ดีไซเนอร์สาวสวย เกิดมาในครอบครัวหาเช้ากินค่ำ เธอเป็นคนขยันขันแข็ง กตัญญู และรักครอบครัวมาก รสาไม่เคยรู้เลยว่าพ่อที่แท้จริงของเธอคือ มหาเศรษฐีเจ้าของกิจการอัญมณี

ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559 ละครแนวดราม่าชีวิต ที่มีปมในใจ ความเกลียดชัง ความกตัญญู และความรักครอบครัว ความรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค การต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองและการให้อภัย บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ รสา ดีไซเนอร์สาวสวย ขยันขันแข็ง กตัญญู และรักครอบครัว โดยเธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของกิจการอัญมณี เพราะตอนนั้น แม่ของเธอ เคยทำงานรับใช้บ้านของพ่อ พ่อหลอกลวงแม่จนเธอตั้งท้องเธอ แม่อับอายและเสียใจ จึงหนีออกจากบ้านพ่อ และเก็บความลับนี้ไว้จนวันตาย

เมื่อรสาโตขึ้น เธอได้ทำงานเป็นดีไซเนอร์ให้กับบริษัทของพ่อ รสาได้พบกับ ชานนท์ ชานนท์มีปมในใจเรื่องแม่ของเขาที่ทิ้งเขาไป ทำให้เขาเกลียดผู้หญิง

รสาและชานนท์เริ่มต้นด้วยความเกลียดชัง แต่ด้วยเหตุการณ์หลายอย่างทำให้ทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกัน รสาคอยช่วยเหลือชานนท์ในยามทุกข์ใจ ทำให้ชานนท์เริ่มเปิดใจให้เธอ

ความสัมพันธ์ของรสาและชานนท์เริ่มพัฒนา แต่ความลับเรื่องพ่อของรสา ก็ถูกเปิดเผย พ่อไม่ยอมรับรสา และพยายามขัดขวางความรักของเธอและชานนท์ รสาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เธอต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และรักษาความรักของเธอไว้

รสา (พีชญา วัฒนามนตรี) ดีไซเนอร์สาวเพิ่งได้รู้ความจริงว่าแม่ของเธอถูก เฉลิม (สันติสุข พรหมศิริ) มหาเศรษฐีผู้เป็นนายจ้างหลอกลวงและข่มเหงจนต้องลาออกโดยไม่รู้ว่ากำลังตั้งท้องเธออยู่ เมื่อแม่จากไป รสาจึงมาพบเฉลิม เพื่อให้ท่านไปขอขมาต่อหน้าศพของแม่ แต่ทุกคนรอบตัวกลับหาว่าเธอเป็นสิบแปดมงกุฎ โดยเฉพาะ ชานนท์ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) นักธุรกิจหนุ่มผู้มีปมในอดีตว่าแม่ทิ้งเขาไปกับชู้ เขาจึงเกลียดผู้หญิงทุกคน แต่เหตุการณ์หลายอย่างก็ทำให้รสากับชานนท์ใกล้ชิดกันจนก่อเกิดเป็นความรัก แต่พวกเขาจำต้องห้ามใจ เพราะ รสาไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของ ศศิกานต์ (กวิตา รอดเกิด) น้องสาวต่างแม่ของเธอซึ่งเป็นคู่หมั้นของชานนท์ เช่นเดียวกับชานนท์ที่ไม่ต้องการทำร้ายจิตใจ อภิรักษ์ (ตากเพชร เลขาวิจิตร) น้องชายที่รัก รสาสุดหัวใจ จนเมื่อเรื่องของพ่อคลี่คลาย ศศิกานต์และอภิรักษ์จึงยอมหลีกทางเพื่อให้ชานนท์กับรสาปรับความเข้าใจและเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยกันในที่สุด


ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559

ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559

ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559 EP.1-15CH7+

เพลงประกอบละคร ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559 รักสักคำ Ost.ลูกไม้ไกลต้น | เสาวลักษณ์ ลีละบุตร [Official MV]

เพลงประกอบละคร ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559 ทำไมต้องเธอ Ost.ลูกไม้ไกลต้น | อ๋อม อรรคพันธ์ [Official MV]


ละคร ลูกไม้ไกลต้น 2559

รสา หญิงสาวที่เกิดมาในครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ลูกสาวของนางสุภา หญิงม่ายสามีตาย หลังจากที่นายสาน สามีของเธอ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ความเป็นอยู่ก็แย่ลง แต่ด้วยความที่รสาเป็นคนสู้งาน ขยันขันแข็ง จึงทำให้ครอบครัวผ่านวิกฤตไปได้ ผิดกับ มนัส พี่ชาย ที่มีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปร่างหน้าตา และนิสัยใจคอ มนัสเป็นพี่ชายที่ไม่เอาไหน เกียจคร้าน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ตัวของมนัสเอง ก็แอบมีปมในใจ ถึงความต่างของเขากับน้องสาว ที่เหมือนฟ้ากับเหว รสาสวยสง่า นิสัยดี แต่มนัสขี้ริ้วขี้เหล่ เกเร มนัสจึงแอบสงสัยมาตลอดว่ารสาไม่ใช่น้องแท้ ๆ เขาพยายามคาดคั้นแม่ให้บอกความจริงเรื่องนี้ แต่ไม่เคยได้รับคำตอบที่ต้องการ

