ละคร ตุ๊กตา 2564 ละครแนวแนวสยองขวัญดราม่าผสมโรแมนติก ที่เล่าเรื่องราวลึกลับเกี่ยวกับตุ๊กตาที่มีชีวิตชีวาเกินกว่าที่ควรจะเป็น
เรื่องราวของ “สุวภาพ” ซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ให้กับลูกสาวของเธอที่ชื่อ “บูรณา” แต่ไม่นานเธอก็เริ่มสังเกตเห็นว่าบูรณาใช้เวลากับตุ๊กตาตัวนี้มากผิดปกติ สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าขนลุกคือ ตุ๊กตาตัวนี้มีลักษณะเหมือนมนุษย์มากเกินไป ผิวของมันนุ่ม อุ่นเมื่อสัมผัส และบางครั้งมันยังขยิบตาได้ด้วย สุวภาพรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างจากตุ๊กตาตัวนี้ และยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเมื่อพบว่ามันสามารถพูดและเคลื่อนไหวได้เองโดยไม่ถูกสัมผัส เธอจึงตัดสินใจทิ้งมันไป แต่ตุ๊กตาตัวนี้ไม่ยอมจากไปง่ายๆ มันกลับมาหาพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับคำพูดที่ว่า “ฉันต้องกลับไปที่บ้านของฉัน…”
เรื่องราวดำเนินไปด้วยความตึงเครียดและปริศนาเกี่ยวกับที่มาของตุ๊กตา รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผย ละครเรื่องนี้ผสมผสานความน่ากลัวเข้ากับดราม่าและความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ชมทั้งลุ้นระทึกและติดตามไปจนถึงตอนจบ
ละคร “ตุ๊กตา 2564” เป็นหนึ่งในละครที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวลึกลับและน่ากลัวในสไตล์ไทยๆ ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องหลักของละคร “ตุ๊กตา” (2564) แบบคร่าวๆ
จุดเริ่มต้นของความสยอง
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ สุวภาพ (รับบทโดย อาภา ภาวิไล) ซื้อตุ๊กตาให้ บูรณา ลูกสาวของเธอ ตุ๊กตาตัวนี้ดูสวยงามและสมจริงมาก แต่ไม่นาน สุวภาพก็สังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของบูรณา ที่ดูเหมือนจะผูกพันกับตุ๊กตามากเกินไป และที่สำคัญ ตุ๊กตาตัวนี้เริ่มแสดงอาการแปลกๆ เช่น ขยับได้เอง พูดได้ และมีปฏิกิริยาคล้ายสิ่งมีชีวิต สุวภาพพยายามกำจัดมันด้วยการทิ้ง แต่ตุ๊กตากลับมาปรากฏตัวที่บ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมคำพูดลึกลับว่า “ฉันต้องกลับไปที่บ้านของฉัน”
ปริศนาที่มาและวิญญาณในตุ๊กตา
เมื่อเรื่องดำเนินไป ความลับของตุ๊กตาค่อยๆ ถูกเปิดเผย ว่ามันไม่ใช่แค่ของเล่นธรรมดา แต่มีวิญญาณของเด็กสาวที่ชื่อ น้องนาง สิงอยู่ เด็กสาวคนนี้เคยเป็นลูกสาวของครอบครัวหนึ่งที่เสียชีวิตอย่างน่าสลดจากอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม วิญญาณของน้องนางถูกผูกไว้กับตุ๊กตาโดยพลังลึกลับบางอย่าง และเธอพยายามสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือให้ตัวเองได้ไปสู่สุคติ หรือในบางฉาก ดูเหมือนเธอต้องการแก้แค้นบางอย่าง
