ละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน 2557 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องราวของ “โรสริน” เป็นคุณหนูไฮโซ ทายาทโรงแรมควีนโรสของ “ปู่ณรงค์” เธอสวย มั่นใจ แต่มีนิสัยเอาแต่ใจและเหวี่ยงวีนไม่เลือกหน้า หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ โรสรินหวังจะบริหารโรงแรมของปู่ทันที แต่ปู่ณรงค์ต้องการให้หลานสาวเรียนรู้การทำงานจากระดับรากหญ้า จึงส่งเธอไปฝึกงานที่ บ้านไร่ตะวัน ไร่ดอกไม้ของ “ปู่ชาญ” เพื่อนรักของปู่ณรงค์ โดยมีแผนลับที่จะจับคู่ให้โรสรินแต่งงานกับ “ตะวัน” หลานชายของปู่ชาญ ซึ่งเป็นเจ้าของไร่ดอกไม้ที่มีนิสัยมั่นใจและปากจัดไม่แพ้กัน
เมื่อโรสรินมาถึงไร่ตะวัน เธอต้องเผชิญกับการทำงานหนัก เช่น ขุดดิน หมักปุ๋ย และเลี้ยงหมู ซึ่งขัดกับวิถีชีวิตสุดหรูของเธอ ทำให้เกิดการปะทะคารมกับตะวันอย่างดุเดือดตั้งแต่แรกพบ โรสรินพยายามหาทางหนีกลับกรุงเทพฯ โดยมี “พีระ” เพื่อนชายคนสนิท และ “อุษาวดี” น้องสาวของพีระคอยช่วยเหลือ แต่ตะวันที่ไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชนของปู่ กลับยอมให้โรสรินอยู่ที่ไร่ 1 ปีตามเงื่อนไข หากอยู่ครบโดยไม่หนี เธอจะไม่ต้องแต่งงานกับเขา
ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมจากเคมีของคู่พระนางและความสนุกของการปะทะคารม รวมถึงฉากโรแมนติกที่ทำให้ผู้ชมลุ้นให้ทั้งคู่ลงเอยกัน ต่อไปนี้คือเนื้อหาครบทั้งเรื่อง
จุดเริ่มต้น คุณหนูไฮโซ vs เจ้าของไร่ปากจัด
โรสริน (ใหม่-ดาวิกา) คุณหนูไฮโซ ทายาทโรงแรมควีนโรส กลับจากเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศ หวังจะบริหารโรงแรมของ ปู่ณรงค์ (เป็ด เชิญยิ้ม) ทันที แต่ปู่ณรงค์อยากให้หลานสาวเรียนรู้การทำงานหนัก จึงส่งเธอไปฝึกงานที่ บ้านไร่ตะวัน ไร่ดอกไม้ของ ปู่ชาญ (โน้ต เชิญยิ้ม) เพื่อนสนิท โดยมีแผนลับจับคู่ให้โรสรินแต่งงานกับ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) หลานชายของปู่ชาญ ซึ่งเป็นหนุ่มเจ้าของไร่ที่มั่นใจ ปากร้าย และไม่ชอบการคลุมถุงชน
เมื่อโรสรินมาถึงไร่ เธอต้องเจอกับงานหนัก เช่น ขุดดิน หมักปุ๋ย เลี้ยงหมู ซึ่งขัดกับชีวิตสุดหรูของเธอ เธอปะทะคารมกับตะวันตั้งแต่แรกพบ เพราะตะวันตั้งใจสั่งงานหนักเพื่อสั่งสอนคุณหนูจอมหยิ่ง ส่วนโรสรินก็ใช้ความเจ้าเล่ห์ต่อกร เกิดฉากฮาๆ เช่น ฉากที่ตะวันจับโรสรินโยนลงคอกหมู หรือฉากที่โรสรินแกล้งทำตัวอ่อนแอเพื่อให้ตะวันช่วย
เงื่อนไขสำคัญ ปู่ณรงค์และปู่ชาญตกลงว่า หากโรสรินอยู่ที่ไร่ครบ 1 ปีโดยไม่หนี เธอจะไม่ต้องแต่งงานกับตะวัน โรสรินจึงพยายามหาทางหนีกลับกรุงเทพฯ โดยมี พีระ (น้ำ-รพีภัทร) เพื่อนชายคนสนิท และ อุษาวดี (กระติ๊บ-ชวัลกร) น้องสาวของพีระคอยช่วย แต่ตะวันจับได้ทุกครั้ง
ความวุ่นวายและตัวละครสมทบ
น้ำค้าง (มิ้งค์-ยูมิโกะ), อึ่ง (น้ำขิง-สุทธิดา), และ อาทิตย์ (ทิกเกอร์-อชิระ) ลูกพี่ลูกน้องของตะวัน เป็นกองเชียร์ที่คอยลุ้นให้ตะวันกับโรสรินรักกัน ฉากของกลุ่มนี้เพิ่มความสนุกและมุกตลกให้เรื่อง
มาลัย (ลูกตาล-อริษา) ลูกสาวแม่ค้าตลาดที่หลงรักตะวัน คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งโรสรินด้วยความหึง เช่น ใส่ร้ายว่าโรสรินขโมยของ หรือพยายามแย่งความสนใจจากตะวัน
เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) ลูกชายเสี่ยเจ้าของปางไม้ เป็นตัวร้ายที่หลงรักโรสรินและมีส่วนในขบวนการค้าไม้เถื่อน เขาคอยสร้างปัญหา เช่น พยายามจับตัวโรสริน หรือทำร้ายตะวัน
พัฒนาการความสัมพันธ์ จากเกลียดกลายเป็นรัก
โรสรินและตะวันเริ่มจากความขัดแย้ง ตะวันมองว่าโรสรินเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ส่วนโรสรินมองว่าตะวันเป็นคนบ้านนอกปากร้าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคู่เริ่มเห็นมุมดีๆ ของกันและกัน
ตะวันช่วยปกป้องโรสรินจากเดชา เช่น ครั้งที่เดชาพยายามจับตัวเธอ ทำให้โรสรินเริ่มรู้สึกประทับใจในความกล้าหาญของตะวัน ระหว่างหลงป่าด้วยกัน ตะวันดูแลโรสรินอย่างใกล้ชิด เกิดโมเมนต์หวานๆ เช่น ตะวันแบกโรสรินที่เจ็บเท้า หรือฉากที่ทั้งคู่ต้องนอนใกล้กันเพื่อให้ความอบอุ่น โรสรินเริ่มเรียนรู้คุณค่าของการทำงานหนักและความจริงใจ เธอเปลี่ยนจาก “กุหลาบร้าย” ที่หยิ่งผยอง กลายเป็นคนที่อ่อนโยนและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น
ละครมีทั้งหมด 15 ตอน เรื่องนี้ได้รับความนิยมจากความสนุกของนักแสดงและเคมีที่ลงตัวของกันต์และดาวิกา ทำให้เป็นหนึ่งในละครที่แฟนๆ จดจำในยุคนั้น ต่อไปนี้คือจุดเด่น และความน่าประทับใจของละคร
