สลักจิตหรือ จอย (เต็มฟ้า กฤษณายุธ) พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะที่เธออายุยังน้อย จอยจึงถูกส่งตัวมาอยู่กับ เจ้าคุณภักดีบดินทร (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ผู้เป็นปู่ แต่ถูกขับไสให้ไปอยู่เรือนเล็กกับ แม่เจิด (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) ต้นห้องและลูกสาวชื่อ ใจภักดิ์ (ศรุชา เพชรโรจน์) ไม่นานจอยได้รู้ความจริงว่า ภาคภูมิ (ภูธเนศ หงษ์มานพ) พ่อของเธอถูกเจ้าคุณปู่ตัดออกจากตระกูลเพราะภาคภูมิจะแต่งงานกับ มากาเร็ต แม่ของเธอที่เป็นชาวอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ได้หมั้นกับ ม.ร.ว.จันทรา (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) ธิดาของ ม.จ.รังสิมันต์ ซึ่งเป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิทของเจ้าคุณ
ละคร สลักจิต 2559
เมื่อจอยกลับมาอยู่เมืองไทย จอยรับหน้าที่ดูแล คุณหญิงรำเพย (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) ผู้เป็นย่าที่กำลังป่วยหนัก ก่อนตายคุณหญิงยกสร้อยเพชรประจำตระกูลให้กับจอย ทำให้ญาติ ๆ พากันเกลียดชังจอย โดยเฉพาะ รำพา (ชไมพร จตุรภุช) ภรรยารองของเจ้าคุณ และคุณหญิงจันทราที่จำใจแต่งงานกับ พิท (ศรุต วิจิตรานนท์) แทนภาคภูมิพ่อของจอย ทั้งคู่มีลูกชายคือ พรพจน์ (อาเมน โสตถิพันธุ์ คำลือชา) และลูกสาว พริ้มพราย (อัญชสา มงคลสมัย) ซึ่งเกเร และเอาแต่ใจ ส่วนญาติที่รักจอยมีเพียง หม่อมภาคี (มยุรา เศวตศิลา) น้องสาวของเจ้าคุณ และ ม.ร.ว.ภูษิต หรือ คุณชายเดียว (ศรราม เทพพิทักษ์) ลูกเลี้ยงของหม่อมภาคีซึ่งเป็นคู่หมายของ เพียงเพ็ญ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) น้องสาวของพิท
จอยมีเพื่อนรักชื่อ กรรณิการ์ (ภคกัญญา เจริญยศ) ลูกสาว ท่านทูตไกร (ตระการ พันธุมเลิศรุจี) เธอมีพี่ชายสุดหล่อชื่อ เกริก (ชลวิทย์ มีทองคำ) ซึ่งตกหลุมรักจอยตั้งแต่แรกเห็น ทั้งหมดนี้ทำให้ภูษิตรู้สึกเป็นห่วงจอย จึงเข้ามาคอยดูแลจอยจนเพียงเพ็ญรู้สึกไม่พอใจ เมื่อภูษิตต้องไปทำงานที่ฝรั่งเศส 4 ปี จอยจึงขอแหวนที่เขาสวมติดนิ้วไว้เพื่อดูต่างหน้าเพียงเพ็ญเห็นแหวนที่นิ้วจอยก็โกรธ และให้จอยส่งแหวนคืนภูษิตพร้อมเขียนจดหมายบอกให้เขาเลิกดูแลตามคำสั่งเพียงเพ็ญภูษิตแอบน้อยใจ และคิดว่าจะเลิกสนใจจอย แต่ก็ไม่วายส่ง ธเนศ (อัศนัย เทียนทอง) เพื่อนรักไปดูแลแทน ทำให้ธเนศได้ใกล้ชิดกับกรรณิการ์ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของจอย และภูษิต
ระหว่างนี้เกริกเริ่มเข้ามาใกล้ชิดจอยโดยไม่รู้ว่าใจภักดิ์มีใจให้กับเขา ส่วนจอยก็รักษาระยะห่างกับเกริก และตั้งใจเรียนจนสอบเข้าคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ ได้ เมื่อเกริกต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศ พร้อม ๆ กับที่ภูษิตได้กลับมาเมืองไทย ทำให้จอยกับภูษิตได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างก็หวั่นไหว และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของกันและกัน เรื่องไปถึงหูท่านเจ้าคุณ และหม่อมภาคี ทั้งคู่จึงเร่งงานแต่งงานระหว่างเพียงเพ็ญกับภูษิตให้เร็วขึ้น ส่วนรำพา และเพียงเพ็ญก็วางแผนจ้าง เริง (ธีธัช จรรยาศิริกุล) ข้าเก่าเต่าเลี้ยงในตระกูลให้มาทำลายจอยแต่ไม่สำเร็จ เริงจึงเปลี่ยนแผนมุ่งไปที่พริ้มพรายแทนเพราะรู้ว่าคุณหญิงจันทราแม่ของพริ้มพรายรวยมาก เริงชักชวนพริ้มพรายติดยา และนัดหมายให้พริ้มพรายขโมยเครื่องเพชรของคุณหญิงจันทราเพื่อหนีไปกับเขา ด้านพรพจน์ก็ไปทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ ในที่สุดจอยสามารถช่วยทั้งพริ้มพราย และพรพจน์ไว้ได้ ทำให้ท่านเจ้าคุณซาบซึ้ง และยอมรับในตัวจอย
