ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556 ณ มุมหนึ่งของสยามประเทศ ปีพุทธศักราช ๒๕๐๓ แดนดินถิ่นอีสานที่เคยสงบเงียบพลันกลายเป็นสมรภูมิแห่งหัวใจ เมื่อ “หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ จุฑาเทพ” สุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ ตัดสินใจทิ้งกรุงเทพฯ เบื้องหลังภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง มาสู่หนองคาย ดินแดนแห่งความลับที่โอบอุ้มชะตากรรมของหญิงสาวบ้านป่าผู้หนึ่งไว้ “สร้อยฟ้า” ผู้ซึ่งซ่อนเร้นฐานะอันสูงส่งไว้ภายใต้ความเรียบง่าย บัดนี้ ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาจากเวียงพูคำ พร้อมกับเปลวไฟแห่งรักที่กำลังโหมกระหน่ำท่ามกลางภารกิจกู้บัลลังก์ที่เดิมพันด้วยชีวิตและหัวใจ

ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556 ละครแนวโรแมนติกดราม่าพีเรียด ในปี พ.ศ. 2503 “หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ จุฑาเทพ” หรือ คุณชายเล็ก แห่งวังจุฑาเทพ วิศวกรหนุ่มอนาคตไกลที่มีนิสัยรักอิสระและเจ้าสำราญ ตัดสินใจหนีการดูตัวที่”หม่อมย่าเอียด” (จารุวรรณ ปัญโญภาส) จัดการให้กับ”หม่อมหลวงศินีนุช เทวพรหม” (พิมพ์ทอง วชิราคม) เพื่อสานต่อคำมั่นสัญญาของหม่อมเจ้าวิชชากร พระบิดา ที่ต้องการดองกับตระกูลเทวพรหม รัชชานนท์วางแผนกับคุณชายรณพีร์ (เจมส์ มาร์) น้องชายคนสนิท หนีไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธาที่จังหวัดหนองคายโดยไม่บอกใคร สร้างความโกลาหลให้วังจุฑาเทพ

ที่หนองคาย รัชชานนท์ได้พบกับ “จันทา” สาวบ้านป่าลูกสาวของพรานเจ้ย และช่วยเธอจากทหารเวียงพูคำที่ข่มเหง ระหว่างทำงานสร้างถนนในพื้นที่ป่า เขาได้รู้จัก “สร้อยฟ้า” หญิงสาวชาวป่าที่ต่อมาเปิดเผยว่าเป็น เจ้าหญิงสร้อยฟ้า พระขนิษฐาของเจ้าชายรังสิมันตุ์แห่งเวียงพูคำ ซึ่งสูญเสียบัลลังก์ให้กับนายพลเซกองเมื่อ 15 ปีก่อน ชาวเวียงพูคำจำนวนมากอพยพมาอยู่ในไทย และนายพลเซกองยังคงตามล่าเจ้ารัชทายาทเพื่อป้องกันการกู้บัลลังก์

ความรักระหว่างรัชชานนท์และสร้อยฟ้าค่อยๆ ก่อตัวท่ามกลางความขัดแย้ง อิจฉา และริษยาจากผู้คนรอบข้าง รวมถึงอุปสรรคจากความแตกต่างทางชนชั้นและสถานการณ์ทางการเมือง เรื่องราวซับซ้อนขึ้นเมื่อรัชชานนท์บาดเจ็บและได้รับการดูแลจากจันทาและสร้อยฟ้า ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิดจนต้องแต่งงานตามประเพณีท้องถิ่นเมื่อพ่อใหญ่เห็นทั้งคู่ในสถานการณ์ที่ดูไม่เหมาะสม

ในขณะเดียวกัน “หม่อมราชวงศ์ชัชวีร์” ถูกเปิดเผยว่าเป็นเจ้ารัชทายาทแห่งเวียงพูคำ ซึ่งทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย รัชชานนท์และพี่น้องคุณชาย (ยกเว้นคุณชายปวรรุจ) ตัดสินใจช่วยชัชวีร์กู้บัลลังก์ โดยร่วมมือกับคณะยูเนสโก แต่ภารกิจนี้เต็มไปด้วยอันตราย เมื่อทั้งหมดถูกทหารเวียงพูคำจับตัวที่สนามบิน รัชชานนท์ใช้โอกาสสุดท้ายสารภาพรักกับสร้อยฟ้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ สุดท้าย ความรักและความกล้าหาญของรัชชานนท์นำไปสู่การกู้บัลลังก์ให้เวียงพูคำ และเขาค้นพบว่า สร้อยฟ้า ผู้ที่เขาเห็นเป็นเพียงสาวชาวป่าคือเพชรอันล้ำค่าที่สุดในชีวิต

สารบัญละคร

คุณชายรัชชานนท์ ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยพล็อตที่ผสมผสานความรักและการผจญภัย รวมถึงเคมีระหว่างธนินและณฐพรที่ทำให้ผู้ชมจับจิต แม้ในชีวิตจริงทั้งคู่จะไม่ถูกจับคู่จิ้นเนื่องจากณฐพรมีคู่รักแล้ว ละครเรื่องนี้ยังส่งผลให้ชื่อตัวละครในซีรีส์ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ถูกใช้ตั้งชื่อเด็กเกิดใหม่กว่า 1,000 คนในช่วงนั้น ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร

จุดเริ่มต้น: การหนีดูตัวและการผจญภัยที่หนองคาย
ในปี พ.ศ. 2503 หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ จุฑาเทพ (ธนิน มนูญศิลป์) หรือ คุณชายเล็ก วิศวกรหนุ่มแห่งวังจุฑาเทพ มีนิสัยรักอิสระและเจ้าสำราญ ถูก หม่อมย่าเอียด (จารุวรรณ ปัญโญภาส) จัดการให้ดูตัวกับ หม่อมหลวงศินีนุช เทวพรหม (พิมพ์ทอง วชิราคม) เพื่อสานต่อคำมั่นสัญญาของ หม่อมเจ้าวิชชากร พระบิดา ที่ต้องการให้ตระกูลจุฑาเทพและเทวพรหมผูกสัมพันธ์กัน รัชชานนท์ไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่ง จึงวางแผนหนีไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธาที่จังหวัดหนองคาย โดยร่วมมือกับ หม่อมราชวงศ์รณพีร์ (เจมส์ มาร์) น้องชายคนสนิท การหนีครั้งนี้ทำให้วังจุฑาเทพวุ่นวาย โดยเฉพาะหม่อมย่าเอียดและ ย่าอ่อน (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ที่ผิดหวังอย่างมาก

เมื่อมาถึงหนองคาย รัชชานนท์ได้พบกับ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) สาวบ้านป่าลูกสาวของ พรานเจ้ย (เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์) ขณะช่วยเธอจากทหารเวียงพูคำที่ข่มเหง รัชชานนท์ ซึ่งชื่นชอบการถ่ายภาพและเดินป่า ขอให้พรานเจ้ยพาไปสำรวจป่า โดยมีจันทาร่วมเดินทางด้วย การเดินทางครั้งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเขา เมื่อทั้งสามถูกกลุ่มทหารเวียงพูคำตามล้างแค้น พรานเจ้ยเสียชีวิตเพื่อปกป้องจันทา ส่วนรัชชานนท์และจันทาได้รับบาดเจ็บ ก่อนตาย พรานเจ้ยมอบสร้อยรูปพระจันทร์ให้จันทา เพื่อให้เธอตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง

การพบสร้อยฟ้าและหมู่บ้านวลาหก
รัชชานนท์และจันทาได้รับการช่วยเหลือจาก สร้อย (ณฐพร เตมีรักษ์) สาวบ้านป่ากับ จ่อย (พงศกร เมตตาริกานนท์) เพื่อนสนิทของเธอ ทั้งคู่พาพวกเขาไปรักษาตัวที่ หมู่บ้านวลาหก ซึ่งเป็นหมู่บ้านลี้ภัยของชาวเวียงพูคำที่อพยพมาจากราชอาณาจักรเวียงพูคำหลังถูก นายพลเซกอง โค่นล้มบัลลังก์ของ เจ้าหลวงสุริยวงศ์ เมื่อ 15 ปีก่อน ที่หมู่บ้านนี้ รัชชานนท์ได้พบกับ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ผู้นำหมู่บ้าน และ แม่เฒ่า (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ผู้ทำนายว่า รัชชานนท์คือผู้ที่ทำนายไว้ว่าจะทำลาย “มนต์หมอก” ซึ่งปกป้องหมู่บ้านวลาหก สร้อยจึงพยายามขับไล่รัชชานนท์ออกจากหมู่บ้าน แต่พ่อใหญ่สั่งให้ดูแลเขา เพราะเชื่อว่าเขาจะนำสิ่งสำคัญกลับคืนสู่ชาวเวียงพูคำ การตัดสินใจนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ไกรสอน (ศักราช ฤกษ์ธำรง) และ แฮรี่ (โอริเวอร์ บีเวอร์) คนสนิทของพ่อใหญ่

ในขณะเดียวกัน ที่วังจุฑาเทพ หม่อมราชวงศ์ธราธร (ศรราม เทพพิทักษ์) และ หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร (ปรมะ อิ่มอโนทัย) ได้รู้ว่ารัชชานนท์หายตัวไปในป่า จึงตัดสินใจตามหา พร้อมกับศินีนุชที่ยืนยันจะไปด้วย ด้วยการสนับสนุนจากย่าอ่อนและการบีบคั้นจาก คุณหญิงดารณีนุช (วรนุช ภิรมย์ภักดี) แม่ของศินีนุช ส่วนรณพีร์และ หม่อมหลวงชัชวีร์ (จรณ โสรัตน์) ออกเดินทางล่วงหน้า โดยมี พรานเกิ้น พรานป่าปลดเกษียณนำทาง

ความรักและความเข้าใจผิด
ที่หมู่บ้านวลาหก รัชชานนท์รู้สึกผิดที่ทำให้พรานเจ้ยเสียชีวิตและจันทาต้องสูญเสียที่พึ่ง จึงตัดสินใจขอจันทาแต่งงานเพื่อรับผิดชอบและพาเธอไปอยู่ที่พระนคร จันทาแม้จะรู้สึกต่ำต้อย แต่ก็เริ่มหวั่นไหว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อสร้อยกลุ้มใจที่พ่อใหญ่สั่งให้เธอออกจากหมู่บ้านพร้อมรัชชานนท์ เพื่อหนีการตามล่าจากทหารเวียงพูคำที่กำลังใกล้เข้ามา เธอมาปรึกษารัชชานนท์ที่เรือนตอนกลางคืน รัชชานนท์ปลอบใจโดยเผลอกอดสร้อย ไกรสอนและแฮรี่เห็นทั้งคู่ในสถานการณ์ที่ดูไม่เหมาะสม พ่อใหญ่จึงตัดสินให้ทั้งคู่แต่งงานกันตามประเพณีท้องถิ่น เพื่อปกป้องเกียรติของสร้อย มิฉะนั้นทั้งคู่จะถูกลงโทษรุนแรง การแต่งงานนี้ทำให้จันทาเสียใจอย่างมาก รัชชานนท์จึงขอให้จันทาเป็นน้องสาวเพื่อดูแลเธอตลอดไป

การรวมตัวของพี่น้องจุฑาเทพ
ธราธร พุฒิภัทร รณพีร์ และชัชวีร์ รวมตัวกันในป่าเพื่อตามหารัชชานนท์ โดยศินีนุชถูกทิ้งไว้ที่แคมป์ชายป่าเพราะเป็นภาระ เมื่อพบรัชชานนท์ พี่น้องดีใจที่ได้เจอกัน แต่ช็อกเมื่อรู้ว่าเขแต่งงานกับสร้อยแล้ว ชัชวีร์ขอให้สร้อยปิดเรื่องการแต่งงานไว้ก่อนจนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันศินีนุชโวยวาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่

พ่อใหญ่สั่งให้สร้อยเดินทางไปกรุงเทพฯ กับรัชชานนท์ โดยมีภารกิจตามหา เจ้ารังสิมันตุ์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งเวียงพูคำ จ่อยและจันทาก็ยอมไปด้วย รัชชานนท์จดทะเบียนสมรสกับสร้อยอย่างเป็นทางการเพื่อป้องกันหม่อมย่าเอียดปฏิเสธสร้อย เมื่อถึงกรุงเทพฯ หม่อมย่าเอียดและย่าอ่อนถึงกับช็อกที่รัชชานนท์แต่งงานโดยไม่บอกกล่าว และไม่พอใจที่สร้อยเป็นสาวบ้านป่าไร้กิริยามารยาท จึงให้โอกาสสร้อยหนึ่งเดือนเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเป็น “แม่ศรีเรือน” สร้อยพยายามทำอาหาร (ข้าวต้มมัด) เพื่อให้ย่าทั้งสองชิม แต่คุณชายแอบสับเปลี่ยนเป็นขนมจากร้าน หม่อมหลวงเกษรา สร้อยรู้ความจริงจึงสารภาพ ทำให้ย่าทั้งสองเห็นความซื่อสัตย์ของเธอและลงโทษเหล่าคุณชาย