เคมีพระนางที่ลงตัว
กันต์ กันตถาวร และ ดาวิกา โฮร์เน่ ถือเป็นคู่พระนางที่สร้างเคมีได้ดีเกินคาด กันต์ในบท ตะวัน นำเสนอภาพหนุ่มบ้านไร่ที่ปากร้ายแต่จริงใจ ด้วยสไตล์การแสดงที่เป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์ ส่วนดาวิกาในบท โรสริน ถ่ายทอดความเป็นคุณหนูไฮโซที่หยิ่งผยองแต่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงได้น่าเชื่อ การปะทะคารมของทั้งคู่ เช่น ฉากที่ตะวันแกล้งให้โรสรินทำงานหนัก หรือฉากถ่ายแฟชั่นคู่รัก เป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมลุ้นและอมยิ้มได้ตลอด
ความสมดุลของความตลกและโรแมนติก
ละครผสมผสานความคอเมดี้และความหวานได้อย่างดี ฉากตลก เช่น โรสรินต้องเลี้ยงหมูหรือขุดดิน สร้างเสียงหัวเราะจากความไม่เข้ากันของตัวละครกับสถานการณ์ ส่วนฉากโรแมนติก เช่น การหลงป่าหรือตอนที่ตะวันช่วยโรสรินจากอันตราย ทำได้หวานซึ้งโดยไม่เลี่ยนเกินไป
ตัวละครสมทบที่เพิ่มสีสัน
ตัวละครอย่าง น้ำค้าง (มิ้งค์-ยูมิโกะ), อึ่ง (น้ำขิง-สุทธิดา), และ อาทิตย์ (ทิกเกอร์-อชิระ) เป็นกองเชียร์ที่เพิ่มความสนุกด้วยมุกตลกและการแซวพระนาง ส่วน มาลัย (ลูกตาล-อริษา) ในบทสาวบ้านนอกที่หลงรักตะวัน สร้างความวุ่นวายได้น่าติดตาม ปู่ชาญ (โน้ต เชิญยิ้ม) และ ปู่ณรงค์ (เป็ด เชิญยิ้ม) ก็เพิ่มความอบอุ่นด้วยบทปู่จอมวางแผน
ข้อคิดที่สอดแทรก
ละครสอนเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ความอดทน และการเรียนรู้คุณค่าของการทำงานหนัก โรสรินจากคุณหนูเอาแต่ใจค่อยๆ กลายเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่น ส่วนตะวันก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความรับผิดชอบ ทำให้เรื่องนี้เหมาะกับผู้ชมทุกวัย
งานภาพและโลเคชัน
ฉากในไร่ตะวันถ่ายทอดความสวยงามของธรรมชาติได้ดี โดยเฉพาะทุ่งดอกไม้ที่เป็นฉากหลังของเรื่องราวความรัก งานภาพและการถ่ายทำในยุคนั้นถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานช่อง 7
คะแนน 8/10 (จาก sence9.com)
กุหลาบร้ายของนายตะวัน เป็นละครที่ครบรส ทั้งสนุก ตลก และซึ้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบละครแนวโรแมนติก-คอเมดี้ที่มีพล็อตไม่ซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยโมเมนต์น่ารัก เคมีของกันต์และดาวิกาคือจุดขายหลักที่ทำให้ละครน่าติดตาม แม้จะมีจุดด้อยเรื่องสูตรสำเร็จและบางฉากที่ยืดเยื้อ แต่โดยรวมแล้วเป็นละครที่ดูเพลินและให้ความบันเทิงได้ดี
แนะนำสำหรับแฟนละครไทยที่ชอบเรื่องราวความรักแบบศัตรูกลายเป็นแฟน และอยากย้อนความทรงจำของละครช่อง 7 ในยุค 2010s
สนุกและเพลิดเพลินกับความคอเมดี้
ฉากที่ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) คุณหนูไฮโซต้องมาทำงานหนักในไร่ เช่น เลี้ยงหมู ขุดดิน หรือหมักปุ๋ย สร้างเสียงหัวเราะได้ดีมาก ความไม่เข้ากันระหว่างชีวิตสุดหรูของเธอกับงานบ้านนอกทำให้เกิดมุกตลกที่เป็นธรรมชาติ การปะทะคารมกับ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) ที่ปากร้ายแต่แฝงความน่ารัก ยิ่งทำให้รู้สึกสนุกและอยากดูต่อ
ตัวละครอย่าง น้ำค้าง, อึ่ง, และ อาทิตย์ เพิ่มสีสันด้วยการแซวและมุกตลก ส่วน มาลัย ที่คอยหึงและกลั่นแกล้งโรสริน ทำให้รู้สึกเหมือนดูเพื่อนบ้านทะเลาะกันแบบขำๆ
ฟินและลุ้นกับเคมีพระนาง
หัวใจเต้นแรงกับโมเมนต์หวานๆ ฉากที่ตะวันและโรสรินเริ่มใกล้ชิดกัน เช่น ฉากหลงป่า ที่ตะวันต้องดูแลโรสริน หรือฉากที่ตะวันช่วยเธอจากอันตราย ทำให้รู้สึกฟินและลุ้นให้ทั้งคู่รักกันเร็วๆ การเปลี่ยนจากศัตรูที่เกลียดกันมาเป็นความรักให้ความรู้สึกค่อยๆ อินไปกับพัฒนาการของตัวละคร
กันต์และดาวิกาสร้างเคมีที่เข้ากันได้ดี การแสดงของทั้งคู่ทำให้รู้สึกว่าตะวันและโรสรินเหมือนคนที่ทะเลาะกันแต่แอบชอบกันจริงๆ โดยเฉพาะฉากที่ตะวันแอบยิ้มให้โรสริน หรือตอนที่โรสรินแกล้งความจำเสื่อมเพื่อทดสอบใจตะวัน ทำให้รู้สึกอยากเชียร์ให้ทั้งคู่ลงเอย
อินกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร
การเห็นโรสรินจากคุณหนูเอาแต่ใจกลายเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นและยอมรับความรักของตะวัน ทำให้รู้สึกประทับใจและเห็นคุณค่าของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง การแสดงของดาวิกาในฉากดราม่า เช่น ตอนที่เธอรู้สึกผิดหรือยอมรับความรู้สึกตัวเอง ทำให้รู้สึกซึ้งและอินไปด้วย
