ละคร สายรุ้ง 2540 “เมทนี” หญิงสาวที่มีความสวยและโด่งดังในวงการนางแบบ แต่ชีวิตครอบครัวกลับเต็มไปด้วยปัญหา เมทนีต้องแบกรับภาระดูแลแม่ที่ติดเหล้าและการพนัน รวมถึงน้องสาวต่างพ่อ “เจนจิรา” ในขณะที่เมทนีต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต เธอก็ได้พบกับ “พงศธร” ชายหนุ่มที่หน้าตาเหมือนกับ “ภาคย์” รักแรกของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว การปรากฏตัวของพงศธรทำให้เมทนีต้องเผชิญหน้ากับอดีตและความรู้สึกที่ซับซ้อน

ละคร สายรุ้ง 2540 ละครแนวชีวิตโรแมนติกดราม่า ที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ ทมยันตี โดยมี แอน ทองประสม รับบทนางเอก เมทินี และ จอนนี่ แอนโฟเน่ รับบทพระเอก พงศ์ธร/ภาคย์ ละครเรื่องนี้กำกับการแสดงโดย มารุต สาโรวาท และผลิตโดย พริ๊นซ์ โปรดักชั่น

เรื่องราวของ “เมทินี” นางแบบสาวสวยชื่อดังในวงการแฟชั่นที่มีชีวิตภายนอกดูสมบูรณ์แบบ แต่ภายในเต็มไปด้วยความเปราะบางและบาดแผลทางใจ เธอต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัวที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะมารดา (มัณฑนา รับบทโดย อุทุมพร ศิลาพันธ์) ที่ติดการพนันและมีหนี้สินท่วมตัว จนพยายามผลักดันให้เมทินีรับข้อเสนอเป็นอนุภรรยาของรัฐมนตรีคนหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาการเงิน ซึ่งเมทินีปฏิเสธอย่างหนักแน่น

ชีวิตของเมทินียิ่งซับซ้อนเมื่อเธอสูญเสีย “ภาคย์” ชายหนุ่มที่เป็นรักแรกและรักแท้ของเธอจากการตายในอุบัติเหตุ ความสูญเสียนี้นำพาเธอเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าและหันไปพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลืมความเจ็บปวด ท่ามกลางความทุกข์ เธอได้พบกับ “พงศ์ธร” นักธุรกิจหนุ่มรูปงามที่มีใบหน้าและบุคลิกคล้ายคลึงกับภาคย์อย่างน่าประหลาด เมทินีรู้สึกสับสนระหว่างความรู้สึกที่มีต่ออดีตและปัจจุบัน ความสัมพันธ์ของเธอกับพงศ์ธรจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งและปมในใจ

ในอดีต เมทินีและภาคย์รู้จักกันตั้งแต่เด็กและพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรัก แต่ครอบครัวของภาคย์ไม่ยอมรับมัณฑนา แม่ของเมทินี โดยเชื่อว่าเธอเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ ความรักของทั้งคู่ต้องเผชิญอุปสรรค เมื่อแม่ของภาคย์บังคับให้เมทินีเขียนจดหมายบอกเลิกเขา ส่งผลให้ภาคย์เสียใจหนัก ดื่มเหล้าจนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต เมทินีโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้ และนั่นกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในใจเธอ

เมื่อพงศ์ธรเข้ามาในชีวิต เมทินีต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิดและความสับสน เธอถลำลึกในวงจรของความทุกข์และการดื่มหนัก จนเกือบกลายเป็นคนติดเหล้าเต็มตัว เรื่องราวดำเนินไปพร้อมกับการเปิดเผยปมว่าแท้จริงแล้วพงศ์ธรและภาคย์อาจมีความเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เธอคิด ละครนำเสนอการเดินทางของเมทินีที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตเพื่อก้าวข้ามไปสู่การเยียวยาและเริ่มต้นใหม่

ตัวละครสำคัญ
• เมทินี (แอน ทองประสม): นางแบบสาวสวยที่เข้มแข็งภายนอก แต่เปราะบางจากปัญหาครอบครัวและความรัก
• พงศ์ธร/ภาคย์ (จอนนี่ แอนโฟเน่): ชายหนุ่มที่มีความลับเชื่อมโยงกับอดีตของเมทินี
• มัณฑนา (อุทุมพร ศิลาพันธ์): แม่ของเมทินี ผู้สร้างปัญหาให้ครอบครัว
• เจนจิรา (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ): น้องสาวของเมทินี
• นักแสดงสมทบอื่น ๆ เช่น เพ็ญพักตร์ ศิริกุล (แววพรรณ), บุศรินท์ ณรัล (วัลลภา), สุเชาว์ พงษ์วิไล (ท่านรัฐมนตรี)

ธีมหลักของละคร

“ละคร สายรุ้ง” สะท้อนถึงความฝัน ความหวัง และบาดแผลในชีวิตที่เปรียบเหมือนสายรุ้งงดงามแต่จับต้องไม่ได้ ละครเน้นการต่อสู้กับความทุกข์ การเยียวยาจิตใจ และการค้นหาความรักแท้ท่ามกลางความสูญเสีย