จุดพลิกผันและความขัดแย้ง
สุวภาพเริ่มสืบหาความจริงเกี่ยวกับที่มาของตุ๊กตา และพบว่ามันเชื่อมโยงกับอดีตของคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องนาง ระหว่างนั้น ตุ๊กตาเริ่มแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากขึ้น เช่น ทำร้ายคนที่พยายามแยกมันออกจากบูรณา ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็เริ่มตึงเครียด เพราะบูรณายังคงปกป้องตุ๊กตาเหมือนเป็นเพื่อนสนิท
ในตอนท้าย สุวภาพและตัวละครอื่นๆ (รวมถึง พันชั่ง พระเอกที่เข้ามาช่วยเหลือ) ร่วมกันทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณของน้องนาง โดยมีการเผยความจริงว่าใครเป็นคนทำให้เธอต้องตาย หลังจากพิธีสำเร็จ ตุ๊กตากลับกลายเป็นเพียงของเล่นธรรมดา วิญญาณของน้องนางได้ไปสู่สุคติ และครอบครัวของสุวภาพก็กลับมาเป็นปกติ แต่ฉากสุดท้ายทิ้งปมเล็กๆ ไว้ให้คนดูสงสัย เมื่อมีเงาลางๆ หรือเสียงกระซิบที่บอกว่าบางอย่างอาจยังไม่จบ
ละครเรื่องนี้ผสมผสานความสยองขวัญเข้ากับดราม่าครอบครัวได้ดี มีฉาก jumpscare และปมปริศนาที่ชวนติดตาม แม้บางจุดอาจเดาทางได้ แต่ก็ยังคงความสนุกในสไตล์ละครไทยแบบคลาสสิก ต่อไปนี้คือมุมมองทั่วไปของผู้ชมและจุดเด่น-จุดด้อยของเรื่อง
(จุดเด่น)
ความสยองขวัญแบบไทยๆ ที่ลงตัว
ละคร “ตุ๊กตา” นำเสนอบรรยากาศหลอนๆ ในสไตล์ที่คนไทยคุ้นเคย มีทั้งผีสิงของ ความลึกลับ และพิธีกรรมปลดปล่อยวิญญาณ ฉาก jumpscare บางฉากทำได้น่ากลัวพอสมควร โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของตุ๊กตาที่ดูสมจริงและชวนขนลุก
การแสดงของนักแสดง
อาภา ภาวิไล (รับบท สุวภาพ) ถ่ายทอดความเป็นแม่ที่ทั้งหวาดกลัวและปกป้องลูกได้ดีมาก อารมณ์ของเธอพาคนดูไปลุ้นตามได้ตลอด ส่วนนักแสดงเด็กที่เล่นเป็น บูรณา ก็ทำได้น่ารักปนหลอน สร้างความรู้สึกสองขั้วให้คนดู ส่วนพระเอก พันชั่ง (รับบทโดย กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ก็มีบทบาทช่วยเสริมเรื่องให้ครบรสทั้งดราม่าและแอคชั่น
ปมปริศนาที่ชวนติดตาม
เรื่องราวค่อยๆ คลายปมเกี่ยวกับที่มาของตุ๊กตาและวิญญาณของน้องนางได้น่าสนใจ แม้บางจุดจะเดาทางได้ แต่ก็ยังมี twists เล็กๆ ที่ทำให้คนดูอยากรู้ตอนต่อไป
โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ
การออกแบบตุ๊กตาและการใช้ CG ในการทำให้มันเคลื่อนไหวถือว่าทำได้ดีในระดับละครไทยยุคนั้น เสียงประกอบและการจัดแสงก็ช่วยเพิ่มความน่ากลัวได้เยอะ
(จุดด้อย)
เนื้อเรื่องบางจุดยืดเยื้อ
ด้วยจำนวน 17 ตอน บางช่วงรู้สึกว่ายืดเกินไป โดยเฉพาะฉากดราม่าครอบครัวหรือการสืบหาความจริงที่วนไปมา ผู้ชมบางคนอาจรู้สึกเบื่อในช่วงกลางเรื่อง
ความสมเหตุสมผล