หลงรักความจริงใจของตะวัน ตะวันที่ดูเหมือนหนุ่มบ้านนอกปากร้าย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่ทุ่มเทและปกป้องคนที่รัก ทำให้รู้สึกชื่นชมและอยากมีคนแบบนี้ในชีวิตจริง
ตื่นเต้นกับดราม่าและความขัดแย้ง
ฉากที่เกี่ยวข้องกับ เดชา และขบวนการค้าไม้เถื่อน เช่น การจับตัวโรสริน หรือการที่ตะวันต้องต่อสู้เพื่อปกป้องไร่ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและลุ้นว่าพระนางจะฝ่าฟันอุปสรรคได้อย่างไร
อบอุ่นและได้ข้อคิด
ความอบอุ่นจากครอบครัวและมิตรภาพ การที่ปู่ชาญและปู่ณรงค์วางแผนจับคู่หลานให้รู้สึกเหมือนมีผู้ใหญ่ที่ห่วงใยคอยดูแล ส่วนมิตรภาพของตัวละครสมทบในไร่ตะวันก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ข้อคิดที่ได้ ละครสอนให้เห็นคุณค่าของการทำงานหนัก ความอดทน และการเปิดใจยอมรับความรัก ทำให้รู้สึกได้แรงบันดาลใจเล็กๆ ในการใช้ชีวิต
สำหรับผู้ที่ดูในปี 2025+ การย้อนกลับไปดูละครเรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยไปสมัยที่ละครช่อง 7 ครองใจผู้ชมในยุค 2010s การแต่งตัว ทรงผม และสไตล์การถ่ายทำอาจดูเก่าไปบ้าง แต่ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนึกถึงวันวานที่ได้นั่งดูทีวีกับครอบครัว
ละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน ให้ความรู้สึกทางอารมณ์ มีทั้งขำกลิ้ง ฟินจนจิกหมอน ลุ้นระทึก และซึ้งไปกับความรักและการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร เคมีของกันต์และดาวิกาคือหัวใจของเรื่องที่ทำให้อยากติดตามทุกตอน ถึงแม้จะมีบางจุดที่รู้สึกยืดเยื้อหรือสูตรสำเร็จไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วเป็นละครที่ดูแล้วมีความสุข เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนและดื่มด่ำกับเรื่องราวความรักแบบเบาสมอง สำหรับแฟนละครไทยยุค 2010s เรื่องนี้จะยิ่งทำให้รู้สึกคิดถึงวันเก่าๆ ที่ได้นั่งดูทีวีพร้อมครอบครัว
ละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน 2557
ละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน 2557 EP.1-15 ตอนจบCH7+
ฉากเด็ด กุหลาบร้ายของนายตะวัน 2557
เพลงฉันยอม Ost.กุหลาบร้ายของนายตะวัน
เพลงตัวร้าย Ost.กุหลาบร้ายของนายตะวัน
ละคร กุหลาบร้ายของนายตะวัน 2557
โรสริน หรือ โรส (ใหม่ ดาวิกา) คุณหนูสุดจี๊ด..ดด ชีสวย เลิศ เชิด เป๊ะ แถมเป็นทายาทคนเดียวของ ปู่ณรงค์ (เป็ด เชิญยิ้ม) เจ้าของโรงแรมควีนโรส โรสถูกเลี้ยงแบบตามใจสุดฤทธิ์กลายเป็นคนเอาแต่ใจเหวี่ยงวีนคนอื่นไม่เลือกหน้า ขนาดคุณปู่ของเธอแท้ๆ ยังโดนวีนโทษฐานที่สั่งให้เธอไปเริ่มฝึกงานตั้งแต่ระดับรากหญ้าก่อนจะมีสิทธิขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารโรงแรม โถ ๆ ๆ อุตส่าห์จบโทจากเมืองนอกเมืองนาทั้งทีแต่ต้องมาเป็นคนรับใช้เนี่ยนะ…มันจี๊ด !
โรสรินยื่นคำขาดถ้าไม่ได้เป็นผู้บริหารโรงแรมจะกลับเมืองนอกทันที! แถมยังทิ้งระเบิดใส่ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) ตี๋บ้านนอกเจ้าของไร่ดอกไม้ “บ้านไร่ตะวัน” ที่เอากล้วยไม้มาจัดในงานเลี้ยงต้อนรับโรสรินตามที่ปู่ณรงค์จ้างมา แต่ระดับคุณหนูโรสรินทั้งทีจะมาใช้กล้วยไม้ บ้าน ๆ เดี๋ยวจะเสียศักดิ์ศรี งานนี้ต้องกุหลาบนอกเท่านั้นที่เธอคู่ควร ! ตะวันสุดทนที่ถูกโรสด่ากราดแถมยังดูถูกเหยียบหัวคนอื่นไปทั่ว เลยจัดการตอกกลับแบบเจ็บแสบจนโรสรินปรี๊ด..ดดแตก ! เซ็นเช็คฟาดหัวตะวันให้ยอมแพ้เธอ แต่ตะวันกลับฉีกเช็คทิ้งคาตาแถมประกาศชัด “เงินเท่าไหร่ก็ซื้อผมไม่ได้ !!”
ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายกันอยู่โรสรินกลับถูกโจรเมายาใช้มีดจี้เป็นตัวประกันโทษฐานที่เคยไล่เค้าออก โรสสั่งให้ตะวันช่วย แต่ตะวันบอกเธอต้องยอมขอร้องเค้าก่อนแถมยังยุให้โจรแทงโรสริน โรสเลือดขึ้นหน้าแต่จำใจยอมขอร้องตะวันให้ช่วย ตะวันบู๊ช่วยโรสจนเธอปลอดภัย แต่โรสกลับจำฝังใจ..ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลยนะนายตะวัน !
เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะแท้จริงแล้ว ชาญ (โน้ต เชิญยิ้ม) ปู่ของตะวันเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกับณรงค์ แถมในอดีตณรงค์เคยยืมเงิน 20 ล้านจากชาญมาสร้างโรงแรมจนเจริญก้าวหน้ากลายเป็นโรงแรมควีนโรสในปัจจุบัน ณรงค์นัดเจอชาญเพื่อจะคืนเงิน 20 ล้านที่ยืมมา แต่ชาญปฏิเสธ..เปลี่ยนเป็นขอหลานสะใภ้ที่ชื่อโรสริสแทน!! ณรงค์ดีใจตกปากรับคำเพราะเชื่อมั่นว่าตะวันนี่แหละที่จะเปลี่ยนนางมารร้ายให้กลายเป็นนางฟ้าแสนดีคนเดิมได้อย่างแน่นอน !!