ละคร “สายรุ้ง” ปี พ.ศ. 2540 ได้รับความนิยมในยุคนั้นจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ โดยเฉพาะแอน ทองประสม ที่ถ่ายทอดบทเมทินีได้อย่างน่าประทับใจ ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องแบบครบถ้วน

จุดสำคัญ
เมทินี (แอน ทองประสม) เป็นนางแบบสาวสวยที่มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่น แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหา โดยเฉพาะ มัณฑนา (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของเธอที่ติดการพนันและมีหนี้สินมหาศาล มัณฑนาพยายามบังคับให้เมทินีรับข้อเสนอเป็นเมียน้อยของ ท่านรัฐมนตรี (สุเชาว์ พงษ์วิไล) เพื่อปลดหนี้ แต่เมทินีปฏิเสธ เพราะเธอมีศักดิ์ศรีและยังคงรัก ภาคย์ ชายหนุ่มที่เป็นรักแรกของเธอ

ในอดีต เมทินีและภาคย์ (จอนนี่ แอนโฟเน่) รักกันตั้งแต่สมัยเรียน แต่ครอบครัวของภาคย์ โดยเฉพาะแม่ของเขา แววพรรณ (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ไม่ยอมรับเมทินีและมัณฑนา เพราะมองว่ามัณฑนาเป็นคนไม่ดีและหวังผลประโยชน์ แววพรรณบีบให้เมทินีเขียนจดหมายบอกเลิกภาคย์ โดยขู่เข็ญว่าไม่งั้นจะทำร้ายครอบครัวของเธอ เมทินีจำใจทำตาม ภาคย์เสียใจหนัก ดื่มเหล้าจนเมาและขับรถเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เมทินีโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของการตายของเขา และกลายเป็นบาดแผลฝังลึกในใจ

หลังจากนั้น เมทินีใช้ชีวิตแบบคนที่สูญเสียทุกอย่าง เธอเริ่มดื่มหนักเพื่อลืมความเจ็บปวด จนกระทั่งได้พบกับ พงศ์ธร (จอนนี่ แอนโฟเน่ เช่นกัน) นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาเหมือนภาคย์ราวกับฝาแฝด การปรากฏตัวของพงศ์ธรทำให้เมทินีสับสน เธอรู้สึกเหมือนได้ภาคย์กลับมา แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวว่าตัวเองจะรักเขาเพียงเพราะความเหมือนนี้

ปมสำคัญและการคลายปม
ตลอดเรื่อง ผู้ชมจะสงสัยว่าพงศ์ธรคือภาคย์ที่รอดตายมาได้หรือไม่ แต่ในที่สุดมีการเฉลยว่า พงศ์ธรและภาคย์ไม่ใช่คนเดียวกัน พงศ์ธรเป็นเพียงคนที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกันโดยบังเอิญ เขาเป็นคนดี มีความมั่นคง และเริ่มตกหลงรักเมทินีจากความเข้มแข็งและเปราะบางของเธอ อย่างไรก็ตาม เมทินีต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักเพื่อแยกแยะความรู้สึกที่มีต่อพงศ์ธรออกจากความทรงจำของภาคย์

ในขณะเดียวกัน มัณฑนายังคงสร้างปัญหาไม่หยุด เธอพยายามผลักดันเมทินีให้ยอมรับข้อเสนอของท่านรัฐมนตรีซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเมทินีถึงจุดแตกหัก เธอตัดขาดจากแม่และพยายามยืนหยัดด้วยตัวเอง แต่ความกดดันจากครอบครัวและความรู้สึกผิดในอดีตทำให้เธอเกือบกลายเป็นคนติดเหล้าเต็มตัว

ในช่วงท้าย เมทินีเริ่มเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเอง เธอได้รับการสนับสนุนจากพงศ์ธรและคนรอบข้าง เช่น เจนจิรา (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ) น้องสาวของเธอ ที่พยายามช่วยพี่สาวให้กลับมาเข้มแข็ง เมทินีตัดสินใจเลิกเหล้าและเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอยอมรับความรักของพงศ์ธรในฐานะคนที่เขาเป็น ไม่ใช่เงาของภาคย์

ส่วนมัณฑนา ในที่สุดต้องเผชิญผลจากการกระทำของตัวเอง เธอถูกเจ้าหนี้ตามล่าและชีวิตพังพินาศ แต่เมทินีเลือกที่จะให้อภัยแม่ แม้จะไม่กลับไปช่วยเหลือแบบเต็มที่เหมือนในอดีต ละครจบลงด้วยภาพของเมทินีที่ก้าวข้ามความเจ็บปวดได้สำเร็จ และเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพงศ์ธร โดยมี “สายรุ้ง” เป็นสัญลักษณ์ของความหวังหลังพายุฝน

ละคร “สายรุ้ง” ปี พ.ศ. 2540 เป็นหนึ่งในละครไทยสุดคลาสสิกที่ออกอากาศทางช่อง 3 ละครเรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานที่เข้มข้นทั้งบทและการแสดง

(จุดเด่น)

การแสดงอันทรงพลังของแอน ทองประสม
แอนในบท เมทินี ถือเป็นไฮไลต์ของเรื่อง เธอถ่ายทอดความเปราะบางและความเข้มแข็งของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะฉากดราม่าที่เมทินีต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียและความกดดันจากครอบครัว ฉากที่เธอดื่มเหล้าและร้องไห้อย่างสิ้นหวังกลายเป็นภาพจำของแฟนละครในยุคนั้น การแสดงของแอนในเรื่องนี้ช่วยตอกย้ำสถานะของเธอในฐานะนางเอกแถวหน้าของวงการ