มีบางจุดที่ logic ไม่ค่อยสมจริง เช่น การที่ตัวละครตัดสินใจทิ้งตุ๊กตาแล้วมันกลับมาซ้ำๆ โดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน หรือการที่ตัวละครบางคนดูไม่กลัวเกินไปในสถานการณ์ที่ควรจะตื่นตระหนก
ตอนจบที่อาจไม่ถูกใจทุกคน
แม้ว่าจะมีการปลดปล่อยวิญญาณและจบแบบแฮปปี้ในภาพรวม แต่ฉากทิ้งปมท้ายเรื่อง (เสียงกระซิบหรือเงา) ทำให้รู้สึกเหมือนไม่จบสมบูรณ์ บางคนอาจมองว่าเป็นการเปิดช่องไว้โดยไม่จำเป็น
คะแนนรวม (จาก sence9.com)
ละคร ตุ๊กตา 2564 เป็นละครที่ผสมผสานความหลอนและความดราม่าได้สนุกตามสไตล์ช่อง 7 ไม่ได้แปลกใหม่มากในวงการละครผีไทย แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบของมัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบอะไรลึกลับและตุ๊กตาน่ากลัว
ให้ประมาณ 7.5/10
ถ้าคุณชอบละครแนวสยองขวัญผสมดราม่าแบบไทยๆ เรื่องนี้ถือว่าน่าดูเลยทีเดียว เหมาะกับการดูฆ่าเวลา หรือดูกับครอบครัวในคืนวันหยุด แต่ถ้าคุณคาดหวังความเข้มข้นแบบหนังผีระดับสากล หรือเนื้อเรื่องที่ไร้ช่องโหว่ อาจรู้สึกว่ายังไม่ถึงจุดนั้น
มุมมองของผู้ชมทั่วไปที่เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับละครเรื่อง ตุ๊กตา 2564 นี้
ลุ้นระทึกและขนลุก
หลายคนรู้สึกตื่นเต้นและใจเต้นแรงในฉากที่ตุ๊กตาเริ่มขยับหรือพูดได้เอง โดยเฉพาะตอนที่มันกลับมาหลังจากถูกทิ้งไปแล้ว บรรยากาศหลอนๆ แบบไทยๆ ผสมกับเสียงประกอบน่ากลัว ทำให้บางคนถึงกับต้องปิดไฟนอนไม่ได้เลยทีเดียว
สงสารและเห็นใจ
เมื่อปมของวิญญาณน้องนางถูกเปิดเผย ผู้ชมบางคนรู้สึกสะเทือนใจกับเรื่องราวของเธอ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวข้องกับการตายอย่างน่าสลด ความผูกพันระหว่างบูรณากับตุ๊กตาก็ทำให้รู้สึกทั้งน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน
สนุกแต่ก็มีขัดใจนิดๆ
คนที่ชอบละครแนวนี้รู้สึกเพลินกับการตามปมปริศนาและฉากดราม่าครอบครัว แต่บางคนก็หงุดหงิดกับตัวละครที่ตัดสินใจแปลกๆ เช่น การไม่รีบหนีหรือกำจัดตุ๊กตาให้เด็ดขาดตั้งแต่แรก หรือบางฉากที่ยืดเยื้อเกินไปจนเสียอารมณ์
ตื่นเต้นกับการแสดง
การแสดงของนักแสดงหลักอย่าง อาภา ภาวิไล (รับบท สุวภาพ) ทำให้หลายคนอินไปกับความกลัวและความรักของแม่ที่มีต่อลูก ส่วนตุ๊กตาเองก็ถูกพูดถึงเยอะว่า “หลอนจริง” และ “เหมือนมีชีวิต” จนบางคนรู้สึกเหมือนมันมองมาที่ตัวเองผ่านจอ
ตอนจบทั้งโล่งใจและค้างคา
พอถึงตอนจบที่วิญญาณถูกปลดปล่อย หลายคนรู้สึกโล่งใจที่เรื่องจบแบบแฮปปี้ แต่ฉากทิ้งปม (เสียงลึกลับหรือเงา) ก็ทำให้บางคนรู้สึก “เอ๊ะ ยังไม่จบเหรอ?” หรือ “จะมีภาคต่อหรือเปล่า?” ซึ่งสร้างความรู้สึกหลากหลายทั้งพอใจและอยากได้คำตอบเพิ่ม