ด้านเกริกเมื่อกลับมาจากต่างประเทศก็ต้องการหมั้นกับจอยทันที ส่วนภูษิตก็เสียใจประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสทำให้เกริกรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลึกซึ้งเกินกว่าอากับหลานจึงตัดสินใจขอถอนหมั้นจอย ความรักของภูษิต และจอยจะลงเอยอย่างไร ? ทั้งคู่จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรครักครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ? ติดตามชม
บทประพันธ์โดย : บุษยมาส
บทโทรทัศน์โดย : ศกุนกานต์ เวชชาชีวะ, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล, วรรณพัทธ ตระกูลทอง
กำกับการแสดงโดย : บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์
นักแสดง
ศรราม เทพพิทักษ์ รับบท ม.ร.ว.ภูษิตกฤษฎาลักษณ์
เต็มฟ้า กฤษณายุธ รับบท สลักจิต
พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร รับบท เพียงเพ็ญ
นิรุตติ์ ศิริจรรยา รับบท พระยาภักดีบดินทร
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท คุณหญิงรำเพย
มยุรา เศวตศิลา รับบท หม่อมภาคี
ชไมพร จตุรภุช รับบท รำพา
ชลวิทย์ มีทองคำ รับบท เกริก
ศรุชา เพชรโรจน์ รับบท ใจภักดิ์
อัศนัย เทียนทอง รับบท ธเนศ
ภคกัญญา เจริญยศ รับบท กรรณิการ์
ตระการ พันธุมเลิศรุจี รับบท ไกร
ศรุต วิจิตรานนท์ รับบท พิท
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ รับบท ม.ร.ว.จันทรา
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท เจิด
อาเมน โสตถิพันธุ์ คำลือชา รับบท พรพจน์
อัญชสา มงคลสมัย รับบท พริ้มพราย
นักแสดงรับเขิญ
ภูธเนศ หงษ์มานพ รับบท ภาคภูมิ
ธีธัช จรรยาศิริกุล รับบท เริง
อดิศร อรรถกฤษณ์ รับบท นนท์
สลักจิต เป็นนวนิยายไทย เป็นบทประพันธ์ของ บุษยมาส บทประพันธ์นี้มีการนำมาสร้างเป็นภาพนยตร์และละครโทรทัศน์อีกหลายต่อหลายครั้ง บทประพันธ์เรื่องนี้สร้างเป็นภาพยนตร์ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในรูปแบบภาพยนตร์ นำแสดงโดย ชนะ ศรีอุบล ออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2504[1] และในปี พ.ศ. 2521 นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี และ จารุณี สุขสวัสดิ์ และต่อมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์แล้วอีก 4 ครั้ง ทางช่อง 3 (ปี 2524, 2542) ทางช่อง 5 (ปี 2530) และทางช่องวัน (ปี 2559)
จอย สลักจิต ภักดีบดินทร์ เด็กสาวลูกครึ่ง กลับมาที่เมืองไทยเพราะว่าพ่อเสียชีวิต จอยต้องมาอยู่ที่บ้านภักดีบดินทร์ ท่ามกลางความไม่พอใจของ จันทราและพี่น้องคนอื่น ๆและอาเพียงเพ็ญ รวมทั้งเจ้าคุณปู่ที่ยังผูกใจเจ็บอยู่กับการกระทำของลูกชายคนโตที่ขัดคำสั่งการแต่งงาน ยกเว้น ม.ร.ว ภูษิตหรือชายเดียว ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อของจอย จะเป็นผู้ที่ให้กำลังใจจอยอยู่ตลอดเวลา จอยก็มีความประทับใจชายเดียว เพราะว่ามีลักษณะคล้ายพ่อภาคภูมิของตัวเอง ชายเดียวสัญญากับจอยว่าจะให้รางวัลหากจอยเรียนหนังสือได้คะแนนดี จอยขอรางวัลเป็นแหวนตระกูลที่ชายเดียวใส่ติดนิ้วอยู่ตลอดเวลา เมื่อชายเดียวไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็ได้ติดต่อกับจอยทางจดหมาย ส่วนเพียงเพ็ญก็รายงานเรื่องจอยและเกริก ลูกรัฐมนตรีที่ให้ความสนใจจอยชายเดียวกลับมาพร้อมกับธเนศเพื่อนรัก ธเนศก็แสดงออกว่าพอใจจอย ให้ชายเดียวมาพูดกับจอย ทำให้จอยไม่พอใจมาก ชายเดียวต่อว่าจอยเรื่องคบกับเกริก และว่าทำตัวเหลวไหล จอยจึงตัดสินใจหมั้นกับเกริกเพราะประชดชายเดียว และเสียใจที่ชายเดียวต้องแต่งงานกับเพียงเพ็ญ ชายเดียวเสียใจมากที่จอยหมั้น และบอกรักจอยในคืนที่จอยหมั้น ประกอบกับเมาทำให้ชายเดียวเกิดอุบัติเหตุ ชายเดียวพร่ำเพ้อถึงจอย ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าชายเดียวกับจอยรักกัน จอยมาดูแลชายเดียวตลอดเวลาที่ป่วย เพียงเพ็ญรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น หลอกจอยออกไปข้างนอก เพื่อที่จะยิงจอย แต่กลับต้องพบกับอุบัติเหตุทำให้ตัวเองเสียชีวิต เจ้าคุณปู่ก็ให้ชายเดียวแต่งงานกับจอยเมื่อหายป่วย และยกโทษให้กับความผิดของพ่อภาคภูมิของจอย