โรสรินรับไม่ได้กับความคิดคลุมถุงชนของสองปู่เลยวางแผนจะหนีกลับเมืองนอก โดยมี พีระ (น้ำ รพีภัทร) หนุ่มคนสนิทของโรสริน กับ อุษาวดี (กระติ๊บ ชวัลกร) น้องสาวของพีระคอยปั่นหัวไม่ให้โรสรินยอมรับเงื่อนไขของณรงค์ ฝ่ายตะวันลั่น ขอยอมตาย..ถ้าต้องแต่งงานกับยัยกุหลาบเน่า ! ถึงจะปากแข็งแต่อีกใจก็อยากสั่งสอนโรสรินจอมจองหองให้รู้สำนึก ปู่ชาญและณรงค์เลยตกลงกันว่าถ้าทั้งสองยังไม่อยากแต่งงานกันก็ไม่ห้ามแต่ต้องพบกันครึ่งทาง โดยให้โรสรินไปอยู่บ้านไร่กับนายตะวันหนึ่งปี ถ้าอยู่ครบก็ไม่ต้องแต่ง แต่ถ้าหนีกลับมาก่อน การแต่งงานจะถูกจัดขึ้นทันที! และแล้วคุณหนูไฮโซแสนสวยก็ต้องระเห็จไปสู่บ้านไร่ปลายนาด้วยความไม่ยินยอม..
ทันทีที่โรสรินก้าวเข้าสู่บ้านไร่ ตะวันก็รับน้องใหม่ด้วยการสั่งให้ลูกน้องในสวนดอกไม้ทดสอบความอดทนอดกลั้นและใจสู้ของเธอ ทั้งดัดนิสัยให้กินอยู่แบบสมถะ ใช้งานหนักปานกระบือ ทำสวนดอกไม้ ทำนา หมักปุ๋ย เลี้ยงหมู เลี้ยงสัตว์สารพัด แต่ทุกครั้งโรสรินก็แก้เผ็ดคืนชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน! จนเธอกลายเป็นนางมารร้ายในสายตาของทุกคน ถึงแม้โรสรินจะแสบ ป่วน ก่อเรื่องไม้เว้นวัน แต่ น้ำค้าง (มิ้งค์ ยูมิโกะ), อึ่ง (น้ำขิง สุทธิดา) และอาทิตย์ (ทิกเกอร์ อชิระ) ลูกพี่ลูกน้องของตะวันก็สัมผัสได้ถึงน้ำใจอันดีงามของเธอที่ซ่อนอยู่ภายใต้คราบคุณหนูจอมเหวี่ยง ทั้งสามเลยกลายเป็นเพื่อนคุยคลายเหงาให้โรสรินแถมยังเป็นกองหนุนสำคัญคอยเชียร์ให้เธอรักกับตะวัน
การมาถึงพร้อมฤทธิ์เดชของโรสรินเลื่องลือระบือไกลไปทั่วอำเภอ จนกระเด็นไปเข้าหู มาลัย (ลูกตาล อริษา) สาวบ้านนาลูกแม่ค้าในตลาดที่ออกตัวว่าชีเป็นคนรักของตะวัน พอรู้ว่าโรสเข้ามาอยู่ในไร่ตะวันมาลัยถึงกับคลั่ง แฟนข้าใครอย่าแตะ..ถ้าแตะเดี๋ยวแม่ตบ !! ส่วน เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) ลูกชายเสี่ยเจ้าของกิจการปางไม้ผู้มีอิทธิพลก็หลงรักโรสรินตั้งแต่แรกพบ เขามั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่และพยายามทำทุกอย่างเพื่อซื้อใจโรสริน เมื่อตะวันรู้ว่าเดชาหมายปองโรสรินก็เริ่มห่วงใยและคอยดูแลเธอเป็นเงาตามตัว เพราะตะวันรู้เช่นเห็นชาติธาตุแท้ว่าเดชาเป็นคนเลว
ด้วยความใกล้ชิดนี่เองที่ทำให้ตะวันเริ่มมองโรสรินเปลี่ยนไป..ความเหวี่ยงวีนของเธอแท้จริงแล้วมีมุมอ่อนหวานใสซื่อซ่อนอยู่ลึกๆ แต่เค้าต้องเก็บงำความลับนั้นไว้ในใจเพราะคิดว่าโรสรินกิ๊กอยู่กับ กิตติทัต (เอก ศุภากร) หมอหนุ่มแสนดีเพื่อนเก่าโรสรินสมัยเรียน แถมพีระก็ยังตามเทียวไล้เทียวขื่อโรสรินไม่เลิก เอ๊ะ ! หรือว่าเขาจะตกหลุมรักยัยคุณหนูปิศาจเข้าให้แล้ว
ว่าแล้วก็เจองานหินเข้าให้ เมื่อลูกน้องของเดชาคิดจะกำจัดตะวันให้สิ้นซากเพื่อเปิดทางให้เจ้านายได้ครองหัวใจโรสริน เลยวางแผนตัดสายเบรกรถตะวัน แต่โรสรินดันนั่งไปด้วย ขณะกำลังลงเขาตะวันพยายามเหยียบเบรกแต่เบรกไม่ทำงาน รถตะวันพุ่งตกไหล่ทางชนต้นไม้โครม..มม ตะวันฟื้นขึ้นมาช้ำในสาหัสแต่ไม่บอกโรสริน ทั้งคู่หลงป่ายิ่งทำให้อาการตะวันยิ่งทรุดกลับกลายเป็นโรสรินที่ต้องช่วยชีวิตตะวันแทน และวันเวลาในป่าร้างไร้ผู้คนยิ่งทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน และเริ่มรู้หัวใจตัวเอง…จนในที่สุดทั้งคู่ก็หาทางออกจากป่ารอดตายกลับมาไร่ตะวันสำเร็จ พีระต้องการพาตัวโรสรินกลับกรุงเทพฯ ทันทีเพราะคิดว่าตะวันทำให้โรสอยู่ในอันตราย แต่เป็นโรสรินเองที่หลงรักไร่ตะวัน และนายตะวันเข้าเต็มหัวใจ
พอมาลัยรู้ข่าวว่าโรสรินกับตะวันรักกัน เธอเลยงัดมารยาหญิงพันเล่มเกวียนมาขอร้องแกมบังคับให้ตะวันรีบไปหา ไม่เช่นนั้นเธอจะแขวนคอตาย !! ตะวันตกใจรีบตามไปช่วยมาลัยที่บ้าน แต่ถูก มาลี (แตน ราตรี) แม่ของมาลัยรวมหัวกับลูกสาวโปะยาสลบจัดฉากว่าทั้งคู่กำลังมีอะไรกันแล้วโทรตามโรสรินมาชมฉากเด็ด ! ทีแรกโรสรินเห็นยังเอะใจแต่พอได้ยินเสียงตะวันครางเรียกชื่อ มาลัย โรสรินอึ้ง ! น้ำตาร่วงกราว..พอกันทีกับผู้ชายไร้หัวใจ !! ตัดสินใจหอบกระเป๋ากลับกรุงเทพฯ ทันที พอตะวันฟื้นขึ้นมาถึงกับช็อกเมื่อรู้ว่าเขาได้สูญเสียโรสรินไปแล้ว ! ตามเอาใจช่วย นายตะวัน ว่าจะทำให้ ยัยกุหลาบร้าย กลายเป็น นางฟ้าของนายตะวัน อีกครั้งได้หรือไม่ ?! ร่วมลุ้นกันต่อได้ใน ละครกุหลาบร้ายของนายตะวัน
บทประพันธ์โดย : โสภี พรรณราย
บทโทรทัศน์โดย : ณ สราญ พลพล พงษ์แพทย์
กำกับการแสดงโดย : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ผลิตโดย : บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
