำคัญก็มาทั้งน้ำตา พร้อมทั้งแจ้งตำรวจให้จับไอ้เรืองที่ใช้เหล้าเถื่อนเลี้ยงแขกในงาน หวังจะให้เวลาส่งตัวเข้าหอระหว่างไอ้เรืองกับปลัดจินตวัฒน์ยืดออกไปอีก แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม วันเวลาผ่านไป ไอ้เรืองก็หาทางแก้ลำปลัดหน้าขี้ไก่เรื่อยไป ถึงขนาดมีข่าวลือว่าปลัดที่นี่ชื่อดาวเรือง ส่วนเมียปลัดชื่อจินตวัฒน์ ที่สำคัญเด็กสาวตาแป๋วที่ชื่อรุ่ง ทายาทของไอ้เรือง มีแววว่าจะเป็นผู้นำหมู่บ้านสืบสายเลือดผู้เป็นแม่อย่างแน่นอน ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครดาวเรือง

บทประพันธ์โดย : ทมยันตี
บทโทรทัศน์โดย : ปารดา กันตพัฒนกุล
กำกับการแสดงโดย : กฤษณ์ ศุกระมงคล
ผลิตโดย : บริษัท โนพรอบเบลม จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : ธิติมา สังขพิทักษ์

นักแสดง
ทฤษฎี สหวงษ์ รับบท ปลัดจินตวัฒน์
อุรัสยา เสปอร์บันต์ รับบท ดาวเรือง
สรวิชญ์ สุบุญ รับบท สุวรรณ
มณีรัตน์ คำอ้วน รับบท เสมอใจ
พิตต้า ณ พัทลุง รับบท สุดาวดี
สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล รับบท พฤกษ์
จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท บานชื่น
สันติสุข พรหมศิริ รับบท ผู้ใหญ่ผัน
ผอูน จัทรศิริ รับบท เวียง
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท เสี่ยกำพล
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท จันทรา
อนันต์ บุญนาค รับบท หลวงตาคง
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท ไสว
จาตุรงค์ มกจ๊ก รับบท จ่าแม่น
จอย ชวนชื่น รับบท บุญปลีก
ปาจรีย์ ณ ระนอง รับบท บุญปลอด
ณัชภัชร์ พิพัฒน์ไชยศิริ รับบท จุลมณี
ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ รับบท น้ำหวาน
วิวัฒน์ ประสมทรัพย์ รับบท นายอำเภอไพศาล
อุทุมพร ศิลาพันธ์ รับบท คุณนายฤดี
ศานติ สันติเวชกุล รับบท ผู้กำกับสันติสุข
กล้วย เชิญยิ้ม รับบท พระครูจ้อย
วิชัย จงประสิทธิพร รับบท กำจร
ไกรลาศ เกรียงไกร รับบท กำนันทิ้ม
แจ็ค แฟนฉัน รับบท แหลม
ปราโมทช์ เทียนชัยเกิดศิลป์ รับบท กรอด
ด.ช.ยูโร ก้องภพฐิตารีย์ รับบท เพี้ยน