ความจริงเกี่ยวกับเวียงพูคำ
รัชชานนท์อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการประท้วงในราชอาณาจักรเวียงพูคำ ซึ่งนายพลเซกองปกครองอย่างเผด็จการ ชาวบ้านต้องการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ภายใต้เจ้าหลวงสุริยวงศ์ ซึ่งถูกจับตัวไป เขาสังเกตว่ารูปเจ้าหลวงสุริยวงศ์คือพ่อใหญ่ และตระหนักว่าสร้อยอาจเป็น เจ้าหญิงสร้อยฟ้า พระขนิษฐาของเจ้ารังสิมันตุ์ แต่เขาปิดเรื่องนี้เป็นความลับเพื่อป้องกันสร้อยวู่วาม

ในงานเลี้ยงต้อนรับคณะยูเนสโก ซึ่งหารือเรื่องวิกฤตเวียงพูคำ สร้อยเข้าร่วมในฐานะพลเมืองเวียงพูคำ และทำให้ทุกคนประทับใจด้วยความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ รวมถึงการซักถามเรื่องการเมืองอย่างเฉลียวฉลาด แม้ทุกคนจะเคยมองว่าเธอเป็นเพียงสาวบ้านป่า

การเปิดเผยตัวตนและภารกิจกู้บัลลังก์
ความจริงเปิดเผยว่า หม่อมหลวงชัชวีร์ เทวพรหม คือ เจ้ารังสิมันตุ์ เจ้าชายรัชทายาทที่หายสาบสูญไปเมื่อ 18 ปีก่อน หลังถูก เจ้าส่องดาว พระสหายของเจ้าหลวงสุริยวงศ์ นำมาฝากเลี้ยงไว้กับ หม่อมราชวงศ์อนุพันธ์ ชัชวีร์ตระหนักถึงหน้าที่กู้บัลลังก์เพื่อช่วยพระบิดา รัชชานนท์จึงเปิดเผยว่าสร้อยคือเจ้าหญิงสร้อยฟ้า ซึ่งตัวเธอเองไม่เคยรู้มาก่อน ทำให้สองพี่น้องได้พบกันครั้งแรก

คุณชายทั้งสี่ (ยกเว้น หม่อมราชวงศ์ปวรรุจ ที่ไม่อยู่) ตัดสินใจช่วยชัชวีร์กู้บัลลังก์ พวกเขาเดินทางไปเวียงพูคำพร้อมคณะยูเนสโก แต่ถูกทหารของนายพลเซกองดักจับที่สนามบิน รัชชานนท์ใช้โอกาสสุดท้ายสารภาพรักกับสร้อยฟ้า โดยไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ ทั้งคู่ยอมรับความรักต่อกันอย่างเปิดเผย

จุดพลิกผันและบทสรุป
ปรากฏว่าผู้ที่จับตัวคือคนของ หม่อมราชวงศ์ปวรรุจ (เกรท วรินทร) ซึ่งรู้ว่านายพลเซกองได้รับแจ้งเรื่องการมาของเจ้ารังสิมันตุ์ จึงวางแผนช่วยทุกคนไว้ก่อน การประท้วงครั้งใหญ่ในเวียงพูคำเกิดขึ้น คุณชายทั้งห้าช่วยชัชวีร์กู้บัลลังก์สำเร็จ ชัชวีร์และสร้อยฟ้าได้รับการสถาปนาเป็น เจ้ารังสิมันตุ์ และ เจ้าหญิงสร้อยฟ้า อย่างสมเกียรติ

อย่างไรก็ตาม รัชชานนท์รู้สึกต่ำต้อยเมื่อสร้อยฟ้ากลายเป็นเจ้าหญิง ด้วยความเมามาย เขาฉีกทะเบียนสมรสและหนีกลับกรุงเทพฯ สองเดือนต่อมา สร้อยฟ้าสละตำแหน่งเจ้าหญิง กลับมาหารัชชานนท์พร้อมสำเนาทะเบียนสมรสใหม่ และยืนยันจะอยู่กับเขา หม่อมย่าเอียดและย่าอ่อน ซึ่งเคยดูถูกสร้อย ตระหนักถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของเธอ และยอมรับเธอในฐานะสะใภ้ สร้อยฟ้าและรัชชานนท์แต่งงานกันอย่างมีความสุข

คุณชายรัชชานนท์ ได้รับความนิยมอย่างมากจากเคมีของธนินและณฐพร รวมถึงพล็อตที่ผสมผสานความรักและการผจญภัย ละครเรื่องนี้ส่งผลให้ชื่อตัวละครในซีรีส์ถูกนำไปตั้งชื่อเด็กเกิดใหม่จำนวนมาก เรื่องราวของรัชชานนท์และสร้อยฟ้าต่อเนื่องใน ดวงใจเทวพรหม เรื่อง ลออจันทร์ ซึ่งเล่าถึง หม่อมหลวงภูธเนศ ลูกชายของทั้งคู่ ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เนื้อเรื่องที่หลากหลายและน่าติดตาม
ละครเรื่องนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานหลายแนวอย่างลงตัว ตั้งแต่ความรักหวานซึ้ง การผจญภัยในป่า การเมืองระหว่างประเทศ ไปจนถึงการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ เรื่องราวเริ่มจาก หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ หรือ คุณชายเล็ก ที่หนีการดูตัวไปหนองคาย และได้พบกับ สร้อยฟ้า สาวบ้านป่าที่แท้จริงคือเจ้าหญิงแห่งเวียงพูคำ การเล่าเรื่องมีการหักมุม เช่น การเปิดเผยตัวตนของสร้อยฟ้าและ หม่อมหลวงชัชวีร์ (จรณ โสรัตน์) ว่าเป็นเจ้ารัชทายาท ทำให้พล็อตมีความเข้มข้นและชวนลุ้น การนำประเด็นการเมืองของราชอาณาจักรสมมติ เวียงพูคำ มาผสมกับบริบทยุค พ.ศ. 2503 ทำให้เรื่องราวมีมิติและแปลกใหม่ แตกต่างจากละครพีเรียดทั่วไปที่เน้นเรื่องรักในวัง

เคมีนักแสดงนำที่ลงตัว
→ ธนิน มนูญศิลป์ ถ่ายทอดบทคุณชายเล็กได้อย่างมีเสน่ห์ ทั้งความเจ้าสำราญ รักอิสระ และความกล้าหาญเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์คับขัน การพัฒนาตัวละครจากชายหนุ่มที่หนีความรับผิดชอบไปสู่ผู้นำที่เสียสละทำให้ผู้ชมเอาใจช่วย
→ ณฐพร เตมีรักษ์ ในบทสร้อยฟ้า/เจ้าหญิงสร้อยฟ้า แสดงได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากสาวบ้านป่าที่ดื้อรั้นเป็นหญิงสาวที่สง่างามและฉลาดเฉลียว ฉากที่เธอพูดภาษาอังกฤษในงานเลี้ยงยูเนสโกเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่แสดงศักยภาพของตัวละคร
→ เคมีระหว่างทั้งคู่ทำให้ฉากโรแมนติก เช่น การสารภาพรักท่ามกลางอันตราย หรือการยอมสละตำแหน่งเจ้าหญิงของสร้อยฟ้า ซึ้งและน่าจดจำ

ตัวละครสมทบที่แข็งแกร่ง
→ ตัวละครสมทบ เช่น หม่อมย่าเอียด (จารุวรรณ ปัญโญภาส) และ ย่าอ่อน (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) เพิ่มสีสันด้วยความเข้มงวดและความขบขันในวังจุฑาเทพ
→ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) นำเสนอด้านดราม่าของหญิงสาวที่ต้องเผชิญความสูญเสียและความรักที่ไม่สมหวัง
→ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และ จ่อย (พงศกร เมตตาริกานนท์) เสริมความเข้มข้นให้กับส่วนของการผจญภัยและการเมือง

งานสร้างและฉาก
ฉากในป่าหนองคายและหมู่บ้านวลาหกถ่ายทอดบรรยากาศป่าเขาลำเนาไพรได้สมจริง ผสมกับฉากในวังจุฑาเทพที่หรูหราและงานเลี้ยงยูเนสโกที่ดูทันสมัย สะท้อนยุค 2503 ได้ดี การออกแบบเครื่องแต่งกายเหมาะสมกับตัวละคร โดยเฉพาะชุดของสร้อยฟ้าที่เปลี่ยนจากชุดชาวป่าเรียบง่ายไปสู่ชุดที่สง่างามเมื่อรู้ตัวตนที่แท้จริง

คะแนน 8.5/10 (จาก sence9.com)

คุณชายรัชชานนท์ เป็นละครที่ครบรส ทั้งความรักที่หวานซึ้ง การผจญภัยที่น่าตื่นเต้น และปมการเมืองที่เพิ่มความเข้มข้น การแสดงที่ยอดเยี่ยมของธนินและณฐพร รวมถึงงานสร้างที่ประณีต ทำให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในตอนที่โดดเด่นของซีรีส์ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ จุดด้อยเล็กน้อย เช่น จังหวะการเล่าเรื่องและความสมจริงบางส่วน ไม่ได้ลดทอนความสนุกโดยรวม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบละครพีเรียดที่มีทั้งความรักและแอ็กชัน

ความตื่นเต้นและลุ้นระทึก
ตั้งแต่ฉากแรกที่ หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) หนีการดูตัวไปหนองคาย เรื่องราวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น การผจญภัยในป่าหนองคายและการเผชิญหน้ากับทหารเวียงพูคำทำให้ใจเต้นรัว โดยเฉพาะฉากที่รัชชานนท์และ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) ถูกตามล่า และการช่วยเหลือจาก สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) ในหมู่บ้านวลาหก ฉากแอ็กชันและการหนีภัยในป่าทำให้รู้สึกเหมือนนั่งไม่ติดเก้าอี้

ความหวานซึ้งและอินกับความรัก
ความรักระหว่างรัชชานนท์และสร้อยฟ้าทำให้ใจฟูและซาบซึ้ง การพัฒนาความสัมพันธ์จากความเข้าใจผิดในหมู่บ้านวลาหกไปสู่ความรักที่ลึกซึ้งท่ามกลางอันตรายนั้นชวนให้อินมาก ฉากที่รัชชานนท์สารภาพรักกับสร้อยฟ้าขณะถูกจับตัว หรือตอนที่สร้อยฟ้าสละตำแหน่งเจ้าหญิงเพื่อกลับมาหารัชชานนท์พร้อมทะเบียนสมรสใหม่ เป็นโมเมนต์ที่น้ำตาคลอ เพราะเห็นถึงความเสียสละและความรักที่มั่นคง

ความเศร้าและเห็นใจตัวละคร
ละครมีหลายฉากที่เรียกน้ำตา เช่น การเสียชีวิตของ พรานเจ้ย เพื่อปกป้องจันทา ทำให้รู้สึกสงสารจันทาที่สูญเสียพ่อและต้องเผชิญความเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวัง การที่จันทาต้องยอมรับสถานะเป็น “น้องสาว” ของรัชชานนท์ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเห็นใจ

ความประทับใจในความสามารถของตัวละคร
การได้เห็น สร้อยฟ้า เปลี่ยนจากสาวบ้านป่าที่ดูธรรมดาไปสู่การเป็นเจ้าหญิงที่สง่างามและฉลาดเฉลียว ทำให้รู้สึกทึ่งและชื่นชม ฉากที่เธอพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ ในงานเลี้ยงยูเนสโกเป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกว้าว เพราะแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่แค่สาวบ้านป่า แต่มีความสามารถที่ซ่อนอยู่

ความขบขันและอบอุ่นจากครอบครัวจุฑาเทพ
ฉากในวังจุฑาเทพ โดยเฉพาะการวางแผนหนีดูตัวของรัชชานนท์และรณพีร์ (เจมส์ มาร์) รวมถึงปฏิกิริยาของ หม่อมย่าเอียด และ ย่าอ่อน ที่ช็อกเมื่อรู้ว่ารัชชานนท์แต่งงานแล้ว ทำให้รู้สึกขบขันและอบอุ่น การที่พี่น้องคุณชายทั้งห้ามารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือกันในภารกิจกู้บัลลังก์ยิ่งเพิ่มความรู้สึกถึงความผูกพันในครอบครัว