นักแสดง
→ กันต์ กันตถาวร รับบท ตะวัน

เป็นพระเอกที่มีบุคลิกโดดเด่น ผสมผสานความเป็นหนุ่มบ้านไร่ที่มีทั้งความมั่นใจ ปากร้าย แต่ก็อบอุ่นและจริงใจ
ชื่อ: ตะวัน
บทบาท: พระเอก เจ้าของไร่ตะวัน หลานชายของ ปู่ชาญ (โน้ต เชิญยิ้ม)
อาชีพ: บริหารไร่ดอกไม้ (บ้านไร่ตะวัน) ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว
บุคลิกภาพหลัก: มั่นใจในตัวเอง ตรงไปตรงมา ปากร้ายแต่ใจดี มีความเป็นผู้นำ และรับผิดชอบต่อครอบครัวและชุมชน
ตะวัน เป็นตัวละครที่ผสมผสานความเป็นหนุ่มบ้านไร่ที่กวนประสาท เข้มแข็ง และอบอุ่นได้อย่างลงตัว การแสดงของ กันต์ กันตถาวร ทำให้ตะวันกลายเป็นพระเอกที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ โดยเฉพาะเคมีกับโรสรินที่ทำให้ผู้ชมลุ้นและฟินไปตลอดทั้งเรื่อง ตะวันไม่ใช่แค่พระเอกทั่วไป แต่เป็นตัวละครที่มีมิติ ผ่านการเปลี่ยนจากศัตรูของโรสรินกลายเป็นคนรักที่พร้อมปกป้องและอยู่เคียงข้างเธอ
หนุ่มบ้านไร่ที่มั่นใจและปากร้าย
ตะวันเป็นหนุ่มบ้านไร่ที่มีความมั่นใจสูง รักและภูมิใจในไร่ตะวันของตัวเอง เขามีนิสัยตรงไปตรงมา พูดจาโผงผาง และชอบแกล้งคนด้วยการพูดจาเหน็บแนม โดยเฉพาะกับ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) คุณหนูไฮโซที่เขามองว่าเอาแต่ใจ ฉากที่ตะวันแกล้งสั่งให้โรสรินทำงานหนัก เช่น เลี้ยงหมูหรือขุดดิน แสดงถึงความเจ้าเล่ห์และความสนุกในการ “สั่งสอน” เธอ
จริงใจและปกป้องคนที่รัก
ภายใต้ความปากร้าย ตะวันเป็นคนที่จริงใจและมีความรับผิดชอบสูง เขาดูแลไร่ตะวันและคนในชุมชนอย่างเต็มที่ รวมถึงปกป้องโรสรินจากอันตราย เช่น การเผชิญหน้ากับ เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) ตัวร้ายที่เป็นภัยต่อไร่และชุมชน
หัวใจอบอุ่นและแอบอ่อนโยน
แม้ตะวันจะดูแข็งกร้าวในตอนแรก แต่เขามีด้านที่อ่อนโยน โดยเฉพาะเมื่อเริ่มสนิทกับโรสริน เขาแสดงความห่วงใยผ่านการกระทำ เช่น ฉากหลงป่าที่เขาดูแลโรสรินอย่างใกล้ชิด หรือตอนที่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองเมื่อโรสรินแกล้งความจำเสื่อม
ต่อต้านการคลุมถุงชน แต่ลึกๆ มีใจให้โรสริน
ตะวันไม่เห็นด้วยกับแผนของ ปู่ชาญ และ ปู่ณรงค์ ที่จะจับคู่เขากับโรสริน เขาจึงตั้งใจแกล้งให้เธอทนไม่ได้เพื่อหนีกลับกรุงเทพฯ แต่เมื่อได้ใช้เวลาด้วยกัน เขาค่อยๆ ตกหลุมรักโรสรินโดยไม่รู้ตัว ความขัดแย้งในใจนี้ทำให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น
จุดเด่นของการแสดงโดย กันต์ กันตถาวร
ความเป็นธรรมชาติ กันต์ถ่ายทอดความเป็นหนุ่มบ้านไร่ได้สมจริง ทั้งท่าทาง การพูดจา และอารมณ์ขัน ทำให้ตะวันดูเป็นตัวละครที่มีชีวิต การปะทะคารมกับโรสริน (ดาวิกา) เต็มไปด้วยความสนุกและความฟิน กันต์สามารถแสดงทั้งความกวนและความอบอุ่นได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ชมเชื่อในความรักของตะวัน กันต์แสดงได้ดีทั้งในฉากตลก เช่น การแกล้งโรสริน, ฉากแอคชั่น เช่น การต่อสู้กับเดชา, และฉากดราม่า เช่น การสารภาพรัก ทำให้ตะวันเป็นตัวละครที่ครบรส
→ ดาวิกา โฮร์เน่ รับบท โรสริน

เป็นนางเอกที่มีบุคลิกโดดเด่นในฐานะคุณหนูไฮโซที่มีทั้งความหยิ่งผยองและความน่ารัก ตัวละครนี้มีพัฒนาการที่น่าสนใจจาก “กุหลาบร้าย” สู่ “นางฟ้าของนายตะวัน”
ชื่อ: โรสริน
บทบาท: นางเอก ทายาทโรงแรมควีนโรส หลานสาวของ ปู่ณรงค์ (เป็ด เชิญยิ้ม)
อาชีพ: คุณหนูที่เพิ่งจบปริญญาโทจากต่างประเทศ ถูกส่งไปฝึกงานที่ไร่ตะวัน
บุคลิกภาพหลัก: มั่นใจ หยิ่งผยอง เอาแต่ใจในช่วงแรก แต่มีความฉลาด เจ้าเล่ห์ และค่อยๆ พัฒนาสู่ความอ่อนโยนและเข้าใจผู้อื่น
โรสริน เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ทั้งในความ “ร้าย” และความ “น่ารัก” การแสดงของ ดาวิกา โฮร์เน่ ทำให้โรสรินเป็นนางเอกที่ทั้งน่าหมั่นไส้ในตอนแรกและน่าชื่นชมในตอนท้าย การเปลี่ยนแปลงจากคุณหนูจอมเหวี่ยงสู่คนที่อ่อนโยนและรักตะวันอย่างจริงใจ ทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าจดจำ เคมีกับตะวันและการแสดงที่ครบรสของดาวิกาเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมหลงรัก “กุหลาบร้าย” คนนี้
คุณหนูไฮโซจอมเหวี่ยง
โรสรินเป็นคุณหนูที่เติบโตในความหรูหรา มีนิสัยเอาแต่ใจและมั่นใจในตัวเองสูง เธอมักพูดจาเหน็บแนมและดูถูกคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อถูกส่งไปยัง บ้านไร่ตะวัน ซึ่งขัดกับวิถีชีวิตของเธออย่างสิ้นเชิง เธอมองว่าการทำงานในไร่ เช่น ขุดดินหรือเลี้ยงหมู เป็นเรื่องต่ำต้อยและไม่เหมาะกับตัวเอง