ตัวละคร
จินตวัฒน์ วิโสภา (จิ๋น) บุคลิกลักษณะ อายุ 26 ปี แข็งแกร่งพร้อมลุย เป็นมนุษย์เอ้าท์ดอร์ที่พร้อมทำงานกลางแจ้ง ไม่ห่วงหล่อไม่กลัวดำ เป็นข้าราชการที่ดีอุปนิสัย ใจเย็น อารมณ์ดี ขี้เล่น มองโลกในแง่ดี ช่างสังเกต ฉลาดแต่เจอดาวเรืองบางครั้งก็ขาดเฉลียว สนใจใฝ่รู้ มุ่งมั่นทุ่มเทเอาจริงเอาจังทั้งเรื่องงานและความรัก
ดาวเรือง (ไอ้เรือง) บุคลิกลักษณะ อายุ 17 ปี แป้งไม่ทา หน้าไม่แต่ง ห้าวเหมือนผู้ชาย แคล่วคล่องว่องไว เป็นขาใหญ่ประจำหมู่บ้าน อุปนิสัย ฉลาดแกมโกง เอาตัวรอดได้ตลอดเวลา หนักแน่น ไม่กลัวใคร กล้าได้กล้าเสีย ใจนักเลง ถึงไหนถึงกัน รักครอบครัวมาก ลึก ๆ แล้วเป็นคนรักดี สำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ดี แต่ต้องทำเพราะความจำเป็น
สุวรรณ (ไอ้วรรณ) บุคลิกลักษณะ อายุ 20 ปี จิ๊กโก๋ประจำหมู่บ้าน คิดว่าตัวเองหล่อ โดดเด่นและฉลาดกว่าใครอุปนิสัย เกะกะระรานหาเรื่องเขาไปทั่ว เอาแต่ใจตัวเองเพราะถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ ร้ายแบบเด็ก ๆขี้โวยวาย อยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้ กล้าได้กล้าเสีย ชอบเสี่ยง ไม่ค่อยมีหัวคิด รักสนุก ชอบสบาย ไม่เครียดกับอะไร เป็นคนมุ่งมั่นกับเรื่องรักเรื่องเดียว นอกนั้นไม่เอาถ่านสักอย่าง ไม่มีอาชีพ ขอเงินพ่อแม่ไปวันๆ ต้มเหล้าเถื่อนแข่งกับดาวเรืองเพราะอยากเอาชนะ ปลูกกัญชาเอามัน ไม่ยอมเรียนต่อเพราะขี้เกียจ ชีวิตคิดอยู่อย่างเดียว ทำไงจะเอาไอ้เรืองมาเป็นเมียให้ได้
เสมอใจ (เหมอ) สาวสวยเพื่อนรุ่นพี่ของดาวเรือง อายุ 19 ปี หลานของไสว เป็นคนโลกสวย รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวเลียนแบบดาราที่ตัวเองชื่นชอบ ช่างฝัน จิตใจดี มีฝีมือทำอาหาร เป็นแม่บ้านแม่เรือน มีความรู้เรื่องสมุนไพร รักซื่อถือมั่นอยู่กับวรรณ ความฝันหนึ่งเดียวในชีวิตคือ อยากได้วรรณมาเป็นผัวและเป็นพ่อของลูกตัวเอง
สุดาวดี (โรส) ดาราสาวสวยอายุ 22 ปี ขวัญใจประชาชนคนรากหญ้า มักคิดว่าตัวเองเป็นคนน่ารักไม่ถือตัว เป็นกันเองกับทุกคน แต่ความจริงเป็นคนเรื่องเยอะปัญหาแยะ ชอบฟุ้งเฟ้อ ติดหรู บ้าแบรนด์เนม เอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีเหตุผล ชอบให้คนป้อยอพะเน้าพะนอ ไม่ชอบให้ใครขัดใจ คบกับจินตวัฒน์เพราะเห็นว่าหล่อและสุภาพ ควงออกงานได้ไม่อายใคร
พฤกษ์ อายุ 23 ปี พี่ชายคนเดียวของดาวเรือง ใจเย็น มีเหตุผล เป็นผู้ใหญ่เกินตัวรอบคอบ ขยัน ชอบลงมือทำมากกว่าพูด ยืนหยัดอยู่ข้างความถูกต้อง ไม่ชอบคนที่เอาแต่ใจ ไม่ชอบใช้ชีวิตฉาบฉวย เป็นคนคิดจริงทำจริง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดใด ฉลาดทันคน
บานชื่น อายุ 46 ปี (แม่ดาวเรืองกับพฤกษ์) แม่ม่ายสามีตายที่ยังคงความสวย และครองตัวเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบัน เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวใคร ลื่นเป็นปลาไหล จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ฉลาดแกมโกง เอาตัวรอดเก่ง ขี้บ่น ช่างพูด ช่างสอน ปากร้ายใจดี ขยัน ทำอาหารเก่ง ชอบเล่นไพ่เล่นหวย เป็นตัวอย่างของคำว่าดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่ บานชื่นเป็นยังไง ดาวเรืองเป็นอย่างนั้น
ผู้ใหญ่ผัน อายุ 50 ปี เจ้าชู้ กะล่อน ชอบแต่งตัวหล่อเฟี้ยวอวดสาว มองอะไรแค่ด้านเดียว แอบขี้โกง ถ้ามีโอกาสเอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้ก็จะทำทันที ชอบตีไก่ ตามใจลูกมาก ชอบประจบสอพลอคนที่มีผลประโยชน์ให้ พูดจาเอาดีใส่ตัวตลอดเวลา บูชาเงิน มองความรวยกับความดีเป็นเรื่องเดียวกัน
แม่เวียง เมียใหญ่ของผู้ใหญ่ผัน อายุ 48 ปี ชอบทำตัวเป็นซูสีไทเฮาบ่งการบรรดาเมียเล็กๆ ของผู้ใหญ่ ไม่มีปัญหากับเมียคนไหนเพราะปกครองได้อยู่หมัด เป็นที่เกรงใจของผู้ใหญ่ผัน ใจกว้างเรื่องผู้หญิงของผัว แต่เรื่องเงินไม่ยอมใคร หวงสมบัติไว้ให้ลูกชายคนเดียวเพราะรักลูกมาก ลูกอยากได้อะไรเป็นต้องเสาะหามาให้ ไม่ค่อยกินเส้นกับบานชื่นนัก เพราะบานชื่นเคยเป็นนางงามดอนล้อมแรด ในขณะที่เวียงได้ตำแหน่งรองนางงาม หน่ำซ้ำบานชื่นยังเคยเป็นคนที่ผันรักมากมาก่อนตัวเองอีกด้วย
จ่าแม่น เก่งหมุด อายุ 48 ปี สุดยอดตำรวจไทย มีนิสัยขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจังกับหน้าที่ มี ความตั้งใจในการทำงาน แต่ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง พยายามทำตัวให้เป็นที่เกรงขาม แต่กลับไม่มีใครเกรง รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี ภูมิใจในเครื่องแบบและความเป็นตำรวจของตัวเองมาก ชีวิตนี้ ถ้าจับดาวเรืองเข้าตารางได้ จะรู้สึกเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลอย่างที่สุด