เคมีระหว่างแอนและจอนนี่
จอนนี่ แอนโฟเน่ รับบทสองคาแรกเตอร์ทั้ง ภาคย์ ชายหนุ่มรักแรกผู้แสนดี และ พงศ์ธร นักธุรกิจหนุ่มที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตเมทินี เคมีของทั้งคู่ทำให้คนดูอินไปกับความรักที่ทั้งหวานและขมขื่น โดยเฉพาะความสับสนของเมทินีที่ต้องแยกแยะความรู้สึกต่อพงศ์ธรและความทรงจำของภาคย์

บทละครที่เข้มข้นและชวนติดตาม
บทประพันธ์ของทมยันตีถูกดัดแปลงมาอย่างดีเยี่ยม เนื้อหาครบรสทั้งความรัก ดราม่าครอบครัว และการต่อสู้ภายในจิตใจ ปมเรื่องที่เมทินีต้องเผชิญหน้ากับอดีตและก้าวข้ามความเจ็บปวดถูกถ่ายทอดอย่างลึกซึ้ง ทำให้คนดูอยากรู้ว่าเธอจะเยียวยาตัวเองได้อย่างไร

งานโปรดักชั่นและดนตรีประกอบ
สำหรับยุค พ.ศ. 2540 งานภาพและการตัดต่อของ “สายรุ้ง” ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานสมัยนั้น การถ่ายทอดฉากชีวิตนางแบบและความหรูหราของวงการแฟชั่นตัดกับความดิบเถื่อนของปัญหาครอบครัวได้อย่างลงตัว ดนตรีประกอบก็ช่วยขับอารมณ์ให้ละครเข้มข้นยิ่งขึ้น

(จุดด้อย)

ความยืดเยื้อในบางช่วง
ด้วยความที่เป็นละครยาวตามสไตล์ยุค 90 บางตอนอาจรู้สึกเนือย โดยเฉพาะฉากดราม่าที่วนเวียนกับความทุกข์ของเมทินีและการรบเร้าของมัณฑนา (แม่) ซึ่งอาจทำให้คนดูรู้สึกอึดอัดหากไม่ชอบละครที่เน้นความหนักหน่วง

ตัวละครสมทบที่เด่นไม่ทั่วถึง
แม้จะมีนักแสดงสมทบฝีมือดี แต่บางตัวละคร เช่น เจนจิรา (น้องสาวของเมทินี) หรือ แววพรรณ (แม่ของภาคย์) มีบทบาทจำกัดและไม่ได้ถูกขยายความมากนัก ทำให้รู้สึกว่าศักยภาพของตัวละครเหล่านี้ถูกใช้ไม่เต็มที่

ความสมจริงในบางประเด็น
การที่พงศ์ธรหน้าตาคล้ายภาคย์แบบเป๊ะ ๆ อาจดูเป็นพล็อตที่บังเอิญเกินไปสำหรับบางคน และการที่เมทินีหันไปพึ่งเหล้าอย่างหนักอาจดูเวอร์เกินจริงในสายตาคนดูสมัยใหม่ที่มองหาความสมเหตุสมผลมากขึ้น

คะแนน 8.5/10 (จาก sence9.com)

“สายรุ้ง” เป็นละครที่เน้นการเยียวยาจิตใจและการเติบโตของตัวละคร เมทินีจากหญิงสาวที่เปราะบางกลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นผ่านความรักและการให้อภัยตัวเอง เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคนั้น เพราะการแสดงที่ทรงพลังของแอน ทองประสม และเคมีที่ลงตัวกับจอนนี่ แอนโฟเน่ รวมถึงบทที่เข้มข้นของทมยันตีที่ดึงอารมณ์คนดูได้ดีเยี่ยม

“สายรุ้ง” เป็นละครที่เหมาะกับคนรักดราม่าเข้มข้นและชื่นชอบการแสดงที่เน้นอารมณ์ ตัวละครหลักอย่างเมทินีถูกสร้างมาให้มีมิติ ทั้งความสวยงามภายนอกและความแตกสลายภายใน ซึ่งแอน ทองประสมถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าจดจำ เรื่องนี้ยังสะท้อนปัญหาครอบครัวและการเยียวยาจิตใจได้ดี แม้จะมีจุดที่ยืดเยื้อหรือดูเกินจริงบ้าง แต่ด้วยเสน่ห์ของนักแสดงและบทที่แข็งแรง ทำให้ “สายรุ้ง” กลายเป็นละครในตำนานที่ยังถูกพูดถึงจนถึงทุกวันนี้

สำหรับคนที่ชอบละครแนวชีวิตผสมโรแมนติกดราม่าและอยากย้อนรอยความทรงจำยุค 90 “สายรุ้ง” คือผลงานที่ไม่ควรพลาด แต่ถ้าคุณไม่ชอบความหนักหน่วงหรือการดำเนินเรื่องที่ช้า อาจต้องปรับใจก่อนดูสักหน่อย

