ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง 2555 ละครแนวโรแมนติกชีวิตดราม่า เรื่องราวของ ธรณีนี่นี้ใครครอง เน้นสะท้อนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผ่านชีวิตของเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยมีตัวละครหลักคือ อาทิจ และ ดรุณี
“อาทิจ” เป็นบัณฑิตจากวิทยาลัยเกษตร ลูกชายคนโตของครอบครัวข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีฐานะยากจน มีพ่อชื่อ “ประวิทย์” (ปลัดอำเภอผู้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์) และแม่ชื่อ “พูนทรัพย์” (แม่ค้าขยัน) อาทิจมีน้องถึง 9 คน จึงตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อให้น้อง ๆ ได้มีโอกาสศึกษา เขาใฝ่ฝันอยากมีที่ดินเป็นของตัวเองและใช้ความรู้ด้านการเกษตรให้เกิดประโยชน์ พ่อของเขาส่งตัวไปทำงานที่ไร่ของ “ย่าแดง” เพื่อชดใช้หนี้ที่พ่อเคยขโมยเงินย่าและหนีออกจากบ้านเพราะไม่อยากทำงานหนัก ย่าแดงตกลงสนับสนุนการศึกษาให้น้อง ๆ ของอาทิจ โดยแลกกับการที่อาทิจทำงานในไร่โดยไม่รับค่าจ้าง ด้วยความมุ่งมั่นและความถ่อมตน อาทิจได้รับความไว้วางใจจากย่าแดง ซึ่งมอบที่ดินให้เขา พร้อมสอนให้รักและกตัญญูต่อผืนดิน
“ดรุณี” เป็นน้องสาวบุญธรรมคนสุดท้องของย่าแดง อายุราว 17 ปีในตอนเริ่มเรื่อง เธอน่ารักแต่ขี้หึงและกลัวว่าอาทิจจะมาแย่งความรักจากย่าแดงไป จึงมักมีปากเสียงและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอาทิจ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจากความขัดแย้ง แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ความรู้สึกเริ่มพัฒนาเป็นความรัก ถึงแม้ว่าทั้งสองจะพยายามปฏิเสธและผลักไสกันไปให้คนอื่น
เรื่องราวความรักและการเติบโต
ละครเล่าถึงการต่อสู้ของอาทิจในการทำงานหนักที่ไร่ของย่าแดงเพื่อชดใช้หนี้และพัฒนาที่ดิน ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความขัดแย้งกับดรุณี ซึ่งค่อย ๆ กลายเป็นความผูกพัน เรื่องราวเต็มไปด้วยความโรแมนติก ดราม่า และอารมณ์ขัน โดยมีฉากหลังเป็นวิถีเกษตรกรรมและทิวทัศน์ธรรมชาติจากสถานที่ถ่ายทำ เช่น แม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ ไร่สตอว์เบอร์รีที่ดอยอ่างขาง และภูทับเบิก ตัวละครสมทบอย่าง วิไลลักษณ์, เวทางค์, วิยะดา, น้าแก้ว, ทองประศรี, และ ตุ๊ เพิ่มสีสันให้เรื่องราวด้วยความสัมพันธ์ที่หลากหลายและมุกตลก
เมื่อย่าแดงเสียชีวิต เธอระบุในพินัยกรรมให้อาทิจดูแลทรัพย์สินและเป็นผู้ปกครองของดรุณี ทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับความรับผิดชอบและความรู้สึกที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เรื่องราวนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างอาทิจและดรุณี ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้งด้านครอบครัวและความรู้สึกส่วนตัว เพื่อค้นหาคำตอบว่าความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร
การถ่ายทำ
ละครใช้สถานที่ถ่ายทำในหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ (แม่กลางหลวง, ดอยอินทนนท์, ฝาง, ดอยอ่างขาง, สันกำแพง), เพชรบูรณ์ (ภูทับเบิก), นครนายก (หุบเมย), และปากช่อง เพื่อสร้างบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามและสอดคล้องกับเนื้อหาการเกษตร
ละครได้รับความนิยมอย่างมากจากเคมีของณเดชน์และญาญ่า ซึ่งเคยร่วมงานกันใน ดวงใจอัคนี ทำให้ผู้จัดเลือกทั้งคู่มารับบทอาทิจและดรุณี ฉบับปี 2555 ต่อไปนี้คือภาพรวมและจุดสำคัญของละคร
จุดเริ่มต้น
อาทิจ (ณเดชน์) บัณฑิตวิทยาลัยเกษตร ลูกชายคนโตของครอบครัวยากจน มีพ่อ (ประวิทย์) เป็นปลัดอำเภอซื่อสัตย์ และแม่ (พูนทรัพย์) เป็นแม่ค้าขยัน ด้วยความที่มีน้องถึง 9 คน อาทิจเลือกเสียสละโอกาสเรียนต่อเพื่อให้น้อง ๆ ได้ศึกษา เขาฝันอยากมีที่ดินทำกินและใช้ความรู้ด้านเกษตรให้เกิดประโยชน์ พ่อของเขาส่งตัวไปทำงานที่ไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) เพื่อชดใช้หนี้เก่าที่พ่อเคยขโมยเงินย่าและหนีไป ย่าแดงตกลงช่วยค่าเล่าเรียนน้อง ๆ ของอาทิจ โดยให้อาทิจทำงานในไร่โดยไม่รับค่าจ้าง
ดรุณี (ญาญ่า) เป็นน้องสาวบุญธรรมของย่าแดง อายุ 17 ปี น่ารักแต่ขี้หึงและหวงย่าแดง เธอเข้าใจผิดว่าอาทิจมาเพื่อแย่งความรักและทรัพย์สินจากย่า จึงมักมีปากเสียงและกลายเป็นคู่กัดกับเขา ทั้งสองเริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง แต่การใกล้ชิดกันในไร่ทำให้เกิดความผูกพันทีละน้อย
ชีวิตในไร่
อาทิจทำงานหนักในไร่ของย่าแดงที่แม่กลางหลวงและดอยอ่างขาง ด้วยความรู้ด้านเกษตร เขาค่อย ๆ พัฒนาที่ดินและพิสูจน์ความมุ่งมั่น ย่าแดงเห็นแววและเริ่มไว้ใจเขา มอบที่ดินให้ดูแล พร้อมสอนให้รักและกตัญญูต่อผืนดิน ดรุณีที่เคยรำคาญอาทิจ เริ่มเห็นความดีของเขา แต่ก็ยังคงขัดแย้งกันบ่อย ๆ เพราะนิสัยดื้อของเธอและความตรงไปตรงมาของอาทิจ
ความรักที่ค่อย ๆ ก่อตัว
ความสัมพันธ์ของอาทิจและดรุณีพัฒนาจากคู่กัดสู่ความรู้สึกดี ๆ ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การช่วยกันทำงานในไร่ หรือการปกป้องกันจากอันตราย ดรุณีเริ่มหวั่นไหวเมื่อเห็นความทุ่มเทของอาทิจ แต่ทั้งคู่ก็มักปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง เกิดเป็นโมเมนต์น่ารักปนดราม่า เช่น ดรุณีหึงเมื่อคิดว่าอาทิจสนใจ วิยะดา (เพื่อนของดรุณี) หรืออาทิจแกล้งดรุณีเพื่อให้เธอยอมรับความรู้สึก
ตัวละครสมทบและความขัดแย้ง
ตัวละครอย่าง วิไลลักษณ์, เวทางค์, และ น้าแก้ว เพิ่มสีสันและความขัดแย้ง เช่น วิไลลักษณ์ที่แอบชอบอาทิจ หรือเวทางค์ที่เข้ามายุ่งวุ่นวายในไร่ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของอาทิจก็มีดราม่า เช่น การที่พ่อของเขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่เคยทำผิดกับย่าแดง
จุดเปลี่ยนสำคัญ
เมื่อ ย่าแดงเสียชีวิต เธอทิ้งพินัยกรรมให้อาทิจเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินและเป็นผู้ปกครองของดรุณี สิ่งนี้ทำให้ทั้งคู่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น และความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งซับซ้อน ดรุณีรู้สึกสับสนระหว่างความโกรธที่สูญเสียย่าและความรู้สึกที่มีต่ออาทิจ ส่วนอาทิจต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาคู่ควรกับความไว้วางใจของย่าแดง ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องดรุณีจากปัญหาต่าง ๆ เช่น การแย่งชิงที่ดินหรือความเข้าใจผิดจากคนรอบข้าง
ในตอนท้าย อาทิจและดรุณีเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองอย่างจริงจัง หลังจากผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งสองยอมรับว่ารักกัน อาทิจสามารถพัฒนาที่ดินให้เจริญรุ่งเรืองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และดูแลครอบครัวของเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เรื่องราวจบลงด้วยความอบอุ่น โดยทั้งคู่สานต่อปณิธานของย่าแดงในการรักและรักษาผืนดิน พร้อมเริ่มต้นชีวิตคู่ท่ามกลางธรรมชาติและครอบครัวที่สมบูรณ์
ละครเรื่องนี้ผสมผสานความสนุกจากเคมีของณเดชน์และญาญ่า ดราม่าครอบครัว ความโรแมนติก และข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ฉากถ่ายทำในสถานที่สวยงาม เช่น ดอยอินทนนท์และภูทับเบิก เพิ่มความน่าตื่นตา ตัวละครสมทบและมุกตลกทำให้เรื่องไม่หนักจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบละครรักที่มีสาระและฉากธรรมชาติ ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร
เคมีของณเดชน์และญาญ่า
ความสำเร็จของละครมาจากเคมีที่ลงตัวของ ณเดชน์ และ ญาญ่า ซึ่งเคยร่วมงานกันใน ดวงใจอัคนี ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นกับการกลับมาร่วมงานอีกครั้ง ฉากคู่กัดระหว่างอาทิจและดรุณีเต็มไปด้วยความน่ารักและเป็นธรรมชาติ เช่น ฉากที่ดรุณีโยนของใส่อาทิจ หรือฉากที่ทั้งคู่แกล้งกันในไร่ ความขัดแย้งที่ค่อย ๆ พัฒนาเป็นความรักทำให้ผู้ชมลุ้นและฟินตามได้ง่าย โดยเฉพาะฉากโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติ เช่น การมองตากันในทุ่ง หรือการช่วยกันทำงานในไร่
การถ่ายทอดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ละครนำเสนอแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้อย่างกลมกลืน ผ่านการทำงานของอาทิจในไร่ของย่าแดง ตัวละครแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ดินอย่างยั่งยืน เช่น การปลูกสตอว์เบอร์รี หรือการจัดการน้ำในไร่ เนื้อหานี้ไม่เพียงให้ข้อคิด แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของการเกษตรและการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
สถานที่ถ่ายทำที่สวยงาม
ฉากถ่ายทำในสถานที่จริง เช่น แม่กลางหลวง, ดอยอินทนนท์, ดอยอ่างขาง (เชียงใหม่), ภูทับเบิก (เพชรบูรณ์), และหุบเมย (นครนายก) สร้างบรรยากาศที่สวยงามและสมจริง ภาพทุ่งนา ไร่สตอว์เบอร์รี และขุนเขาช่วยเสริมอารมณ์ของเรื่องให้ทั้งโรแมนติกและอบอุ่น ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้สัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกรจริง ๆ
ตัวละครสมทบและความสนุก
ตัวละครสมทบ เช่น ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี), วิยะดา (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย), น้าแก้ว, และ ทองประศรี เพิ่มสีสันให้เรื่องราวด้วยความตลกและดราม่า การปะทะคารมระหว่างตัวละครหรือมุกตลกในชีวิตประจำวันของคนในไร่ทำให้ละครไม่หนักจนเกินไป และช่วยกระจายน้ำหนักจากเรื่องราวความรักของพระนาง
คะแนน 8.5/10 (จาก sence9.com)
ธรณีนี่นี้ใครครอง 2555 เป็นละครที่ผสมผสานความโรแมนติก ดราม่า และข้อคิดได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบละครรักที่มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชนบทและธรรมชาติ จุดแข็งที่สุดคือเคมีของ ณเดชน์-ญาญ่า ที่ทำให้ทุกฉากของทั้งคู่ดูน่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฉากทะเลาะหรือฉากหวาน การนำเสนอปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านตัวละครอาทิจและการทำงานในไร่เป็นจุดที่ทำให้ละครมีคุณค่าเกินกว่าความบันเทิงทั่วไป
อย่างไรก็ตาม จังหวะที่ช้าบางช่วงและการจัดการบทของตัวละครสมทบอาจทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกว่าละครไม่สมบูรณ์แบบ แต่โดยรวมแล้ว ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จในการสร้างความประทับใจและเป็นหนึ่งในผลงานที่ทำให้ณเดชน์และญาญ่ากลายเป็นคู่ขวัญในใจแฟน ๆ
เหมาะสำหรับ แฟนละครโรแมนติก-ดราม่า, ผู้ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการเกษตรและเศรษฐกิจพอเพียง, และแฟนคลับของณเดชน์-ญาญ่า ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่ชอบละครที่ยืดเยื้อหรือเน้นดราม่าครอบครัวมากเกินไป
ความฟินและความน่ารักจากเคมีของณเดชน์-ญาญ่า
ฉากคู่กัดระหว่าง อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) และ ดรุณี (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ทำให้รู้สึกสนุกและลุ้นตามทุกครั้งที่ทั้งคู่ปะทะคารม เช่น ฉากที่ดรุณีขว้างของใส่อาทิจ หรือฉากที่ทั้งสองแกล้งกันในไร่ ความเป็นคู่กัดที่ค่อย ๆ กลายเป็นความรักให้ความรู้สึกเหมือนดูเพื่อนที่ชอบแกล้งกันแต่แอบมีใจ
ช่วงที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มหวาน เช่น ฉากที่อาทิจปกป้องดรุณี หรือฉากมองตากันในทุ่งสตอว์เบอร์รี ทำให้หัวใจพองโต โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเพลง “ให้รักมันโตในใจ” หรือ “อาการรัก” ประกอบฉากโรแมนติก
ณเดชน์ถ่ายทอดความเป็นชายหนุ่มบ้าน ๆ ที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นได้อย่างน่าเชื่อถือ ส่วนญาญ่านำเสนอความสดใสและความดื้อของดรุณีได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครทั้งสอง
ความอบอุ่นและข้อคิดจากวิถีชีวิตเกษตร
การต่อสู้ของอาทิจที่ทำงานหนักเพื่อครอบครัวและพัฒนาที่ดินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้รู้สึกชื่นชมและได้รับแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะฉากที่เขาเรียนรู้การทำเกษตรจากย่าแดงและพิสูจน์ว่าความมุ่งมั่นสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้
ฉากที่ถ่ายทำในสถานที่สวยงาม เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง หรือภูทับเบิก ให้ความรู้สึกเหมือนได้หลบหนีจากความวุ่นวายในเมืองมาสัมผัสความสงบของธรรมชาติ ภาพทุ่งนาและไร่สตอว์เบอร์รีทำให้รู้สึกสดชื่นและอยากไปเยือนสถานที่เหล่านั้น
การสอนของย่าแดงเกี่ยวกับความกตัญญูต่อผืนดินและการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง รวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของอาทิจที่เสียสละเพื่อน้อง ๆ ทำให้รู้สึกอบอุ่นและตื้นตันใจในความรักของครอบครัว
ความสนุกจากตัวละครสมทบและมุกตลก
ความรู้สึกขบขันและมีสีสันถูกเติมเต็มในเรื่องราวผ่านตัวละครสมทบที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็น น้าแก้ว, ทองประศรี, หรือ เวทางค์ ต่างก็สร้างเสียงหัวเราะด้วยมุกตลกแบบบ้าน ๆ ที่มาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การหยอกล้อกันในไร่ หรือความเข้าใจผิดที่นำไปสู่ความวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กลับสร้างความผ่อนคลายและรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้อย่างลงตัว
ความหลากหลายของตัวละครสมทบยังทำให้เรื่องราวมีสีสันและน่าติดตามยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความขี้หึงของ วิไลลักษณ์ หรือความซื่อบริสุทธิ์ของ วิยะดา ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตในไร่ที่ไม่เคยน่าเบื่อ เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเรื่องราวที่คาดไม่ถึง ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและอินไปกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหล่านี้
ความดราม่าและอุปสรรค
เรื่องราวได้สอดแทรกมิติของดราม่าครอบครัวที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างพ่อของอาทิจกับย่าแดง หรือภาระหนี้สินที่ทำให้อาทิจต้องแบกรับความรับผิดชอบอย่างหนัก ล้วนสร้างความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและกระตุ้นให้ผู้ชมเอาใจช่วยเขาให้ก้าวผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้
จุดพลิกผันที่น่าประทับใจคือช่วงเวลาที่ย่าแดงเสียชีวิตและทิ้งพินัยกรรมให้อาทิจดูแลดรุณี ซึ่งเป็นช่วงที่สร้างความซาบซึ้งและเศร้าโศกอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากย่าแดงเป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นและเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของเรื่องราวทั้งหมด
แม้ในบางช่วงที่การดำเนินเรื่องอาจดูยืดเยื้อ เช่น การทะเลาะเบาะแว้งซ้ำ ๆ ของอาทิจและดรุณี หรือดราม่าที่ดูเกินจริงไปบ้าง อาจทำให้รู้สึกขัดใจเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้บั่นทอนความสนุกของเรื่องราวลงไปแต่อย่างใด
ละครเรื่องนี้มอบประสบการณ์ที่ ครบรส อย่างแท้จริง ตั้งแต่ความ ฟิน จากเรื่องราวความรักที่งดงาม ไปจนถึงความ ขบขัน ที่มาจากตัวละครสมทบที่เปี่ยมสีสัน ความ ซาบซึ้ง ในประเด็นดราม่าครอบครัวที่กินใจ และข้อคิดดี ๆ จาก วิถีชีวิตพอเพียง ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวที่ทั้งให้ความบันเทิงและสอดแทรกสาระได้อย่างลงตัว
การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความรักและการเกษตร โดยมีฉากหลังเป็นธรรมชาติอันงดงาม สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม และชวนให้กลับมาชมซ้ำอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนคลับของ ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ญาญ่า) ฉากสถานที่ถ่ายทำที่สวยงาม อาทิ ดอยอ่างขาง หรือ ภูทับเบิก ยังอาจจุดประกายความปรารถนาที่จะเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกรและธรรมชาติอันบริสุทธิ์เช่นเดียวกับที่ปรากฏในละครอีกด้วย
ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง 2555
ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง 2555
ละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 ที่มี ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบท อาทิจ และ ญาญ่า อุรัสยา รับบท ดรุณี ละครเรื่องนี้คือสุดยอดแห่งความฟิน ดราม่า และข้อคิดดี ๆ แถมยังได้กลิ่นอายธรรมชาติแบบเต็ม ๆ 🌿
เริ่มเรื่อง อาทิจ หนุ่มเกษตรสุดขยัน 💪
บอกเลยว่า อาทิจ (ณเดชน์) คือหนุ่มหล่อบ้าน ๆ ที่จบวิทยาลัยเกษตร แต่เลือกไม่เรียนต่อเพื่อให้น้อง ๆ 9 คนได้เรียน เขาเป็นลูกชายคนโตของ ประวิทย์ ปลัดอำเภอซื่อสัตย์ และ พูนทรัพย์ แม่ค้าขยัน ครอบครัวฐานะยากจน อาทิจเลยฝันอยากมีที่ดินเป็นของตัวเอง ใช้ความรู้เกษตรให้ปัง 🌱
แต่เรื่องมันเริ่มดราม่าเมื่อพ่อของเขาส่งไปหา ย่าแดง (ตุ๊ก ดวงตา) เพื่อชดใช้หนี้เก่า เพราะเมื่อก่อนพ่ออาทิจขโมยเงินย่าแล้วหนีไป แค่ไม่อยากทำงานหนักในไร่ 😱 ย่าแดงเลยให้ข้อเสนอสุดโหด อาทิจต้องทำงานในไร่แบบไม่รับเงินเดือน แลกกับย่าส่งเสียน้อง ๆ เรียน อาทิจตอบตกลงทันที เพราะอยากไถ่โทษให้พ่อและช่วยน้อง ๆ
ดรุณี น้องสาวสุดแซ่บของย่าแดง 😜
แล้วเราก็เจอ ดรุณี (ญาญ่า) น้องสาวบุญธรรมของย่าแดง สาวน้อยวัย 17 ที่น่ารักแต่ดื้อสุด ๆ เธอเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอาทิจตั้งแต่แรก เพราะกลัวอาทิจจะแย่งความรักจากย่าแดง 😤 ดรุณีมีปมในใจว่าเธอไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของย่าแดง แค่ย่ารับมาเลี้ยงเพราะสงสาร ต่างจากอาทิจที่เป็นหลานสายเลือด ทำให้เธอคอยหาเรื่องอาทิจตลอด
ฉากปะทะคารมของทั้งคู่คือฮาสุด เช่น ดรุณีโยนของใส่อาทิจ หรืออาทิจแกล้งยั่วให้ดรุณีโมโห เรียกว่าคู่กัดตัวจริง 😂 แต่บอกเลยว่าความขัดแย้งนี่แหละที่ทำให้เราลุ้นว่าความรักจะเริ่มยังไง
ดราม่าจัดเต็ม กล้วยป่าและทองประศรี 🍌😵
อาทิจขยันทำงานในไร่สุด ๆ ย่าแดงเห็นความตั้งใจเลยให้ที่ดิน 1 ไร่ให้ลองปลูกผัก แต่ดราม่ามาเลยเมื่อดรุณีและ ไพฑูร (หลานห่าง ๆ ของย่า) แกล้งไม่บอกว่าอาทิจขุด กล้วยป่า มาปลูก ซึ่งเอาไปขายไม่ได้ อาทิจเสียหน้า เสียใจหนัก จนไปเมากับเหล้า แล้วตื่นมาเจอ ทองประศรี ลูกสาวร้านขายของชำ โวยวายว่าอาทิจข่มเหงเธอ 😱
เรื่องนี้ทำให้อาทิจป่วยหนัก ดรุณีรู้สึกผิดเลยต้องดูแลเขาแบบใกล้ชิด ทั้งเช็ดตัว ทำกับข้าว ซักผ้า ฉากนี้เริ่มเห็นเคมีหวาน ๆ แล้วนะ 💖 แต่ดราม่ายังไม่จบ เพราะพ่อแม่ทองประศรีบังคับให้อาทิจแต่งงานรับผิดชอบ แถม วิไลลักษณ์ (เมียผู้ว่า) ก็ยุให้แต่งเพื่อกำจัดอาทิจออกจากมรดกย่าแดง 😈
ความรักเริ่มก่อตัว ท่ามกลางไร่ข้าวโพด 🌽
อาทิจย้ายไปอยู่บ้านพักคนงาน ทุ่มเททำไร่ข้าวโพดและกะหล่ำปลี ดรุณีก็เริ่มลงมาช่วย เริ่มคุยกันดีขึ้น แต่ก็มี ทองประศรี และ เวทางค์ (ลูกชายวิไลลักษณ์) คอยกวนใจ ดรุณีสอบติดมหาวิทยาลัยต้องไปเรียนกรุงเทพฯ กับเวทางค์และ วิยะดา ทำให้ห่างจากอาทิจ แต่ย่าแดงให้ทั้งคู่เขียนจดหมายถึงกัน สายสัมพันธ์เลยไม่ขาด ✍️
ปิดเทอม ดรุณีกลับมาเจอทองประศรีคลอดลูก แต่ทุกคนสงสัยว่าไม่ใช่ลูกอาทิจ เพราะแต่งงานกันไม่ถึง 7 เดือน 😲 ดรุณีสงสารอาทิจ เลยพยายามทำดีเพื่อไถ่โทษ ฉากช่วยกันทำงานในไร่คืออบอุ่นมากกก
จุดพีค ย่าแดงจากไปและพินัยกรรม 😢
เรื่องถึงจุดพีคเมื่ออาทิจลองปลูกข้าว แต่เจอพายุทำนาล่ม เขาท้อสุด ๆ แต่ย่าแดงให้กำลังใจ จนครั้งที่สองข้าวงอกงามสมใจ วันนั้นย่าแดงดีใจจนน้ำตาไหล แต่ก็จากไปอย่างสงบ ฉากนี้คือร้องไห้ตามเลย 😭 ดรุณีเสียใจหนัก อาทิจอยากปลอบแต่เวทางค์ขวางไว้
พินัยกรรมย่าแดงระบุให้อาทิจเป็นผู้ปกครองดรุณีจนเรียนจบ ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ความรู้สึกดี ๆ เริ่มชัดเจน แต่ก็มีดราม่าเมื่อ ตุ่น (เพื่อนดรุณี) หลงรักอาทิจ และดรุณีพยายามจับคู่ให้ทั้งสอง เพราะคิดว่าอาทิจควรได้รักแท้ 😩
ดราม่าความรักและบทสรุป 💔➡️💕
ตุ่นหลงรักอาทิจหนักมาก แต่ทองประศรีมาประกาศว่าเป็นเมียอาทิจ ทำให้ตุ่นใจสลายหนีกลับกรุงเทพฯ ดรุณีพยายามเป็นกาวใจให้ทั้งคู่ แต่ลึก ๆ เธอก็รู้ตัวว่ารักอาทิจ! อาทิจเองก็เริ่มรู้ใจตัวเอง แต่ติดที่หน้าที่ผู้ปกครองและความเข้าใจผิดว่าดรุณีชอบเวทางค์
จุดเปลี่ยนคืออาทิจโดนงูกัด ดรุณีช่วยดูดพิษและดูแลเขาจนหาย ฉากนี้คือหวานจนน้ำตาลเรียกพี่ 🥰 สุดท้ายทั้งคู่ยอมรับความรู้สึก ลงเอยกันอย่างอบอุ่น สานต่อปณิธานย่าแดงในการรักผืนดินและทำเกษตรต่อไป
อยากรู้ว่าอาทิจ-ดรุณีลงเอยยังไง ต้องไปดูเองนะทุกคน! รับรองไม่ผิดหวัง 💖
เบื้องหลังความปังของ ธรณีนี่นี้ใครครอง 2555 🎬🔥
ทีมงานเบื้องหลังที่ทำให้ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 กลายเป็นละครที่ทั้งฟิน ดราม่า และเต็มไปด้วยข้อคิดดี ๆ 💕 ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ณเดชน์-ญาญ่าที่ปังนะ แต่ทีมงานเค้าก็สุดยอดไม่แพ้กัน
บทประพันธ์โดย กาญจนา นาคนันทน์ (นงไฉน ปริญญาธวัช) 📖