ฉลาดและเจ้าเล่ห์
โรสรินไม่ใช่แค่คุณหนูดื้อรั้น แต่เธอยังฉลาดและมีไหวพริบ เธอพยายามหาวิธีหลบเลี่ยงการทำงานในไร่และหนีกลับกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกับ พีระ (น้ำ-รพีภัทร) และ อุษาวดี (กระติ๊บ-ชวัลกร) เพื่อนสนิทของเธอ การวางแผนเหล่านี้แสดงถึงความเจ้าเล่ห์ที่น่ารักและทำให้ตัวละครมีสีสัน
เปราะบางและมีด้านที่อ่อนโยน
ภายใต้ความหยิ่งผยอง โรสรินมีความเปราะบางในใจ เธอรู้สึกกดดันจากความคาดหวังของปู่ณรงค์และกลัวการสูญเสียอิสรภาพจากการถูกจับคู่กับตะวัน เมื่อเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก เช่น การหลงป่าหรือการถูก เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) คุกคาม เธอแสดงด้านที่อ่อนแอและต้องการการปกป้อง ซึ่งทำให้ผู้ชมเริ่มเห็นมุมที่น่ารักของเธอ
พัฒนาการสู่ความเข้าใจและความรัก
ตลอดเรื่อง โรสรินค่อยๆ เปลี่ยนจากคุณหนูจอมเหวี่ยงเป็นคนที่เข้าใจคุณค่าของการทำงานหนักและความจริงใจ เธอเริ่มชื่นชมความทุ่มเทของตะวันและเรียนรู้ที่จะรักเขาด้วยใจจริง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าประทับใจ
จุดเด่นของการแสดงโดย ดาวิกา โฮร์เน่
ความสมจริงในบทคุณหนู ดาวิกาถ่ายทอดความเป็นคุณหนูไฮโซได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งท่าทาง การพูดจา และสีหน้าที่แสดงความหยิ่ง เช่น การเหวี่ยงวีนหรือการรังเกียจงานในไร่ ทำได้น่าเชื่อและน่าหมั่นไส้ในแบบที่น่ารัก ดาวิกาแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโรสรินได้ดีเยี่ยม จากสีหน้าที่เย่อหยิ่งในตอนแรก กลายเป็นความอ่อนโยนและอบอุ่นในตอนท้าย โดยเฉพาะในฉากดราม่าที่เธอร้องไห้หรือสารภาพรัก ทำให้ผู้ชมรู้สึกอิน
เคมีระหว่างดาวิกากับกันต์ กันตถาวรเป็นจุดเด่นของละคร การปะทะคารมที่ทั้งตลกและน่ารัก หรือฉากหวานๆ เช่น ฉากที่ตะวันแบกเธอตอนหลงป่า ทำให้ผู้ชมฟินและลุ้นให้ทั้งคู่รักกัน
ความหลากหลายทางอารมณ์ ดาวิกาแสดงได้ครบทั้งฉากตลก (เช่น ตอนที่ต้องเลี้ยงหมูแล้วทำหน้าตื่นตระหนก), ฉากดราม่า (เช่น ตอนที่รู้สึกผิดต่อตะวัน), และฉากโรแมนติก (เช่น การสารภาพรัก) ทำให้โรสรินเป็นตัวละครที่น่าจดจำ
→ รพีภัทร เอกพันธ์กุล รับบท พีระ

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะเพื่อนสนิทของนางเอก โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) และเป็นตัวละครที่เพิ่มทั้งความสนุกและความซับซ้อนให้กับเรื่องราว
ชื่อ: พีระ
บทบาท: ตัวละครสมทบ เพื่อนชายคนสนิทของโรสริน และน้องชายของ อุษาวดี (กระติ๊บ-ชวัลกร)
อาชีพ: ไม่ได้ระบุชัดเจนในละคร แต่เข้าใจว่าเป็นคนในแวดวงไฮโซหรือมีฐานะดี เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับโรสรินและครอบครัวของเธอ
บุคลิกภาพหลัก: สุภาพ ใจดี เป็นสุภาพบุรุษ มีความห่วงใยต่อโรสริน และมีด้านที่ขี้เล่นเล็กน้อย
พีระ เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นและความภักดีในฐานะเพื่อนสนิทของโรสริน เขาเป็นสุภาพบุรุษที่น่ารัก มีความห่วงใยและพร้อมสนับสนุนนางเอกโดยไม่หวังอะไรตอบแทน การแสดงของ รพีภัทร เอกพันธ์กุล ทำให้พีระเป็นตัวละครที่ผู้ชมเอ็นดูและชื่นชม แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่พีระมีบทบาทที่ช่วยเติมเต็มเรื่องราวให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะการเป็นสะพานเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของโรสรินและตะวัน และเป็นตัวแทนของมิตรภาพที่แท้จริง
เพื่อนสนิทที่ภักดีและห่วงใย
พีระเป็นเพื่อนชายที่สนิทกับโรสรินมานาน เขาคอยสนับสนุนและช่วยเหลือเธอในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อโรสรินถูกส่งไปฝึกงานที่ บ้านไร่ตะวัน และรู้สึกไม่พอใจ เขามักเป็นคนที่โรสรินติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่ออยากหนีจากไร่ เขาแสดงความห่วงใยต่อโรสรินอย่างชัดเจน เช่น การเดินทางไปเยี่ยมเธอที่ไร่ หรือพยายามหาทางพาเธอกลับกรุงเทพฯ ตามที่เธอต้องการ
สุภาพบุรุษที่น่ารักและขี้เล่น