อินไปกับความเจ็บปวดของเมทินี ตั้งแต่ต้นเรื่อง การได้เห็น เมทินี (แอน ทองประสม) ในบทนางแบบสาวสวยที่ดูเพียบพร้อมแต่ชีวิตจริงกลับพังทลายจากครอบครัวและความรัก ทำให้รู้สึกสงสารและเห็นใจเธออย่างมาก โดยเฉพาะฉากที่เธอต้องเผชิญหน้ากับ มัณฑนา แม่ที่เห็นแก่ตัวและกดดันเธอให้ยอมเป็นเมียน้อย ความรู้สึกหน่วง ๆ ในอกเริ่มก่อตัว เพราะมันสะท้อนปัญหาครอบครัวที่หลายคนอาจเคยเจอในชีวิตจริง

ลุ้นและสับสนไปกับปมรัก เมื่อ พงศ์ธร (จอนนี่ แอนโฟเน่) เข้ามาในชีวิตเมทินี ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นผสมสับสน คล้าย ๆ กับที่เมทินีรู้สึกในเรื่อง เพราะหน้าตาที่เหมือน ภาคย์ รักแรกของเธอ ทำให้เกิดคำถามในใจว่า “เขาคือคนเดียวกันหรือเปล่า?” ความลุ้นระทึกนี้ชวนให้ติดตามทุกตอน อยากรู้ว่าเมทินีจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง และพงศ์ธรจะช่วยเยียวยาเธอได้จริงหรือไม่

ดิ่งไปกับความทุกข์ของตัวละคร ฉากที่เมทินีหันไปพึ่งเหล้าเพื่อลืมความเจ็บปวดจากการสูญเสียภาคย์และความกดดันจากแม่ เป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกหนักอึ้งและหดหู่ การแสดงของแอนในฉากเมา ร้องไห้ และระเบิดอารมณ์นั้นทรงพลังมากจนคนดูอาจรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในวังวนความทุกข์ของเธอ บางคนอาจถึงขั้นร้องไห้ตาม หรือรู้สึกอัดอั้นจนอยากเข้าไปปลอบเธอในจอ

โล่งใจและอบอุ่น ตอนที่เมทินีเริ่มก้าวข้ามอดีต ยอมรับความรักของพงศ์ธร และตัดสินใจเลิกเหล้า ความรู้สึกหนักหน่วงค่อย ๆ คลายออก กลายเป็นความโล่งใจและดีใจที่เห็นเธอเยียวยาตัวเองได้สำเร็จ การได้เห็นเมทินีและพงศ์ธรเริ่มต้นใหม่ด้วยกันให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เหมือนได้เห็นสายรุ้งหลังฝนตกตามชื่อเรื่อง เป็นการปิดท้ายที่สวยงามและให้กำลังใจ

ครบรสและน่าจดจำ “ละคร สายรุ้ง” ได้อารมณ์ มีทั้งความเศร้า ลุ้น หน่วง และสุดท้ายคือความหวัง แม้ว่าบางช่วงอาจรู้สึกยืดเยื้อหรือหนักเกินไป แต่เสน่ห์ของละครอยู่ที่การถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งและการแสดงที่เข้าถึงจิตใจคนดู โดยเฉพาะแฟน ๆ ยุค 90 อาจรู้สึกถึงความ nostalgia ที่ได้ย้อนกลับไปสัมผัสกลิ่นอายละครไทยสมัยก่อน ที่เน้นดราม่าเข้ม ๆ และเคมีของคู่พระนาง

ถ้าต้องบรรยายความรู้สึกแบบส่วนตัว คงบอกว่า “ละคร สายรุ้ง” ทำให้รู้สึกเหมือนได้เห็นชีวิตจริงของคนที่ต้องต่อสู้กับความทุกข์ มันไม่ใช่แค่ละครน้ำเน่า แต่เป็นเรื่องราวที่สอนให้เห็นคุณค่าของการให้อภัยตัวเองและการเริ่มต้นใหม่ แอนและจอนนี่คือหัวใจของเรื่องจริง ๆ ดูแล้วทั้งร้องไห้ ทั้งยิ้มตาม และรู้สึกผูกพันกับเมทินีจนจบเรื่องเลย


ละคร สายรุ้ง 2540

ละคร สายรุ้ง 2540

ละคร สายรุ้ง 2540 EP.1-7CH3+​​​​

ไตเติ้ล ย้อนเวลาหาละคร สายรุ้ง 2540


ละคร สายรุ้ง 2540

ความทรงจำ ความรักมั่นคงของผู้หญิงชื่อ “เมทินี” ต่อผู้ชายคนที่เธอเรียกอย่างรักใคร่
และอบอุ่นในทุกครั้งที่เอ่ยถึงว่า “พี่ภาคย์” แต่ที่สุด หัวใจแข็งแกร่ง ทนและเก็บความทุกข์ความขมทุกอย่างไว้กับตัวเอง ก็ทลายครืนลง… ปวดร้าว ชิงชัง จนภาพแห่งวันคืนเก่าๆ ก็ไม่สามารถรั้ง…เธอใช้เหล้ากล่อมหัวใจตัวเองจนเป็นแอลกอฮอล์รึซึ่ม …สายรุ้งที่เปรียบไว้ดั่งความฝันงดงาม กลายเป็นความหวังที่ไกลเกินไขว่คว้า แม้จะเอื้อมจนสุดตัว สุดหัวใจ