“ละคร ตุ๊กตา 2564 ” อาจจะได้ทั้งความสนุกแบบลุ้นๆ ความหลอนที่พอดีๆ ไม่หนักเกินไป และความดราม่าที่ทำให้อินกับตัวละคร แต่ก็อาจมีช่วงที่รู้สึกขัดใจบ้างถ้าชอบอะไรที่กระชับหรือสมเหตุสมผลกว่านี้ โดยรวมแล้วมันเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานความรู้สึกหลายอย่าง เหมาะกับคืนที่อยากดูอะไรตื่นเต้นแต่ไม่หนักจนนอนไม่หลับ
ละคร ตุ๊กตา 2564
ละคร ตุ๊กตา 2564
เมื่อเด็กหญิงที่ถูกจับมาใช้แรงงานทำตุ๊กตาถูกทรมานปางตาย เธอโหยหาอิสรภาพและต้องการกลับบ้าน จึงส่งจิตของเธอไปกับตุ๊กตาที่เธอทำเพื่อขอความช่วยเหลือ จนทำให้เด็กที่ได้ครอบครองตุ๊กตาตัวนี้ทั้งสองคน จากสองครอบครัว มีพฤติกรรมแปลก ๆ และเกิดเรื่องลี้ลับมากมาย แม่และอาหนุ่มของเด็กทั้งสองต้องช่วยกันแก้ปัญหา นำมาซึ่งการทลายโรงงานนรก และช่วยเด็ก ๆ ในโรงงานได้หลายคน ยกเว้นเด็กเจ้าของจิตดวงนั้นที่ได้กลับบ้านเพียงร่างไร้วิญญาณ
เรื่องราวประหลาดเริ่มปรากฏขึ้นในบ้านของ “สุวภาพ” เมื่อ “บูรณา” ลูกสาวตัวน้อยได้ “พี่ตุ๊กตา” มาครอบครอง น้องบูมีพฤติกรรมแปลก ๆ และยังเกิดเรื่องลี้ลับมากมาย เช่นเดียวกับครอบครัวของ “พันชั่ง” ที่หลานสาวได้ตุ๊กตาตัวเดียวกันมาโดยบังเอิญ แม่และอาหนุ่มของเด็กทั้งสองจึงต้องช่วยกันแก้ปัญหา และหาที่มาของตุ๊กตาลึกลับตัวนี้…ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป!
สุวภาพ (อาภา ภาวิไล) สาวสวยที่ตกพุ่มม่ายในวัย 28 ปี เมื่อสามี หิมวัต (พลพจน์ พูลนิล) ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในวันที่สุวภาพคลอดลูก เหตุการณ์นั้นทำให้เธอกลายเป็นคนเจ้าทุกข์ ไม่มั่นคงทางอารมณ์ โชคดีที่หิมวัตทิ้งมรดกไว้ให้ ประกอบกับมีเงินพ่อของเธอซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ครอบครัวของเธอที่ยังมีแม่ และลูกสาววัย 5 ขวบ คือ น้องบู หรือ ด.ญ.บูรณา (ด.ญ.ปณิริน ธรรมวัฒนะ) ไม่ต้องลำบากมาก
น้องบูเติบโตมาโดยได้รับอิทธิพลความเศร้าจากแม่ ทำให้เป็นเด็กเงียบขรึม ไม่ร่าเริง จนได้ตุ๊กตาน่ารักตัวหนึ่งมา น้องบูดูมีชีวิตชีวาขึ้น และผูกพันกับตุ๊กตามาก แต่น้องบูมักจะพูดคนเดียว ตัสสา (ชาคริต บุญสิงห์) ชายหนุ่มที่มาติดพันสุวภาพ บอกว่าเป็นธรรมดาของเด็ก แรก ๆ สุวภาพก็คล้อยตาม แต่เหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เธอและ กอง (รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา) สาวใช้ เริ่มหวาดกลัว คงมีแต่ สุดา (ปิยะดา เพ็ญจินดา) แม่ของเธอ ที่ไม่กลัว
น้องบูมีพฤติกรรมแปลก ๆ เรียกตุ๊กตาว่า “พี่ตุ๊กตา” และทำเหมือนตุ๊กตาตัวนั้นมีชีวิต สุวภาพกลัวลูกเป็นอันตราย และกลัวผี เธอจึงนำตุ๊กตาไปทิ้งที่กองขยะ และบังเอิญ ด.ญ.พรรษา (ด.ญ.รัญชนา รงควิลิต) และ ใบทอง (จาด้า อินโตร์เร) น้าของเธอ มาเจอจึงนำกลับไปบ้านด้วย ซึ่งพรรษามีลุงชื่อ พันชั่ง (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) วิศวกรรูปหล่อ เป็นผู้เลี้ยงดู เพราะพ่อแม่ของพรรษาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เมื่อนำตุ๊กตาไปไว้ที่บ้านก็เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ พรรษาเริ่มเก็บตัว ชอบพูดคนเดียว มีเสียงเหมือนคนเดินรอบบ้าน และมีเสียงภาษาแปลก ๆ ว่า “แม..แม..เอิว..นังล็อบ..ปะเตีย..นังล็อบ..ปะเตีย หนูอยากกลับบ้าน” ชวนขนหัวลุก