ดาวเรือง เป็นบทประพันธ์ของ ทมยันตี ถูกนำมาสร้างเป็นครั้งแรกในรูปแบบภาพยนตร์ ออกฉายในปี พ.ศ. 2522 สร้างโดย สหมงคลฟิล์ม กำกับการแสดงโดย เสรี วงษ์มณฑา นำแสดงโดย ธีรยุทธ ศีลาภิรัติ และ ลลนา สุลาวัลย์ เข้าฉายเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2522 ฉายที่โรงภาพยนตร์โคลีเซี่ยม ต่อมาถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ถึง 4 ครั้ง โดยครั้งแรกออกอากาศทาง ช่อง 5 นำแสดงโดย วิฑูรย์ กรุณา และ อัจฉรา รอดศาสตรา ในปี พ.ศ. 2522 ต่อมาออกอากาศทาง ช่อง 3 ถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2530 นำแสดงโดย เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และ จริยา แอนโฟเน่ ในปี พ.ศ. 2539 นำแสดงโดย จอห์นนี่ แอนโฟเน่ และ สิริยากร พุกกะเวส และในปี พ.ศ. 2556 นำแสดงโดย ทฤษฎี สหวงษ์ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ และคำว่า เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ มักเป็นคำยอดฮิตในระหว่างที่ละครออกอากาศในขณะนั้น

เพลงประกอบละคร พ.ศ. 2556
เพลง เชื่อเหอะนะ ขับร้องโดย สุนิสา สุขบุญสังข์ (เพลงเปิด)
เพลง สิ่งดีดี ขับร้องโดย ปราโมทย์ ปาทาน (เพลงปิด)
เพลง สักวันต้องคู่กัน ขับร้องโดย สรวิชญ์ สุบุญ