เริ่มที่ตัวแม่ของเรื่องนี้เลย กาญจนา นาคนันทน์ หรือที่รู้จักในนามปากกา นงไฉน ปริญญาธวัช คือคนเขียนนิยายต้นฉบับที่ได้รางวัลจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปี 2518 📚 นิยายเรื่องนี้ดังมาก เพราะเล่าถึงชีวิตเกษตรกร ความรัก และหลักเศรษฐกิจพอเพียงแบบที่อ่านแล้วอินสุด ๆ บอกเลยว่าถ้าไม่มีป้าแกเขียนไว้ ละครเรื่องนี้ก็คงไม่เกิด ขอบคุณที่สร้างเรื่องราวสุดประทับใจให้เรานะ 🙌
บทโทรทัศน์โดย ปารดา กันตพัฒนกุล ✍️

ต่อมาเรามี ปารดา กันตพัฒนกุล คนที่เอานิยายของกาญจนามาดัดแปลงเป็นบทละครโทรทัศน์ บอกเลยว่างานนี้ไม่ง่าย เพราะต้องเอาความยาวของนิยายมาย่อให้เข้ากับละคร 16 ตอน แถมต้องใส่ความฟิน ความดราม่า และมุกตลกให้ลงตัว 😎 ฉากคู่กัดของอาทิจ-ดรุณี หรือฉากซึ้ง ๆ ในไร่ที่เราดูแล้วจิกหมอนน่ะ ต้องยกเครดิตให้พี่ปารดาที่เขียนบทได้ครบรสสุด ๆ ปรบมือให้เลย 👏
กำกับการแสดงโดย ยุทธนา ล.พันธ์ไพบูลย์ 🎥

มาถึงพี่ใหญ่ ยุทธนา ล.พันธ์ไพบูลย์ ผู้กำกับที่เนรมิตให้ละครเรื่องนี้มีชีวิต 🎬 พี่เขาคือคนที่ทำให้ฉากในไร่สตอว์เบอร์รีที่ดอยอ่างขาง หรือทุ่งนาที่ภูทับเบิกสวยจนอยากไปตามรอย แถมยังกำกับณเดชน์-ญาญ่าให้เล่นได้เคมีลงตัวสุด ๆ ฉากทะเลาะก็น่ารัก ฉากรักก็ฟิน ฉากดราม่าก็ร้องไห้ตาม 😭 พี่ยุทธนาคือตัวจริงเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์และวิถีเกษตรให้ดูสมจริงแต่ไม่น่าเบื่อ สุดยอดไปเลย
ผลิตโดย บริษัท โนพรอบเล็ม จำกัด 🏭
ทีมโปรดักชัน โนพรอบเล็ม คือคนที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง ตั้งแต่หาโลเคชันสวย ๆ อย่างดอยอินทนนท์ แม่กลางหลวง หรือหุบเมย ไปจนถึงจัดการตารางถ่ายทำ นักแสดง เสื้อผ้า ฉาก ทุกอย่าง 😮 ลองนึกภาพกองถ่ายในไร่ที่ต้องเจอแดด ลม ฝน แต่ทีมนี้ทำให้ภาพออกมาสวยเป๊ะ ถ้าไม่มีทีมนี้ เราคงไม่ได้เห็นไร่สตอว์เบอร์รีหรือฉากทุ่งข้าวที่ทำให้ใจฟูขนาดนี้ ขอบคุณทีมงานทุกคนเลยนะ 💪
ควบคุมการผลิตโดย ธิติมา สังขพิทักษ์ 🎓

ปิดท้ายด้วย ธิติมา สังขพิทักษ์ ผู้ควบคุมการผลิตที่เหมือนแม่ทัพใหญ่ของกองนี้ 💼 พี่เขาคือคนที่คอยดูแลภาพรวมทั้งหมด ตรวจให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป๊ะ ตั้งแต่บท การกำกับ นักแสดง ไปจนถึงโปรดักชัน ละครเรื่องนี้ปังขนาดนี้เพราะพี่ธิติมาคุมให้ทุกอย่างลงล็อก แถมยังเลือกณเดชน์-ญาญ่ามาเป็นคู่พระนางที่เคมีสุดปัง บอกเลยว่างานคุณภาพแบบนี้ต้องยกให้พี่เขาเลย 👑
ทีมงานชุดนี้คือสุดยอดของวงการละครไทย ตั้งแต่นิยายต้นฉบับที่ลึกซึ้งของกาญจนา บทที่ครบรสของปารดา การกำกับที่เนรมิตภาพสวยและอารมณ์ถึงของยุทธนา งานโปรดักชันสุดเนี๊ยบของโนพรอบเล็ม และการคุมงานแบบมือโปรของธิติมา ทำให้ ธรณีนี่นี้ใครครอง เป็นละครที่ทั้งสนุก ฟิน และมีข้อคิด 🌟 ดูแล้วอยากไปใช้ชีวิตในไร่เลยอะ ทุกคนว่าไหม? 😍
นักแสดง
→ ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบท อาทิจ

อาทิจ หนุ่มเกษตรหัวใจแกร่ง 🌱
อาทิจ คือหนุ่มหล่อจากครอบครัวข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ฐานะยากจน เขาเป็นลูกชายคนโตของ ประวิทย์ (ปลัดอำเภอสุดซื่อ) และ พูนทรัพย์ (แม่ค้าสุดขยัน) ที่มีน้องถึง 9 คน 😮 อาทิจเลยเลือกเสียสละโอกาสเรียนต่อหลังจบวิทยาลัยเกษตร เพื่อให้น้อง ๆ ได้เรียน บอกเลยว่าความกตัญญูของพี่ชายคนนี้คือ 10 เต็ม 10 👏
อาทิจไม่คิดทำงานราชการเหมือนพ่อ แต่ฝันอยากมีที่ดินเป็นของตัวเอง เพื่อใช้ความรู้เกษตรที่เรียนมาสร้างผลงาน เขามี passion ในการทำเกษตรแบบสุด ๆ อยากให้ผืนดินกลายเป็นแหล่งทำกินที่ยั่งยืน 🌽 เขาถูกส่งไปทำงานในไร่ของ ย่าแดง เพื่อชดใช้หนี้ที่พ่อเคยขโมยเงินย่าแล้วหนีไป อาทิจยอมทำงานหนักโดยไม่รับเงินเดือน แลกกับย่าส่งเสียน้อง ๆ เรียน หนุ่มคนนี้คือตัวอย่างของความอดทนและความรับผิดชอบ 💪
อาทิจเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ดรุณี (ญาญ่า) น้องสาวบุญธรรมของย่าแดง เพราะดรุณีกลัวเขาจะแย่งความรักจากย่า ฉากปะทะคารมของทั้งคู่คือฮาและฟินมากกก เช่น ฉากที่ดรุณีโยนของใส่ หรืออาทิจแกล้งยั่วให้โมโห 😜 ถึงจะดูแข็งแกร่ง แต่ลึก ๆ อาทิจก็มีมุมอ่อนโยน โดยเฉพาะตอนที่เริ่มรู้สึกดีกับดรุณี หรือตอนที่เสียใจเมื่อย่าแดงจากไป ฉากพวกนี้ทำเอาน้ำตาซึมเลย 😢
ณเดชน์ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์อาทิจได้แบบสมจริงสุด ๆ ทั้งความเป็นหนุ่มบ้าน ๆ ที่ขยันทำงานในไร่ ความกตัญญูต่อครอบครัว และเคมีกับดรุณีที่ทำให้เราจิกหมอน 😍 การแสดงของณเดชน์คือทำให้เรารู้สึกว่าอาทิจมีตัวตนจริง ๆ อะ
ฉายาของอาทิจ “หนุ่มเกษตรหัวใจทอง” ✨
หนุ่มเกษตร
อาทิจคือตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่รักการเกษตร เขาทุ่มเทพัฒนาที่ดินของย่าแดง ถึงขนาดลองปลูกข้าวโพด กะหล่ำปลี และข้าว แม้จะเจออุปสรรคอย่างพายุทำนาล่ม แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ฉากที่เขาทำงานในไร่สตอว์เบอร์รีคือดูแล้วอยากไปทำเกษตรเลย 🌿
หัวใจทอง
ความกตัญญูของอาทิจคือจุดเด่น เขายอมทำงานหนักเพื่อชดใช้หนี้ให้พ่อ และช่วยน้อง ๆ ได้เรียนต่อ แถมยังเคารพและรักย่าแดงสุดหัวใจ ถึงจะเจอดราม่าอย่างเรื่อง ทองประศรี ที่บังคับให้แต่งงาน อาทิจก็ยอมเพื่อรักษาความสงบ 😇
อาทิจ ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือคาแร็กเตอร์ที่ครบเครื่อง ทั้งขยัน กตัญญู มีความฝัน และยังเป็นพระเอกที่ทำให้เราฟินไปกับความรัก ณเดชน์เล่นได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้อาทิจกลายเป็นหนุ่มเกษตรหัวใจทองที่อยู่ในใจแฟน ๆ ตลอดกาล 💛 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “หนุ่มไร่หัวใจรัก” เลยมั้ยทุกคน? 😜
→ อุรัสยา เสปอร์บันด์ รับบท ดรุณี

ดรุณี สาวน้อยดื้อแต่ใจดี 🌼
ดรุณี คือสาวน้อยวัย 17 ปี น้องสาวบุญธรรมคนสุดท้องของ ย่าแดง (ตุ๊ก ดวงตา) ในไร่สุดสวยที่แม่กลางหลวง เธอเป็นสาวน่ารัก สดใส แต่ก็ดื้อสุด ๆ และมีปมในใจที่ทำให้เธอกลายเป็นคู่กัดสุดแซ่บกับ อาทิจ (ณเดชน์) 😜
สาวน้อยขี้หึงและหวงย่า
ดรุณีมีปมในใจว่าเธอไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของย่าแดง เพราะเป็นลูกของเมียคนสุดท้ายของพ่อย่า และไม่ได้มีสายเลือดผูกพัน 😢 ย่ารับเลี้ยงเธอตั้งแต่เด็กเพราะความสงสาร ทำให้ดรุณีกลัวว่า อาทิจ ซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ จะมาแย่งความรักจากย่าไป นี่เลยทำให้เธอคอยหาเรื่องอาทิจ กลายเป็นคู่กัดที่ปะทะคารมกันทุกวัน ฉากโยนของใส่อาทิจหรือแกล้งกันในไร่นี่คือฮาสุด 😂
ดื้อแต่จริงใจ
ดรุณีอาจจะดูเอาแต่ใจ งอนง่าย แต่ลึก ๆ เธอเป็นคนใจดีและรู้สึกผิดเมื่อทำอะไรไม่ดี เช่น ตอนที่เธอแกล้งไม่บอกอาทิจว่าปลูกกล้วยป่าขายไม่ได้ พออาทิจเสียใจ เธอก็รู้สึกผิดและพยายามไถ่โทษด้วยการดูแลเขาตอนป่วย 🩺 ฉากนี้ทำเอาเราอยากกอดดรุณีเลยอะ
เติบโตจากเด็กสาวสู่หญิงสาว
ตอนแรกดรุณีดูเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป โดยเฉพาะตอนที่ย่าแดงเสียชีวิต เธอเริ่มรับผิดชอบมากขึ้น และค่อย ๆ พัฒนาความรู้สึกที่มีต่ออาทิจจากคู่กัดกลายเป็นความรัก 💕 ญาญ่าเล่นได้น่ารักและทำให้เราเห็นการเติบโตของดรุณีแบบชัดเจน
สาวเกษตรสุดคิ้วท์
ดรุณีไม่ได้แค่ดื้อนะ เธอยังช่วยงานในไร่ของย่าแดง อย่างการรดน้ำผักหรือช่วยอาทิจปลูกพืช ฉากที่เธอลงมือทำเกษตรคือทั้งน่ารักและดูสมจริง ทำให้เรารู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของผืนดินนี้จริง ๆ 🌿
ญาญ่าถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ดรุณีได้แบบเป๊ะเวอร์ ทั้งความสดใส ความดื้อ และมุมอ่อนโยนที่ค่อย ๆ เผยออกมา ทำให้เราตกหลุมรักสาวน้อยคนนี้ตั้งแต่ฉากแรก 😍
ฉายาของดรุณี “สาวน้อยไร่ใจแซ่บ” 🌸💥
ดรุณีคือสาวน้อยที่เติบโตในไร่ของย่าแดง ท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ อย่างดอยอ่างขางและภูทับเบิก! เธออาจจะดูเป็นเด็กเมืองในตอนแรก แต่เมื่อได้ลงมือช่วยงานในไร่ เช่น รดน้ำผักหรือช่วยอาทิจปลูกพืช เธอก็กลายเป็นสาวเกษตรที่น่ารักสุด ๆ 🌾
ความดื้อ ความขี้หึง และการปะทะคารมกับอาทิจคือความแซ่บที่ทำให้เราขำและลุ้น เช่น ฉากที่เธอโมโหอาทิจจนขว้างของ หรือแกล้งให้อาทิจเสียหน้า นี่คือสาวแซ่บตัวจริง 😜 แต่ความแซ่บนี้ก็มาพร้อมความจริงใจ เพราะเธอพร้อมไถ่โทษและดูแลคนที่รัก
ดรุณี ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือคาแร็กเตอร์ที่ครบรส ทั้งน่ารัก ดื้อ แซ่บ และมีหัวใจที่เติบโตไปกับความรักและผืนดิน ญาญ่าเล่นได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ดรุณีกลายเป็นสาวน้อยไร่ใจแซ่บที่อยู่ในใจแฟน ๆ ตลอดไป 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “น้องสาวย่าผู้พิทักษ์รัก” มั้ยทุกคน? 😜
→ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย รับบท วิยะดา

วิยะดา สาวน้อยซื่อใจดี 🌼
วิยะดา คือสาวน้อยที่เป็นเพื่อนของ ดรุณี (ญาญ่า) และเป็นน้องสาวของ เวทางค์ (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) ในละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง เธอเป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มทั้งความน่ารัก ความตลก และดราม่าให้กับเรื่อง
วิยะดาคือสาวที่จิตใจดี ซื่อ ๆ และเป็นเพื่อนที่จริงใจกับดรุณีมาก เธอมักจะอยู่เคียงข้างดรุณีทั้งในไร่ของย่าแดงและตอนไปเรียนที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ความซื่อของเธอทำให้เรารู้สึกว่าเธอเป็นเพื่อนที่น่ารักและไว้ใจได้ 😊 วิยะดามีโมเมนต์ที่ทำให้เราขำได้ เช่น ตอนที่เธอแซวหรือช่วยดรุณีในสถานการณ์คับขัน หรือตอนที่เธอต้องรับมือกับพี่ชายอย่างเวทางค์ที่มักจะวุ่นวาย ฉากเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอคือช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องสนุกขึ้น 😂
วิยะดามีมุมที่ทำให้เราลุ้น เพราะดูเหมือนเธอจะแอบชอบ อาทิจ (ณเดชน์) ในบางจังหวะ แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนจิตใจดี เธอก็ไม่เคยคิดแย่งอะไรจากดรุณี ทำให้เรายิ่งเอ็นดูเธอ 😢 แถมบางฉากยังมีโมเมนต์ที่เธอต้องเจอกับความวุ่นวายจากพี่ชายและ วิไลลักษณ์ (แม่ของเธอ) ที่หวังจับคู่เวทางค์กับดรุณี
วิยะดาคือตัวละครที่ช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลัก เช่น การเป็นเพื่อนสนิทของดรุณี หรือการเป็นน้องสาวที่ต้องคอยตามพี่ชายจอมป่วน! เธออาจจะไม่ได้มีบทเด่นมาก แต่ทุกครั้งที่โผล่มา เธอก็ทำให้เรายิ้มได้ 😄
สุมณทิพย์เล่นบทวิยะดาได้แบบน่ารักและเป็นธรรมชาติสุด ๆ เธอทำให้วิยะดาดูเป็นสาวน้อยที่ทั้งซื่อ ใจดี และมีมุมขี้เล่นที่ลงตัว ทำเอาเราอยากมีเพื่อนแบบวิยะดาในชีวิตจริงเลย 💖
ฉายาของวิยะดา “สาวน้อยเพื่อนซี้ใจป๋อ” 🌸✨
วิยะดาคือเพื่อนแท้ของดรุณี ไม่ว่าจะตอนอยู่ในไร่ของย่าแดงหรือตอนไปเรียนมหาวิทยาลัย เธอคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจดรุณีเสมอ ฉากที่ทั้งคู่คุยกันหรือช่วยกันทำงานคืออบอุ่นมากกก 🥰 วิยะดาเป็นคนใจกว้างและไม่คิดเล็กคิดน้อย แม้ว่าจะแอบชอบอาทิจบ้าง แต่เธอก็ไม่เคยคิดทำร้ายความรู้สึกของดรุณี ความใจดีและซื่อตรงของเธอคือทำให้เรารักเธอสุด ๆ 😇
วิยะดา ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งน่ารัก ซื่อใจ และเพิ่มสีสันให้เรื่องราว สุมณทิพย์ เหลืองอุทัยเล่นบทนี้ได้แบบลงตัวสุด ๆ ทำให้วิยะดากลายเป็นสาวน้อยเพื่อนซี้ใจป๋อที่อยู่ในใจแฟน ๆ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “น้องสาวไร่สุดคิ้วท์” มั้ยทุกคน? 😜
→ สาวิตรี สุทธิชานนท์ รับบท ตุลยานี

ตุลยานี (ตุ่น) สาวเปรี้ยวหัวใจรักแท้ 🌟
ตุลยานี หรือ ตุ่น คือเพื่อนสนิทของ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) ที่โผล่มาในช่วงหลังของเรื่อง แต่บอกเลยว่าเธอสร้างความปังได้ไม่หยอก ตุ่นเป็นสาวมั่น ดาวมหาลัยที่มีทั้งความน่ารักและความกล้า แต่ก็มีมุมเปราะบางที่ทำให้เราสงสาร
ตุ่นคือสาวสวยที่เป็นดาวเด่นของมหาวิทยาลัย เธอมีสไตล์เปรี้ยว ๆ มั่น ๆ และกล้าแสดงออก พอได้เจอ อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) เธอก็ตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำ 😍 ดรุณีถึงกับเรียกอาทิจว่า “ผู้ชายในฝัน” ของตุ่นเลยนะ ตุ่นเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนดรุณี โดยเฉพาะตอนที่ดรุณีไปเรียนที่กรุงเทพฯ เธอมักจะโผล่มาในโมเมนต์ที่เพิ่มความสนุกและความอบอุ่นให้เรื่อง เช่น การแซวหรือการช่วยดรุณีแก้ปัญหา 😊
ตุ่นหลงรักอาทิจแบบจริงจัง เธอกล้าบอกความรู้สึกและถึงกับวางแผนจะตามอาทิจไปเรียนต่อเมืองนอกถ้าเขาตกลง แต่ดราม่ามาเมื่อ ทองประศรี โผล่มาประกาศว่าเป็นเมียอาทิจและมีลูกด้วยกัน ทำให้ตุ่นใจสลาย 😢 ฉากนี้คือสะเทือนใจสุด ๆ แม้จะรักอาทิจมาก แต่เมื่อรู้ว่าดรุณีก็รักอาทิจ ตุ่นเลือกที่จะถอยและให้โอกาสทั้งคู่ ความเสียสละของเธอทำให้เราเห็นว่าเธอไม่ใช่แค่สาวเปรี้ยว แต่ยังมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ 🥰
สาวิตรี สุทธิชานนท์เล่นบทตุ่นได้แบบเป๊ะเวอร์ เธอถ่ายทอดความมั่น ความน่ารัก และความเปราะบางของตุ่นได้อย่างลงตัว ทำให้เราทั้งขำ ฟิน และซึ้งไปกับเธอ 💖
ฉายาของตุลยานี “สาวเปรี้ยวหัวใจแกร่ง” 🌈💪
ตุ่นคือสาวมั่นที่มีสไตล์สุดจี๊ด การแต่งตัว การพูดจา และความกล้าแสดงออกของเธอคือทำให้เธอเป็นดาวเด่นที่ทุกคนต้องหันมอง ✨ ฉากที่เธอตามจีบอาทิจนเขินคือเปรี้ยวสุด ๆ 😜 แม้ว่าจะใจสลายจากดราม่ากับทองประศรี หรือเมื่อรู้ว่าใจตัวเองสู้ดรุณีไม่ได้ ตุ่นก็ยังเข้มแข็งและเลือกเดินหน้าต่อ ความกล้าที่จะยอมรับความจริงและเสียสละคือทำให้เรารักเธอมาก 😇
ตุลยานี (ตุ่น) ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งเปรี้ยว มั่น และมีหัวใจที่แกร่ง สาวิตรี สุทธิชานนท์เล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ตุ่นกลายเป็นสาวน้อยที่ทั้งน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน 💖
→ วิวิศน์ บวรกีรติขจร รับบท เวทางค์

เวทางค์ หนุ่มป่วนหัวใจเจ้าชู้ 😏
เวทางค์ คือลูกชายของ วิไลลักษณ์ (รุ้งทอง ร่วมทอง) และ ประเวทย์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ผู้ว่าฯ ที่มีฐานะร่ำรวย เขาเป็นพี่ชายของ วิยะดา (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) และเป็นตัวละครที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในไร่ของ ย่าแดง
เวทางค์คือหนุ่มหล่อที่มั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ด 😎 เขาชอบจีบสาว โดยเฉพาะ ดรุณี (ญาญ่า) ที่เขาหลงหัวปักหัวปำ แต่สไตล์การจีบของเขาคือกวน ๆ ขี้แกล้ง และมักทำให้คนอื่นปวดหัว ฉากที่เขาคอยตามตื๊อดรุณีในไร่หรือในมหาลัยคือทั้งขำทั้งลุ้น 😂
เวทางค์คือลูกรักของวิไลลักษณ์ที่หวังให้เขาได้แต่งงานกับดรุณี เพื่อหวังมรดกของย่าแดง เขาจึงมักถูกแม่ผลักดันให้เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของดรุณีและ อาทิจ (ณเดชน์) ทำให้เกิดดราม่าและความขัดแย้งในเรื่อง 😈 ถึงจะดูป่วนและเจ้าชู้ แต่เวทางค์ก็มีมุมที่ทำให้เราเอ็นดู เช่น ตอนที่เขาพยายามช่วยครอบครัว หรือตอนที่เขาต้องรับมือกับอารมณ์ของ ตุ่น (สาวิตรี สุทธิชานนท์) ที่โกรธเขาเรื่องรถเฉี่ยว 😅 มุมนี้ทำให้เขาไม่ใช่ตัวร้ายแบบเต็มตัว
วิวิศน์ บวรกีรติขจรเล่นบทเวทางค์ได้แบบลงตัวสุด ๆ เขาทำให้เวทางค์ดูเป็นหนุ่มกวน ๆ ที่ทั้งน่ารำคาญและน่ารักในเวลาเดียวกัน ทำเอาเราอยากแซวเขาในทุกฉาก 😜
ฉายาของเวทางค์ “หนุ่มกวนหัวใจเจ้าชู้” 😎💘
เวทางค์คือตัวพ่อของความป่วน เขามักจะโผล่มาในจังหวะที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย เช่น การตามจีบดรุณี หรือการแกล้งอาทิจในไร่ ฉากที่เขาคอยยั่วโมโหคนอื่นคือขำกลิ้ง 😂 ความเจ้าชู้ของเวทางค์คือจุดเด่น เขาคอยตามตื๊อดรุณีแบบไม่ยอมแพ้ แถมยังมีโมเมนต์ที่ดูเหมือนจะหวั่นไหวกับตุ่นด้วย ความเจ้าชู้นี่แหละที่ทำให้เขาดูเป็นหนุ่มหล่อที่มั่นใจเกินร้อย 😏
เวทางค์ ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งกวน เจ้าชู้ และเพิ่มความสนุกให้เรื่อง วิวิศน์ บวรกีรติขจรเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้เวทางค์กลายเป็นหนุ่มกวนหัวใจเจ้าชู้ที่ทั้งน่ารักและน่าหมั่นไส้ 💥
→ เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์ รับบท อึ่ง

อึ่ง หนุ่มขี้เล่นแห่งไร่ย่าแดง 😄
อึ่ง คือหนุ่มคนงานในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่มาพร้อมความขี้เล่นและความฮาแบบเต็มพิกัด เขาเป็นตัวละครสมทบที่คอยเพิ่มความสนุกและความวุ่นวายให้กับเรื่องราวในไร่
อึ่งคือคนงานในไร่ที่ขยันทำงานแต่ก็ขี้แกล้งสุด ๆ เขามักจะมีมุกตลกหรือการกระทำที่ทำให้ทุกคนในไร่ปวดหัว เช่น การแซว อาทิจ (ณเดชน์) หรือการช่วย ดรุณี (ญาญ่า) ในแบบที่ดูวุ่นวาย ฉากที่เขาอยู่ในไร่คือรับประกันความฮา 😂 ถึงจะกวน แต่ลึก ๆ อึ่งเป็นคนจิตใจดีและซื่อสัตย์กับย่าแดงและเพื่อน ๆ ในไร่ เขาคอยช่วยงานและเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทำให้ไร่เจริญรุ่งเรือง 😊 มีโมเมนต์ที่เขาแสดงความภักดีต่อย่าแดง ทำเอาเรารู้สึกว่าเขาไม่ใช่แค่ตัวตลกนะ
อึ่งมักจะอยู่ในเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความโกลาหลในไร่ เช่น การที่เขาเผลอพูดอะไรที่ทำให้อาทิจหรือดรุณีงอนกัน แต่ความวุ่นวายของเขาคือแบบน่ารัก ๆ ที่ทำให้เราขำมากกว่าหงุดหงิด 😜 อึ่งมีสไตล์ที่เป็นหนุ่มบ้าน ๆ ตรงไปตรงมา พูดจาตรง ๆ และมักจะมีมุกตลกแบบพื้นบ้านที่เข้ากับบรรยากาศในไร่ การที่เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานเกษตรคือเพิ่มความสมจริงให้กับวิถีชีวิตในเรื่อง 🌾
ฉายาของอึ่ง “ตัวตึงแห่งไร่ย่าแดง” 🤡🌟
อึ่งคือตัวละครที่เด่นเรื่องความฮาและความกวน ไม่ว่าเขาจะโผล่มาในฉากไหน ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ทันที มุกตลกและการแกล้งของเขาคือจุดเด่นที่ทำให้ไร่ย่าแดงมีสีสัน 😆 อึ่งคือส่วนหนึ่งของไร่ที่ขาดไม่ได้ เขาเป็นคนงานที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวในไร่ ไม่ว่าจะช่วยปลูกผักหรือสร้างความวุ่นวาย เขาก็ทำได้ดีจนเป็นที่รักของทุกคน 🌱 ถึงจะขี้แกล้ง แต่อึ่งก็มีมุมที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีและคนงานที่ทุ่มเท ฉายานี้เลยเหมาะสุด ๆ กับหนุ่มคนนี้ 😎
อึ่ง ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งฮา ขี้แกล้ง และมีหัวใจที่ภักดี เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์ (แจ๊ค แฟนฉัน) เล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้อึ่งกลายเป็นตัวตึงแห่งไร่ย่าแดงที่ทุกคนต้องรัก
→ ดวงตา ตุงคะมณี รับบท ย่าแดง

ย่าแดง แม่ใหญ่ใจดีแห่งไร่ 🌼
ย่าแดง คือเจ้าของไร่สุดกว้างใหญ่ที่แม่กลางหลวงและดอยอ่างขาง เธอเป็นหญิงแกร่งที่ทั้งใจดี ฉลาด และยึดมั่นในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ย่าแดงคือศูนย์กลางของเรื่องที่เชื่อมโยงทุกตัวละครเข้าด้วยกัน
ย่าแดงเป็นคนใจดีสุด ๆ เธอรับ ดรุณี (ญาญ่า) มาเลี้ยงตั้งแต่เด็กด้วยความรัก แม้ว่าดรุณีจะไม่ใช่หลานแท้ ๆ และถึงแม้ อาทิจ (ณเดชน์) จะเป็นหลานจากลูกชายที่เคยขโมยเงินเธอแล้วหนีไป ย่าแดงก็ให้โอกาสเขาได้ไถ่โทษด้วยการทำงานในไร่ 😇 ความใจกว้างของเธอคือทำเอาเราซึ้งใจมาก
ย่าแดงคือคนที่สอนให้อาทิจรักและกตัญญูต่อผืนดิน เธอสอนปรัชญา “ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” และให้อาทิจพัฒนาที่ดินด้วยความรู้เกษตร ฉากที่เธอมอบที่ดิน 1 ไร่ให้อาทิจเพื่อลองทำเกษตรคือทั้งอบอุ่นและให้แรงบันดาลใจ 🌱 ย่าแดงบริหารไร่ด้วยความฉลาดและเข้มงวด เธอจัดการทุกอย่างในไร่ได้เป๊ะ แม้แต่ตอนที่ต้องรับมือกับความวุ่นวายจากตัวละครอย่าง วิไลลักษณ์ หรือ เวทางค์ แต่เธอก็มีมุมอ่อนโยนที่ทำให้ทุกคนในไร่รักและเคารพ 👑
ย่าแดงคือศูนย์รวมใจของทุกคน เธอหวังให้อาทิจและดรุณีลงเอยกันเพื่อสานต่อปณิธานรักผืนดิน แต่เมื่อเกิดดราม่าอย่างเรื่อง ทองประศรี เธอก็เสียใจแต่ยังคงทำหน้าที่ดูแลทุกคน ฉากที่เธอจากไปคือทำเอาน้ำตาแตกเลย 😭
ฉายาของย่าแดง “แม่ใหญ่แห่งผืนดิน” 🌍✨
ย่าแดงคือผู้นำของไร่และครอบครัว เธอเป็นเหมือนแม่ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นดรุณี อาทิจ หรือคนงานในไร่ ความรักและความเข้มแข็งของเธอคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทุกคนไว้ 🥰 ย่าแดงคือตัวแทนของความรักต่อผืนดินและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เธอสอนให้ทุกคนเห็นคุณค่าของการเกษตรและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ฉากที่เธอสอนอาทิจเรื่องการทำเกษตรคือให้ข้อคิดสุดลึกซึ้ง 🌾 ความใจดีและความหวังดีของย่าแดงคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนในเรื่องรักเธอ ฉายานี้เลยเหมาะสุด ๆ กับย่าผู้เป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง 🙏
ย่าแดง ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครที่ทั้งอบอุ่น เข้มแข็ง และเป็นแรงบันดาลใจ ดวงตา ตุงคะมณีเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ย่าแดงกลายเป็นแม่ใหญ่แห่งผืนดินที่อยู่ในใจแฟน ๆ ตลอดกาล 💖
→ ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท น้าแก้ว

น้าแก้ว พี่สาวใหญ่ใจดีแห่งไร่ย่าแดง 🌼
น้าแก้ว คือคนสนิทของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) และเป็นเหมือนพี่สาวใหญ่ที่คอยดูแลทุกคนในไร่ เธอเป็นตัวละครสมทบที่ทั้งฉลาด ใจดี และมีมุมขี้แซวที่ทำให้เราขำได้ตลอด
น้าแก้วคือมือขวาของย่าแดง เธอช่วยบริหารงานในไร่ คอยดูแลคนงาน และเป็นคนที่ย่าแดงไว้ใจสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการงานเกษตรหรือรับมือกับดราม่าในไร่ น้าแก้วคือคนที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ 💪 น้าแก้วเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างตัวละครหลัก เธอคอยไกล่เกลี่ยเวลา อาทิจ (ณเดชน์) กับ ดรุณี (ญาญ่า) ทะเลาะกัน หรือแม้แต่ตอนที่เกิดความวุ่นวายจากตัวละครอย่าง ทองประศรี หรือ เวทางค์ โดยเฉพาะตอนที่เธอพยายามจับคู่อาทิจ-ดรุณีตามความหวังของย่าแดง ทำเอาเราลุ้นตามเลย 😊
น้าแก้วมีมุกตลกแบบบ้าน ๆ ที่เข้ากับบรรยากาศในไร่ เธอมักจะแซวอาทิจหรือดรุณีในจังหวะที่ทำให้เราขำก๊าก 😂 เช่น ตอนที่เธอแซวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ หรือตอนที่ต้องรับมือกับความป่วนของคนในไร่ น้าแก้วคือคนที่คอยให้กำลังใจทุกคน โดยเฉพาะตอนที่ย่าแดงจากไป เธอเป็นคนส่งข่าวให้ดรุณีและคอยดูแลทุกอย่างในไร่ต่อ ฉากที่เธอแสดงความภักดีต่อย่าแดงคือซึ้งมาก 🥰
ฉายาของน้าแก้ว “พี่สาวใหญ่ใจแซ่บแห่งไร่” 🌟💥
น้าแก้วคือคนที่คอยดูแลทุกคนในไร่เหมือนพี่สาว ไม่ว่าจะเป็นการช่วยย่าแดงบริหารงาน หรือการไกล่เกลี่ยปัญหาของอาทิจ-ดรุณี เธอคือคนที่ทุกคนพึ่งพาได้ 🥰 ความขี้แซวและมุกตลกของน้าแก้วคือแซ่บแบบบ้าน ๆ เธอมักจะมีคำพูดหรือการกระทำที่ทำให้เราขำและรู้สึกว่าไร่ย่าแดงมีชีวิตชีวา 😜 น้าแก้วคือส่วนสำคัญของไร่ย่าแดง เธอช่วยขับเคลื่อนงานเกษตรและรักษาความสมดุลในครอบครัวไร่ ทำเอาเรารู้สึกว่าเธอคือหัวใจรองของเรื่อง 🌾
น้าแก้ว ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งขี้แซว ใจดี และเป็นกาวใจของทุกคน! ดารณีนุช โพธิปิติเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้.n้าแก้วกลายเป็นพี่สาวใหญ่ใจแซ่บแห่งไร่ที่อยู่ในใจแฟน ๆ ตลอดไป 💖
→ รุ้งทอง ร่วมทอง รับบท วิไลลักษณ์

วิไลลักษณ์ สาวใหญ่เจ้าเล่ห์สุดทะเยอทะยาน💃
วิไลลักษณ์ คือภรรยาของ ประเวทย์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ผู้ว่าฯ และเป็นแม่ของ เวทางค์ (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) และ วิยะดา (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เธอเป็นตัวละครสมทบที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ด้วยความทะเยอทะยานและแผนการสุดแซ่บ
วิไลลักษณ์คือตัวแม่ที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์สุด ๆ เธอวางแผนให้ เวทางค์ ลูกชายสุดที่รักได้แต่งงานกับ ดรุณี (ญาญ่า) เพื่อหวังมรดกก้อนโตของย่าแดง 😈 ทุกการกระทำของเธอคือมีเป้าหมายชัดเจน และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของตัวเอง
วิไลลักษณ์คือตัวละครที่ทำให้เรื่องราวเข้มข้น เธอคอยยุให้ อาทิจ (ณเดชน์) แต่งงานกับ ทองประศรี เพื่อกำจัดเขาออกจากเส้นทางมรดก และผลักดันเวทางค์ให้ใกล้ชิดดรุณี ฉากที่เธอวางแผนร้ายคือทำเอาเราลุ้นจนตัวโก่ง 😮 ถึงจะดูร้าย แต่ลึก ๆ วิไลลักษณ์ก็รักลูก ๆ โดยเฉพาะเวทางค์ เธออยากให้ลูกชายได้ทุกอย่างที่ดีที่สุด แม้วิธีการของเธอจะแซ่บเกินไปหน่อย 😅 มุมนี้ทำให้เราเห็นว่าเธอไม่ได้ร้าย 100% แต่เป็นแม่ที่อยากปกป้องอนาคตของลูก
วิไลลักษณ์มีลุคและการพูดจาที่ดูเป็นสาวใหญ่ไฮโซ การแสดงออกของเธอคือทั้งสง่าและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ทำเอาเรารู้สึกว่าเธอคือตัวละครที่ครองทุกซีนที่ปรากฏ 👑
ฉายาของวิไลลักษณ์ “ตัวแม่แห่งแผนร้าย” 😈✨
วิไลลักษณ์คือสาวใหญ่ที่ครองทุกซีนด้วยความสง่าและความเจ้าเล่ห์ เธอมีพลังที่ทำให้ทุกคนในเรื่องต้องเกรงใจ และการวางตัวของเธอคือตัวแม่ตัวจริง 💃แผนการของวิไลลักษณ์คือแซ่บและร้ายสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่เวทางค์-ดรุณี หรือการกำจัดอาทิจออกจากมรดก เธอคือตัวจุดชนวนดราม่าที่ทำให้เรื่องนี้เข้มข้น 😈 ถึงจะดูร้าย แต่ทุกแผนของวิไลลักษณ์ก็เพื่อลูกชายของเธอ ฉายานี้เลยเหมาะสุด ๆ กับสาวใหญ่ที่ทั้งแซ่บและมีหัวใจ 💖
วิไลลักษณ์ ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งเจ้าเล่ห์ ทะเยอทะยาน และมีหัวใจรักลูก รุ้งทอง ร่วมทองเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้วิไลลักษณ์กลายเป็นตัวแม่แห่งแผนร้ายที่ทั้งน่าหมั่นไส้และน่าทึ่ง 💥
→ เวนย์ ฟอลโคเนอร์ รับบท ประเวทย์

ประเวทย์ ผู้ว่าฯ ใจเย็นแต่มีคลาส 🕴️
ประเวทย์ คือผู้ว่าราชการจังหวัดที่ทั้งหล่อและมีสไตล์ เขาเป็นสามีของ วิไลลักษณ์ (รุ้งทอง ร่วมทอง) และพ่อของ เวทางค์ (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) กับ วิยะดา (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย)
ประเวทย์คือข้าราชการระดับสูงที่มีความเนี๊ยบและสุขุม เขามีลุคที่ดูเป็นผู้นำ ด้วยการวางตัวที่สง่าและการตัดสินใจที่เด็ดขาด 😎 แต่เขาก็ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายกับแผนการของเมียอย่างวิไลลักษณ์ ทำให้ดูเหมือนเป็นสามีที่ใจเย็นและปล่อยให้เมียจัดการ 😅
ประเวทย์รักลูก ๆ มาก โดยเฉพาะเวทางค์และวิยะดา เขาอยากให้ลูก ๆ มีอนาคตที่ดี แม้ว่าจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนการแซ่บ ๆ ของวิไลลักษณ์ที่พยายามจับคู่เวทางค์กับ ดรุณี (ญาญ่า) เพื่อมรดกของ ย่าแดง! มุมนี้ทำให้เราเห็นว่าเขาเป็นพ่อที่อบอุ่น 🥰
ประเวทย์คือตัวละครที่คอยสร้างสมดุลให้กับครอบครัวของเขา ในขณะที่วิไลลักษณ์เป็นตัวจุดชนวนดราม่า ประเวทย์จะเป็นฝ่ายที่คอยควบคุมสถานการณ์และทำให้ทุกอย่างดูสมเหตุสมผล 😌 ถึงจะดูเนี๊ยบ แต่ประเวทย์ก็มีโมเมนต์ที่ทำให้เรายิ้มได้ เช่น ตอนที่เขาคุยกับลูก ๆ หรือต้องรับมือกับความทะเยอทะยานของวิไลลักษณ์ ฉากเหล่านี้คือเพิ่มความน่ารักให้เขา 😄
ฉายาของประเวทย์ “ผู้ว่าฯ ใจเย็นแห่งครอบครัว” 🏛️✨
ประเวทย์คือข้าราชการระดับสูงที่มีความเนี๊ยบและน่าเกรงขาม ลุคของเขาคือผู้ว่าฯ ตัวจริงที่ดูมีอำนาจและคลาส 😎 ในขณะที่วิไลลักษณ์วางแผนร้ายและปั่นป่วน ประเวทย์คือคนที่คอยสงบสติและจัดการทุกอย่างด้วยความเยือกเย็น เขาเหมือนเป็นสมดุลของครอบครัว 😌 ความรักที่ประเวทย์มีต่อเวทางค์และวิยะดาคือหัวใจของตัวละครนี้ เขาอยากให้ลูก ๆ มีอนาคตที่ดี ทำเอาเรารู้สึกว่าเขาเป็นพ่อที่ทุ่มเท 🥰
ประเวทย์ ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งเนี๊ยบ สุขุม และมีหัวใจรักครอบครัว เวนย์ ฟอลโคเนอร์เล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ประเวทย์กลายเป็นผู้ว่าฯ ใจเย็นแห่งครอบครัวที่ทั้งเท่และน่ารัก 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “พ่อใหญ่ใจเย็น” 😜
→ เบญจพล เชยอรุณ รับบท ไพฑูร

ไพฑูร หนุ่มเจ้าเล่ห์แห่งไร่ย่าแดง 😏
ไพฑูร คือหลานชายห่าง ๆ ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) และเป็นตัวละครสมทบที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในไร่ เขาเป็นหนุ่มที่ทั้งขี้แกล้งและมีเล่ห์เหลี่ยมเล็ก ๆ ทำให้เกิดโมเมนต์ที่ทั้งขำและหมั่นไส้
ไพฑูรคือตัวตึงแห่งการแกล้ง เขามักจะร่วมมือกับ ดรุณี (ญาญ่า) เพื่อแกล้ง อาทิจ (ณเดชน์) เช่น ฉากที่ทั้งคู่แกล้งไม่บอกอาทิจว่าปลูก กล้วยป่า ซึ่งเอาไปขายไม่ได้ 😅 ฉากนี้ทำเอาอาทิจเสียหน้าและทำให้เราขำกลิ้งเลย ไพฑูรมีเล่ห์เหลี่ยมเล็ก ๆ น้อย ๆ และมักจะทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เช่น การพยายามเอาใจย่าแดงเพื่อหวังส่วนแบ่งในมรดก แต่เขาไม่ได้ร้ายถึงขั้นเป็นตัวร้ายเต็มตัว แค่เป็นหนุ่มที่อยากได้อะไรดี ๆ ในชีวิต 😏
ไพฑูรเป็นเหมือนเพื่อนคู่หูของดรุณีในช่วงแรกของเรื่อง ทั้งคู่ชอบแกล้งอาทิจเพราะกลัวเขาจะมาแย่งความรักจากย่าแดง ทำให้เกิดฉากคู่กัดที่ทั้งฮาและน่ารัก 😜 ถึงจะไม่ได้มีบทเยอะเท่าตัวเอก แต่ไพฑูรคือตัวละครที่เพิ่มความสนุกให้กับไร่ย่าแดง การกระทำของเขาคือจุดเริ่มต้นของดราม่าเบา ๆ ที่ทำให้เรื่องราวน่าติดตาม 😮
ฉายาของไพฑูร “หนุ่มแกล้งเก่งแห่งไร่” 🤡🌾
ไพฑูรคือตัวพ่อของการแกล้ง ฉากที่เขาและดรุณีแกล้งอาทิจเรื่องกล้วยป่าคือไฮไลต์ที่ทำให้เราขำจนท้องแข็ง 😂 ความขี้แกล้งของเขาคือจุดเด่นที่ทำให้เขาโดดเด่น ไพฑูรคือส่วนหนึ่งของไร่ย่าแดง ถึงจะเป็นหลานห่าง ๆ แต่เขาก็มีบทบาทในงานเกษตรและการสร้างความวุ่นวายในไร่ ทำให้เขาเป็นตัวละครที่เข้ากับบรรยากาศเรื่องนี้สุด ๆ 🌱 ถึงจะเจ้าเล่ห์ แต่ไพฑูรก็มีมุมที่ทำให้เรายิ้มได้ ความขี้เล่นของเขาคือสิ่งที่ทำให้เราไม่โกรธเขาได้นาน 😜
ไพฑูร ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งขี้แกล้ง เจ้าเล่ห์ และเพิ่มความสนุกให้กับเรื่อง เบญจพล เชยอรุณเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ไพฑูรกลายเป็นหนุ่มแกล้งเก่งแห่งไร่ที่ทั้งน่ารักและน่าหมั่นไส้ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “จอมป่วนแห่งไร่ย่าแดง” 😜
→ กนกพงศ์ อนุรักษ์จรรยง รับบท พัน

พัน หนุ่มบ้าน ๆ ขวัญใจไร่ 🌾
พัน คือหนึ่งในคนงานในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่มาพร้อมความเป็นหนุ่มบ้าน ๆ และความขี้เล่น เขาคือตัวละครสมทบที่คอยช่วยงานในไร่และเพิ่มความสนุกด้วยมุกตลกและความซื่อ
หนุ่มคนงานสุดชิล พันคือคนงานในไร่ที่ขยันแต่ก็มีสไตล์ชิล ๆ เขามักจะทำงานเคียงข้าง อึ่ง (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์) และ อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ช่วยปลูกผัก ทำนา หรือดูแลไร่ของย่าแดง การทำงานของเขาคือแบบสบาย ๆ แต่ก็ทุ่มเทสุด ๆ 😊 พันมีมุมขี้แกล้งและขี้เล่นที่ทำให้เราขำได้ เขามักจะแซวหรือร่วมวงกับอึ่งในการสร้างความวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในไร่ เช่น การแกล้งอาทิจหรือการเมาท์กับเพื่อน ๆ คนงาน 😅 ฉากที่เขาอยู่ด้วยคือรับประกันความฮา
ถึงจะขี้เล่น แต่พันเป็นคนจิตใจดีและภักดีต่อย่าแดง เขาเคารพย่าแดงและคอยช่วยเหลือทุกคนในไร่ โดยเฉพาะตอนที่ต้องรับมือกับความวุ่นวายจากตัวละครอย่าง วิไลลักษณ์ หรือ เวทางค์ 😌 พันคือตัวละครที่ช่วยเพิ่มความเป็นกันเองให้กับบรรยากาศในไร่ เขาเหมือนเพื่อนสนิทที่ทำให้ทุกคนในทีมรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้เรื่องราวดูสมจริงยิ่งขึ้น 🌱
ฉายาของพัน “หนุ่มชิลแห่งไร่ย่าแดง” 😎🌟
พันคือตัวแทนของความสบาย ๆ ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เขาก็มีสไตล์ที่ชิล ๆ และมักจะมีมุกตลกมาแจกให้ทุกคนยิ้มได้😜 พันคือส่วนหนึ่งของทีมงานในไร่ที่ขาดไม่ได้ เขาช่วยขับเคลื่อนงานเกษตรและเพิ่มความสนุกให้กับชีวิตในไร่ของย่าแดง 🌾 ความซื่อและความขี้เล่นของพันคือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รัก เขาคือหนุ่มที่ทำให้ทุกคนในไร่รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัว 🥰
พัน ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งขี้เล่น ซื่อ และเพิ่มความสนุกให้กับไร่ย่าแดง กนกพงศ์ อนุรักษ์จรรยงเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้พันกลายเป็นหนุ่มชิลแห่งไร่ย่าแดงที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “เพื่อนซี้จอมแซวแห่งไร่” 😜
→ เอ เชิญยิ้ม รับบท ต๊อด

ต๊อด หนุ่มจอมกวนแห่งไร่ย่าแดง 😎
ต๊อด คือหนึ่งในคนงานในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่มาพร้อมความขี้เล่นและความฮาแบบจัดเต็ม เขาคือตัวละครสมทบที่คอยเพิ่มสีสันให้กับชีวิตในไร่ และเป็นเพื่อนร่วมแก๊งกับ อึ่ง (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์) และ พัน (กนกพงศ์ อนุรักษ์จรรยง)
หนุ่มคนงานสุดป่วน ต๊อดคือคนงานในไร่ที่ขยันทำงานแต่ก็ไม่วายกวนประสาท 😜 เขามักจะร่วมวงกับอึ่งและพันในการแซวหรือแกล้ง อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หรือ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) ทำให้เกิดโมเมนต์ฮา ๆ ในไร่ ฉากที่เขาโผล่มามักจะมาพร้อมมุกตลกที่ทำให้เราขำกลิ้ง
ต๊อดมีสไตล์การพูดจาและมุกตลกที่เป็นแบบฉบับหนุ่มบ้านนอก มุกของเขาคือแบบพื้นบ้านที่เข้ากับบรรยากาศไร่ ทำให้ทุกคนในทีมงานหัวเราะได้ง่าย ๆ 😅 ถึงจะกวน แต่ต๊อดเป็นคนจิตใจดีและภักดีต่อย่าแดงมาก เขาคอยช่วยงานในไร่ ไม่ว่าจะปลูกผัก ทำนา หรือดูแลสวนสตอว์เบอร์รี พร้อมทั้งเคารพย่าแดงเหมือนคนในครอบครัว 🥰
ต๊อดคือตัวละครที่ช่วยให้ไร่ย่าแดงดูมีชีวิตชีวา เขาเหมือนเพื่อนซี้ที่คอยสร้างความสนุกและทำให้บรรยากาศในไร่ไม่น่าเบื่อ 🌾
ฉายาของต๊อด “จอมฮาแห่งไร่ย่าแดง” 🤡🌟
ต๊อดคือตัวพ่อของความตลก ทุกครั้งที่เขาโผล่มา มักจะมาพร้อมมุกหรือการกระทำที่ทำให้ทุกคนในไร่และคนดูอย่างเราขำจนน้ำตาไหล 😂 ต๊อดคือส่วนหนึ่งของทีมงานในไร่ที่ขาดไม่ได้ เขาช่วยสร้างความครึกครื้นและทำให้ชีวิตในไร่ดูสนุกขึ้น 🌱 ถึงจะขี้แกล้ง แต่ต๊อดก็มีมุมที่ซื่อและจิตใจดี ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งฮาและน่าเอ็นดู 😜
ต๊อด ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งกวน ฮา และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไร่ย่าแดง เอ เชิญยิ้มเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ต๊อดกลายเป็นจอมฮาแห่งไร่ย่าแดงที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “หนุ่มมุกเด็ดแห่งไร่” 😜
→ ตี๋ ดอกสะเดา รับบท เกร็ง

เกร็ง หนุ่มจอมป่วนแห่งไร่ย่าแดง 😎
เกร็ง เป็นหัวหน้าคนงาน ในไร่ของย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่มาพร้อมความขี้เล่นและความฮาแบบจัดเต็ม เขาคือตัวละครสมทบที่อยู่ในแก๊งเดียวกับ อึ่ง (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์), พัน (กนกพงศ์ อนุรักษ์จรรยง), และ ต๊อด (เอ เชิญยิ้ม)! เกร็งคือตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสนุกและความวุ่นวายให้กับชีวิตในไร่
หนุ่มคนงานสุดกวน เกร็งคือคนงานในไร่ที่ขยันทำงานแต่ก็ไม่วายกวนประสาท 😜 เขามักจะร่วมมือกับอึ่ง, พัน, และต๊อดในการแซวหรือแกล้ง อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หรือ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) ทำให้เกิดโมเมนต์ฮา ๆ ในไร่ ฉากที่เขาโผล่มามักจะมาพร้อมมุกตลกที่ทำเอาเราขำกลิ้ง
เกร็งมีสไตล์การพูดจาและมุกตลกที่เป็นแบบฉบับหนุ่มบ้านนอก มุกของเขาคือแบบพื้นบ้านที่เข้ากับบรรยากาศไร่ ทำให้ทุกคนในทีมงานหัวเราะได้ง่าย ๆ 😅 ถึงจะกวน แต่เกร็งเป็นคนจิตใจดีและภักดีต่อย่าแดงมาก เขาคอยช่วยงานในไร่ ไม่ว่าจะปลูกผัก ทำนา หรือดูแลสวนสตอว์เบอร์รี พร้อมทั้งเคารพย่าแดงเหมือนคนในครอบครัว 🥰 เกร็งคือตัวละครที่ช่วยให้ไร่ย่าแดงดูมีชีวิตชีวา เขาเหมือนเพื่อนซี้ที่คอยสร้างความสนุกและทำให้บรรยากาศในไร่ไม่น่าเบื่อ 🌾
ฉายาของเกร็ง “จอมป่วนแห่งไร่ย่าแดง” 🤡🌟
เกร็งคือตัวพ่อของความกวน ทุกครั้งที่เขาโผล่มา มักจะมาพร้อมมุกหรือการกระทำที่ทำให้ทุกคนในไร่และคนดูอย่างเราขำจนน้ำตาไหล 😂 เกร็งคือส่วนหนึ่งของทีมงานในไร่ที่ขาดไม่ได้ เขาช่วยสร้างความครึกครื้นและทำให้ชีวิตในไร่ดูสนุกขึ้น 🌱 ถึงจะขี้แกล้ง แต่เกร็งก็มีมุมที่ซื่อและจิตใจดี ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งฮาและน่าเอ็นดู 😜
เกร็ง ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งกวน ฮา และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไร่ย่าแดง ตี๋ ดอกสะเดาเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้เกร็งกลายเป็นจอมป่วนแห่งไร่ย่าแดงที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “หนุ่มมุกปังแห่งไร่” 😜
→ ศิรินุช เพชรอุไร รับบท คำมา

คำมา ป้าซื่อกะโปโลแห่งไร่ย่าแดง 🌾
คำมา คือลูกจ้างในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่ทำงานในสวนและช่วยดูแลไร่สตอว์เบอร์รี เธอเป็นตัวละครสมทบที่มาพร้อมความซื่อและความกะโปโลแบบสุดขั้ว ทำให้ทุกฉากที่เธอโผล่มาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
คำมาคือตัวแทนของความซื่อแบบบ้าน ๆ เธอมักจะพูดหรือทำอะไรที่ดูงง ๆ หรือกะโปโล เช่น การเผลอพูดอะไรที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือการทำหน้าเหวอเมื่อเจอสถานการณ์วุ่นวาย 😅 บุคลิกนี้คือจุดเด่นที่ทำให้เราขำทุกครั้งที่เห็น คำมาเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสนุกให้กับไร่ย่าแดง เธอมักจะอยู่ในฉากที่สร้างความครึกครื้น เช่น การแซว อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หรือการเมาท์กับแก๊งคนงานอย่าง อึ่ง, พัน, และ ต๊อด ฉากที่เธอโผล่มาคือรับประกันความฮา 😂
ถึงจะกะโปโล แต่คำมาเป็นลูกจ้างที่จิตใจดีและภักดีต่อย่าแดงสุด ๆ เธอทำงานในไร่ด้วยความขยันและรักย่าแดงเหมือนคนในครอบครัว ทำให้เรารู้สึกว่าเธอคือส่วนหนึ่งของทีมไร่ 🥰 มุกตลกแบบพื้นบ้าน คำมามีสไตล์การพูดจาและมุกตลกที่เป็นแบบฉบับป้าบ้านนอก การกระทำและคำพูดของเธอคือแบบเรียบง่ายแต่ขำได้ใจ ทำเอาเรายิ้มทุกครั้งที่เห็น 😄
ฉายาของคำมา “ป้ากะโปโลขวัญใจไร่” 🤡🌟
คำมาคือตัวแม่ของความกะโปโล การพูดการจาและการกระทำที่ดูงง ๆ ของเธอคือสิ่งที่ทำให้เราขำจนน้ำตาไหล 😂
คำมาเป็นที่รักของทุกคนในไร่ย่าแดง ความซื่อและความขี้เล่นของเธอทำให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไร่ที่ทุกคนเอ็นดู 🥰 ความตลกแบบบ้าน ๆ และความน่ารักของคำมาคือสิ่งที่ทำให้ฉายานี้เหมาะกับเธอสุด ๆ 😄
คำมา ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งซื่อ กะโปโล และเต็มไปด้วยความฮา ศิรินุช เพ็ชรอุไรเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้คำมากลายเป็นป้ากะโปโลขวัญใจไร่ที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “ป้าฮาแห่งสวนสตอว์เบอร์รี” 😜
→ ศานติ สันติเวชกุล รับบท สิงห์ทอง

สิงห์ทอง หนุ่มแกร่งผู้ภักดีแห่งไร่ย่าแดง 💪
สิงห์ทอง คือคนขับรถและคนงานคนสำคัญของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) เขาเป็นตัวละครสมทบที่มีบุคลิกซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง และจงรักภักดีต่อย่าแดงและทุกคนในไร่
คนขับรถสุดเท่ สิงห์ทองคือคนขับรถของย่าแดงที่คอยรับส่งเจ้านายไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถไปจัดการงานในไร่ หรือพาย่าแดงไปเจรจาธุรกิจ เขาทำได้เนี๊ยบทุกครั้ง 🚗 ลุคของเขาคือหนุ่มแกร่งที่ดูน่าเชื่อถือสุด ๆ สิงห์ทองคือตัวอย่างของความจงรักภักดี เขารักและเคารพย่าแดงเหมือนคนในครอบครัว และคอยปกป้องดูแลทุกคนในไร่ รวมถึง ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) และ อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) 😇 ฉากที่เขาแสดงความภักดีคืออบอุ่นมาก
สิงห์ทองไม่ใช่แค่คนขับรถ แต่เขายังช่วยงานในไร่ทุกอย่าง ตั้งแต่ช่วยยกของ ดูแลสวน ไปจนถึงจัดการปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาคือคนที่ตัวละครหลักพึ่งพาได้ในยามคับขัน 💪 สิงห์ทองอาจจะไม่ได้มีบทบาทเด่นเท่าตัวเอก แต่การปรากฏตัวของเขาคือทำให้ไร่ย่าแดงดูเหมือนครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น เขาเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยช่วยเหลือทุกคน 🥰
ฉายาของสิงห์ทอง “หนุ่มแกร่งผู้ภักดีแห่งไร่” 🌟🚛
สิงห์ทองคือหนุ่มที่ทั้งแข็งแรงและน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะขับรถหรือช่วยงานหนักในไร่ เขาทำได้ดีทุกอย่าง 💪 ความจงรักภักดีต่อย่าแดงและคนในไร่คือจุดเด่นของเขา เขาคือคนที่ทุกคนไว้วางใจและพึ่งพาได้ 😇 สิงห์ทองคือส่วนสำคัญของไร่ย่าแดง เขาช่วยให้ทุกอย่างในไร่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และเป็นเหมือนสมาชิกครอบครัวที่ทุกคนรัก 🌾
สิงห์ทอง ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งซื่อสัตย์ ขยัน และเป็นที่พึ่งของทุกคน ศานติ สันติเวชกุลเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้สิงห์ทองกลายเป็นหนุ่มแกร่งผู้ภักดีแห่งไร่ที่ทั้งเท่และน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “พี่ชายใหญ่แห่งไร่ย่าแดง” 😜
→ จาตุรงค์ โกลิมาศ รับบท ทองใบ

ทองใบ หนุ่มจอมกวนแห่งไร่ย่าแดง 😎
ทองใบ คือหนึ่งในคนงานในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่มาพร้อมความขี้เล่นและความฮาแบบจัดเต็ม เขาคือตัวละครสมทบที่อยู่ในแก๊งเดียวกับ อึ่ง (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์), พัน (กนกพงศ์ อนุรักษ์จรรยง), ต๊อด (เอ เชิญยิ้ม), และ เกร็ง (ตี๋ ดอกสะเดา) ทองใบคือตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสนุกและความวุ่นวายให้กับชีวิตในไร่
หนุ่มคนงานสุดป่วน ทองใบคือคนงานในไร่ที่ขยันทำงานแต่ก็ไม่วายกวนประสาท 😜 เขามักจะร่วมมือกับแก๊งคนงานอย่างอึ่ง, พัน, ต๊อด และเกร็ง ในการแซวหรือแกล้ง อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หรือ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) ทำให้เกิดโมเมนต์ฮา ๆ ในไร่ ฉากที่เขาโผล่มามักจะมาพร้อมมุกตลกที่ทำเอาเราขำกลิ้ง
ทองใบมีสไตล์การพูดจาและมุกตลกที่เป็นแบบฉบับหนุ่มบ้านนอก มุกของเขาคือแบบพื้นบ้านที่เข้ากับบรรยากาศไร่ ทำให้ทุกคนในทีมงานหัวเราะได้ง่าย ๆ 😅 ถึงจะกวน แต่ทองใบเป็นคนจิตใจดีและภักดีต่อย่าแดงมาก เขาคอยช่วยงานในไร่ ไม่ว่าจะปลูกผัก ทำนา หรือดูแลสวนสตอว์เบอร์รี พร้อมทั้งเคารพย่าแดงเหมือนคนในครอบครัว 🥰 ทองใบคือตัวละครที่ช่วยให้ไร่ย่าแดงดูมีชีวิตชีวา เขาเหมือนเพื่อนซี้ที่คอยสร้างความสนุกและทำให้บรรยากาศในไร่ไม่น่าเบื่อ 🌾
ฉายาของทองใบ “จอมฮาแห่งไร่ย่าแดง” 🤡🌟
ทองใบคือตัวพ่อของความตลก ทุกครั้งที่เขาโผล่มา มักจะมาพร้อมมุกหรือการกระทำที่ทำให้ทุกคนในไร่และคนดูอย่างเราขำจนน้ำตาไหล 😂 ทองใบคือส่วนหนึ่งของทีมงานในไร่ที่ขาดไม่ได้ เขาช่วยสร้างความครึกครื้นและทำให้ชีวิตในไร่ดูสนุกขึ้น 🌱 ถึงจะขี้แกล้ง แต่ทองใบก็มีมุมที่ซื่อและจิตใจดี ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งฮาและน่าเอ็นดู 😜
ทองใบ ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งกวน ฮา และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไร่ย่าแดง จาตุรงค์ โกลิมาศเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ทองใบกลายเป็นจอมฮาแห่งไร่ย่าแดงที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “หนุ่มมุกปังแห่งไร่” 😜
→ วีรชัย หัตถโกวิทย์ รับบท ยรรยง

ยรรยง ผู้ช่วยนายอำเภอสุดเนี๊ยบ 🕴️
ยรรยง คือคนขับรถและผู้ช่วยของนายอำเภอ ประเวทย์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ในเรื่อง ธรณีนี่นี้ใครครอง เขาเป็นตัวละครสมทบที่คอยสนับสนุนตัวละครหลักในฉากที่เกี่ยวข้องกับงานราชการ และมีบุคลิกที่เป็นผู้ใหญ่สุด ๆ
ผู้ช่วยสุดสุขุม ยรรยงคือมือขวาของนายอำเภอประเวทย์ เขาคอยขับรถ ช่วยจัดการงานราชการ และดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย ลุคของเขาคือหนุ่มใหญ่ที่ดูน่าเชื่อถือ ด้วยความสุขุมและความเป็นมืออาชีพ 😎 ยรรยงเป็นคนที่จริงจังกับหน้าที่มาก ไม่ว่าจะเป็นการขับรถพานายอำเภอไปทำงาน หรือการช่วยเหลือในสถานการณ์ที่ต้องจัดการปัญหาในชุมชน เขาทำได้เป๊ะทุกครั้ง 💪
ยรรยงมักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับงานของประเวทย์ หรือตอนที่ต้องเชื่อมโยงกับตัวละครหลักอย่าง อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หรือ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) เขาคือตัวละครที่คอยช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ราบรื่น 😌 ยรรยงมีวุฒิภาวะและความน่าเกรงขาม เขาไม่ค่อยพูดเยอะ แต่ทุกคำพูดและการกระทำคือเปี่ยมไปด้วยความน่าเชื่อถือ ทำให้ทุกคนไว้วางใจเขา 🥰
ฉายาของยรรยง “ผู้ช่วยเนี๊ยบแห่งนายอำเภอ” 🏛️✨
ยรรยงคือมือขวาคนสำคัญของนายอำเภอประเวทย์ เขาคอยช่วยงานทุกอย่าง ตั้งแต่ขับรถไปจนถึงจัดการงานราชการ 💼 ความสุขุมและความรับผิดชอบของยรรยงคือจุดเด่น เขาทำทุกอย่างได้เป๊ะและน่าเชื่อถือ ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ดูมีคลาส 😎 ยรรยงคือส่วนหนึ่งของทีมงานราชการที่ช่วยให้งานของประเวทย์ราบรื่น เขาคือตัวละครที่ขาดไม่ได้ในฉากที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน 🏛️
ยรรยง ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งสุขุม รับผิดชอบ และเป็นที่พึ่งของทุกคน วีรชัย หัตถโกวิทย์เล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้ยรรยงกลายเป็นผู้ช่วยเนี๊ยบแห่งนายอำเภอที่ทั้งเท่และน่าจดจำ 💖
→ ขวัญชีวา เอี่ยมสะอาด รับบท จิ๋วแจ๋ว

จิ๋วแจ๋ว สาวน้อยจอมซนแห่งไร่ย่าแดง 🌼
จิ๋วแจ๋ว คือเด็กสาวในไร่ของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่มาพร้อมความสดใสและความขี้เล่น เธอเป็นตัวละครสมทบที่คอยช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในไร่ และสร้างความครึกครื้นด้วยความน่ารักและความกวน
สาวน้อยสุดสดใส จิ๋วแจ๋วคือตัวแทนของความร่าเริง เธอมักจะวิ่งเล่นในไร่หรือช่วยงานเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มและพลังบวกที่ทำให้ทุกคนในไร่รู้สึกสดชื่น 😊 ลุคของเธอคือเด็กสาวบ้าน ๆ ที่น่ารักและเป็นกันเอง จิ๋วแจ๋วมีมุมกวน ๆ นิด ๆ เธอมักจะแซวหรือแกล้ง อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หรือ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) ร่วมกับแก๊งคนงานอย่าง อึ่ง, พัน, ต๊อด, และ เกร็ง ฉากที่เธอโผล่มามักจะมาพร้อมความวุ่นวายแบบน่ารัก 😜
ถึงจะซน แต่จิ๋วแจ๋วรักและเคารพย่าแดงมาก เธอคอยช่วยงานในไร่ เช่น รดน้ำต้นไม้หรือเก็บสตอว์เบอร์รี และมักจะแสดงความน่ารักในแบบเด็ก ๆ ที่ทำให้ทุกคนเอ็นดู 🥰 จิ๋วแจ๋วคือตัวละครที่ช่วยให้ไร่ย่าแดงดูมีชีวิตชีวา ความสดใสและความขี้เล่นของเธอคือเหมือนลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาทำให้ทุกคนยิ้มได้ 🌾
ฉายาของจิ๋วแจ๋ว “สาวน้อยจอมซนแห่งไร่” 🌟😈
จิ๋วแจ๋วคือเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความสดใสและความน่ารัก ลุคของเธอคือแบบเด็กบ้านนอกที่ทำให้ทุกคนเอ็นดู 😊 ความขี้เล่นและการแกล้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของจิ๋วแจ๋วคือจุดเด่น เธอมักจะสร้างความวุ่นวายแบบน่ารักที่ทำให้เราขำได้ 😜 จิ๋วแจ๋วคือส่วนหนึ่งของครอบครัวไร่ย่าแดง เธอช่วยเพิ่มความครึกครื้นและทำให้ชีวิตในไร่ดูสนุกขึ้น 🌱
จิ๋วแจ๋ว ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง คือตัวละครสมทบที่ทั้งสดใส ซน และเต็มไปด้วยความน่ารัก ขวัญชีวา เอี่ยมสะอาดเล่นบทนี้ได้แบบสมบทบาทสุด ๆ ทำให้จิ๋วแจ๋วกลายเป็นสาวน้อยจอมซนแห่งไร่ที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 💖 ถ้าจะให้ฉายาเพิ่มอีกสักอัน ต้อง “น้องเล็กสุดแซ่บแห่งไร่” 😜
ธรณีนี่นี้ใครครอง เป็นละครโทรทัศน์ไทย จากบทประพันธ์ กาญจนา นาคนันทน์ (นงไฉน ปริญญาธวัช) ซึ่งได้รับรางวัลประเภทนวนิยายดีเด่นสะท้อนชีวิตในสังคมไทย จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2518 ออกอากาศในปี พ.ศ. 2555 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
อาทิจและดรุณี คือตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่รับสืบทอดภาระและหน้าที่ที่มีต่อแผ่นดิน หรือ “ธรณี” มาจากคุณย่า ผู้หญิงตัวคนเดียวที่ใช้ทั้งความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน หว่านพืชปลูกพันธุ์จนเติบโตงอกงาม และสามารถโอบอุ้มทุกชีวิตไว้บนแผ่นดิน แต่กว่าจะถึงวันนั้นได้ อุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทางมากมาย ดังชีวิตจริงของเราทุกคน ที่มีทั้งความสนุกสนาน หวามหวาน ทดท้อ และบางครั้งก็มีน้ำตา แต่สุดท้ายแล้ว ความสุขกับความสำเร็จ ก็ย่อมเป็นรางวัลที่ผู้มีความเพียรพึงจะได้รับ
การสร้างเป็นละครโทรทัศน์ เบื้องหลังการสร้างละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ที่ถูกปัดฝุ่นมาทำเป็นละครโทรทัศน์ถึงสองรอบ จากนิยายสุดปังสู่จอแก้วที่ครองใจคนดู 📺
ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ละครไทยสุดเข้มข้นที่สร้างจากนิยายของ กาญจนา นาคนันทน์ 📚 ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปังครั้งเดียว แต่ถูกหยิบมาทำถึงสองเวอร์ชันเลยนะ 😍 ครั้งแรกในปี 2541 และรีเมคสุดยิ่งใหญ่ในปี 2555 มาดูกันว่าทำไมละครนี้ถึงถูกนำกลับมาทำใหม่ และอะไรที่ทำให้มันพิเศษขนาดนี้ 👇
การสร้างเป็นละครครั้งแรก ปี 2541 🌟
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2541 ธรณีนี่นี้ใครครอง ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกโดยผู้จัดมือทอง ธิติมา สังขพิทักษ์ 🙌 นักแสดงนำคือ แอนดริว เกร้กสัน และ ปิยธิดา วรมุสิก ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของเกษตรกรรุ่นใหม่ได้แบบสุดปัง 😎 ละครเวอร์ชันนี้คือประสบความสำเร็จถล่มทลาย คนดูรักในความดราม่า ความรัก และข้อคิดเรื่องการทำเกษตรที่ผสมผสานปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง 🌱
ฉากในไร่สตอว์เบอร์รี ทุ่งนา และเคมีของพระนางคือทำให้คนดูอินหนักมาก 💖 ละครเรื่องนี้กลายเป็นตำนานที่คนพูดถึง และปูทางให้กลายเป็นหนึ่งในละครที่แฟน ๆ เรียกร้องให้รีเมค 😮
ทำไมต้องรีเมคในปี 2555? 🔄
ตัดภาพมาที่ปี 2555 ธิติมา สังขพิทักษ์ ตัดสินใจปัดฝุ่น ธรณีนี่นี้ใครครอง มาทำใหม่ 🎬 เธอให้สัมภาษณ์กับ เดลินิวส์ ว่าเหตุผลที่นำกลับมาทำคือ “เป็นบทประพันธ์ที่สนุก เนื้อเรื่องน่าที่จะกลับเอามาทำใหม่ ละครรีเมคคือละครที่ประสบความสำเร็จแล้วครั้งนั้น การที่แหม่มหรือผู้จัดหลายคนที่นำละครรีเมคกลับมาทำใหม่ แหม่มเชื่อว่าไม่ได้เป็นแฟชั่นหรืออะไรหรอก” 💬
แปลว่าเธอมองว่านิยายเรื่องนี้มีคุณค่ามากพอที่จะเล่าซ้ำในยุคใหม่ 😌 และที่สำคัญ ละครเรื่องนี้พูดถึงการเกษตรและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งยังคงเป็นข้อคิดที่ทรงพลังและเหมาะกับคนรุ่นใหม่ 🌍 ธิติมายังบอกอีกว่าเคยมีแฟน ๆ เรียกร้องให้ทำรีเมคหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมายังหานักแสดงที่ “ตรงปก” กับบทประพันธ์ไม่ได้ 😅 จนสุดท้ายได้ ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา มารับบท อาทิจ และ ดรุณี คู่พระนางที่เคมีสุดปัง 💑
เบื้องหลังการคัดเลือกนักแสดงของละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 โดยเฉพาะการเลือกคู่พระนางสุดปัง ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา มาเล่นเป็น อาทิจ และ ดรุณี 😍
การคัดเลือกนักแสดงของละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง เวอร์ชัน 2555 ที่ผลิตโดย ธิติมา สังขพิทักษ์ ผู้จัดมือทองที่เคยปังมาแล้วกับเวอร์ชัน 2541 🙌 ครั้งนี้เธอเลือก ณเดชน์ และ ญาญ่า มาเป็นพระนาง แล้วทำไมถึงเป็นสองคนนี้ล่ะ? มีอะไรน่าสนใจในกระบวนการคัดเลือก? 👇
จุดเริ่มต้น เคมีจาก ดวงใจอัคนี 🔥
เรื่องมันเริ่มจาก ธิติมา ผู้จัดละครที่ปังสุด ๆ เธอเคยเห็น ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา แสดงคู่กันในละคร ดวงใจอัคนี 😮 เคมีของทั้งคู่ในเรื่องนั้นคือแบบไฟลุก 🔥 ธิติมาเลยปิ๊งไอเดียว่าสองคนนี้น่าจะเหมาะกับบทใน ธรณีนี่นี้ใครครอง
ระหว่างนั้น ธิติมาก็หยิบนิยาย ธรณีนี่นี้ใครครอง ของ กาญจนา นาคนันทน์ มาอ่าน แล้วรู้สึกว่า โอ้โห ตัวละคร อาทิจ และ ดรุณี ในนิยายนี่มันเหมือนณเดชน์และญาญ่าสุด ๆ 😍 เธอเลยเริ่มวางแผนคัดเลือกทั้งคู่มาเล่นในเวอร์ชันรีเมคปี 2555
มุมมองจากผู้กำกับ ณเดชน์ = อาทิจ 💪
คนที่ช่วยยืนยันว่าณเดชน์เหมาะกับบทอาทิจคือ ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับของเรื่อง 🎬 เขาบอกว่า “อาทิจเหมือนณเดชน์ตรงที่เป็นคนที่มาจากต่างจังหวัด มุ่งมั่น ซื่อ มีน้ำใจ และมีอารมณ์ขันนิดหน่อย”
ทุกคนเห็นภาพมั้ย? อาทิจในเรื่องคือหนุ่มบ้าน ๆ ที่เริ่มจากความกวน ๆ แต่มีหัวใจรักผืนดิน และค่อย ๆ พัฒนาตัวเอง ซึ่งมันตรงเป๊ะกับบุคลิกของณเดชน์ในตอนนั้น 😎 ยุทธนาเลยมองว่านี่แหละ ณเดชน์เกิดมาเพื่อบทนี้
ญาญ่ากับดรุณี เหมาะมั้ยนะ? 🤔
แต่พอมาถึงบท ดรุณี ผู้กำกับยุทธนากลับรู้สึกว่าไม่ค่อยตรงกับญาญ่าสักเท่าไหร่ 😅 ดรุณีในนิยายคือสาวน้อยที่จิตใจดีแต่ก็มีมุมเหวี่ยงวีน ขี้อิจฉานิด ๆ ซึ่งอาจจะต่างจากภาพลักษณ์ของญาญ่าที่ดูหวานละมุน
แต่ยุทธนาก็ยังมั่นใจในฝีมือการแสดงของญาญ่า เขาบอกว่า “เชื่อว่าญาญ่าจะเล่นเป็นดรุณีที่เหวี่ยงวีน ขี้อิจฉาได้ดีแน่นอน ที่สำคัญวัยของญาญ่าตรงกับดรุณีในนิยายพอดี” 🎭 และที่สำคัญ เคมีของญาญ่ากับณเดชน์จาก ดวงใจอัคนี คือการันตีว่าทั้งคู่จะปังแน่นอน 💖
การตัดสินใจครั้งสุดท้าย ✅
หลังจากชั่งใจและปรึกษากับทีม ธิติมาก็ตัดสินใจฟันธง เลือก ณเดชน์ คูกิมิยะ มาเป็น อาทิจ และ ญาญ่า อุรัสยา มาเป็น ดรุณี ใน ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 🎉 ธิติมามองว่าทั้งคู่มีทั้งความสามารถและเคมีที่ลงตัวสุด ๆ และวัยของทั้งคู่ก็เหมาะกับตัวละครในนิยาย
ผลลัพธ์คืออะไร ละครเวอร์ชันนี้ปังถล่มทลาย 😮 ณเดชน์และญาญ่าทำให้อาทิจและดรุณีกลายเป็นคู่พระนางในตำนานที่แฟน ๆ รักจนถึงทุกวันนี้ 💑
เบื้องหลัง สถานที่ถ่ายทำ ของละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 ละครเรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายแค่ในสตูดิโอนะ แต่ยกกองไปโลเกชันสุดสวยทั่วประเทศไทย วิวปัง บรรยากาศดี แถมยังช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวไทยอีก 😍
ตะลุยสถานที่ถ่ายทำของละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2554-2555 ที่สวยจนต้องร้องว้าว 😮 จากไร่สตอว์เบอร์รี ทุ่งนา ไปจนถึงดอยสุดชิล ละครเรื่องนี้ยกกองไปไกลจากกรุงเทพฯ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่เหมือนหลุดออกมาจากนิยายของ กาญจนา นาคนันทน์ 📚 มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง และทำไมทีมงานถึงทุ่มสุดตัวขนาดนี้👇
สถานที่ถ่ายทำ วิวสวยทั่วไทย 🗺️
ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ใช้โลเกชันหลากหลายมาก และส่วนใหญ่คือสถานที่ท่องเที่ยวสุดปังในประเทศไทย 😍 ทีมงานยกกองไปถ่ายทำในหลายจังหวัด โดยเฉพาะ เชียงใหม่ ที่เป็นหัวใจหลักของเรื่อง นี่คือลิสต์สถานที่เด็ด ๆ ที่ใช้ในละคร
→ แม่กลางหลวง & ดอยอินทนนท์ (เชียงใหม่) ฉากธรรมชาติสุดอลังการที่ให้ฟีลผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ 🌲 เห็นแล้วอยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์เลย
→ อำเภอจอมทอง (เชียงใหม่) ฉากไร่และชุมชนที่ทำให้รู้สึกถึงชีวิตเกษตรกรแบบแท้ ๆ 🌾
→ ไร่ส้มที่ฝาง (เชียงใหม่) ฉากไร่ส้มสีสันสดใสที่ อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) และ ดรุณี (ญาญ่า อุรัสยา) ทำงานด้วยกัน 🍊 วิวคือสวยจนอยากไปเก็บส้มเอง
→ ไร่สตอว์เบอร์รีที่ดอยอ่างขาง (เชียงใหม่) ไฮไลต์ของเรื่อง 🍓 ฉากนี้คือโรแมนติกสุด ๆ โดยเฉพาะตอนที่พระนางเดินในไร่สตอว์เบอร์รีด้วยกัน ฟินมาก
→ ดอยปุย (เชียงใหม่) ฉากที่มี ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยบานสะพรั่ง 🌸 วิวนี้คือสวยเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
→ สันกำแพง (เชียงใหม่) ใช้เป็นโลเกชันของบ้าน ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) 🏡 บ้านสไตล์พื้นบ้านที่ให้ฟีลอบอุ่นสุด ๆ
→ ไร่กะหล่ำปลีที่ภูทับเบิก (เพชรบูรณ์) ฉากไร่กะหล่ำเขียวขจีที่ให้ความรู้สึกถึงการเกษตรแบบยั่งยืน 🥬
→ ปากช่อง (นครราชสีมา) ฉากทางเดินและโรงเก็บรถแทรกเตอร์ที่เพิ่มความสมจริงให้กับชีวิตในไร่ 🚜
→ นาข้าวที่หุบเมย (นครนายก) ฉากทุ่งนาสุดกว้างใหญ่ที่เป็นหัวใจของเรื่อง 🌾 ฉากที่อาทิจลงไปทำนาคือทั้งดราม่าและซึ้ง
ทำไมต้องใช้โลเกชันเยอะขนาดนี้? 🤔
ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับของเรื่อง ให้เหตุผลสุดปังว่า “ละครเรื่องหนึ่งจะสมบูรณ์ได้ไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องหรือนักแสดง โลเกชันก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนดูรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ในนิยายได้อธิบายไว้” 🎬
แปลว่าโลเกชันคือเหมือนตัวละครอีกตัวที่ช่วยเล่าเรื่อง 😮 ทุ่งนา ไร่สตอว์เบอร์รี และดอยที่สวยงามทำให้คนดูรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของ ธรณีนี่นี้ใครครอง จริง ๆ และที่สำคัญ โลเกชันเหล่านี้ยังช่วย ส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทย อีกด้วย 🇹🇭 เพราะละครไทยเรื่องนี้ดังมากใน จีน แฟน ๆ ต่างชาติเห็นวิวสวย ๆ แล้วอยากมาเที่ยวตามรอยเลย ✈️
คำวิจารณ์ ของละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ฉบับปี 2555 ละครเรื่องนี้มีทั้งคนรักและคนติ เรียกว่าเป็นที่พูดถึงสุด ๆ 📺
เจาะลึก คำวิจารณ์ ของละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา 😍 ละครเรื่องนี้สร้างจากนิยายสุดปังของ กาญจนา นาคนันทน์ และเป็นรีเมคจากเวอร์ชัน 2541 แต่พอออกอากาศปุ๊บ ก็เจอทั้งคำชมและคำติจากสื่อ 😮 มาดูกันว่าเขาว่ากันยังไง และละครเรื่องนี้มีจุดไหนที่ปังหรือแป้กบ้าง 👇
คำวิจารณ์จากคมชัดลึก เริ่มสะดุด แต่ท้ายเรื่องดีขึ้น 😅
เริ่มที่คำวิจารณ์จาก คมชัดลึก เขาบอกว่าช่วงแรกที่ละครออกอากาศเนี่ย มันดู ขาด ๆ เกิน ๆ หน่อย 😬 การเปิดตัวเรื่องราวเหมือนสะดุด ๆ ติดขัด ๆ ยังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดงที่ยัง รับส่งอารมณ์กันไม่ค่อยลงตัว ทำให้คนดูอาจจะยังไม่ค่อยอิน ไม่ค่อยคล้อยตาม 😕
อีกจุดที่เขาติคือ บทสนทนา โดยเฉพาะคำพูดของ ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) ที่เหมือน ยัดเยียดคติสอนใจ มากเกินไป 🗣️ คำพูดที่พยายามจะให้ลึกซึ้งกินใจ บางทีมันดูไม่เป็นธรรมชาติ ฟังแล้วรู้สึกว่า “เอ๊ะ! แรงไปป่ะ?” 😅 ทำให้ช่วงแรกอาจจะไม่เป๊ะสำหรับคนที่คาดหวังไว้สูง
แต่เดี๋ยวก่อน คมชัดลึกก็บอกว่า ช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง ละครเริ่ม กลับลำได้ 📈 เนื้อเรื่องเริ่มลงตัว นักแสดงเริ่มเข้าที่ และเริ่มมีโมเมนต์ที่ทำให้คนดูอินมากขึ้น ถึงอย่างนั้น เขาก็แอบแซวว่าโดยรวมอาจจะยัง ไม่สุด สำหรับแฟน ๆ ที่หวังไว้เยอะ 😜
คำวิจารณ์จากกรุงเทพธุรกิจ สดใสและเติมคุณค่าวิถีไทย 🌟
ตัดภาพมาที่ ปิยนุช รัตนานุกูล จาก กรุงเทพธุรกิจ ที่ให้มุมมองในแง่บวกสุด ๆ 🙌 เธอบอกว่า ธรณีนี่นี้ใครครอง คือละครที่ เติมความสดให้กับคุณค่าวิถีไทย 💖 ละครเรื่องนี้เหมือนเป็นสมบัติที่รวมเอาทุกอย่างไว้ครบ
ละครเรื่องนี้โดดเด่นในการนำเสนอภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และ การเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงรากเหง้าของความเป็นไทยอย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ คุณภาพการแสดงของ ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ และนักแสดงสมทบทุกคนก็ยอดเยี่ยม สร้างพลังให้กับละครได้อย่างมาก ละครยังสะท้อน วิถีชีวิตชุมชนเกษตรกร ได้อย่างกลมกลืน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายในอดีต
และที่สำคัญคือ ภูมิทัศน์อันงดงาม ของฉากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไร่สตอว์เบอร์รีที่ดอยอ่างขาง ทุ่งนาที่นครนายก หรือดอกนางพญาเสือโคร่งที่ดอยปุย ล้วนสวยงามจนน่าติดตามไปเที่ยวตามรอย
ปิยนุชยังบอกอีกว่าโลเกชันและเรื่องราวของละครนี่แหละที่ น่าจะเผยแพร่ให้ชาวโลกรู้ 😮 เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของประเทศไทยและวัฒนธรรมไทยได้อย่างเต็มเปี่ยม 🇹🇭
ผลสำรวจความนิยม ของละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ดังในใจแฟน ๆๆ นะ แต่ยังติดอันดับจากโพลชื่อดังอย่าง เอแบคโพล และ กรุงเทพโพลล์ อีกด้วย 📺
ผลการสำรวจความนิยม ของละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา 😍 ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปังในเรตติ้ง แต่ยังถูกโหวตจากโพลดัง ๆ อย่าง เอแบคโพล และ กรุงเทพโพลล์ ว่าคือหนึ่งในละครสุดยอดของปี 🏆 มาดูกันว่าเขาติดอันดับอะไรบ้าง และทำไมถึงครองใจคนดู 👇
เอแบคโพล อันดับ 2 ละครไทยที่คนรักมากที่สุด 🥈
เริ่มที่ เอแบคโพล เขาทำการวิจัยเรื่อง สุดยอดของความบันเทิงแห่งปี 2555 และผลออกมาว่า ธรณีนี่นี้ใครครอง ติด อันดับที่ 2 ในประเภท ละครไทยที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด 😮 ได้คะแนนไปถึง 7.0% เลยนะ
อันดับ 1 ตกเป็นของ แรงเงา ที่มาแรงสุด ๆ ในปีนั้น 🔥 แต่การที่ ธรณีนี่นี้ใครครอง คว้าอันดับ 2 ได้เนี่ย บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะละครเรื่องนี้คือครบรส มีทั้งดราม่า ความรักของ อาทิจ-ดรุณี และข้อคิดจาก ย่าแดง ที่ทำให้คนดูอินหนักมาก 💖 ฉากไร่สตอว์เบอร์รี ทุ่งนา และเคมีคู่พระนางคือจุดเด่นที่ทำให้แฟน ๆ รักจนโหวตให้ติดอันดับ 😊
กรุงเทพโพลล์ อันดับ 4 ละครสร้างสรรค์แห่งปี 🎨
ต่อกันที่ กรุงเทพโพลล์ เขาสำรวจในหัวข้อ ที่สุดของความคิดสร้างสรรค์แห่งปี 2555 และ ธรณีนี่นี้ใครครอง ก็ไม่น้อยหน้า ติด อันดับที่ 4 ในประเภท ละครทีวีของไทยที่สร้างสรรค์มากที่สุด ด้วยคะแนน 4.5% 📈
อันดับนี้คือการยกย่องความสร้างสรรค์ของละคร 🎬 เพราะ ธรณีนี่นี้ใครครอง ไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่ยังชูปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และวิถีเกษตรกรที่ผสมผสานเข้ากับเรื่องราวได้อย่างลงตัว 🌾 โลเกชันสวย ๆ อย่างดอยอ่างขางหรือทุ่งนาที่นครนายกก็ช่วยให้ละครดูมีมิติและน่าจดจำ แถมการเล่าเรื่องที่สะท้อนคุณค่าวิถีไทยคือทำให้คนดูรู้สึกว่านี่แหละ ละครที่ทั้งบันเทิงและมีสาระ 🥰
รางวัลชนะเลิศ ที่ละครในตำนาน ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 กวาดไปแบบจุก ๆ จาก ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา, ดวงตา ตุงคะมณี ไปจนถึงตัวละครเอง บอกเลยว่าโกยรางวัลจากหลายเวทีสุดยิ่งใหญ่ 😍🏆
ความปังของละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 ที่ไม่ใช่แค่ครองใจคนดู แต่ยัง ครองรางวัล จากเวทีใหญ่ ๆ ทั่ววงการบันเทิงไทย 😮 ละครเรื่องนี้นำแสดงโดย ณเดชน์ และ ญาญ่า พร้อมด้วย ดวงตา ตุงคะมณี ที่รับบท ย่าแดง สุดไอคอนิก มาดูกันว่าเขากวาดรางวัลอะไรบ้าง และทำไมถึงปังขนาดนี้ 👇
รางวัลที่ ธรณีนี่นี้ใครครอง กวาดมาได้ 🏅
ละครเรื่องนี้และทีมนักแสดงคือโกยรางวัลจากหลายเวทีในปี 2555-2556 ไปแบบไม่ยั้ง 😎 นี่คือลิสต์รางวัลสุดปังที่พวกเขาได้
ทีวีสาม แฟนคลับ อวอร์ด 2012 📺
→ นักแสดงชายยอดนิยม: ณเดชน์ คูกิมิยะ (อาทิจ) 🥰
→ นักแสดงหญิงยอดนิยม: อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ดรุณี) 😍
→ ละครยอดนิยม: ธรณีนี่นี้ใครครอง 🌾
เวทีนี้คือรางวัลจากแฟนคลับช่อง 3 ล้วน ๆ แสดงว่าแฟน ๆ รักทั้งณเดชน์ ญาญ่า และละครเรื่องนี้สุด ๆ 💖
สีสันบันเทิง อวอร์ด 2012 🎨
→ แม่พระแห่งปี: ดวงตา ตุงคะมณี (ย่าแดง) 👑
ย่าแดงคือตัวแม่ของเรื่อง การแสดงของดวงตาที่ทั้งเข้มแข็งและอบอุ่นคือทำให้คนดูซึ้งจนต้องมอบรางวัลนี้ให้ 😇
ท็อปอวอร์ด 2012 🌟
→ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: ณเดชน์ คูกิมิยะ (อาทิจ) 💪
ณเดชน์ถ่ายทอดบทหนุ่มบ้านนอกที่พัฒนาตัวเองจนรักผืนดินได้แบบสุดยอด รางวัลนี้คือสมมงมาก 😎
คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 10 📰
→ นักแสดงนำหญิงยอดนิยม: อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ดรุณี) 🌸
→ ละครยอดนิยม: ธรณีนี่นี้ใครครอง 📽️
คมชัดลึกยืนยันว่าญาญ่าคือขวัญใจมหาชน และละครเรื่องนี้คือที่รักของคนดู 💞
Daradaily The Great Awards 2012 🗳️
→ นักแสดงนำชาย สาขาละครที่สุดแห่งปี 2012: ณเดชน์ คูกิมิยะ (อาทิจ) 🎬
ณเดชน์คว้ารางวัลนี้อีก บทอาทิจที่ทั้งกวน ดราม่า และโรแมนติกคือทำให้แฟน ๆ โหวตให้รัว ๆ 😜
รางวัลเมขลา ครั้งที่ 25 🎭
→ ดารานำชายเมขลามหานิยมแห่งปี: ณเดชน์ คูกิมิยะ (อาทิจ) 🏆
→ ดารานำหญิงเมขลามหานิยมแห่งปี: อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ดรุณี) 🏆
เวทีเมขลาคือรางวัลจากแฟน ๆ ทั่วประเทศ ณเดชน์และญาญ่าคือคู่พระนางที่ครองใจทุกคน 💑
รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 4 🎥
→ นักแสดงชายยอดเยี่ยม: ณเดชน์ คูกิมิยะ (อาทิจ) 🌟
นาฏราชคือรางวัลที่วงการบันเทิงยอมรับ ณเดชน์ได้รางวัลนี้ไปครองเพราะการแสดงที่ทรงพลังสุด ๆ 😍
ธรณีนี่นี้ใครครอง ปี 2555 คือละครที่ปังทั้งในจอและนอกจอ 🏆 ด้วยรางวัลจาก ทีวีสาม, คมชัดลึก, นาฏราช, เมขลา, และอีกมากมาย ณเดชน์, ญาญ่า, ดวงตา และตัวละครเองคือพิสูจน์ว่าละครเรื่องนี้คือตำนาน 💖 ด้วยเรื่องราวที่ชูวิถีไทย เคมีคู่พระนาง และการแสดงคุณภาพ ละครนี้สมควรได้ทุกถ้วย