“เมย์ (เมทีนี)” นางแบบลูกครึ่งสาวสวย ที่ต้องแบกรับภาระครอบครัวที่มีแต่หนี้สิน และยังต้องดูแล “มัณฑนา” แม่ที่ติดเหล้าและการพนันกับน้องสาวต่างพ่ออย่าง “เจน (เจนจิรา)” เพราะสิ่งที่พ่อของเจนผู้ซึ่งเลี้ยงดูเธอมาด้วยความรักสั่งเสียไว้ก่อนตาย ให้เธอดูแลน้องและแม่ จึงทำให้เมย์พยายามที่จะรักษาคำมั่นสัญญานั้นไว้

ในงานเดินแบบงานหนึ่ง เมย์ได้เจอกับ “พงศธร” ทันทีที่เห็นหน้าเขา ทำให้เมย์ตกใจมาก เพราะเขาหน้าเหมือน “พี่ภาคย์” ผู้ซึ่งเป็นรักแรกและรักเดียวสำหรับเธอ ทั้งเมย์และภาคย์รู้จักกันตั้งแต่เด็ก เพราะครอบครัวของภาคย์เป็นญาติของพ่อเจน แต่ไม่ใครที่ชอบแม่ของเมย์เพราะคิดว่าจะมาหลอกพ่อของเจน และจากความใกล้ชิดสนมสนมกัน จึงทำให้ทั้งเมย์และภาคย์รักกัน ภาคย์ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ทั้งคู่ยังคงติดต่อกันอยู่ จนกระทั่งแม่ของภาคย์จับได้ จึงมาอาละวาดกับมัณฑนาอย่างหนัก และบังคับให้เมย์เขียนจดหมายไปบอกเลิกกับภาคย์ ทำให้เขาเสียใจมาก ดื่มเหล้าและประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต และเมย์ก็เฝ้าแต่โทษตัวเองว่าเป็นคนผิด และเริ่มหันไปดื่มเหล้า

เมย์ได้รับการติดต่อจาก “วัลลภา” ให้ไปสอนเดินแบบที่บ้านของเธอ และที่นั่นเองเมย์ได้พบกับพงศธรอีกครั้ง วัลลภาเป็นน้องสาวของพงศธร และยังมีน้องชายอีกคนคือ “หมอพรพันธ์” การสอนเดินแบบทำให้ทั้งคู่พบกันบ่อยๆ ซึ่งการพบกัน แต่ละครั้ง พงศธร มักจะประชดประชันและตอกย้ำทำให้เมย์คิดถึงภาคย์เสมอ

การที่แม่ติดการพนันอย่างหนัก ทำให้เจนและเมย์เดือดร้อนเรื่องเงินอยู่บ่อยๆ แต่ “ทรงยศ” เจ้าของโรงแรมผู้ซึ่งมาติดพันเมย์คอยให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งเมย์ขอไปทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ที่โรงแรม เพื่อเป็นการตอบแทน ฝ่ายพงศธรก็มักจะหาโอกาสที่จะมาพบเมย์บ่อยขึ้น และบอกว่าเขาและภาคย์เป็นเพื่อนกัน

หลายครั้งที่เมย์เจ็บป่วย ทำให้หมอพรพันธ์และเจนเกิดความสนิทสนมกันมากขึ้นนอกเหนือจากที่พรพันธ์มาหา ดูที่ในซอยบ้านเมย์และมักแวะมาคุยกับเจนบ่อยๆ แต่ก็มีข่าวลือว่า เมย์ยอมเป็นของทรงยศ ยิ่งทำให้มัณฑนาเร่งรัดเมย์เรื่องให้ไปพบท่านรัฐมนตรีหนักขึ้นกว่าเก่า เพราะมัณฑนาไปรับเช็คเงินสดของท่านมาล่วงหน้า สถานการณ์บีบบังคับเมย์มากยิ่งขึ้นเพราะแม่ขู่ว่าจะขายเจนด้วยอีกคนถ้าเมย์ไม่ยอม เมย์กินเหล้าหนักขึ้น ด้วยเหตุผลลึกๆ คือ เธอต้องการประชดชีวิตและพงศธร เพราะเธอสงสัยว่าเขากับพี่ภาคย์จะเป็นคนๆ เดียวกัน เมย์ตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงยศฟัง และเขา ก็รับปากจะช่วยจัดการทุกเรื่องให้เรียบร้อย

เมย์เริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังจะเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ใกล้เข้าขั้นจะ เป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มเข้าไปทุกเมื่อทรงยศรู้เรื่องจึงขอร้องให้เมย์อยู่ที่โรงแรมเพื่อจะ ได้ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ระหว่างการรักษาเมย์อาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากไม่มีกำลังใจ จากการเจ็บป่วยของเมย์ทำให้ มัณฑนา ตัดสินใจที่จะเลิกเหล้า และในงานหมั้นของเจน ทุกคนได้รู้ความจริงว่าพี่ภาคย์ และพงศธร เป็นคนๆ เดียวกัน และกลับมาเพื่อแก้แค้นเมทินี ทรงยศพาเมทินีและครอบครัวไปพักที่หัวหิน เมื่อพงศธรหรือพี่ภาคย์รู้ความจริงและสำนึกผิด จึงรีบตามไป เพื่อจะแก้ตัวและขอโทษเมย์เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ฝ่ายหมอพรพันธ์กับเจนก็ปรับความเข้าใจกันได้ พี่ภาคย์พยายามง้องอนและอธิบายเหตุผลต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา จนในที่สุดเมทินีตกลงใจที่จะเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง

บทประพันธ์ : ทมยันตี
บทโทรทัศน์ : ลลิตา ฉันทศาสตร์โกศล
ผู้กำกับ : มารุต สาโรวาท
ผลิตโดย : ละครไท

นักแสดงนำ

→ แอน ทองประสม รับบท เมทินี

นางแบบสาวสวยและประสบความสำเร็จ เมทินีเป็นนางแบบชื่อดังในวงการแฟชั่น เธอมีภาพลักษณ์ภายนอกที่สง่างาม สวยงาม และดูเพียบพร้อม เป็นผู้หญิงที่หลายคนชื่นชมและอยากเป็น ชีวิตการงานของเธอรุ่งโรจน์ แต่ภายใต้ความสำเร็จนั้นกลับซ่อนความเปราะบางไว้

เมทินีมีบุคลิกเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว เธอต่อสู้เพื่อยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น การปฏิเสธข้อเสนอให้เป็นเมียน้อยของท่านรัฐมนตรี แม้จะถูกกดดันจากแม่ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เปราะบางจากบาดแผลในใจ โดยเฉพาะความรู้สึกผิดที่เชื่อว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้ ภาคย์ รักแรกของเธอต้องตาย

อดีตของเมทินีเป็นส่วนสำคัญที่กำหนดคาแร็กเตอร์ของเธอ เธอเคยรักกับภาคย์ตั้งแต่สมัยเรียน แต่ต้องยอมบอกเลิกเขาเพราะถูกแม่ของภาคย์บังคับ การตายของภาคย์จากอุบัติเหตุหลังจากนั้นทำให้เธอโทษตัวเอง และกลายเป็นคนที่เก็บความเจ็บปวดไว้ในใจไม่ยอมเปิดเผย

หลังสูญเสียภาคย์ เมทินีหันไปพึ่งเหล้าเพื่อลืมความเจ็บปวด เธอมีด้านที่ดิ่งลงสู่ความมืด ดื่มหนักจนเกือบกลายเป็นคนติดเหล้า ซึ่งแอนแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอและการต่อสู้ภายในจิตใจของเมทินีได้อย่างน่าประทับใจ

เมื่อ พงศ์ธร เข้ามาในชีวิต เมทินีต้องเผชิญหน้ากับความสับสนว่าเธอรักเขาจริง ๆ หรือแค่เห็นเขาเป็นเงาของภาคย์ คาแร็กเตอร์ของเธอพัฒนาจากหญิงสาวที่จมกับอดีต กลายเป็นคนที่เรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเองและเปิดใจรับความรักใหม่ในที่สุด

ลักษณะเด่นของการแสดง
แอน ทองประสม นำเสนอเมทินีในแบบที่ทั้งสวยสง่าและน่าสงสาร เธอถ่ายทอดความขัดแย้งภายในได้ดีเยี่ยม เช่น ฉากที่เมทินีต้องเผชิญหน้ากับแม่ (มัณฑนา) หรือฉากที่เธอเมามายและระเบิดอารมณ์ออกมา การแสดงของแอนทำให้เมทินีเป็นตัวละครที่มีเลือดมีเนื้อ ไม่ใช่แค่นางเอกทั่วไป แต่เป็นผู้หญิงที่มีความลึกซึ้งและพัฒนาการชัดเจน

เมทินีใน “ละคร สายรุ้ง” คือผู้หญิงที่เหมือนสายรุ้ง สวยงามแต่จับต้องได้ยาก เธอเป็นตัวแทนของคนที่ต้องต่อสู้กับความทุกข์ทั้งจากภายนอก (ครอบครัว) และภายใน (จิตใจ) แอน ทองประสม ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นไอคอนของละครไทยยุค 90 ด้วยการแสดงที่ทั้งทรงพลังและเข้าถึงอารมณ์คนดูอย่างแท้จริง

→ จอนนี่ แอนโฟเน่ รับบท ภาคย์ และ พงศ์ธร

ภาคย์ บทบาท รักแรกและรักแท้ของเมทินีในอดีต

หนุ่มโรแมนติกและอบอุ่น ภาคย์เป็นชายหนุ่มที่อ่อนโยน มีความรักมั่นคงต่อเมทินี เขารู้จักและรักเธอตั้งแต่สมัยเรียน เป็นคนที่มอบความรักและความหวังให้เมทินีในช่วงที่ชีวิตของเธอยังไม่ถูกครอบงำด้วยปัญหาครอบครัว เปราะบางทางอารมณ์ เมื่อเมทินีถูกบังคับให้เขียนจดหมายบอกเลิกโดยแม่ของเขา (แววพรรณ) ภาคย์รับมือกับความเสียใจไม่ไหว เขาดื่มเหล้าจนเมาและขับรถจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ซึ่งจุดนี้สะท้อนว่าเขาเป็นคนที่มีด้านอ่อนแอและรับความจริงบางอย่างไม่ได้