ความรู้สึกต่อการเมืองและอุดมการณ์
ปมการเมืองของราชอาณาจักรเวียงพูคำและการต่อสู้เพื่อกู้บัลลังก์ของ เจ้าหลวงสุริยวงศ์ ทำให้รู้สึกถึงความมุ่งมั่นและอุดมการณ์ของตัวละคร การที่คุณชายทั้งสี่ รวมถึง คุณชายปวรรุจ (เกรท วรินทร) ร่วมมือกันเพื่อช่วยชัชวีร์กู้บัลลังก์ ทำให้รู้สึกถึงพลังของความสามัคคีและความกล้าหาญ

ละคร คุณชายรัชชานนท์ จะพาคุณผ่านอารมณ์หลากหลาย ตั้งแต่ความตื่นเต้นในฉากผจญภัย ความหวานซึ้งในฉากรัก ความเศร้าในปมดราม่า ไปจนถึงความขบขันจากครอบครัวจุฑาเทพ การแสดงของ ธนิน และ ณฐพร ทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาและน่าจดจำ เพลงประกอบละคร ช่วยยกระดับอารมณ์ให้อินยิ่งขึ้น แม้ว่าบางช่วงจะรู้สึกว่าจังหวะเร็วเกินไปหรือบางปมคลายง่ายเกิน แต่โดยรวมแล้ว ละครเรื่องนี้มอบความบันเทิงที่ครบรสและความประทับใจที่ยาวนาน โดยเฉพาะสำหรับแฟนละครพีเรียดที่ชื่นชอบเรื่องราวความรักและการผจญภัย


ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556

ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556

ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556 EP.1-18 ENDCH3+​​​​​​

ซีน ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556

รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา (ost.สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์) – กัน นภัทร [Official MV]

ละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ 2556

ลองนึกภาพยุค พ.ศ. 2503 นะ เรื่องนี้เริ่มจาก คุณชายรัชชานนท์ หรือ คุณชายเล็ก (รับบทโดย ธนิน มนูญศิลป์ สุดหล่อ) เขาคือหนุ่มวิศวกรจากวังจุฑาเทพ ที่แบบ…ไม่อยากแต่งงานตามที่ หม่อมย่าเอียด (จารุวรรณ ปัญโญภาส) จัดให้กับ หม่อมหลวงศินีนุช (พิมพ์ทอง วชิราคม) เลยชวนน้องชายสุดซี้ รณพีร์ (เจมส์ มาร์) วางแผนหนีไปทำงานที่หนองคายแบบเงียบๆ 😎 แต่บอกเลย วังจุฑาเทพถึงกับวุ่นวายกันยกใหญ่

พอไปถึงหนองคาย คุณชายเล็กเจอ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) สาวบ้านป่าลูกสาว พรานเจ้ย (เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์) ที่ถูกทหารจากเวียงพูคำรังแก คุณชายเลยเข้าไปช่วยแบบเท่ๆ แล้วชวนจันทากับพรานเจ้ยไปเดินป่า ถ่ายรูปชิลๆ แต่เดี๋ยวก่อน ดราม่ามาเลยจ้า 😱 ทหารเวียงพูคำตามมาแก้แค้น เกิดการยิงกันวุ่นวาย พรานเจ้ยสละชีวิตปกป้องจันทา ส่วนคุณชายกับจันทาก็บาดเจ็บ แต่โชคดีที่ สร้อย (ณฐพร เตมีรักษ์) สาวป่าสุดแซ่บ และ จ่อย (พงศกร เมตตาริกานนท์) เพื่อนซี้ของเธอ มาช่วยไว้ พาทั้งคู่ไปรักษาที่ หมู่บ้านวลาหก ซึ่งเป็นที่หลบภัยของชาวเวียงพูคำ

ที่นี่แหละที่เรื่องเริ่มเข้ม สร้อยรู้จาก แม่เฒ่า (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ว่าคุณชายเล็กคือคนที่ทำนายไว้ว่าจะทำลาย “มนต์หมอก” ที่ปกป้องหมู่บ้าน เธอเลยอยากขับไล่คุณชายออกไป แต่ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ผู้นำหมู่บ้าน บอกว่าเดี๋ยวๆ คุณชายคนนี้สำคัญนะ จะนำของล้ำค่ากลับมาให้ชาวเวียงพูคำ สร้อยเลยต้องยอม แต่บอกเลยว่าเธอไม่แฮปปี้เลยจ้า 😤

🔥 ดราม่าพลิกชีวิต
ในขณะเดียวกัน รณพีร์ กับ ชัชวีร์ (จรณ โสรัตน์) รู้ว่ารัชชานนท์หายตัวไปในป่า เลยตามไปช่วย พร้อม ธราธร (ศรราม เทพพิทักษ์) และ พุฒิภัทร (ปรมะ อิ่มอโนทัย) แต่ ศินีนุช คู่ดูตัวของคุณชายก็ขอตามไปด้วย แถม คุณหญิงดารณีนุช (วรนุช ภิรมย์ภักดี) ยังกดดันให้หม่อมย่าเอียดยอม งานนี้เลยวุ่นสุดๆ 😅

ที่หมู่บ้านวลาหก คุณชายเล็กรู้สึกผิดที่ทำให้จันทาเสียพ่อ เลยขอจันทาแต่งงานเพื่อรับผิดชอบ แต่…พล็อตทวิสต์มาเลย สร้อยที่กลุ้มใจเรื่อง พ่อใหญ่ สั่งให้ออกจากหมู่บ้าน ไปปรึกษาคุณชายตอนกลางคืน แล้วเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิด คุณชายเผลอกอดสร้อย แล้ว ไกรสอน (ศักราช ฤกษ์ธำรง) กับ แฮรี่ (โอริเวอร์ บีเวอร์) มาเห็น 😲 พ่อใหญ่เลยสั่งให้ทั้งคู่แต่งงานตามประเพณี ไม่งั้นมีโทษหนัก งานนี้จันทาใจสลายเลย คุณชายเลยขอให้จันทาเป็นน้องสาวแทน

💥 หักมุมสุดพีค
เมื่อพี่น้องคุณชายมาถึง พวกเขาช็อกที่รู้ว่ารัชชานนท์แต่งงานแล้ว แถมต้องปิดบังศินีนุชที่รออยู่ที่แคมป์ชายป่า เพราะกลัวเธอโวยวาย สร้อยเองก็โกรธเมื่อรู้ว่ารัชชานนท์มีคู่หมั้นแล้ว พ่อใหญ่สั่งให้สร้อยไปกรุงเทพฯ กับคุณชาย โดยมีภารกิจต้องตามหา เจ้ารังสิมันต์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งเวียงพูคำ จ่อยกล่อมจันทาให้ไปด้วย และคุณชายจดทะเบียนสมรสกับสร้อยไว้ก่อน กลัวหม่อมย่าเอียดไล่สร้อย

ที่กรุงเทพฯ หม่อมย่าเอียดและย่าอ่อนถึงกับลมจับ 😵 ให้สร้อยพิสูจน์ตัวเองเป็นแม่ศรีเรือนในหนึ่งเดือน สร้อยทำข้าวต้มมัด แต่คุณชายแอบสับเปลี่ยนเป็นขนมจากร้าน หม่อมหลวงเกษรา สร้อยรู้เลยสารภาพความจริง ทำให้ย่าทั้งสองเห็นความซื่อสัตย์ของเธอ

🏰 ปมการเมืองและความรัก
คุณชายเล็กเจอข่าวประท้วงในเวียงพูคำ ที่ นายพลเซกอง ปกครองแบบเผด็จการ และรู้ว่า เจ้าหลวงสุริยวงศ์ ที่ถูกจับคือ พ่อใหญ่ นั่นแปลว่า สร้อย คือ เจ้าหญิงสร้อยฟ้า 😱 เขาปิดเป็นความลับกลัวสร้อยวู่วาม ในงานเลี้ยงยูเนสโก สร้อยทำให้ทุกคนทึ่งด้วยการพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ แบบเป๊ะ ทุกคนถึงกับอึ้งว่าสาวป่าคนนี้ไม่ธรรมดา

แล้วหักมุมอีก ชัชวีร์ คือ เจ้ารังสิมันตุ์ เจ้าชายที่หายสาบสูญ เมื่อความจริงเปิดเผย คุณชายทั้งสาม (ยกเว้น ปวรรุจ ที่ไม่อยู่) ตัดสินใจช่วยชัชวีร์กู้บัลลังก์ แต่ที่สนามบินเวียงพูคำ ทุกคนถูกจับ 😰 คุณชายเล็กสารภาพรักกับสร้อยฟ้าท่ามกลางอันตราย สุดซึ้งเลย แต่คนที่จับคือลูกน้องของ ปวรรุจ (เกรท วรินทร) ที่วางแผนช่วยทุกคนไว้ สุดท้าย การประท้วงใหญ่สำเร็จ ชัชวีร์และสร้อยฟ้าได้เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง

💔 ดราม่าปิดท้าย
แต่คุณชายเล็กดันรู้สึกต่ำต้อย เมาแล้วฉีกทะเบียนสมรสต่อหน้าสร้อยฟ้า แล้วหนีกลับกรุงเทพฯ 😭 สร้อยฟ้าเสียใจหนัก แต่สองเดือนต่อมา เธอสละตำแหน่งเจ้าหญิง กลับมาหาคุณชายพร้อมทะเบียนสมรสใหม่ งานนี้หม่อมย่าเอียดและย่าอ่อนถึงกับยอมใจในความรักของสาวป่าที่กลายเป็นเจ้าหญิง สุดท้ายทั้งคู่แต่งงานกัน แฮปปี้เอ็นดิ้งสุดซึ้ง 🥰

บอกเลยว่างานนี้ครบรส มีทั้งแอ็กชัน ดราม่า รักสามเส้า การเมือง และความอบอุ่นของครอบครัวจุฑาเทพ ธนิน กับ ณฐพร เคมีดีมาก ฉากสารภาพรักคือน้ำตาแตก ถึงบางช่วงจะเร็วไปนิด แต่โดยรวมคือปัง 🌟

ถ้าชอบละครพีเรียดที่มีทั้งรักและลุ้น ต้องดูเลย อย่าลืมกดแชร์ 

เบื้องหลังความปังของละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ ปี 2556 มาดูกันว่าใครเป็นคนเนรมิตละครสุดฮิตเรื่องนี้ให้ออกมาดีขนาดนี้

บทประพันธ์โดย : ซ่อนกลิ่น
บทโทรทัศน์โดย : พิมพ์ธนา
กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ผลิตโดย : บริษัท แอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ดำเนินงานโดย : ธัญญา วชิรบรรจง

บทประพันธ์โดย: ซ่อนกลิ่น

426
ซ่อนกลิ่น

เรื่องนี้เริ่มจากปลายปากกาของ ซ่อนกลิ่น นักเขียนสุดเก๋าแห่งวงการนิยาย เขาคือคนที่รังสรรค์เรื่องราวของคุณชายเล็ก หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ และ สร้อยฟ้า ให้มีทั้งความรักสุดซึ้ง การผจญภัยสุดลุ้น และปมการเมืองของเวียงพูคำที่ชวนว้าว 📖 นิยายของซ่อนกลิ่นนี่แหละที่เป็นหัวใจของเรื่อง ทำให้ละครมีกลิ่นอายโรแมนติกพีเรียดผสมแอ็กชันที่ลงตัวสุดๆ ปรบมือให้เลยจ้า 👏

บทโทรทัศน์โดย: พิมพ์ธนา
ต่อมาเรามี พิมพ์ธนา ที่มาปลุกชีวิตให้ตัวละครจากนิยายของซ่อนกลิ่น เธอคือคนที่หยิบเรื่องราวมาแปลงเป็นบทโทรทัศน์สุดปัง ✍️ บทของพิมพ์ธนานี่คือเด็ดมาก ทำให้ฉากรักระหว่างคุณชายเล็ก (ธนิน มนูญศิลป์) กับสร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) หวานจนใจฟู และฉากแอ็กชันในป่าหนองคายก็ลุ้นจนตัวโก่ง แถมยังใส่ความขบขันจากครอบครัวจุฑาเทพได้แบบกลมกล่อม บอกเลยว่างานบทนี่คือสุดยอด 😍

กำกับการแสดงโดย: พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

มาถึงบอสใหญ่ พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ผู้กำกับตัวพ่อของวงการ 🎬 พี่อ๊อฟคือคนที่เนรมิตทุกฉากให้ออกมาสมจริงและอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉากในวังจุฑาเทพที่ดูหรูหรา ฉากป่าหนองคายที่สมจริงเหมือนหลุดเข้าไปในป่า หรือฉากดราม่าการเมืองที่เวียงพูคำที่เข้มข้นสุดๆ พี่อ๊อฟยังกำกับนักแสดงให้ถ่ายทอดอารมณ์ได้ถึงใจ อย่างฉากสารภาพรักของรัชชานนท์กับสร้อยฟ้า หรือฉากที่สร้อยฟ้าสละตำแหน่งเจ้าหญิง เรียกน้ำตาได้เลย 😭 ปรบมือให้พี่อ๊อฟรัวๆ เลยจ้า

ดำเนินงานโดย: ธัญญา วชิรบรรจง

a277e859 3dbf 4ee4 b70d cd6952310637
ธัญญา วชิรบรรจง

และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด พี่ธัญญา วชิรบรรจง โปรดิวเซอร์ตัวแม่ที่ควบคุมทุกอย่างให้เป๊ะ 💼 พี่ธัญญาคือคนที่ประสานงานทุกฝ่าย ตั้งแต่ทีมนักแสดง ทีมกำกับ ไปจนถึงทีมโปรดักชัน ทำให้ทุกอย่างรันได้แบบไม่มีสะดุด ความทุ่มเทของพี่ธัญญาทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของช่อง 3 ที่แฟนๆ ยังพูดถึงจนถึงทุกวันนี้ 🙌

ผลิตโดย: บริษัท แอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
งานนี้ต้องยกเครดิตให้ แอคอาร์ต เจเนเรชั่น ทีมโปรดักชันที่ทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ 🏢 ตั้งแต่การออกแบบฉากที่ย้อนยุคไปถึง พ.ศ. 2503 การเลือกโลเคชันป่าที่สมจริง ไปจนถึงเครื่องแต่งกายที่เป๊ะทุกตัวละคร อย่างชุดของสร้อยฟ้าที่เปลี่ยนจากสาวบ้านป่าสู่เจ้าหญิงสุดสง่า แถมงานภาพและแสงก็สวยงาม ทำให้ละครเรื่องนี้ดูพรีเมียมสุดๆ 👗✨

บอกเลยว่าเบื้องหลังของ คุณชายรัชชานนท์ นี่คือการรวมตัวของทีมงานระดับเทพ ตั้งแต่นิยายสุดเข้มของ ซ่อนกลิ่น บทโทรทัศน์สุดปังจาก พิมพ์ธนา การกำกับที่เป๊ะทุกช็อตโดย พงษ์พัฒน์ ไปจนถึงงานโปรดักชันจาก แอคอาร์ต เจเนเรชั่น และการคุมงานโดย ธัญญา ทำให้ละครเรื่องนี้ครบรสทั้งรัก ดราม่า แอ็กชัน และการเมือง ดูแล้วรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคไปอยู่ในปี 2503 จริงๆ 😍

นักแสดง

→ ธนิน มนูศิลป์ รับบท รัชชานนท์ 

hq720
ธนิน มนูญศิลป์

คุณชายรัชชานนท์ หรือ คุณชายเล็ก ที่รับบทโดย ธนิน มนูญศิลป์ คือหนุ่มวิศวกรสุดหล่อแห่งวังจุฑาเทพ 💼 เขาเป็นคนรักอิสระ เจ้าสำราญ ชอบถ่ายรูป เดินป่า และไม่อยากถูกจับคลุมถุงชน 😎 ในตอนแรก คุณชายเล็กหนีการดูตัวที่ หม่อมย่าเอียด จัดให้กับ หม่อมหลวงศินีนุช แล้วดิ่งไปทำงานที่หนองคายเลย แต่บอกเลยว่านี่ไม่ใช่แค่หนุ่มขี้เล่นนะ เพราะเมื่อเจอสถานการณ์คับขัน เช่น การช่วย สร้อยฟ้า และการกู้บัลลังก์เวียงพูคำ คุณชายกลายเป็นฮีโร่ที่กล้าหาญและรับผิดชอบสุดๆ 💪

คาแร็คเตอร์ของเขาคือการผสมระหว่างความชิลๆ กับความจริงจัง มีทั้งมุมซนๆ ที่แอบวางแผนหนีดูตัวกับ รณพีร์ (เจมส์ มาร์) และมุมอบอุ่นที่ยอมเสียสละเพื่อความรักและครอบครัว อย่างฉากที่สารภาพรักกับสร้อยฟ้าท่ามกลางอันตราย หรือตอนที่รู้สึกต่ำต้อยจนฉีกทะเบียนสมรส นี่คือตัวละครที่ทำให้เราทั้งขำ ทั้งซึ้ง และทั้งลุ้น 😍

🏷️ ฉายาเด็ด “คุณชายนักผจญภัย”
เพราะคุณชายเล็กคือหนุ่มที่รักการผจญภัยตัวจริง ไม่ว่าจะหนีไปหนองคาย เดินป่ากับ พรานเจ้ย หรือบุกไปกู้บัลลังก์ที่เวียงพูคำ คุณชายคนนี้พร้อมลุยทุกสถานการณ์ 🔥 แถมยังมีหัวใจที่กล้าหาญและรักจริง ทำให้ฉายานี้เหมาะสุดๆ

💡 ข้อคิดจากรัชชานนท์ “ความรักที่แท้ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ”
ข้อคิดจากคุณชายเล็กคือ ความรักไม่ใช่แค่ความรู้สึกหวานๆ แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อคนที่เรารัก 💖 อย่างที่เห็นในเรื่อง คุณชายเล็กเริ่มจากหนุ่มที่หนีการดูตัว แต่เมื่อเจอ สร้อยฟ้า เขาก็พร้อมยืนหยัดเคียงข้างเธอ แม้จะต้องเผชิญอันตรายหรือรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยเมื่อเธอกลายเป็นเจ้าหญิง ข้อคิดนี้สอนให้เรารู้ว่า ถ้ารักใครสักคน ต้องกล้าเผชิญทุกอย่างเพื่อเขา และพร้อมเติบโตไปด้วยกัน 🥰

บอกเลยว่า ธนิน มนูญศิลป์ ในบทคุณชายเล็กคือปังมาก การแสดงของเขาทำให้เราอินสุดๆ ตั้งแต่ฉากขี้เล่นในวัง ฉากลุยป่า ไปจนถึงฉากดราม่าที่น้ำตาคลอ 😭 คาแร็คเตอร์นี้มีทั้งความสนุก ความเท่ และความอบอุ่น ทำให้เราหลงรักคุณชายเล็กแบบเต็มๆ

→ ณฐพร เตมีรักษ์ รับบท สร้อยฟ้า 

hq720
ณฐพร เตมีรักษ์

สร้อยฟ้า ที่รับบทโดย ณฐพร เตมีรักษ์ คือตัวละครที่ขโมยหัวใจคนดูไปเต็มๆ 😍 ในตอนแรก เธอคือสาวบ้านป่าสุดแกร่งจากหมู่บ้านวลาหก ดูดื้อๆ ปากแข็ง และไม่ค่อยไว้ใจ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) เพราะ แม่เฒ่า (ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา) ทำนายว่ารัชชานนท์จะทำลาย “มนต์หมอก” ที่ปกป้องหมู่บ้าน แต่เรื่องราวพลิกผันเมื่อสร้อยฟ้าต้องแต่งงานกับคุณชายเล็กเพราะความเข้าใจผิด (ฉากกอดตอนกลางคืนนั่นแหละ ไฟลุกเลย 🔥) และยิ่งพีคกว่านั้นเมื่อรู้ว่าเธอคือ เจ้าหญิงสร้อยฟ้า แห่งเวียงพูคำ 😱

สร้อยฟ้าเป็นตัวละครที่มีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนโยน เธอพร้อมสู้เพื่อปกป้องหมู่บ้านและครอบครัว แต่ก็มีมุมหวานๆ เมื่อตกหลุมรักคุณชายเล็ก ฉากที่เธอพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ ในงานเลี้ยงยูเนสโกคือปังมาก ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง สาวป่าคนนี้ไม่ธรรมดานะจ๊ะ 💃 และตอนที่เธอสละตำแหน่งเจ้าหญิงเพื่อกลับมาหารัชชานนท์พร้อมทะเบียนสมรสใหม่ บอกเลยว่าน้ำตาคลอ 😭 เธอคือตัวอย่างของผู้หญิงที่ทั้งเก่งและรักจริง

🏷️ ฉายาเด็ด “เจ้าหญิงนักสู้”
เพราะสร้อยฟ้าคือสาวแกร่งที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ 💪 ไม่ว่าจะต่อสู้กับทหารเวียงพูคำ หรือเผชิญความจริงว่าเธอเป็นเจ้าหญิง เธอก็สู้สุดใจ แถมยังมีจิตใจที่ยอมเสียสละเพื่อความรัก ฉายานี้เหมาะสมสุดๆ กับสาวป่าที่กลายเป็นเจ้าหญิงแห่งเวียงพูคำ 👑

💡 ข้อคิดจากสร้อยฟ้า “ความรักที่ยิ่งใหญ่คือการยอมเสียสละเพื่อคนที่รัก”
ข้อคิดจากสร้อยฟ้าคือ ความรักที่แท้จริงต้องมากับการยอมเสียสละ 💖 เธอเลือกทิ้งตำแหน่งเจ้าหญิงและความยิ่งใหญ่ในเวียงพูคำเพื่ออยู่กับ รัชชานนท์ แม้จะต้องเผชิญความยากลำบากหรือการถูกดูถูกจาก หม่อมย่าเอียด และ ย่าอ่อน ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า ถ้ารักใครสักคน ต้องกล้าทิ้งบางสิ่งเพื่อให้ความรักนั้นสมบูรณ์ และพร้อมเผชิญทุกอย่างเคียงข้างกัน 🥰

บอกเลยว่า ณฐพร เตมีรักษ์ ในบทสร้อยฟ้าคือสุดยอด การแสดงของเธอทำให้เราอินตั้งแต่ฉากสาวป่าดื้อๆ ไปจนถึงฉากเจ้าหญิงสุดสง่า ฉากที่พูดภาษาอังกฤษในงานยูเนสโก หรือฉากสารภาพรักกับคุณชายเล็กคือปังมาก 😍 เคมีกับ ธนิน ก็ดีเว่อร์ ทำให้เราหลงรักคู่นี้สุดๆ

→ พงศกร เมตตารินกานนท์ รับบท จ่อย

star 1
พงศกร เมตตารินกานนท์

จ่อยเป็นหนุ่มบ้านป่าจากหมู่บ้านวลาหก เพื่อนซี้สุดๆ ของ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) และเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยปกป้องเธอตลอดเวลา เขาคือคนที่จิตใจดี มีความซื่อสัตย์ และพร้อมลุยเพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) และ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) ถูกทหารเวียงพูคำตามล่า จ่อยเป็นคนพาทั้งคู่ไปรักษาที่หมู่บ้านวลาหก 💪

จ่อยมีมุมขี้เล่นและตลกที่ทำให้เรายิ้มได้ เช่น ฉากที่เขาคอยแซวสร้อยฟ้า หรือช่วยกล่อม จันทา ให้ไปกรุงเทพฯ กับสร้อยฟ้าและคุณชายเล็ก แต่ที่สำคัญคือความภักดีต่อ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และหมู่บ้านวลาหก ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าเชื่อใจ ถึงจะไม่ใช่ตัวเอก แต่จ่อยคือคนที่คอยซัพพอร์ตทุกคนในเรื่อง ทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ขึ้น 😊

🏷️ ฉายาเด็ด “เพื่อนซี้สายซัพพอร์ต”
เพราะจ่อยคือเพื่อนแท้ที่คอยอยู่เคียงข้างสร้อยฟ้าและทุกคนในหมู่บ้าน 🙌 ไม่ว่าจะช่วยพาคนเจ็บไปรักษา หรือร่วมภารกิจกู้บัลลังก์เวียงพูคำ จ่อยคือคนที่พร้อมสนับสนุนทุกสถานการณ์ ด้วยความจริงใจและความกล้า ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับหนุ่มบ้านป่าคนนี้ 🌟

💡 ข้อคิดจากจ่อย “ความภักดีและการสนับสนุนเพื่อนคือพลังที่ยิ่งใหญ่”
ข้อคิดจากจ่อยคือ การเป็นเพื่อนที่ดีและซื่อสัตย์ต่อคนรอบข้างคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จ 💖 จ่อยอาจไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุด แต่การที่เขาคอยช่วยเหลือสร้อยฟ้าและคุณชายเล็กในทุกสถานการณ์ สอนให้เราเห็นว่าการสนับสนุนเพื่อนและครอบครัวด้วยใจจริงสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ แม้จะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ในเรื่องใหญ่ 😊

บอกเลยว่า พงศกร เมตตาริกานนท์ ในบทจ่อยคือตัวละครที่ขโมยใจคนดู การแสดงของเขาทำให้จ่อยดูเป็นเพื่อนที่ทั้งน่ารัก ขี้เล่น และน่าไว้ใจ ฉากที่จ่อยคอยช่วยสร้อยฟ้า หรือตอนที่กล่อมจันทาให้ไปกรุงเทพฯ คือทำให้เรายิ้มและรู้สึกอบอุ่น 🥰 จ่อยอาจจะไม่ใช่พระเอก แต่เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้มีชีวิตชีวา

→ จรณ โสรัตน์ รับบท ม.ล.ชัชวีร์ 

จรณ โสรัตน์

หม่อมหลวงชัชวีร์ เทวพรหม ที่รับบทโดย จรณ โสรัตน์ คือตัวละครที่มาพร้อมความลับสุดพีค 😱 ในตอนแรก เขาดูเหมือนหนุ่มหล่อ สุขุม และเป็นเพื่อนซี้ของ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) และพี่น้องตระกูลจุฑาเทพ คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแบบชิลๆ แต่ เรื่องราวพลิกผันเมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่แค่ ม.ล.ชัชวีร์ แต่คือ เจ้ารังสิมันตุ์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งเวียงพูคำที่หายสาบสูญไปตั้งแต่เด็ก 😲

ชัชวีร์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและจิตใจมุ่งมั่น เมื่อรู้ตัวตนที่แท้จริง เขาตัดสินใจลุยภารกิจกู้บัลลังก์เพื่อช่วย เจ้าหลวงสุริยวงศ์ (พ่อใหญ่) และปกป้อง สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) ซึ่งต่อมาเปิดเผยว่าเป็นพระขนิษฐาของเขา เขาคือตัวละครที่มีทั้งความกล้าหาญ ความภักดีต่อชาติ และความอบอุ่นในฐานะพี่ชาย ฉากที่เขาร่วมมือกับคุณชายทั้งสี่เพื่อต่อสู้กับ นายพลเซกอง คือลุ้นสุดๆ 💪 แถมยังมีมุมนุ่มนวลที่ทำให้เราอิน เช่น ตอนที่ทำความเข้าใจกับสร้อยฟ้าเรื่องการแตแต่งงานของเธอกับคุณชายเล็ก 😊

🏷️ ฉายาเด็ด “เจ้าชายแห่งภารกิจ”
เพราะชัชวีร์คือเจ้าชายที่แบกภารกิจหนักหน่วง 👑 จากหนุ่มธรรมดาที่เติบโตในตระกูลเทวพรหม สู่การเป็นผู้นำที่ต้องกู้บัลลังก์เวียงพูคำ เขาคือคนที่พร้อมเผชิญทุกความท้าทายเพื่อชาติและครอบครัว ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับความกล้าและความมุ่งมั่นของเขา 🔥

💡 ข้อคิดจากชัชวีร์ “หน้าที่และความรับผิดชอบมาก่อนความต้องการส่วนตัว”
ข้อคิดจากชัชวีร์คือ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหน หน้าที่และความรับผิดชอบต่อครอบครัวและสิ่งที่เราเชื่อต้องมาก่อน 💖 เมื่อรู้ว่าเขาเป็นเจ้ารังสิมันตุ์ ชัชวีร์ไม่ลังเลที่จะทิ้งชีวิตที่สุขสบายเพื่อกลับไปกู้บัลลังก์และช่วยพระบิดา ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การยอมรับหน้าที่และทำเพื่อส่วนรวมคือสิ่งที่ทำให้เราเติบโตและสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ 💪

บอกเลยว่า จรณ โสรัตน์ ในบทชัชวีร์คือสุดยอด การแสดงของเขาทำให้เราอินกับความสุขุมและความกล้าหาญของตัวละครนี้ ฉากที่ชัชวีร์รู้ตัวว่าเป็นเจ้าชายและต้องนำทีมกู้บัลลังก์คือพีคมาก 😍 หรือตอนที่เขาเจอกับสร้อยฟ้าในฐานะพี่น้องครั้งแรกก็ซึ้งสุดๆ 🥰 ชัชวีร์อาจไม่ใช่ตัวเอกหลัก แต่เป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้และทำให้เรื่องนี้เข้มข้น

→ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบท เจ้าหลวงสุริยวงศ์ 

Pongpat 1
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

เจ้าหลวงสุริยวงศ์ ที่รับบทโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง หรือที่ชาวหมู่บ้านวลาหกรู้จักในฐานะ พ่อใหญ่ คือตัวละครที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยความลึกลับ 😎 ในตอนแรก เขาคือผู้นำของหมู่บ้านวลาหก ที่หลบภัยจากการถูก นายพลเซกอง โค่นบัลลังก์เมื่อ 15 ปีก่อน เขาดูเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ฉลาด และมีความลับซ่อนอยู่ 🕵️‍♂️ พ่อใหญ่คอยปกป้องชาวเวียงพูคำและดูแล สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) ราวกับลูกสาวแท้ๆ แต่พล็อตทวิสต์มาเลยจ้า ต่อมาเรารู้ว่าเขาคือ เจ้าหลวงสุริยวงศ์ กษัตริย์แห่งเวียงพูคำที่ถูกเนรเทศ และสร้อยฟ้าคือ เจ้าหญิงสร้อยฟ้า ลูกสาวของเขา 😱

คาแร็คเตอร์ของพ่อใหญ่มีทั้งความน่าเกรงขามและความอบอุ่น เขาเป็นผู้นำที่เสียสละเพื่อประชาชนและครอบครัว อย่างฉากที่สั่งให้สร้อยฟ้าไปกรุงเทพฯ กับ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) เพื่อปกป้องเธอจากทหารเวียงพูคำ หรือตอนที่เขาถูกจับตัวแต่ยังคงยืนหยัดเพื่ออุดมการณ์ บอกเลยว่า พงษ์พัฒน์ ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่และความลึกซึ้งของตัวละครนี้ออกมาได้แบบสุดปัง 👑

🏷️ ฉายาเด็ด “ราชันแห่งความเสียสละ”
เพราะเจ้าหลวงสุริยวงศ์คือผู้นำที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกสาวและประชาชน 👑 แม้จะสูญเสียบัลลังก์และต้องหลบซ่อนในฐานะพ่อใหญ่ เขาก็ยังคงวางแผนเพื่ออนาคตของเวียงพูคำและความปลอดภัยของสร้อยฟ้า ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ใจเด็ด 🔥

💡 ข้อคิดจากเจ้าหลวงสุริยวงศ์ “ผู้นำที่ดีต้องปกป้องและเสียสละเพื่อคนที่รัก”
ข้อคิดจากพ่อใหญ่คือ การเป็นผู้นำที่แท้จริงต้องมากับความเสียสละและความรับผิดชอบต่อคนที่อยู่ภายใต้การดูแล 💖 เขายอมทิ้งชีวิตราชาเพื่อปกป้องสร้อยฟ้าและชาวเวียงพูคำ แม้ต้องเผชิญความยากลำบาก ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การปกป้องคนที่เรารักและยึดมั่นในอุดมการณ์คือคุณสมบัติของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ 🙌

บอกเลยว่า พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในบทเจ้าหลวงสุริยวงศ์คือตัวละครที่ทรงพลังสุดๆ การแสดงของเขาทำให้เรารู้สึกถึงความน่าเกรงขามและความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ฉากที่พ่อใหญ่สั่งให้สร้อยฟ้าออกจากหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัย หรือตอนที่ความจริงเปิดเผยว่าเขาเป็นกษัตริย์คือพีคมาก 😍 ตัวละครนี้เป็นเหมือนหัวใจของปมการเมืองในเรื่อง ทำให้เราลุ้นและซึ้งไปพร้อมๆ กัน

→ ธนากร โปษยานนท์ รับบท ม.ร.ว.อนุพันธ์ 

ธนากร โปษยานนท์

หม่อมราชวงศ์อนุพันธ์ เทวพรหม ที่รับบทโดย ธนากร โปษยานนท์ คือตัวละครที่เป็นเหมือนร่มเงาให้กับครอบครัวเทวพรหม 😎 เขาคือพ่อของ หม่อมหลวงชัชวีร์ (จรณ โสรัตน์) และเป็นพระสหายสนิทของ เจ้าส่องดาว จากราชอาณาจักรเวียงพูคำ ในตอนแรก เขาดูเป็นคุณพ่อที่อบอุ่น สุขุม และเป็นหัวหน้าครอบครัวที่คอยดูแลทุกคนในตระกูลเทวพรหม แต่ความลับสุดพีคมาเลยจ้า 😱 ต่อมาเรารู้ว่าเขาเป็นคนที่รับเลี้ยงชัชวีร์ ซึ่งแท้จริงคือ เจ้ารังสิมันตุ์ เจ้าชายรัชทายาทแห่งเวียงพูคำ ที่ถูกฝากไว้เมื่อ 18 ปีก่อนเพื่อปกป้องจาก นายพลเซกอง

ม.ร.ว.อนุพันธ์ เป็นตัวละครที่มีความรับผิดชอบสูงมาก มีความภักดีต่อมิตรภาพและคำมั่นสัญญา เขายอมเลี้ยงดูชัชวีร์เหมือนลูกแท้ๆ และปกป้องความลับเรื่องชาติกำเนิดของเขาเพื่อความปลอดภัย แม้จะปรากฏในเรื่องไม่เยอะ แต่ทุกครั้งที่ออกมา เขาจะมาพร้อมความน่าเกรงขามและความอบอุ่นแบบพ่อๆ ฉากที่เขาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับชัชวีร์ให้ครอบครัวรู้คือซึ้งสุดๆ ทำให้เราเห็นถึงความเสียสละและความรักที่เขามีต่อทั้งครอบครัวและมิตรสหาย 🥰

🏷️ ฉายาเด็ด “ผู้พิทักษ์แห่งคำมั่น”
เพราะ ม.ร.ว.อนุพันธ์ คือคนที่ยึดมั่นในคำมั่นสัญญากับ เจ้าส่องดาว และปกป้อง เจ้ารังสิมันตุ์ ด้วยชีวิต 💪 เขาเป็นเหมือนผู้พิทักษ์ที่คอยดูแลความลับและความปลอดภัยของเจ้าชายน้อย ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับความภักดีและความรับผิดชอบของเขา 🌟

💡 ข้อคิดจาก ม.ร.ว.อนุพันธ์ “ความภักดีต่อคำมั่นคือเกียรติยศของชีวิต”
ข้อคิดจาก ม.ร.ว.อนุพันธ์ คือ การรักษาคำมั่นสัญญาและความภักดีต่อมิตรภาพคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า 💖 เขายอมเลี้ยงดูชัชวีร์และปกป้องความลับของเวียงพูคำเป็นเวลากว่า 18 ปี แม้ต้องแบกรับความกดดัน ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การรักษาคำพูดและความรับผิดชอบต่อคนที่เราให้สัญญาไว้คือเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ 🙌

บอกเลยว่า ธนากร โปษยานนท์ ในบท ม.ร.ว.อนุพันธ์ คือตัวละครที่ถึงจะออกมาน้อย แต่ทุกฉากมีพลัง การแสดงของเขาทำให้เรารู้สึกถึงความน่าเกรงขามและความอบอุ่นของพ่อที่รักครอบครัว ฉากที่เขาเปิดเผยความจริงว่าชัชวีร์คือเจ้ารังสิมันตุ์คือพีคมาก 😍 ทำให้เราอินกับความเสียสละและความภักดีของเขา

→ มยุริน ฝองผุดพันธ์ รับบท ม.ร.ว.ดาณีนุช 

8aca6a40 3d51 11ed bd60 69a03e365d48 webp original
มยุริญ ฟองผุดพันธ์

หม่อมราชวงศ์ดารณีนุช หรือ คุณหญิงดารณีนุช ที่รับบทโดย มยุริน ฝองผุดพันธ์ (ชื่อในวงการคือ วรนุช ภิรมย์ภักดี) คือตัวละครที่เป๊ะปังสมฐานะคุณหญิงแห่งตระกูลเทวพรหม 😎 เธอเป็นแม่ของ หม่อมหลวงศินีนุช (พิมพ์ทอง วชิราคม) และเป็นภรรยาของ หม่อมราชวงศ์อนุพันธ์ (ธนากร โปษยานนท์) คุณหญิงดารณีนุชคือสาวสังคมตัวแม่ สวยสง่า มีความมั่นใจ และเป็นคนที่หวังดีต่อลูกสาวสุดๆ อยากให้ศินีนุชได้แต่งงานกับ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) เพื่อสานต่อคำมั่นของตระกูลเทวพรหมและจุฑาเทพ 💍

เธอเป็นตัวละครที่มีทั้งความเข้มแข็งและความดราม่า ฉากที่คุณหญิงกดดัน หม่อมย่าเอียด (จารุวรรณ ปัญโญภาส) ให้พาศินีนุชไปตามหาคุณชายเล็กที่หนองคายคือสุดยอด 😤 แต่ถึงจะดูเป็นคุณหญิงที่เข้มงวด เธอก็มีมุมที่รักและห่วงลูกสาวมาก อยากให้ศินีนุชได้สิ่งที่ดีที่สุด แม้ว่าบางครั้งจะดูเหมือนบงการชีวิตลูกสาวไปหน่อย 😅 การแสดงของ มยุริน ทำให้คุณหญิงดารณีนุชดูเป็นตัวละครที่มีมิติ ทั้งน่าเกรงขามและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

🏷️ ฉายาเด็ด “คุณหญิงนักวางแผน”
เพราะคุณหญิงดารณีนุชคือตัวแม่เรื่องการวางแผน 💼 เธอจัดการทุกอย่างเพื่อให้ศินีนุชได้แต่งงานกับคุณชายเล็กตามคำมั่นของตระกูล ไม่ว่าจะกดดันหม่อมย่าเอียด หรือส่งลูกสาวไปตามหาคุณชายถึงหนองคาย ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับความมุ่งมั่นและความเป๊ะของเธอ 🌟

💡 ข้อคิดจาก ม.ร.ว.ดารณีนุช “รักลูกต้องรู้จักปล่อยวางเพื่อความสุขของเขา”
ข้อคิดจากคุณหญิงดารณีนุชคือ การรักลูกต้องมากับการยอมปล่อยวางให้เขาเลือกทางของตัวเอง 💖 แม้ว่าคุณหญิงจะอยากให้ศินีนุชได้แต่งงานกับคุณชายเล็กตามแผน แต่สุดท้ายเมื่อแผนไม่เป็นไปตามหวัง เธอก็ต้องยอมรับความจริง ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การรักใครสักคนต้องให้อิสระเขาในการเลือกทางเดินของตัวเอง เพื่อให้เขามีความสุขอย่างแท้จริง 🙌

บอกเลยว่า มยุริน ฝองผุดพันธ์ ในบทคุณหญิงดารณีนุชคือตัวละครที่มาแรงมาก การแสดงของเธอทำให้เรารู้สึกถึงความสง่างามและความเข้มงวดแบบคุณหญิงตัวจริง ฉากที่เธอกดดันหม่อมย่าเอียด หรือตอนที่พยายามผลักดันศินีนุชให้สมหวังคือทั้งตลกและน่าสงสาร 😍 คุณหญิงอาจจะดูเป็นตัวร้ายเล็กๆ ในสายตาคนที่เชียร์ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) แต่จริงๆ แล้วเธอแค่รักลูกสาวมาก

→ สันติสุข พรมศิริ รับบท นายพลเซกอง 

jpg
สันติสุข พรมศิริ

นายพลเซกอง ที่รับบทโดย สันติสุข พรมศิริ คือตัวร้ายตัวพ่อของเรื่องนี้ 😈 เขาคือผู้นำเผด็จการแห่งราชอาณาจักรเวียงพูคำ ที่โค่นบัลลังก์ของ เจ้าหลวงสุริยวงศ์ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) เมื่อ 15 ปีก่อน ทำให้ชาวเวียงพูคำต้องอพยพหนีมาที่หมู่บ้านวลาหก นายพลเซกองเป็นคนที่โหดเหี้ยม หมกมุ่นกับอำนาจ และไม่ยอมให้ใครมาท้าทายการปกครองของเขา 😤 เขาส่งทหารไปตามล่าชาวเวียงพูคำ รวมถึง เจ้ารังสิมันตุ์ (จรณ โสรัตน์) และ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) เพื่อตัดรากถอนโคนการกู้บัลลังก์

คาแร็คเตอร์ของนายพลเซกองคือตัวร้ายที่ทั้งน่ากลัวและน่าเกลียดในใจ เขาเป็นตัวแทนของความโลภและความเห็นแก่ตัว ฉากที่เขาสั่งจับตัวเจ้าหลวงสุริยวงศ์หรือตอนที่วางแผนกำจัดคุณชายทั้งสี่ที่สนามบินเวียงพูคำคือเข้มข้นสุดๆ 😱 สันติสุข เล่นบทนี้ได้แบบทำให้เราขนลุกและหมั่นไส้ไปพร้อมกัน การแสดงของเขาทำให้รู้สึกว่านายพลเซกองคือวายร้ายที่สมบูรณ์แบบของเรื่องนี้

🏷️ ฉายาเด็ด “จอมเผด็จการแห่งเวียงพูคำ”
เพราะนายพลเซกองคือตัวท็อปของความเผด็จการ 👿 เขาควบคุมเวียงพูคำด้วยความโหดร้าย เอารัดเอาเปรียบประชาชน และพร้อมกำจัดทุกคนที่ขวางทาง ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับวายร้ายที่ครองอำนาจแบบไม่สนใจใคร 🔥

💡 ข้อคิดจากนายพลเซกอง “อำนาจที่ได้มาด้วยความเห็นแก่ตัวนำไปสู่ความล่มสลาย”
ข้อคิดจากนายพลเซกองคือ การใช้อำนาจด้วยความโลภและความเห็นแก่ตัวจะนำไปสู่จุดจบที่ย่ำแย่ 😔 เขายึดบัลลังก์และปกครองด้วยความโหดร้าย แต่สุดท้ายต้องเผชิญการประท้วงและการต่อสู้จาก คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) และทีม ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การเป็นผู้นำที่ดีต้องคำนึงถึงความยุติธรรมและความสุขของคนอื่น มิฉะนั้นจะพังไม่เป็นท่า 🙅‍♂️

บอกเลยว่า สันติสุข พรมศิริ ในบทนายพลเซกองคือตัวร้ายที่เล่นได้ถึงเครื่อง การแสดงของเขาทำให้เราทั้งกลัวและเกลียดนายพลเซกองสุดๆ 😣 ฉากที่เขาสั่งทหารตามล่าชาวเวียงพูคำ หรือตอนที่เผชิญหน้ากับการกู้บัลลังก์คือลุ้นระทึกมาก นายพลเซกองอาจเป็นตัวร้าย แต่เป็นตัวร้ายที่ทำให้เรื่องนี้เข้มข้นและน่าติดตาม

→ ศักราช ฤกษ์ธำรง รับบท ไกรสร 

1387008293 IMG9957 o
ศักราช ฤกษ์ธำรง

ไกรสร ที่รับบทโดย ศักราช ฤกษ์ธำรง คือตัวละครที่เป็นเหมือนพี่ใหญ่สุดแกร่งของหมู่บ้านวลาหก 💪 เขาคือลูกน้องคนสนิทของ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์หมู่บ้านที่คอยปกป้องชาวเวียงพูคำจากทหารของ นายพลเซกอง ไกรสรเป็นคนจริงจัง เข้มขรึม และภักดีสุดๆ ต่อพ่อใหญ่และภารกิจของหมู่บ้าน 😎 เขามีบทบาทสำคัญในการดูแล สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) และช่วยเหลือ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) เมื่อพวกเขามาถึงหมู่บ้านวลาหก

ไกรสรยังมีมุมที่เข้มงวดหน่อยๆ เช่น ฉากที่เขาและ แฮรี่ (โอริเวอร์ บีเวอร์) มาพบคุณชายเล็กกอดสร้อยฟ้าตอนกลางคืน แล้วตีความว่าเป็นเรื่อง “ผิดผี” 😅 ทำให้พ่อใหญ่ต้องสั่งให้ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ถึงจะดูดุ ไกรสรก็มีจิตใจที่มุ่งมั่นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และคอยสนับสนุนภารกิจกู้บัลลังก์เวียงพูคำ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ทั้งเท่และน่าเชื่อถือ การแสดงของ ศักราช ทำให้ไกรสรดูเป็นนักรบที่ทั้งน่าเกรงขามและมีหัวใจ 🔥

🏷️ ฉายาเด็ด “นักรบแห่งวลาหก”
เพราะไกรสรคือเหมือนนักรบผู้ปกป้องหมู่บ้านวลาหก ⚔️ เขาคอยคุ้มกันสร้อยฟ้าและชาวบ้านจากอันตราย และยืนหยัดเคียงข้างพ่อใหญ่ในทุกสถานการณ์ ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับความกล้าหาญและความภักดีของเขา 🌟

💡 ข้อคิดจากไกรสร “ความภักดีต่อหน้าที่คือพลังที่ขับเคลื่อนชุมชน”
ข้อคิดจากไกรสรคือ การยึดมั่นในหน้าที่และความภักดีต่อชุมชนคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนก้าวต่อไปได้ 💖 ไกรสรอาจไม่ใช่ตัวเอก แต่การที่เขาทุ่มเทปกป้องหมู่บ้านและสนับสนุนพ่อใหญ่ในภารกิจกู้บัลลังก์ สอนให้เราเห็นว่าการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนรอบข้างได้ 🙌

บอกเลยว่า ศักราช ฤกษ์ธำรง ในบทไกรสรคือตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้เรื่องนี้ การแสดงของเขาทำให้ไกรสรดูเป็นนักรบที่ทั้งดุดันและน่าเชื่อถือ ฉากที่เขาคอยปกป้องสร้อยฟ้า หรือตอนที่ช่วยตัดสินใจให้คุณชายเล็กแต่งงานกับสร้อยฟ้าคือทั้งขำและเท่ 😍 ไกรสรเป็นตัวละครสมทบที่ทำให้เรารู้สึกถึงพลังของความภักดี

→ โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบท แฮรี่ 

โอลิเวอร์ บีเวอร์

แฮรี่ ที่รับบทโดย โอลิเวอร์ บีเวอร์ คือตัวละครที่เพิ่มสีสันให้กับหมู่บ้านวลาหกสุดๆ 😎 เขาคือชาวต่างชาติที่มาอยู่ในหมู่บ้านวลาหก ซึ่งเป็นที่หลบภัยของชาวเวียงพูคำ แฮรี่เป็นคนใจดี ขี้เล่น และมีความภักดีต่อ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และชุมชนมาก เขาคอยช่วยเหลือ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) และ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) ในภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะตอนที่ต้องปกป้องหมู่บ้านจากทหารของ นายพลเซกอง 💪

แฮรี่ยังมีมุมตลกๆ ที่ทำให้เรายิ้มได้ เช่น ฉากที่เขากับ ไกรสร (ศักราช ฤกษ์ธำรง) มาเจอคุณชายเล็กกอดสร้อยฟ้าตอนกลางคืน แล้วตีความว่า “ผิดผี” จนนำไปสู่การแต่งงานของทั้งคู่ 😅 เขาคือตัวละครที่ผสมผสานความจริงจังและความสนุกไว้ได้ลงตัว ทำให้เรื่องนี้มีทั้งความตื่นเต้นและความเบาสมอง การแสดงของ โอลิเวอร์ ทำให้แฮรี่ดูเป็นเพื่อนที่ทั้งน่ารักและน่าไว้ใจสุดๆ 😊

🏷️ ฉายาเด็ด “เพื่อนต่างชาติสายฮา”
เพราะแฮรี่คือชาวต่างชาติที่มาพร้อมความตลกและความใจดี 😂 เขาเป็นเหมือนตัวเชื่อมที่ทำให้หมู่บ้านวลาหกมีสีสัน และคอยสนับสนุนทุกคนด้วยรอยยิ้มและความกล้า ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับหนุ่มต่างชาติที่เป็นที่รักของทุกคนในเรื่อง 🌟

💡 ข้อคิดจากแฮรี่ “มิตรภาพที่แท้ไม่แบ่งเชื้อชาติหรือที่มา”
ข้อคิดจากแฮรี่คือ มิตรภาพที่แท้จริงสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าคุณจะมาจากไหน 💖 แม้แฮรี่จะเป็นชาวต่างชาติในหมู่บ้านวลาหก แต่เขาก็ทุ่มเทช่วยเหลือพ่อใหญ่และสร้อยฟ้าเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า ความจริงใจและการช่วยเหลือกันคือสิ่งที่ทำให้มิตรภาพแข็งแกร่ง ไม่ว่าคุณจะต่างชาติ ต่างภาษา หรือต่างวัฒนธรรม 🙌

บอกเลยว่า โอลิเวอร์ บีเวอร์ ในบทแฮรี่คือตัวละครที่ขโมยใจคนดู การแสดงของเขาทำให้แฮรี่ดูเป็นเพื่อนที่ทั้งสนุกและน่าไว้วางใจ ฉากที่แฮรี่คอยช่วยปกป้องหมู่บ้าน หรือตอนที่แซวสร้อยฟ้าคือทั้งขำและอบอุ่น 😍 แฮรี่อาจเป็นตัวละครสมทบ แต่เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้มีรสชาติมากขึ้น

→ ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ รับบท แม่เฒ่า

ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์

แม่เฒ่า ที่รับบทโดย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา คือตัวละครที่เป็นเหมือนปราชญ์แห่งหมู่บ้านวลาหก 😇 เธอเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีความรู้และภูมิปัญญา คอยดูแลและให้คำแนะนำชาวบ้านในหมู่บ้านที่หลบภัยจาก นายพลเซกอง แม่เฒ่ามีความลึกลับนิดๆ เพราะเธอเป็นคนทำนายว่า คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) จะเป็นคนทำลาย “มนต์หมอก” ที่ปกป้องหมู่บ้านวลาหก ทำให้ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) ไม่ไว้ใจคุณชายในตอนแรก 😅

แม่เฒ่าเป็นเหมือนผู้ปกป้องจิตวิญญาณของชุมชน เธอมีบทบาทสำคัญในการรักษา รัชชานนท์ และ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) ที่บาดเจ็บจากทหารเวียงพูคำให้หายดี เธอยังเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำแก่สร้อยฟ้าและ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ด้วยความรักและห่วงใย ถึงจะดูเป็นยายแก่ที่เข้มงวด แต่จริงๆ แล้วแม่เฒ่ามีหัวใจที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความเมตตา การแสดงของ ทัศน์วรรณ ทำให้แม่เฒ่าดูเป็นตัวละครที่น่าเกรงขามและน่านับถือสุดๆ 😍

🏷️ ฉายาเด็ด “ปราชญ์แห่งวลาหก”
เพราะแม่เฒ่าคือเหมือนปราชญ์ที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาและความลึกลับ 🔮 เธอรู้เรื่องคำทำนายและประเพณีของหมู่บ้านวลาหก และคอยนำทางทุกคนด้วยความรู้และความห่วงใย ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับยายแก่ที่เป็นเสาหลักทางจิตใจของชุมชน 🌟

💡 ข้อคิดจากแม่เฒ่า “ภูมิปัญญาและความเมตตาคือแสงสว่างในยามยาก”
ข้อคิดจากแม่เฒ่าคือ การใช้ความรู้และความเมตตาในการนำทางผู้อื่นจะช่วยให้ชุมชนเข้มแข็ง 💖 แม่เฒ่าใช้ภูมิปัญญาในการรักษาคนเจ็บและให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่สร้อยฟ้าและพ่อใหญ่ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การแบ่งปันความรู้และความห่วงใยคือพลังที่ทำให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตได้ 🙌

บอกเลยว่า ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ในบทแม่เฒ่าคือตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและนับถือ การแสดงของเธอทำให้แม่เฒ่าดูเป็นผู้ใหญ่ที่ทั้งน่าเกรงขามและน่ารัก ฉากที่เธอทำนายเรื่อง “มนต์หมอก” หรือตอนที่รักษาคุณชายเล็กและจันทาคือจำได้ขึ้นใจ 😍 แม่เฒ่าเป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มความลึกให้กับเรื่องนี้มาก

→ เอกพันธ์ บันลือฤทธ์ รับบท โพนโฮง 

220126rhaiy
เอกพันธ์ บันลือฤทธ์

โพนโฮง ที่รับบทโดย เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ คือตัวละครที่เป็นเหมือนลมใต้ปีกของหมู่บ้านวลาหก 😎 เขาคือลูกน้องคนสนิทของ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และเป็นนักรบที่คอยปกป้องหมู่บ้านวลาหกจากอันตรายของทหาร นายพลเซกอง โพนโฮงเป็นคนที่ดูแข็งแกร่ง ดุดัน และพร้อมลุยทุกสถานการณ์ 💪 แต่ที่ทำให้เขาน่าสนใจคือความภักดีสุดๆ ต่อพ่อใหญ่และชาวเวียงพูคำ รวมถึงความห่วงใยที่เขามีต่อ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) เหมือนเป็นพี่ชายที่คอยดูแล

โพนโฮงอาจไม่ได้ออกมาเยอะเท่าตัวหลัก แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัว เขาจะมาพร้อมพลังและความเด็ดเดี่ยว เช่น ฉากที่ช่วยปกป้องหมู่บ้าน หรือตอนที่คอยสนับสนุนภารกิจกู้บัลลังก์เวียงพูคำ การแสดงของ เอกพันธ์ ทำให้โพนโฮงดูเป็นนักรบที่ทั้งน่าเกรงขามและมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ 😍 บอกเลยว่าเป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มความเข้มข้นให้เรื่องนี้สุดๆ

🏷️ ฉายาเด็ด “นักรบจิตใจแกร่ง”
เพราะโพนโฮงคือเหมือนนักรบที่ทั้งกายและใจแข็งแกร่ง ⚔️ เขายืนหยัดปกป้องหมู่บ้านวลาหกและภักดีต่อพ่อใหญ่แบบไม่มีหวั่นไหว ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเขา 🌟

💡 ข้อคิดจากโพนโฮง “ความภักดีและความกล้าคือรากฐานของการปกป้อง”
ข้อคิดจากโพนโฮงคือ การยึดมั่นในความภักดีและความกล้าคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถปกป้องคนที่เรารักและชุมชนได้ 💖 โพนโฮงอาจเป็นแค่ลูกน้องของพ่อใหญ่ แต่ความทุ่มเทของเขาในการปกป้องหมู่บ้านและสร้อยฟ้าสอนให้

บอกเลยว่า เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ในบทโพนโฮงคือตัวละครที่มาแรงและน่าจดจำ การแสดงของเขาทำให้โพนโฮงดูเป็นนักรบที่ทั้งเท่และมีจิตใจดี ฉากที่เขาคอยปกป้องหมู่บ้านวลาหกหรือช่วยเหลือในภารกิจกู้บัลลังก์คือเด็ดมาก 😍 โพนโฮงอาจไม่ใช่ตัวเอก แต่เป็นตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกถึงพลังของความภักดี

→ ต๋อง ชวนชื่น รับบท บุญโฮม 

hq720
ต๋อง ชวนชื่น

บุญโฮม ที่รับบทโดย ต๋อง ชวนชื่น คือตัวละครที่มาเติมสีสันและความฮาให้กับเรื่องนี้สุดๆ 😂 เขาคือคนในหมู่บ้านวลาหก ที่เป็นเหมือนเพื่อนบ้านสุดเฮฮาของ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) และชาวเวียงพูคำ บุญโฮมเป็นคนขี้เล่น รักสนุก และมีจิตใจดี คอยช่วยเหลือทุกคนในหมู่บ้านด้วยรอยยิ้ม 😄 แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีบทบาทใหญ่โตเหมือน คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) หรือ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) แต่เขาคือตัวละครที่ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านวลาหกดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา

บุญโฮมมักจะโผล่มาในฉากที่ช่วยคลายความตึงเครียด เช่น ตอนที่ชาวบ้านต้องเผชิญกับภัยจากทหารของ นายพลเซกอง เขาจะคอยแซวหรือทำอะไรตลกๆ เพื่อให้ทุกคนยิ้มได้ การแสดงของ ต๋อง ชวนชื่น นี่คือเด็ดมาก เพราะเขานำความเป็นนักแสดงตลกมาผสมกับบทดราม่าได้อย่างลงตัว ทำให้บุญโฮมเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ 😍

🏷️ ฉายาเด็ด “จอมแซวแห่งวลาหก”
เพราะบุญโฮมคือตัวตึงเรื่องการแซวและสร้างความฮาในหมู่บ้านวลาหก 😆 ไม่ว่าสถานการณ์จะตึงเครียดแค่ไหน เขาก็มีวิธีโยนมุกหรือแซวให้ทุกคนยิ้มได้ ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับหนุ่มจอมทะเล้นที่เป็นขวัญใจชาวบ้าน 🌟

💡 ข้อคิดจากบุญโฮม “รอยยิ้มและความสนุกช่วยเยียวยาจิตใจในยามยาก”
ข้อคิดจากบุญโฮมคือ การมอบรอยยิ้มและความสนุกให้คนรอบข้างสามารถเป็นพลังบวกได้ 💖 แม้ในยามที่หมู่บ้านวลาหกเผชิญอันตรายจากทหารเวียงพูคำ ความขี้เล่นของบุญโฮมช่วยให้ชาวบ้านมีกำลังใจ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การมองโลกในแง่บวกและสร้างความสุขให้คนรอบตัวคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากได้ 🙌

บอกเลยว่า ต๋อง ชวนชื่น ในบทบุญโฮมคือตัวละครที่ขโมยซีนได้ทุกครั้งที่โผล่มา การแสดงของเขาทำให้บุญโฮมเป็นตัวละครที่ทั้งตลกและอบอุ่น ฉากที่เขาแซวชาวบ้านหรือช่วยคลายเครียดในหมู่บ้านคือทำให้เรายิ้มตาม 😍 บุญโฮมอาจเป็นตัวละครสมทบ แต่เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้มีรสชาติมากขึ้น

→ เตชินท์ ปิ่นชาตรี รับบท ทับทิม 

1369585512 1810118898 o
เตชินท์ ปิ่นชาตรี

ทับทิม ที่รับบทโดย เตชินท์ ปิ่นชาตรี คือตัวละครที่มาเติมความสดใสให้กับเรื่องนี้ 😄 เขาคือเด็กหนุ่มในหมู่บ้านวลาหก ที่เป็นเหมือนน้องชายสุดแสบของ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) และชาวบ้านทุกคน ทับทิมเป็นหนุ่มที่ขี้เล่น ซนๆ และมีจิตใจดี คอยช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านวลาหกที่หลบภัยจากทหารของ นายพลเซกอง 🏃‍♂️ เขามักจะโผล่มาในฉากที่เพิ่มความสนุกและความน่ารักให้กับเรื่อง เช่น ช่วยวิ่งส่งข่าวหรือทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสนับสนุน พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์)

ถึงทับทิมจะเป็นตัวละครสมทบและไม่ได้มีบทเด่นมาก แต่ความสดใสและความไร้เดียงสาของเขาทำให้ทุกคนยิ้มได้ 😊 การแสดงของ เตชินท์ ทำให้ทับทิมดูเป็นเด็กหนุ่มที่ทั้งน่ารักและมีพลังบวกเต็มเปี่ยม ช่วยให้บรรยากาศในหมู่บ้านวลาหกไม่ตึงเครียดเกินไป บอกเลยว่าเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ในความอบอุ่นของเรื่องนี้ 🥰

🏷️ ฉายาเด็ด “น้องเล็กจอมซน”
เพราะทับทิมคือเด็กหนุ่มที่ซนสุดๆ และเป็นน้องเล็กที่น่ารักของหมู่บ้านวลาหก 😆 ความขี้เล่นและความสดใสของเขาทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรักและเอ็นดู ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับหนุ่มน้อยที่เต็มไปด้วยพลังและความน่ารัก 🌟

💡 ข้อคิดจากทับทิม “ความสดใสและความไร้เดียงสาสามารถสร้างรอยยิ้มได้ทุกที่”
ข้อคิดจากทับทิมคือ แม้จะเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ แต่ความสดใสและความจริงใจก็สามารถสร้างความสุขให้คนรอบข้างได้ 💖 ทับทิมอาจไม่ได้มีบทบาทใหญ่ในภารกิจกู้บัลลังก์ แต่การที่เขาคอยช่วยเหลือและนำรอยยิ้มมาสู่ชาวบ้านในยามยากลำบาก สอนให้เราเห็นว่า พลังบวกและความไร้เดียงสาคือสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจคนได้ทุกสถานการณ์ 🙌

บอกเลยว่า เตชินท์ ปิ่นชาตรี ในบททับทิมคือตัวละครที่ขโมยใจคนดูด้วยความน่ารัก การแสดงของเขาทำให้ทับทิมดูเป็นเด็กหนุ่มที่สดใสและมีพลังบวกสุดๆ ฉากที่เขาวิ่งไปมาช่วยงานในหมู่บ้านหรือแซวชาวบ้านเบาๆ คือทำให้เรายิ้มตาม 😍 ทับทิมอาจเป็นตัวละครเล็กๆ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ คุณชายรัชชานนท์ มีความอบอุ่นและมีชีวิตชีวา

→ ภัทรากร ตั้งศุภกุล รับบท จันทา 

3de538d0 5270 11ec b60d 71a2549d5a43 webp original
ภัทรากร ตั้งศุภกุล

จันทา ที่รับบทโดย ภัทรากร ตั้งศุภกุล คือตัวละครที่พกความดราม่าและความน่าสงสารมาเต็ม 😢 เธอเป็นสาวบ้านป่าลูกสาวของ พรานเจ้ย (เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์) ที่อาศัยอยู่ในป่าหนองคาย จันทาคือสาวน้อยที่จิตใจดี อ่อนโยน แต่ชีวิตของเธอต้องเจอกับโชคชะตาสุดรันทด ในตอนแรก เธอถูกทหารจากเวียงพูคำรังแก แต่ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) เข้ามาช่วยไว้แบบเท่ๆ 😎 หลังจากนั้น เธอได้เดินป่ากับคุณชายเล็กและพ่อ แต่ดราม่ามาเลยจ้า พรานเจ้ยเสียชีวิตเพื่อปกป้องเธอจากการยิงของทหาร ทำให้จันทาต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ 😭

จากนั้น จันทาได้ไปพักรักษาตัวที่หมู่บ้านวลาหก และเมื่อ คุณชายเล็ก รู้สึกผิดที่ทำให้เธอเสียพ่อ เขาก็ขอแต่งงานเพื่อรับผิดชอบ แต่พล็อตทวิสต์มาเลย คุณชายเล็กต้องแต่งงานกับ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) เพราะความเข้าใจผิด ทำให้จันทาใจสลาย 💔 สุดท้าย เธอเลือกเป็นน้องสาวของคุณชายและเดินทางไปกรุงเทพฯ กับทุกคน การแสดงของ ภัทรากร ทำให้จันทาดูเป็นสาวน้อยที่น่าสงสารแต่เข้มแข็ง ซึ้งสุดๆ ในทุกฉากที่เธอปรากฏตัว

🏷️ ฉายาเด็ด “สาวน้อยใจสลาย”
เพราะจันทาคือสาวน้อยที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียทั้งพ่อและความรัก 😢 เธอเป็นตัวละครที่พกความดราม่ามาเต็ม แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งในการก้าวต่อไป ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับสาวน้อยที่ทำให้คนดูน้ำตาคลอ 🌟

💡 ข้อคิดจากจันทา “ความเข้มแข็งคือการยอมรับและก้าวต่อไปแม้หัวใจจะเจ็บปวด”
ข้อคิดจากจันทาคือ แม้ชีวิตจะเจอความสูญเสียและความเจ็บปวด แต่การยอมรับและก้าวต่อไปคือสิ่งที่ทำให้เราเติบโต 💖 จันทาสูญเสียทั้งพ่อและความรัก แต่เธอเลือกที่จะเป็นน้องสาวของคุณชายและเริ่มต้นใหม่ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า ความเข้มแข็งในใจคือพลังที่ช่วยให้เราผ่านพ้นทุกความยากลำบากได้ 🙌

บอกเลยว่า ภัทรากร ตั้งศุภกุล ในบทจันทาคือตัวละครที่ขโมยน้ำตาคนดู การแสดงของเธอทำให้เราอินกับความน่าสงสารและความเข้มแข็งของจันทา ฉากที่เธอเสียพ่อหรือตอนที่ยอมรับการเป็นน้องสาวของคุณชายเล็กคือซึ้งมาก 😍 จันทาอาจไม่ใช่ตัวเอกหลัก แต่เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้มีมิติทางอารมณ์

→ เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์ รับบท เจ้าส่องดาว

40381431 706426729701768 3363771144194088073 n
เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์

เจ้าส่องดาว ที่รับบทโดย เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์ คือตัวละครที่พกความลึกลับและความซึ้งมาเต็ม 😮 เธอคือราชินีแห่งเวียงพูคำและพระมารดาของ เจ้ารังสิมันตุ์ (จรณ โสรัตน์) และ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) เจ้าส่องดาวเป็นตัวละครที่ปรากฏผ่านความทรงจำและเรื่องเล่ามากกว่าในฉากจริง เพราะเธอเสียชีวิตไปก่อนเหตุการณ์ในเรื่องจะเริ่มขึ้น 😢 แต่ถึงจะไม่อยู่ในปัจจุบัน เธอก็ทิ้งมรดกแห่งความรักและความเสียสละไว้ให้ลูกๆ และ เจ้าหลวงสุริยวงศ์ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)

เจ้าส่องดาวเป็นผู้หญิงที่ทั้งสง่างามและกล้าหาญ เธอมีบทบาทสำคัญในอดีตเมื่อฝาก เจ้ารังสิมันตุ์ ไว้กับ หม่อมราชวงศ์อนุพันธ์ (ธนากร โปษยานนท์) เพื่อปกป้องเขาจาก นายพลเซกอง ที่ยึดอำนาจในเวียงพูคำ การเสียสละของเธอเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ลูกๆ ของเธอต้องเผชิญโชคชะตาเพื่อกู้บัลลังก์! การแสดงของ เบญจวรรณ ถึงจะปรากฏในฉากย้อนอดีตสั้นๆ แต่ก็ทรงพลัง สามารถถ่ายทอดความรักของแม่และความยิ่งใหญ่ของราชินีได้แบบสุดปัง 😍

🏷️ ฉายาเด็ด “ราชินีแห่งความเสียสละ”
เพราะเจ้าส่องดาวคือราชินีที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกๆ และเวียงพูคำ 👑 เธอฝากเจ้ารังสิมันตุ์ไว้กับครอบครัวเทวพรหมและต่อสู้เคียงข้างเจ้าหลวงสุริยวงศ์จนวินาทีสุดท้าย ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับความกล้าและความรักของเธอ 🌟

💡 ข้อคิดจากเจ้าส่องดาว “ความรักของแม่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ข้อคิดจากเจ้าส่องดาวคือ ความรักของแม่สามารถขับเคลื่อนทุกสิ่งได้ แม้ในยามที่ตัวเองไม่อยู่ 💖 การที่เธอยอมเสียสละเพื่อปกป้องเจ้ารังสิมันตุ์และสร้อยฟ้าสอนให้เราเห็นว่า ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพ่อแม่คือพลังที่ผลักดันให้ลูกๆ ก้าวต่อไปได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด 🙌

บอกเลยว่า เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์ ในบทเจ้าส่องดาวคือตัวละครที่ถึงจะปรากฏตัวน้อย แต่ทิ้งความประทับใจไว้เต็มๆ การแสดงของเธอในฉากย้อนอดีตทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความรักของราชินีที่เป็นแม่ ฉากที่เธอฝากเจ้ารังสิมันตุ์ไว้กับครอบครัวเทวพรหมคือซึ้งสุดๆ 😭 เจ้าส่องดาวเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของปมดราม่าทั้งหมดในเรื่องนี้

→ อุดม ชวนชื่น รับบท พรานเกิ้น 

อุดม ชวนชื่น

พรานเกิ้น ที่รับบทโดย อุดม ชวนชื่น คือตัวละครที่พกความฮาและความอบอุ่นมาสู่ป่าหนองคาย 😄 เขาคือพรานนักล่าจากหมู่บ้านวลาหก ผู้ช่วย คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) และ สร้อยฟ้า (ณฐพร เตมีรักษ์) ในภารกิจสำคัญๆ พรานเกิ้นเป็นคนที่ขี้เล่น มีมุกตลก และมักจะโผล่มาในฉากที่ช่วยคลายความตึงเครียดให้กับทีม 😅 แต่ถึงจะดูเป็นคนสนุกสนาน เขาก็มีความภักดีต่อ พ่อใหญ่ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) และพร้อมลุยปกป้องหมู่บ้านจากทหารของ นายพลเซกอง 💪

พรานเกิ้นมีบทบาทสำคัญในฉากที่ช่วยนำทางในป่า หรือตอนที่คอยสนับสนุนภารกิจกู้บัลลังก์เวียงพูคำ การแสดงของ อุดม ชวนชื่น นำความเป็นนักแสดงตลกมาผสมผสานกับบทนักรบได้อย่างลงตัว ทำให้พรานเกิ้นเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าเชื่อถือ บอกเลยว่าเขาเป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มสีสันให้เรื่องนี้สุดๆ 😍

🏷️ ฉายาเด็ด “พรานจอมกวน”
เพราะพรานเกิ้นคือพรานที่ไม่เหมือนใคร 😆 เขานำความฮาและมุกตลกมาสู่ป่าหนองคาย แถมยังกวนประสาทศัตรูได้แบบเนียนๆ ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับหนุ่มพรานที่ทั้งเก่งและขี้เล่น 🌟

💡 ข้อคิดจากพรานเกิ้น “ความสนุกสนานช่วยสร้างพลังบวกในทีม”
ข้อคิดจากพรานเกิ้นคือ การนำความสนุกสนานมาให้ทีมสามารถสร้างพลังบวกและช่วยให้ทุกคนสู้ต่อได้ 💖 แม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดจากภัยของนายพลเซกอง ความขี้เล่นของพรานเกิ้นช่วยให้ทุกคนมีรอยยิ้มและกำลังใจ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่า การมองโลกในแง่ดีและการเป็นตัวสร้างความสุขให้คนรอบข้างคือสิ่งที่ทำให้ทีมเข้มแข็ง 🙌

บอกเลยว่า อุดม ชวนชื่น ในบทพรานเกิ้นคือตัวละครที่ขโมยซีนได้ทุกครั้ง การแสดงของเขาทำให้พรานเกิ้นดูเป็นทั้งนักรบและตัวสร้างความฮา ฉากที่เขานำทางในป่าหรือแซวทีมในหมู่บ้านคือทั้งขำและอบอุ่น 😍 พรานเกิ้นอาจเป็นตัวละครสมทบ แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ คุณชายรัชชานนท์ มีรสชาติและความสนุก

→ อ.เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์ รับบท พรานเจ้ย

Ung
อ.เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์

พรานเจ้ย ที่รับบทโดย เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์ คือตัวละครที่พกความดราม่าและความเป็นพ่อสุดยิ่งใหญ่ 😢 เขาคือพรานนักล่าจากป่าหนองคาย และเป็นพ่อของ จันทา (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) พรานเจ้ยเป็นคนเข้มแข็ง กล้าหาญ และรักลูกสาวสุดหัวใจ 💪 ในเรื่อง เขาได้เจอกับ คุณชายรัชชานนท์ (ธนิน มนูญศิลป์) ขณะที่ช่วยปกป้องจันทาจากทหารของ นายพลเซกอง ที่มารังควาน แต่ดราม่ามาเลยจ้า พรานเจ้ยต้องเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องจันทาและคุณชายเล็กจากการยิงของทหารเวียงพูคำ 😭

ถึงพรานเจ้ยจะอยู่ในเรื่องไม่นาน แต่ทุกฉากที่เขาปรากฏตัวคือทรงพลังสุดๆ เขาเป็นตัวอย่างของพ่อที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูก การแสดงของ เกริกเกียรติ ทำให้พรานเจ้ยดูเป็นทั้งนักรบและพ่อที่อบอุ่น ฉากที่เขายอมสละชีวิตเพื่อจันทาคือซึ้งจนน้ำตาไหล 🥰 บอกเลยว่าเป็นตัวละครที่ทำให้คนดูอินและจำได้ไม่ลืม

🏷️ ฉายาเด็ด “พ่อพรานผู้เสียสละ”
เพราะพรานเจ้ยคือพ่อที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อปกป้อง จันทา ลูกสาวสุดที่รัก 💔 ความกล้าหาญและความรักของเขาคือหัวใจของตัวละครนี้ ฉายานี้เหมาะสุดๆ กับพ่อพรานที่ทุ่มเทจนวินาทีสุดท้าย 🌟

💡 ข้อคิดจากพรานเจ้ย “ความรักของพ่อคือการยอมเสียสละเพื่อลูก”
ข้อคิดจากพรานเจ้ยคือ ความรักของพ่อแม่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ และการยอมเสียสละเพื่อคนที่รักคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย 💖 พรานเจ้ยยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องจันทาและคุณชายเล็ก สอนให้เราเห็นว่า การทำเพื่อคนที่เรารัก แม้ต้องแลกด้วยสิ่งมีค่า คือคุณค่าที่แท้จริงของความเป็นพ่อ 🙌

บอกเลยว่า เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์ ในบทพรานเจ้ยคือตัวละครที่ขโมยใจคนดู การแสดงของเขาทำให้พรานเจ้ยดูเป็นทั้งนักรบที่กล้าหาญและพ่อที่รักลูกสุดหัวใจ ฉากที่เขาปกป้องจันทาและเสียชีวิตคือพีคสุดๆ ทำเอาน้ำตาคลอ 😍 พรานเจ้ยอาจอยู่ในเรื่องแค่ช่วงสั้นๆ แต่ความทรงจำที่เขาทิ้งไว้คือยิ่งใหญ่


เป็นยังไงกันบ้างทุกคน เรื่องราวของ คุณชายรัชชานนท์ และตัวละครสุดเจ๋งทั้งหมดใน สุภาพบุรุษจุฑาเทพ นี่มันช่างน่าประทับใจจริงๆ 😍 จากความกล้าหาญของ คุณชายเล็ก ความเข้มแข็งของ สร้อยฟ้า ไปจนถึงความเสียสละของตัวละครอย่าง เจ้าส่องดาว และ พรานเจ้ย ทุกตัวละครมีเรื่องราวและข้อคิดที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ทั้งเรื่องความรัก ความภักดี และการเสียสละ 🥰 ถ้าทุกคนอินและอยากย้อนความฟิน อย่าลืมไปดู คุณชายรัชชานนท์ ได้ในช่อง 3 หรือสตรีมมิ่งเลยนะ📺

ทุกคนชอบตัวละครไหน หรือฉากไหนในเรื่องนี้มากที่สุด? อย่าลืมกดแชร์