พีระมีบุคลิกที่สุภาพและอบอุ่น เป็น “หนุ่มไฮโซ” ที่มีมารยาทดี ต่างจาก ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) ที่ปากร้ายและกวนประสาท แต่เขาก็มีด้านที่ขี้เล่นและเป็นกันเอง ทำให้เป็นตัวละครที่ดูเข้าถึงง่ายและน่ารักในสายตาคนดู เขามักพูดจานุ่มนวลและให้กำลังใจโรสรินในเวลาที่เธอรู้สึกท้อแท้ ซึ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวละครนี้
แอบมีความรู้สึกต่อโรสริน
แม้ว่าละครจะไม่ได้เน้นเรื่องนี้มากนัก แต่พีระมีท่าทีที่บ่งบอกว่าเขาอาจมีความรู้สึกมากกว่าเพื่อนต่อโรสริน ความห่วงใยและความทุ่มเทของเขาทำให้ผู้ชมบางคนอาจตีความว่าเขาแอบรักเธอ แต่เขาเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้และสนับสนุนโรสรินในฐานะเพื่อน
บทบาทที่ไม่ขัดแย้งหรือร้าย
พีระเป็นตัวละครที่ไม่มีด้านมืดหรือความร้ายกาจ เขาไม่เคยพยายามขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างโรสรินและตะวัน หรือแสดงความหึงหวงแบบชัดเจน ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ผู้ชมรู้สึกเอ็นดูและชื่นชอบในความดีของเขา
จุดเด่นของการแสดงโดย รพีภัทร เอกพันธ์กุล
ความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ รพีภัทร (น้ำ) ถ่ายทอดบทพีระได้อย่างอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ท่าทางและน้ำเสียงของเขาแสดงถึงความสุภาพและความจริงใจ ทำให้พีระเป็นตัวละครที่ดูน่ารักและน่าเชื่อ การแสดงของรพีภัทรเข้ากันได้ดีกับดาวิกาในฐานะเพื่อนสนิท ฉากที่ทั้งคู่คุยกันหรือวางแผนด้วยกันดูเป็นธรรมชาติและทำให้เห็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น
บทบาทที่สมดุล แม้ว่าพีระจะเป็นตัวละครสมทบ แต่รพีภัทรสามารถทำให้ตัวละครนี้ไม่จืดชืด เขาเพิ่มเสน่ห์ให้พีระผ่านรอยยิ้มและการแสดงที่ดูเป็นมิตร
→ ยูมิโกะ สุชิยะ รับบท น้ำค้าง

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะน้องสาวของ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) และเป็นกองเชียร์ที่เพิ่มสีสันและความสนุกให้กับเรื่องราว
ชื่อ: น้ำค้าง
บทบาท: ตัวละครสมทบ น้องสาวของตะวัน ลูกพี่ลูกน้องของ อึ่ง (สุทธิดา หงษา) และ อาทิตย์ (อชิระ เทริโอ)
อาชีพ: ช่วยงานในไร่ตะวัน อาจไม่มีบทบาทอาชีพที่ชัดเจน แต่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไร่ตะวัน
บุคลิกภาพหลัก: สดใส ร่าเริง ซื่อตรง ใจดี รักและหวงพี่ชาย และมีด้านที่ขี้เล่นและเป็นกองเชียร์ความรักของตะวันและ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่)
น้ำค้าง เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความสดใส ซื่อตรง และน่ารัก เธอเป็นน้องสาวที่รักและหวงตะวัน และเป็นกองเชียร์ตัวยงที่ช่วยผลักดันความรักของตะวันและโรสริน การแสดงของ ยูมิโกะ สุชิยะ ทำให้น้ำค้างเป็นตัวละครสมทบที่โดดเด่นด้วยพลังบวกและเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติ ความสัมพันธ์แบบคู่กัดที่กลายเป็นความรักกับพีระยิ่งเพิ่มมิติให้ตัวละครนี้ ทำให้เธอเป็นที่จดจำในฐานะส่วนหนึ่งของความสนุกและความอบอุ่นในไร่ตะวัน
สดใสและร่าเริง
น้ำค้างเป็นตัวละครที่มีพลังบวก เธอมักปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มและความสดใสที่ทำให้บรรยากาศในไร่ตะวันมีชีวิตชีวา บุคลิกของเธอเป็นเหมือน “แสงแดด” ที่ช่วยลดความตึงเครียดในฉากที่ตะวันและโรสรินปะทะคารมกัน เธอมักพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงและมีมุกตลกเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเข้ากับความเป็นสาวบ้านไร่ที่เป็นกันเอง
รักและหวงพี่ชาย
น้ำค้างรักและหวง ตะวัน พี่ชายของเธอมาก เธออยากให้ตะวันได้คู่ครองที่ดี และเมื่อเห็นว่าโรสรินมีจิตใจที่ดีซ่อนอยู่ เธอก็กลายเป็นกองเชียร์ตัวยงที่สนับสนุนให้ทั้งคู่รักกัน เธอมักแสดงความห่วงใยต่อตะวัน เช่น การคอยดูแลเขาเมื่อเจ็บป่วย หรือการแอบสังเกตความสัมพันธ์ของเขากับโรสริน
ซื่อตรงและใจดี
น้ำค้างมีจิตใจที่บริสุทธิ์และซื่อสัตย์ เธอมองเห็นด้านดีของโรสรินตั้งแต่แรก แม้ว่าโรสรินจะมีนิสัยหยิ่งในช่วงต้นเรื่อง เธอพยายามช่วยให้โรสรินปรับตัวเข้ากับชีวิตในไร่และกลายเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจ เธอเป็นตัวละครที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมหรือเจตนาร้าย ทำให้เป็นที่รักของทั้งตัวละครในเรื่องและผู้ชม
คู่กัดกับพีระ