สัญลักษณ์แห่งความทรงจำ ถึงแม้ภาคย์จะจากไปตั้งแต่ต้นเรื่อง เขายังคงเป็นเงาที่อยู่ในใจเมทินีตลอดทั้งเรื่อง เป็นตัวละครที่จุดประกายความเจ็บปวดและการเติบโตของนางเอก

ลักษณะเด่น จอนนี่ในบทภาคย์แสดงถึงความเป็นหนุ่มหล่อแบบลูกครึ่งที่มีเสน่ห์ อบอุ่น และน่าสงสาร การแสดงในฉากที่เขาเสียใจและจากไปนั้นช่วยสร้างความผูกพันให้คนดูรู้สึกถึงความสูญเสียร่วมกับเมทินี

พงศ์ธร บทบาท ชายหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตเมทินีในช่วงหลัง เป็นตัวแทนของโอกาสใหม่และการเยียวยา

นักธุรกิจหนุ่มที่มั่นคงและสุขุม พงศ์ธรเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง มีฐานะดี และประสบความสำเร็จในชีวิต เขาแตกต่างจากภาคย์ตรงที่เป็นผู้ใหญ่กว่า มีความหนักแน่น และพร้อมเป็นที่พึ่งให้เมทินี ใจดีและอดทน พงศ์ธรค่อย ๆ เข้ามาเติมเต็มชีวิตของเมทินี แม้ว่าเธอจะสับสนและผลักไสเขาออกไปในบางครั้ง เขาเข้าใจถึงบาดแผลในใจของเธอและพยายามช่วยเธอก้าวข้ามมันด้วยความรักและความจริงใจ

ตัวแทนแห่งความหวัง ในขณะที่ภาคย์คืออดีตที่เจ็บปวด พงศ์ธรคือปัจจุบันและอนาคตที่เมทินีสามารถฝากใจไว้ได้ เขาไม่ใช่เงาของภาคย์ แต่เป็นคนที่มีตัวตนของตัวเองชัดเจน

ลักษณะเด่น จอนนี่ในบทพงศ์ธรนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่และน่าเชื่อถือมากขึ้น เสน่ห์ของเขาในบทนี้อยู่ที่ความอบอุ่นผสมความเข้ม ซึ่งทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาคือคนที่เหมาะสมจะพาเมทินีออกจากความทุกข์

ความแตกต่างระหว่างสองคาแร็กเตอร์
• ภาคย์ เป็นตัวละครที่เน้นความรักแบบวัยรุ่น อ่อนโยนแต่ขาดความเข้มแข็งในการรับมือกับปัญหา การจากไปของเขาคือจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่อง

• พงศ์ธร เป็นตัวละครที่โตกว่า มีความมั่นคงและเป็นผู้ใหญ่ เขาเข้ามาในฐานะคนที่ช่วยเยียวยาและนำพาความหวังใหม่มาให้

การถ่ายทอดของจอนนี่ แอนโฟเน่ ใช้เสน่ห์ของเขาในการสร้างความแตกต่างให้ทั้งสองตัวละครได้อย่างชัดเจน ด้วยหน้าตาหล่อแบบลูกครึ่งและการแสดงที่เข้าถึงอารมณ์ เขาทำให้ภาคย์เป็นที่รักและน่าสงสาร ในขณะที่พงศ์ธรเป็นที่พึ่งและน่าหลงใหล เคมีของเขากับแอน ทองประสมช่วยขับเน้นให้ทั้งสองบทบาทนี้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ “ละคร สายรุ้ง” น่าจดจำ

จอนนี่ใน “ละคร สายรุ้ง” ไม่ได้แค่รับบทเดี่ยว แต่รับบทคู่ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของเมทินี เขาคือทั้งความเจ็บปวด (ภาคย์) และการเยียวยา (พงศ์ธร) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ที่หลากหลายของเขาในละครเรื่องนี้

→  เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รับบท เจนจิรา

น้องสาวของ เมทินี (แอน ทองประสม) ตัวละครนี้มีบทบาทเป็นตัวละครสมทบที่ช่วยเติมเต็มมิติของครอบครัวและสนับสนุนนางเอกในบางช่วงของเรื่อง

น้องสาวที่อ่อนโยนและห่วงใย เจนจิราเป็นตัวละครที่มีบุคลิกอ่อนหวานและน่ารัก เธอรักและเป็นห่วงเมทินี พี่สาวของเธออย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเห็นเมทินีต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัวและความทุกข์จากอดีต เธอมักแสดงความเห็นอกเห็นใจและพยายามอยู่เคียงข้างพี่สาว

ในฐานะน้องสาว เจนจิรามีความไร้เดียงสาและซื่อตรงเมื่อเทียบกับเมทินีที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากกว่า เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหลักของเรื่องมากนัก แต่เป็นตัวละครที่สะท้อนความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างเธอกับแม่ (มัณฑนา) ที่เห็นแก่ตัว

เจนจิราไม่ได้มีปมส่วนตัวที่ซับซ้อนเหมือนตัวละครหลัก แต่เธอมีบทบาทสำคัญในช่วงท้ายของเรื่อง โดยเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยให้กำลังใจเมทินีให้ก้าวข้ามความทุกข์และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอเป็นเหมือนแสงสว่างเล็ก ๆ ในชีวิตที่มืดมนของพี่สาว