พรรษาพาตุ๊กตาไปโรงเรียนด้วย ทำให้น้องบูและพรรษาแย่งตุ๊กตากัน สุวภาพเชื่อว่าตุ๊กตาตัวนั้นมีผีสิงหรือมีมนตร์ดำ พันชั่งพยายามหาทางออกให้เรื่องนี้ เขาไม่เชื่อว่ามีผี แต่เชื่อว่าอาจจะมีสาเหตุบางอย่าง สุวภาพต้องการให้พันชั่งเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปจากบ้านเธอ แต่พันชั่งสงสารบูรณาจึงปฏิเสธ ทั้งสองมีปากเสียงกัน ขณะเดียวกันเรื่องราวเหล่านี้ก็ทำให้ทั้งสองเริ่มผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว
เรื่องราวของ ตุ๊กตา จะดำเนินต่อไปอย่างไร ? จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหลังจากนี้ ? สิ่งที่สิงอยู่ในตุ๊กตาใช่ผีหรือไม่ ? และสองครอบครัวที่ต่างเจอเรื่องลี้ลับจะกลับมาสงบสุขอีกครั้งได้อย่างไร ?
บทประพันธ์โดย : วาณิช จรุงกิจอนันต์
บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
กำกับการแสดงโดย : แดง บูรพา
ผลิตโดย : บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
นักแสดง
กิตตน์ก้อง ขำกฤษ รับบท พันชั่ง
อาภา ภาวิไล รับบท สุวภาพ
ด.ญ.ปณิริน ธรรมวัฒนะ รับบท บูรณา/น้องบู
ชาคริต บุญสิงห์ รับบท ตัสสา
จาด้า อินโตร์เร รับบท ใบทอง
ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์ รับบท กรุณา
ปนัดดา โกมารทัต รับบท เมตตา
จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท สมร
ปิยะดา เพ็ญจินดา รับบท สุดา
ณหทัย พิจิตรา รับบท พุ่มแก้ว
วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง รับบท ครูใหญ่อารีย์
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ รับบท สารวัตรใหญ่
รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา รับบท กอง
ศรุฒ สุวรรณภักดี รับบท กร่าง
เยาวเรศ นิสากร รับบท ป้าใจ
ด.ญ.รัญชนา รงควิลิต รับบท พรรษา/น้องษา
ทัศนีย์ สีดาสมุทร รับบท อนงค์
ประถมาภรณ์ รัตนภักดี รับบท ครูอัจฉรา
ภัคสิร์ชา ราย รับบท ครูกาญจนา
สิริยา นฤนาท รับบท เทียน
อำพล สวนสุข รับบท ลุงแหวง
ทับ ท่ากระดาน รับบท นายแทน
รุจิเรข พักตระเกษตริน รับบท ป้าน้อย
ประทุม สินธุอุส่าห์ รับบท ปทุมา
กัญจน์อมล เคล้าจิตพูลสุข รับบท ครูเชอร์รี่
อัมรินทร์ สุขตะโก รับบท คนขายขนมครก
ด.ญ.ปานชีวา มนต์สิริ รับบท นาง
ณัฐดนัย ชัยภูมิ รับบท ยู้ฮู
เปรมสุดา สันติวัฒนา รับบท อุบะ (รับเชิญ)
พลพจน์ พูลนิล รับบท หิมวัต (รับเชิญ)