มนัสติดหนี้พนันบอล จึงไปหลอกแม่ว่ารสากำลังจะถูกเจ้าหนี้นอกระบบอุ้ม เนื่องจากไปลงทุนทำร้านเสื้อกับ บงกช และ มธุรส เพื่อนสนิทแล้วขาดทุน แต่ขอร้องไม่ให้แม่อย่าบอกเรื่องนี้กับรสา เพราะเกรงว่าน้องจะกลัว เขาจะเป็นคนช่วยน้องเอง สุภาเชื่อมนัสสนิทใจแม้จะห่วงรสา แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม จนทำให้ตัวเองล้มป่วย สุภาจึงพยายามรวบรวมเงินเพื่อเอาไปให้มนัสใช้หนี้แทนรสา เหตุการณ์วันนั้นจึงทำให้เธอได้พบแหวนวงหนึ่งที่เคยซุกอยู่ซอกลึกสุดในตู้ แหวนที่กลับมาตอกย้ำอดีตอันแสนเจ็บปวดของเธออีกครั้ง

ในอดีตเมื่อยังสาว สุภาเคยทำงานเป็นคนรับใช้บ้าน เฉลิม และ เปรมจิต เจ้าของกิจการอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ด้วยความที่สุภาเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวย จึงเป็นที่ถูกตาต้องใจ เฉลิมมาก เขาจึงออกอุบายหลอกลวงจนสุภาเชื่อและเสียท่ายอมตกเป็นของเขาเพื่อช่วยชีวิต นายสานสามี แต่สุภากลับมารู้ความจริงภายหลัง ว่าเรื่องทั้งหมดที่เฉลิมบอกล้วนเป็นเรื่องโกหก เธอทั้งอับอายและเสียใจน้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่เฉลิมกลับมองเป็นเรื่องเล็กน้อย ขอสุภาอย่าคิดมาก และจบปัญหาด้วยการให้แหวนที่ใส่ติดนิ้วมาเป็นค่าทำขวัญ สุภาไม่อาจทนต่อไปได้ จึงตัดสินใจหนี และโชคช่างเล่นตลกกับเธอ เมื่อมารู้ภายหลังว่าตัวเองตั้งท้อง จึงตัดสินใจว่าจะเก็บความลับเรื่องเฉลิมนี้ไว้จนวันตาย

ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงทำให้สุภาป่วยหนัก ความหวังสุดท้ายที่เธอนึกถึงคือ เฉลิม เขาคือคนที่จะช่วยรสาให้พ้นภัยได้ ก่อนที่จะสิ้นใจ จึงได้เรียกรสาไปสั่งความสุดท้าย พร้อมทั้งบอกความลับที่ตั้งใจปิดมาทั้งชีวิตว่า รสาเป็นลูกของคุณเฉลิม และต้องหาแหวนวงนั้นไปแสดงตัวให้ได้ รสาได้ยินแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอไม่ใช่ลูกจริง ๆ ของพ่อสาน การเป็นลูกของเฉลิมหรือไม่ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เธอคาดหวัง แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ เธอต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีให้แม่ จึงไปหาแหวนตามที่แม่บอก เพื่อเอาไปแสดงว่าคุณเฉลิมทำผิดต่อแม่จริง แต่ก็พบว่าแหวนหายไปแล้ว เพราะมนัสเอาไปเสียก่อน

ชานนท์ เป็นบุตรชายของคุณพาณิช เจ้าของกิจการอัญมณีแถวหน้าของประเทศไทย ชานนท์มีความหลังที่ฝังใจมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ คือ ภาพที่กัลยา แม่บังเกิดเกล้า หนีไปกับอรุณ นายช่างผู้ควบคุมการผลิตอัญมณีในโรงงานของบิดา โดยไม่ไยดีกับเสียงร้องไห้เรียกหาแม่ของอภิรักษ์ น้องชายวัย 7 ขวบ เลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นพ่อจึงกลายเป็นคนเงียบเหงาเศร้าซึม ภาพอภิรักษ์ร้องไห้โหยหาอกแม่ทุกวันคืน ทำให้ชานนท์ต้องเป็นคนเข้มแข็งกลายเป็นที่พึ่งให้ทั้งพ่อและน้องชายที่อ่อนแอ เขาบ่มเพาะความเกลียดชังแม่ตลอดมาจนโต และให้สัญญากับตัวเองว่าหลังจากนี้ไปชีวิตของเขาจะต้องอยู่โดยไม่มีแม่ จึงพยายามพูดฝังหัวอภิรักษ์ว่าแม่โหดร้ายที่ทิ้งลูกเล็ก ๆ ไปได้ลงคอ สองคนพี่น้องเติบโตขึ้นมา โดยมีแต่พ่อคนเดียว พ่อผู้ซึ่งครองความเป็นม่ายโดยไม่หาหญิงใหม่มาดามใจ พ่อที่เลี้ยงดูสองพี่น้องมาจนโต ชานนท์พร่ำบอกอภิรักษ์ว่า หากวันใดวันหนึ่งแม่เกิดกลับมาหาเราสองคนพี่น้อง ก็ต้องไม่ให้อภัยและไม่ยอมรับแม่ เรื่องนี้กลายเป็นปมฝังใจที่ทำให้เขามองโลกในแง่ร้าย และมีอคติโดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะกับผู้หญิง

วันหนึ่งขณะที่ชานนท์อยู่ที่บ้าน แม่บ้านมาแจ้งว่ามีหญิงกลางคนมาขอพบอภิรักษ์ ชื่อ กัลยา ชานนท์ออกอาการฉุนเฉียวไม่ให้พบและห้ามคนในบ้านบอกเรื่องนี้กับพาณิชและอภิรักษ์ พร้อมทั้งออกคำสั่งห้ามเปิดประตูให้กัลยาเด็ดขาด ชานนท์รีบบึ่งรถออกจากบ้าน เขาขับรถผ่านกัลยาที่ยังรออยู่หน้าบ้าน แม้กัลยาจะวิ่งตามเคาะกระจกรถ ชานนท์ก็ไม่ยอมจอด กัลยาเสียใจมาก ส่วนชานนท์ พอพ้นกัลยามา เขาเองก็ต้องจอดรถเพราะต่อสู้กับความรู้สึกตัวเองไม่ไหว ที่ผสมปนเปทั้งตกใจ แค้นใจ เสียใจ จนแทบจะระเบิดออกมาจากอก

กัลยากลับมาบ้านเจอ อรุณ ชายชู้ของเธอ ทั้งคู่วางแผนกันเรื่องที่ต้องพยายามเข้าหาอภิรักษ์ให้ได้ จุดประสงค์ของทั้งคู่คือ เบื่อการทำงาน เกลียดความลำบาก จึงต้องการเอาเงินมาเสวยสุข และทำชีวิตที่ให้สุขสบายขึ้น ชานนท์แอบตามกัลยามาจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดว่าแท้จริงแล้วกัลยาไม่ได้มา หาเพราะคิดถึงลูกแต่อย่างใด ก็ยิ่งชิงชังกัลยาอย่างเต็มที่ รสาตัดสินใจเข้าไปหาคุณเฉลิมที่บริษัท ตามคำแนะนำของบงกช และมธุรส ไม่ใช่เพื่อจะแสดงตัวเป็นลูกและเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ ที่เธอควรจะได้ รสาไม่เคยต้องการข้องเกี่ยวกับชีวิตแบบเศรษฐีที่เธอไม่คุ้นเคย

จุดประสงค์เดียวของรสา คือต้องการให้เฉลิมไปขออโหสิเป็นครั้งสุดท้ายต่อหน้าศพแม่ของเธอ แต่ผิดพลาด…คุณเฉลิมกลับไม่ใส่ใจในสิ่งที่เธอร้องขอสักนิด แต่กลับเห็นรสาเป็นแค่ใครก็ไม่รู้คนหนึ่งที่เข้ามาสร้างเรื่อง เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์จากเศรษฐีอย่างเขา จริงอยู่เขาจำสุภาได้ แต่รสาไม่มีหลักฐานใด ๆ มาแสดง นอกจากคำพูดกล่าวอ้างลอย ๆ ประกอบกับเฉลิมเป็นคนมีลูกยาก เพราะมีภาวะเกือบเป็นหมันเป็นทุนเดิม ยิ่งทำให้เขาปฏิเสธรสาได้อย่างไม่แยแส รสาจำต้องออกจากบริษัทอัญมณีมาด้วยความผิดหวังที่คนเป็นพ่อแสดงท่าท่าทีไม่ยอมรับเธอถึงขนาดนี้

ชานนท์ผู้ซึ่งเป็นคนรักของศศิกานต์ ลูกสาวคนเล็กของคุณเฉลิม เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ชานนท์ระแวงว่ารสาอาจเป็นหนึ่งในขบวนการสิบแปดมงกุฎที่คิดจะมาหลอกเอาเงินเศรษฐีอย่างเฉลิม ไม่ต่างอะไรกับกัลยา แม่ของเขา ด้วยอคติในใจบวกกับบังเอิญได้ยินรสาคุยโทรศัพท์กับมนัสใจความเหมือนพวกมาตุ้มตุ๋น จึงยิ่งเข้าใจผิดมากขึ้น ชานนท์ตั้งใจว่าจะทำทุกวิถีทางไม่ให้รสามาหลอกหลวงครอบครัวของศศิกานต์ แฟนตัวเองได้ เปรมจิตเฉลียวใจ เมื่อได้รู้จากวรรณฤดี ลูกสาวคนโต ว่ามีคนมาแอบอ้างหลอกว่าเป็นลูกเฉลิม แถมศศิกานต์ยังเปรยว่าหน้าเหมือนคุณพ่อด้วย ทำให้เปรมจิตนึกย้อนไปถึงวันที่เธอแอบเห็นเฉลิมออกมาจากห้องของสุภาสาวใช้หน้าตาสะสวยโดยบังเอิญ จึงไปปรึกษาแม่จัน ญาติผู้ใหญ่ที่เปรมจิตให้มาช่วยดูแลความเรียบร้อยในบ้าน แม่จันปลอบจนเปรมจิตสบายใจขึ้นว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเฉลิมมีลูกยากกว่าจะมีวรรณฤดีกับศศิกานต์ก็พยายามแทบแย่

แต่ศศิกานต์สังหรณ์ว่า รสาอาจเป็นลูกคุณเฉลิมจริง ๆ เพราะเธอรู้สึกถูกชะตาและผูกพันอย่างประหลาดกับรสา ชานนท์ตัดบทไม่ให้คิดและยืนยันว่ารสาต้องเป็นพวก 18 มงกุฎ ส่วนวรรณฤดีก็เริ่มคิดหนัก ด้วยความกลัวว่าจะต้องถูกแบ่งสมบัติของพ่อไปให้คนอื่น ลึก ๆ ในใจ…วรรณฤดีต้องการครอบครองสมบัติทั้งหมดของพ่อแม่แต่เพียงผู้เดียว แม้กระทั่งน้องสาวแท้ ๆ อย่างศศิกานต์ เธอก็ไม่คิดที่จะแบ่งให้

ด้วย ความที่เครียดมาก ทำให้เธอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ รสาจึงเป็นลมระหว่างข้ามถนน จนเกือบโดนรถของอภิรักษ์ชน อภิรักษ์รีบลงมาช่วย และรู้สึกตกหลุมรักรสาในทันที ชานนท์จำรสาได้ จึงพยายามบอกอภิรักษ์ว่ารสาไม่ใช่คนดี มีเจตนาจะหลอกลวง แต่อภิรักษ์และคุณพานิชกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น และไม่เชื่อสิ่งที่ชานนท์บอก ชานนท์ใช้อำนาจความเป็นพี่สั่งอภิรักษ์ห้ามยุ่งเกี่ยวกับรสาเด็ดขาดเป็นเหตุให้มีปากเสียงกัน ทำให้ชานนท์ยิ่งไม่ชอบรสามากขึ้นไปอีก เขาจะไม่ยอมให้รสามาหลอกคนในครอบครัวเขาเพิ่มเด็ดขาด ชานนท์พยายามสืบเรื่องของรสา ไปเลียบเคียงถามจากบงกช ซึ่งเป็นเลขาของเขา บงกชยืนยันว่ารสาเป็นคนดี แต่ชานนท์กลับคิดว่าบงกชเข้าข้างเพื่อน ตั้งแต่นั้นบงกชพยายามคอยเป็นตัวเชื่อมไม่ให้ชานนท์เข้าใจรสาผิดไปมากกว่านี้ เฉลิมนั่งรถกลับจากงานเลี้ยง บังเอิญรถดับตรงหน้าวัดสตาร์ทไม่ติด เฉลิมจึงเดินเข้าไปในวัด เห็นรูปหน้าศพของสุภา เมื่อกลับถึงบ้านเฉลิมเดินเข้าบ้านไม่พูดจากับใคร เปรมจิตสงสัยจึงไปถามคนขับรถ ทำให้ยิ่งสงสัยว่ารสาต้องเป็นลูกเฉลิมแน่ ๆ

เปรมจิตยิ่งกระวนกระวายใจเรื่องรสา จึงไปสืบประวัติรสาตามอินเทอร์เน็ต แต่ไม่พบข้อมูลที่อยากรู้มากนัก เมื่อสบโอกาสจึงแอบนำของเฉลิมและรสาไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อความแน่ใจ ผลการตรวจปรากฏว่ารสาเป็นลูกเฉลิมจริง เปรมจิตกลุ้มใจมาก ตัดสินใจเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว และกันทุกคนที่เสนอให้พิสูจน์ดีเอ็นเอของรสา ด้วยการบอกว่าคนระดับเฉลิมไม่จำเป็นต้องลดเกียรติลงไปทำอะไรแบบนั้นให้เสื่อมเสีย เพราะยังไงรสาก็ไม่ใช่ลูกเฉลิมแน่นอน เปรมจิตหาทางหยุดยั้งเรื่องของรสา ด้วยการเสนอให้เงินหนึ่งล้านบาท ชานนท์เฝ้าคอยดูว่าในที่สุด รสาจะยอมรับเงินหรือไม่ เมื่อรสาไม่รับ เขากลับเชื่อว่าเป็นเพราะรสาหวังสมบัติที่มากกว่านั้นของคุณเฉลิม รสาพยายามชี้แจงถึงความตั้งใจของตน แต่ชานนท์ไม่เชื่อ