ลักษณะเด่นของการแสดง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ในช่วงนั้นยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เธอถ่ายทอดเจนจิราออกมาในแบบที่ดูน่ารัก สดใส และเป็นธรรมชาติ ซึ่งเข้ากับคาแร็กเตอร์ของน้องสาวที่ยังไม่ถูกโลกภายนอกทำให้แข็งกระด้าง บทของเธออาจไม่เด่นเท่าตัวละครหลักอย่างเมทินีหรือพงศ์ธร แต่ก็ช่วยเติมเต็มเรื่องราวให้ครบถ้วน

ความสำคัญในเรื่อง เจนจิราเป็นตัวละครที่ตัดกับ มัณฑนา (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของเธอและเมทินี ขณะที่มัณฑนาเป็นตัวแทนของความเห็นแก่ตัวและปัญหาในครอบครัว เจนจิรากลับเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และความหวังในครอบครัวเดียวกันนี้ เธอไม่ได้มีส่วนร่วมในดราม่าหลักมากนัก แต่เป็นจุดพักสายตาให้คนดูจากความหนักหน่วงของเรื่อง

เจนจิราใน “ละคร สายรุ้ง” คือคาแร็กเตอร์ที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นำเสนอบทนี้ได้อย่างน่ารักและเหมาะสมกับวัยของเธอในตอนนั้น แม้จะไม่ใช่ตัวละครที่ขับเคลื่อนเรื่องราวหลัก แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวของเมทินีมีมิติมากขึ้น

→ อุทุมพร ศิลาพันธุ์ รับบท มัณฑนา

เป็นแม่ของ เมทินี (แอน ทองประสม) และ เจนจิรา (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ) ตัวละครนี้มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวร้ายรองของเรื่อง และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ชีวิตของเมทินีต้องเผชิญกับความทุกข์

แม่ที่เห็นแก่ตัวและติดการพนัน มัณฑนาเป็นผู้หญิงที่หมกมุ่นอยู่กับการพนันและใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย เธอมีหนี้สินท่วมตัวและไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว คาแร็กเตอร์ของเธอถูกออกแบบมาให้เป็นตัวแทนของความโลภและความไม่รู้จักพอ ซึ่งตัดกับความเข้มแข็งและศักดิ์ศรีของเมทินี ลูกสาวคนโต

มัณฑนาพยายามบังคับให้เมทินียอมเป็นเมียน้อยของ ท่านรัฐมนตรี (สุเชาว์ พงษ์วิไล) เพื่อปลดหนี้และหาเงินมาใช้จ่าย เธอไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาว และมองเมทินีเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาการเงินของตัวเอง ความไร้เมตตานี้ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่คนดูรู้สึกหมั่นไส้และโกรธแค้น

ตลอดทั้งเรื่อง มัณฑนาแทบไม่มีการพัฒนาหรือสำนึกผิด เธอยังคงยึดติดกับพฤติกรรมเดิม ๆ และสร้างปัญหาให้ครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจากเมทินีที่ค่อย ๆ เติบโตและก้าวข้ามความเจ็บปวด ในตอนท้าย เธอต้องเผชิญกับผลจากการกระทำของตัวเอง เมื่อเจ้าหนี้ตามทวงเงินและชีวิตของเธอพังทลาย

มัณฑนายังมีส่วนในอดีตของเมทินี โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเมทินีกับ ภาคย์ (จอนนี่ แอนโฟเน่) ความโลภและภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของเธอทำให้ครอบครัวของภาคย์ไม่ยอมรับเมทินี ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ที่เมทินีต้องบอกเลิกภาคย์ และตามมาด้วยการตายของเขา

ลักษณะเด่นของการแสดง อุทุมพร ศิลาพันธ์ ถ่ายทอดบทมัณฑนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอแสดงถึงความเห็นแก่ตัวและความเย็นชาของตัวละครนี้ออกมาได้ชัดเจน โดยเฉพาะน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงถึงความไม่แยแสต่อความทุกข์ของลูกสาว การแสดงของเธอทำให้มัณฑนากลายเป็นตัวละครที่คนดูจดจำในฐานะ “แม่สุดร้าย” ที่ทั้งน่ารังเกียจและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

ความสำคัญในเรื่อง มัณฑนาคือตัวเร่งให้เกิดความขัดแย้งหลักในชีวิตของเมทินี เธอเป็นสัญลักษณ์ของปัญหาครอบครัวที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจและการตัดสินใจของนางเอก ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างเธอกับเมทินีเป็นหนึ่งในเส้นเรื่องที่ขับเคลื่อนละครให้เข้มข้น และทำให้คนดูเห็นถึงความแตกต่างระหว่างแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบกับลูกสาวที่พยายามรักษาศักดิ์ศรี

มัณฑนาใน “ละคร สายรุ้ง” คือคาแร็กเตอร์ที่เต็มไปด้วยด้านมืด เธอเป็นแม่ที่รักลูกในแบบที่บิดเบี้ยว และเลือกผลประโยชน์ส่วนตัวเหนือความสุขของครอบครัว อุทุมพร ศิลาพันธ์ ทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตชีวาด้วยการแสดงที่ทรงพลังและน่าจดจำ แม้ว่าจะเป็นบทที่คนดูอาจรู้สึกเกลียด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวของ “สายรุ้ง” สมบูรณ์

→ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
→ เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล