ผู้เขียน: lakornthai

ทุกชีวิตมีดางดาวแห่งความรักนำทาง ดาวปรากฏยามเช้า ละลายใจเหน็บหนาวให้อบอุ่น ดั่งดาวส่องนำความดีฟ้ากว้างครอบคลุมเขาสูง แต่งแต้มแสงจากดวงดาวยามเช้า สวยราวภาพฝัน แต่ชีวิตไม่ได้งดงามเช่นนี้เสมอ เมื่อวันท้องฟ้าหม่นมืดทะมึน เขาสูงลดลงต่ำเตี้ย ดวงดาวไร้แสงสุกสว่าง เพราะกิเลส ฟ้ากว้าง เขาสูง ดวงดาว ฟาดฟันกระหน่ำใส่กัน หนึ่งชีวิตต้องถูกลบหายไป

เรื่องราวความรักระหว่างพี่น้อง ที่เป็นคู่ปรับสุดกวน “ ชล” เด็กหนุ่มสุดน่ารักจากชมรมถ่ายภาพ และ “ปราบ” หนุ่มมีเสน่ห์จากชมรมดนตรี
ซึ่งวันนึงต้องกลายมาเป็นพี่น้องต่างสายเลือดในครอบครัวเดียวกัน

..เมื่อความรักของ ปุริม และ โรส แปรสภาพจากกุหลาบสีหวานแห่งรสรัก
…กลายเป็นกุหลาบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยหนามแหลมแห่งความเจ็บปวด…
…เขาเก็บความรู้สึกทรมานของหนามแหลมที่ทิ่มแทงใจเอาไว้ตลอดหลายปี…
….เพาะบ่มเป็นเกสรแห่งความชอกช้ำหลอมรวมเป็นน้ำผึ้งรสขมที่พร้อมจะทำร้ายศัตรู
…จนกระทั่งได้พบกับ กังสดาล ลูกสาวของโรส…
…ปุริมไม่รอช้าที่จะหยิบเอาหนามแหลมที่อาบน้ำผึ้งในอดีตออกมาเป็นอาวุธในการแก้แค้นสองแม่ลูกในทันที…

ผู้หญิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่สวยงาม กลิ่นหอมของมันช่างยั่วยวน ทำให้หนุ่ม ๆ บินเข้าหา แต่หากดอกไม้ที่สวยงามนั้นเป็น ดอกงิ้ว ที่มีหนามแหลมมีพิษร้าย สามารถทิ่มแทงหัวใจคนให้บาดเจ็บสาหัสได้ หากไม่มีสติยั้งคิด ปล่อยให้อารมณ์ และกิเลสตัณหาที่เกิดจากความหอมของดอกงิ้วเข้าครอบงำ ย่อมต้องพบกับความเดือดร้อน ทั้งตัวเองและคนรอบข้าง หากไม่รีบถอนตัว จุดจบของเรื่องคาวโลกีย์นี้ คงหนีไม่พ้น นรก

เพลย์บอยหนุ่มผู้เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะถูกผู้หญิงปฏิเสธ มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นยังเป็นเลขาฯ ของเขาเอง เขาจึงวางแผนจะพิชิตหัวใจหล่อนให้ได้ ทว่าระหว่างที่ความรักกำลังจะลงตัวนั้น อุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้นกับพี่สาวของเขาในอดีต และเกี่ยวโยงถึงเลขาฯ สาว เพลย์บอยหนุ่มจะรับมืออย่างไร

“หนูเคยได้ยินคำว่าบุพเพสันนิวาสไหมลูก บุพเพสันนิวาสนั้นเกิดได้สองอย่าง คือเคยทำกรรมร่วมกันมาในชาติที่แล้วหนึ่ง กับเคยทำกรรมร่วมกันในชาตินี้หนึ่ง..แต่มันเดายากนะลูก” ทองตรา (รณิดา เตชสิทธิ์) เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโท มาจากอเมริกา กำลังนั่งฟังพ่อปาฐกถา เรื่องบุพเพสันนิวาส ที่เธอไม่ค่อยจะเชื่อถือสักเท่าไหร่ และผู้หญิงยุคใหม่อย่างทองตรา ที่เติบโตมาด้วยการช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้คิดจะพึ่งพาใคร และให้ความสนใจเรื่องผู้ชายสักเท่าใดนัก

ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมสังคมให้ช่วยกันปกป้องดูแลเด็กและสตรี เมื่อสี่สาวที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว ต้องมารวมตัวกันปราบวายร้ายที่เป็นภัยต่อเด็กและสตรี ในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาจากเมืองนอกของ ภูวัช ลูกชายสุดรักสุดหวงของ สุรวิช เจ้าพ่อคลับ ผับ และคอมเพล็กเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คนดัง มีนางแบบ ดารา ไฮโซ จำนวนมากมาร่วมงาน ท่ามกลางนักข่าวหลายสิบคน จิดาภา ลูกสาวบุญธรรมของสุรวิช สวมเพชรเม็ดใหญ่ราคานับสิบล้านบาทเดิน แฟชั่นโชว์อวดความร่ำรวยของเจ้าของงาน ระหว่างนั้นไฟก็ดับพรึบลงคนร้ายฉวยโอกาส เข้ามาปล้นเพชร

เมื่อการทวงความยุติธรรมให้ครอบครัวของ ลุย ไปเกี่ยวพันกับสมบัติล้ำค่าที่ทุกคนตามหา อีกทั้ง นิตยา เพื่อนวัยเด็กของเขา ก็ได้รับภารกิจให้ตามหาเหรียญทองที่หายไป ทั้งคู่จึงต้องร่วมมือกันเพื่อคลายปมในอดีตบางอย่าง ท่ามกลางเงามืดของผู้มีอิทธิพลและศัตรูที่มองไม่เห็น เพื่อเผยความลับที่ซ่อนอยู่ใน ‘ปริศนาเหรียญครึ่งซีก’

แดนไทย คือสายลับรัฐบาลที่ปกปิดตัวตนที่แท้จริงในคราบของสมุนของกัมปนาท เจ้าพ่อเมืองเหนือผู้ทรงอิทธิพลและประกอบธุรกิจผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมถึงหากินทางการค้าอาวุธให้กับพวกชนกลุ่มน้อยทางฝั่งพม่า เขามีฝีมือในการต่อสู้ทุกรูปแบบจนเป็นที่ครั่นคร้ามของเหล่านักเลงร้ายทั่วทุกหัวระแหง

เรื่องราวของ เพชร พญาไพร (พ้อยท์ ชลวิทย์) พรานหนุ่มผู้มีคาถาอาคม และเก่งกาจในเรื่องต่อสู้ได้ถูกว่าจ้างจาก คุณจันทร์ (เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน) สาวสวยจากพระนคร ให้ช่วยนำทาง ออกตามหาพ่อที่พลัดหลงเข้าไปในเมืองขวางทะบุรี เมืองลับแลในตำนานซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในป่าดงพญาเย็น โดยมี สร้อย (ชาร์เลท วาศิตา) สาวสวยลึกลับฉายาหมอเทวดา อาสาร่วมเดินทางไปกับขบวนคาราวานด้วย