กัลยามาหาชานนท์อีก รสาเห็นเหตุการณ์โดยบังเอิญ ว่าชานนท์ปฏิเสธไม่ยอมรับว่ากัลยาเป็นแม่ ชานนท์โกรธมาก ห้ามรสาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ และออกคำสั่งให้เธอปิดปากให้สนิท ห้ามบอกใครเด็ดขาดโดยเฉพาะอภิรักษ์ แต่รสาแอบคิดว่าอภิรักษ์ควรมีสิทธิ์ตัดสินใจเองเพราะกัลยาก็เป็นแม่ของอภิรักษ์เหมือนกัน เธอต่อว่าชานนท์มองคนแต่ในแง่ร้าย เหตุการณ์นี้ทำให้รสาได้รู้จักชานนท์มากขึ้นว่าเขามีบาดแผลคล้าย ๆ กับเธอ เขาไม่ยอมรับแม่ แต่รสา มีพ่อที่ไม่ยอมรับลูก กัลยาหลอกใช้ความเป็นคนดีของรสา เป็นตัวช่วยของเธอ กัลยาเล่นละครทำตัวเป็นคนที่น่าสงสารให้รสาเห็นใจและขอร้องให้รสารับปากว่าจะช่วยพูดกล่อมชานนท์ให้ รสาจำใจรับปากด้วยความสงสาร

การที่รสาได้รู้เห็นในเรื่องส่วนตัวล้ำลึกของชานนท์ เป็นสิ่งที่ทำให้ชานนท์เข้ามาใกล้ชิดกับรสามากขึ้น เพราะเธอเป็นคนนอกคนเดียวที่รู้ แม้แต่ศศิกานต์ผู้หญิงพิเศษของเขายังไม่รู้ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ทั้งชานนท์และรสาขัดแย้งกันยิ่งขึ้น รสายืนยันที่ว่าลูกจะต้องกตัญญูและให้อภัยแม่ ชานนท์ว่ารสาไม่รู้หรอกว่าเขาเจ็บปวดแต่ไหน ชานนท์กับรสาขัดแย้งกันจนเขาใช้กำลังปล้ำจูบเธอ แต่รสาก็มิได้ขัดขืนเพราะทั้งชานนท์และรสารู้สึกพอใจในจูบนั้นทั้งคู่ โดยไม่อยากนึกถึงสาเหตุว่าพอใจเพราะอะไร แล้วจากนั้น ทั้งคู่วิ่งหนีหัวใจตัวเองตลอด โดยอาศัยความขัดแย้งระหว่างกันเป็นเครื่องขวางกั้น

ลึก ๆ ศศิกานต์เองรับรู้ได้ว่า ระหว่างชานนท์กับรสาต้องมีอะไรที่ปิดบังเธอและคนอื่นไว้ เพราะหลายครั้งที่เธอจับได้โดยบังเอิญว่าชานนท์ออกไปกับรสา แต่เมื่อเธอแกล้งลองถาม ชานนท์ก็ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่มีอะไร ถึงแม้เธอจะพูดกับทุกคนว่าเธอเชื่อใจเขา และถ้าชานนท์จะเปลี่ยนใจ เธอก็ตามใจ ไม่อยากได้เขามาแค่ตัว แต่ไม่ได้หัวใจ แต่ลึก ๆ ศศิกานต์แอบหวั่นใจไม่น้อย จนเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับแม่จัน ธัชชัยเห็นแบบนี้ก็แอบดีใจ เพราะความจริงธัชชัยไม่ได้รักวรรณฤดี เขาแอบรักศศิกานต์มาโดยตลอด แต่ที่ต้องแต่งงานกับวรรณฤดีเพราะรู้ว่าเป็นลูกเขยคุณเฉลิมย่อมก้าวหน้าเร็ว กว่าการเป็นพนักงานกินเงินเดือนในบริษัท อย่างที่เขาเคยเป็นมาก่อนแน่นอน

กัลยามาทำบีบน้ำตาอ้อนรสาให้นัดอภิรักษ์ให้ รสาไม่รู้จะทำยังไง แต่ยอมนัดให้เพราะสงสาร เมื่ออภิรักษ์ได้เจอกัลยา ทีแรกอภิรักษ์จำไม่ได้ แต่พอรู้ว่ากัลยาเป็นใคร เขาก็ขับรถพุ่งหนีไปทันทีตามที่ชานนท์เคยสั่งไว้ แล้วสุดท้ายก็แพ้ใจตัวเอง เขาตัดสินใจขับรถกลับมาหาแม่ กัลยาบอกอภิรักษ์ว่าเธอรู้สึกสำนึกผิดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยไปเจอชานนท์ แต่ชานนท์ใจแข็งมากไม่ยอมรับแม่ อภิรักษ์สงสารแม่ จึงให้เงินและชวนไปบ้าน กัลยาไม่กล้าไปอ้างว่าชานนท์เกลียดแม่ คงไม่อยากให้กลับไปเหยียบบ้านอีก แต่อภิรักษ์กลับบอกว่าช่างพี่นนท์ แต่สำหรับเขายินดีให้แม่เข้าบ้านเสมอ กัลยาอึ้งไปพูดอะไรไม่ออกเลยวิ่งหนีไป อภิรักษ์น้ำตาซึม รสาจึงปลอบใจ อภิรักษ์ขอบคุณรสา ไม่งั้นคงไม่มีวันได้เจอและคุยกับแม่อีก อภิรักษ์กลับไปบอกพ่อว่าอยากขออนุญาตให้แม่เข้ามาในบ้าน พาณิชยอม แต่ชานนท์ขัดขวาง จนเกิดเรื่องทะเลาะกับอภิรักษ์ใหญ่โต

อภิรักษ์สารภาพรักกับรสา รสาขอให้เป็นเพื่อนกัน อภิรักษ์ผิดหวังมากจนทำงานไม่ได้ ชานนท์โทษว่าเป็นความผิดของรสา รสาเหลืออดตอกหน้าชานนท์กลับไปบ้างว่าถ้าชานนท์เป็นคนใจกว้างเรื่องยุ่ง ๆ ในครอบครัวเขาก็จะไม่เกิดและให้เขาเคารพความคิดของอภิรักษ์บ้าง อย่าถือว่าตัวเองถูกไปเสียทุกอย่าง เพราะอภิรักษ์พร้อมที่จะอภัยให้แม่ แต่ชานนท์ไม่ยินยอม กัลยาได้เงินมาก็เอาไปใช้จ่ายซื้อของอย่างสุขสบายกับอรุณ การได้เงินมาง่าย ๆ ทำให้ทั้งคู่ไม่คิดที่จะออกไปทำงาน วัน ๆ จึงคิดแต่วางแผนเรื่องรีดไถเงิน

คุณเฉลิมไม่สบายมาก แพทย์ตรวจพบว่าเป็นโรคไตพิการ แพทย์ลงความเห็นว่าคุณเฉลิมต้องเปลี่ยนไต แต่ลูกสาวสองคนคือ วรรณฤดีกับศศิกานต์ไม่อาจให้ไตแก่พ่อได้ เพราะเลือดไม่เข้ากัน ศศิกานต์สงสารพ่อจับใจ จึงเสนอหนทางสุดท้ายคือ ให้รสาไปตรวจเลือดดูว่า สามารถให้ไตแก่คุณเฉลิมได้หรือไม่ วรรณฤดีไม่เห็นด้วยและต่อต้านเต็มที่ ในขณะที่คุณเปรมจิตลังเล แต่ด้วยความรักที่มีต่อสามีอย่างมากในที่สุดคุณเปรมจิตก็ตัดสินใจยอมขอร้องให้รสามาตรวจเลือด ศศิกานต์ดีใจ ผิดกันกับวรรณฤดีที่ออกตัวคัดค้านเต็มที่ แต่ 1 เสียงคัดค้านของวรรณฤดีก็ไม่สำเร็จ ตั้งแต่คุณเฉลิมป่วย รสาไปเยี่ยมคุณเฉลิมบ่อยครั้ง เห็นสภาพของคุณเฉลิมที่ทรุดโทรมลงผิดตา ตอนนี้เธอไม่ต้องการอะไรจากคุณเฉลิมอีกแล้ว ไม่ต้องการให้คุณเฉลิมไปขอโทษแม่ก็ได้ ขอเพียงแต่ให้คุณเฉลิมหายดีก็พอ

วรรณฤดีเริ่มหาทางออกให้กับตัวเองด้วยการบังคับให้ธัชชัยไปตรวจว่าเป็นหมันหรือเปล่า เพราะเขากับเธอไม่มีหลานให้พ่อเสียที เฉลิมเคยบอกว่าถ้าวรรณฤดีมีหลานชายให้พ่อ พ่อจะแบ่งมรดกให้หลานมากกว่าใครแน่นอน วรรณฤดีขู่ว่าถ้าธัชชัยเป็นหมันเธอจะเลิกกับเขา ธัชชัยอึ้งที่รู้ว่าวรรณฤดีเห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้ได้ครอบครองมรดกทั้งหมดเท่านั้น มนัสมาสมัครงานเป็นยามที่บริษัทของชานนท์ ต่อมามนัสเอาแหวนที่ขโมยไปมาขายชานนท์เพื่อหาทางรอดจากเจ้าหนี้ ชานนท์จึงรู้ว่านี่คือหลักฐานที่รสาเคยบอกว่ามีแต่ไม่รู้ทำไมไม่เคยนำมาแสดง ชานนท์เอาแหวนให้คุณเฉลิมดู เฉลิมเห็นแหวนก็จำได้ เขากล้ายอมรับกับชานนท์ว่าเคยหลอกหลวงสุภาจริง มาถึงตอนนี้เฉลิมละอายใจมาก แต่แม้รสามีแหวนก็ไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นลูกของเฉลิมเปล่า แต่อย่างน้อยทั้งสองคนเริ่มมองรสาในแง่ดีขึ้นว่าเธอไม่ได้พูดลอย ๆ เรื่องเฉลิมทำผิดต่อสุภา

เมื่อรสารู้ว่ามนัสเอาแหวนไปขายชานนท์ รสาไปขอซื้อแหวนคืน แต่เธอบอกว่ายังไม่มีเงินก้อนครบแสนตอนนี้ ชานนท์ให้แหวนมาก่อน และบอกรสาว่าคุณเฉลิมเห็นแหวนแล้ว รสาจึงเข้าใจว่าเพราะเหตุใดที่เธอไปเยี่ยมท่านระยะหลัง ๆ ท่านจึงดีกับเธอขึ้นมาก รสามองเพชรที่แหวนแล้วคิดถึงแม่มากคิดถึงสภาพจิตใจแม่ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ที่ต้องอุ้มท้องลูกของชายอื่นโดยบอกสามีไม่ได้ ความกดดันในใจทำให้รสาหน้ามืดวูบ ชานนท์เข้าประคองเธอไว้ทันก่อนที่จะล้ม ศศิกานต์ซึ่งจะเข้ามาในห้องเห็นเข้าพอดี เธอรีบปิดประตูไปอย่างเงียบเชียบ บัดนี้ ศศิกานต์แน่ใจแล้วว่าชานนท์รักรสาแน่นอน

อภิรักษ์ทำใจได้เรื่องรสาไม่รับรักและขอเป็นเพื่อนที่ดีของรสา นัดเธอไปทานข้าวกับคุณกัลยา และพาคุณพาณิชไปด้วย คุณกัลยากับคุณพาณิชได้เจอกัน โดยคุณกัลยาไม่รู้ตัวล่วงหน้า เธออึ้งไปเหมือนกันเมื่อเจอสามีเก่า ความผูกพันใดอื่นของคุณพาณิชต่อคุณกัลยาไม่มีแล้ว นอกจากความห่วงใยว่าเธอจะลำบาก เมื่อทานอาหารเสร็จ พาณิชเซ็นเช็คจ่ายเงินให้คุณกัลยาไปหนึ่งแสนบาท ชานนท์รู้ดีทุกอย่างว่าแม่ต้องการอะไร และเขาก็พิสูจน์ให้รสาเห็นความจริงด้วยการพารสาไปบ้านแม่ ทำให้รสาก็ได้รู้ความจริงด้วยตนเองว่า แท้ที่จริงแล้วคุณกัลยามิได้อาลัยอาวรณ์กับลูก ๆ หรือสามีเก่าเลย เธอต้องการเพียงเงินจุนเจือตัวเองและนายอรุณที่เธอรักมากเท่านั้น

รสาเข้าใจชานนท์มากขึ้น แต่เธอก็ยังยืนยันว่า ลูกควรกตัญญูต่อแม่บังเกิดเกล้า ชานนท์ว่ารสาคงอยากเห็นเขาเป็นคนโง่ เขาทำไม่ได้ รสาพยายามพูดโน้มน้าวจิตใจชานนท์ ในขณะเดียวกัน รสาและชานนท์ต่างเปิดใจตนเองต่อกัน และรู้ว่าต่างฝ่ายต่างรักกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำรัก ชานนท์รู้สึกผิดต่อศศิกานต์อย่างมาก อภิรักษ์บอกชานนท์ว่าเขาจะรับคุณกัลยามาที่บ้าน และคาดว่าชานนท์ต้องต่อต้านแน่ แต่ผิดคาด ชานนท์ยินยอม อภิรักษ์แน่ใจทันทีว่าเป็นเพราะรสาที่ทำให้ชานนท์เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

อภิรักษ์เจอกับศศิกานต์โดยบังเอิญ จึงได้รู้จากศศิกานต์ว่าชานนท์กับรสารักกัน ศศิกานต์แม้จะเจ็บปวด แต่เห็นด้วยกับอภิรักษ์ว่าควรยินดีกับทั้งสอง ทั้งคู่ตั้งใจว่าจะร่วมมือกันทำให้รสากับชานนท์สมหวัง ธัชชัยเป็นหมันจริง แต่ไม่กล้าบอกวรรณฤดี นุกูลเลยวางแผนสลับเชื้อของเขากับธัชชัย ในวันที่วรรณฤดีกับธัชชัยไปทำกิฟต์ เพราะหวังจะได้ส่วนแบ่งมรดก วรรณฤดีตั้งท้องดั่งหวัง จึงคาดคั้นเฉลิมให้เซ็นพินัยกรรมยกสมบัติให้หลานมากกว่าใคร ผลตรวจเลือดของรสาออกมาแล้ว เธอเป็นลูกของคุณเฉลิมจริง และยังสามารถเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิมได้ด้วย ตอนแรกคุณเฉลิมไม่ยอมเปลี่ยนไต เพราะไม่ต้องการเอาเปรียบรสาไปมากกว่านี้ แต่รสากลับพูดจนคุณเฉลิมยอม ศศิกานต์ดีใจต่อน้องสาว ส่วนวรรณฤดีอาละวาดกับคุณเปรมจิตราวบ้าคลั่ง

มนัสเมื่อรู้ว่ารสาเป็นลูกของคุณเฉลิมจริงก็ไปหาคุณเฉลิมที่โรงพยาบาล บอกว่าเขาเป็นคนเสียสละไม่ได้เรียนหนังสือเพื่อให้รสามีอนาคต คุณเฉลิมใจอ่อนเซ็นเช็คไปให้ รสารู้เข้าไปต่อว่ามนัสให้เอาเงินมาคืน แต่มนัสใช้ไปหมดแล้ว รสาจึงมาขอร้องไม่ให้คุณเฉลิมทำแบบนี้ แต่คุณเฉลิมบอกว่าจะออกทุนให้มนัสกับอรทัยเปิดร้านขายของชำจะทำได้พึ่งตัวเองได้ วันเผาสุภา คุณเฉลิมมาขออโหสิและขอให้สุภายกโทษให้สัญญาว่าจะดูแลรสาต่อไปอย่างดีที่สุด แล้วให้รสาเรียกเขาว่าพ่อ รสาปลื้มใจจนต้องร้องไห้ออกมาในที่สุดเธอก็กู้ศักดิ์ศรีให้แม่สำเร็จ วรรณฤดีรับไม่ได้กลัวพ่อเปลี่ยนใจแบ่งสมบัติให้รสา จึงคิดกำจัดรสาก่อนผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิม นุกูลส่งลูกน้องไปวางระเบิดร้านรสา วันที่ร้านระเบิดชานนท์มารับรสาไปข้างนอก รสาจึงรอดหวุดหวิด แต่มธุรสอยู่ร้านจึงโดนระเบิดบาดเจ็บสาหัส ตำรวจสาวมาถึงตัวนุกูล เขาซัดทอดต่อมาถึงธัชชัยและวรรณฤดี และแฉเรื่องธัชชัยเป็นหมัน วรรณฤดีถึงกับช็อก ผิดหวังทุกเรื่อง จนคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองจนเสียลูกต้องเข้าโรงพยาบาลโรคจิต ธัชชัยและนุกูลเองต่างก็ต้องรับกรรมในคุก

รสาผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิม เมื่อฟื้นขึ้นคนแรกที่รสาเห็นหน้าคือชานนท์ ซึ่งนั่งเฝ้าเธอตลอดเวลา เขาขอเธอแต่งงาน รสา บงกช มธุรสซ่อมร้านแล้วเปิดใหม่ ชานนท์ให้อภัยกัลยาได้ เขายอมพารสา อภิรักษ์ และพาณิช ไปกินข้าวกับกัลยาบ่อย ๆ และให้เงินเดือนกัลยาใช้จ่าย โดยกัลยาก็ยังอยู่กินกับอรุณเหมือนเดิม ชานนท์ขอบคุณรสา เขาเข้าใจแล้วว่าโลกนี้ไม่ได้มีแต่ด้านที่โหดร้าย เขาจะไม่ยอมให้อคติใด ๆ มาบังตาจนเกือบทำให้ชีวิตต้องจมอยู่แต่ในความทุกข์อีกต่อไปแล้ว

บทประพันธ์โดย : โสภี พรรณราย
กำกับการแสดงโดย : ปัญญา ชุ่มฤทธิ์
ผลิตโดย : บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด

นักแสดง
อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท ชานนท์
พีชญา วัฒนามนตรี รับบท รสา
ตากเพชร เลขาวิจิตร รับบท อภิรักษ์
กวิตา รอดเกิด รับบท ศศิกานต์
ธัญสินี พรมสุทธิ์ รับบท วรรณฤดี
สันติสุข พรหมศิริ รับบท เฉลิม

ลูกไม้ไกลต้น เป็นละครโทรทัศน์ไทยแนวดราม่า จากบทประพันธ์ของ โสภี พรรณราย ถูกนำมาสร้างเป็นละครทาง ช่อง 7 ถึงสองครั้ง ซึ่งได้รับความนิยมทั้งคู่

ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2543 ผลิตโดย บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด บทโทรทัศน์โดย ศัลยา กำกับการแสดงโดย สุชาติ ทับแป้น ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 – 22.20 น. เริ่มฉายครั้งแรกวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2543 – 1 ตุลาคม พ.ศ. 2543 นำแสดงโดย แอนดริว เกร้กสัน, สุวนันท์ คงยิ่ง

และถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2559 ผลิตโดย บริษัท มีเดีย สตูดิโอ บทโทรทัศน์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ กำกับการแสดงโดย ปัญญา ชุ่มฤทธิ์ เริ่มฉายครั้งแรกวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 นำแสดงโดย อรรคพันธ์ นะมาตร์, พีชญา วัฒนามนตรี