น้ำค้างมีความสัมพันธ์แบบ “คู่กัด” กับ พีระ (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) เพื่อนสนิทของโรสริน ที่มาที่ไร่เพื่อช่วยพาโรสรินหนี เธอมักปะทะคารมกับพีระด้วยความขี้เล่น ซึ่งสร้างความสนุกให้กับเรื่อง ความสัมพันธ์นี้พัฒนาไปสู่ความรักในช่วงท้าย เมื่อทั้งคู่เริ่มเห็นใจและตกหลุมรักกัน โดยเฉพาะในงานประกวดธิดาบ้านนา ที่พีระตะลึงในความสวยของน้ำค้างเมื่อเธอแต่งตัวเต็มที่
บทบาทในงานประกวดธิดาบ้านนา
น้ำค้างถูกพีระยุให้ลงประกวดธิดาบ้านนา ซึ่งเป็นงานที่โรสรินเสนอเพื่อระดมทุนให้โรงพยาบาลของหมอกิตติทัต แม้ว่าเธอจะไม่มั่นใจในตอนแรก แต่เมื่อลงแข่ง เธอก็เปล่งประกายด้วยความสวยและความสดใส ทำให้พีระประทับใจและยิ่งเพิ่มมิติให้ตัวละครนี้
จุดเด่นของการแสดงโดย ยูมิโกะ สุชิยะ
ความสดใสและเป็นธรรมชาติ ยูมิโกะ (มิ้งค์) นำเสนอบทน้ำค้างด้วยความสดใสที่เข้ากับตัวละครอย่างสมบูรณ์แบบ รอยยิ้มและน้ำเสียงของเธอทำให้ตัวละครนี้ดูมีชีวิตชีวาและน่ารัก มิ้งค์มีเคมีที่ดีกับทั้ง กันต์ กันตถาวร (ตะวัน) ในฐานะน้องสาว และ รพีภัทร เอกพันธ์กุล (พีระ) ในฐานะคู่กัดที่กลายเป็นคู่รัก การแสดงของเธอในฉากปะทะคารมกับพีระหรือฉากแซวตะวันและโรสรินช่วยเพิ่มความสนุกให้เรื่อง
ความสมดุลในบทสมทบ แม้ว่าน้ำค้างจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่มิ้งค์ทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นด้วยการแสดงที่ไม่ขโมยซีน แต่ก็สร้างความประทับใจได้ดี โดยเฉพาะในฉากงานประกวดธิดาบ้านนาที่เธอเปล่งประกาย
→ ศุภากร ประทีปถิ่นทอง รับบท กิตติทัต

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะหมอประจำชุมชนและเพื่อนของ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มทั้งความอบอุ่นและความสมดุลให้กับเรื่องราว
ชื่อ: กิตติทัต (หรือเรียกสั้นๆ ว่า หมอกิตติทัต)
บทบาท: ตัวละครสมทบ หมอประจำชุมชนใกล้ไร่ตะวัน และเพื่อนสนิทของตะวัน
อาชีพ: แพทย์ประจำโรงพยาบาลในชุมชน
บุคลิกภาพหลัก: สุขุม อ่อนโยน มีจิตใจดี มีความรับผิดชอบ และเป็นที่พึ่งของคนในชุมชน
กิตติทัต เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่น สุขุม และจิตใจดี ในฐานะหมอและเพื่อนสนิทของตะวัน เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มความสมดุลให้กับเรื่องราวด้วยความน่าเชื่อถือและความเป็นที่พึ่ง การแสดงของ ศุภากร ประทีปถิ่นทอง ทำให้กิตติทัตเป็นตัวละครสมทบที่น่าจดจำ แม้ว่าจะไม่มีบทบาทความรักหรือความขัดแย้งที่โดดเด่น แต่ความเป็นสุภาพบุรุษและความทุ่มเทต่อชุมชนทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มความอบอุ่นของไร่ตะวัน
สุขุมและใจดี
กิตติทัตเป็นตัวละครที่มีบุคลิกสุขุมและอบอุ่น ในฐานะหมอ เขามีจิตใจเมตตาและทุ่มเทให้กับการดูแลคนในชุมชน เขามักปรากฏตัวในฉากที่ช่วยเหลือตัวละครอื่น เช่น การรักษาอาการเจ็บป่วยของ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) หรือคนในไร่ตะวันเขามีความเป็นสุภาพบุรุษ พูดจานุ่มนวล และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ทำให้เป็นที่เคารพของทุกคนในเรื่อง
เพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้
กิตติทัตเป็นเพื่อนสนิทของตะวัน เขามักเป็นที่ปรึกษาและคอยให้กำลังใจตะวันในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์กับโรสริน เขามองเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวตะวันเมื่อเริ่มมีใจให้โรสริน และมักแซวหรือให้คำแนะนำอย่างเป็นมิตร เขาเป็นตัวละครที่ช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลัก โดยเฉพาะการเป็นคนกลางที่ช่วยให้ตะวันและโรสรินเข้าใจกันมากขึ้น
ความสัมพันธ์กับน้ำค้าง
ในช่วงแรก กิตติทัตมีปฏิสัมพันธ์กับ น้ำค้าง (ยูมิโกะ สุชิยะ) น้องสาวของตะวัน ในฐานะเพื่อนในชุมชน แต่เมื่อ พีระ (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) เข้ามาและพัฒนาความสัมพันธ์กับน้ำค้าง กิตติทัตก็ถอยออกมาและกลายเป็นตัวละครที่เน้นบทบาทในฐานะหมอและเพื่อนมากกว่า เขาแสดงความยินดีกับความรักของน้ำค้างและพีระ โดยไม่มีท่าทีขมขื่นหรือหึงหวง แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่และจิตใจดี
บทบาทในงานระดมทุน
กิตติทัตมีบทบาทสำคัญในงานประกวดธิดาบ้านนาที่โรสรินจัดขึ้นเพื่อระดมทุนให้โรงพยาบาลของเขา เขาคอยสนับสนุนและช่วยเหลือในงานนี้ แสดงถึงความทุ่มเทต่อชุมชนและความเป็นผู้นำที่เงียบขรึม
จุดเด่นของการแสดงโดย ศุภากร ประทีปถิ่นทอง
ความน่าเชื่อถือในบทหมอ ศุภากร (เอก) ถ่ายทอดบทกิตติทัตได้อย่างน่าเชื่อถือ ทั้งในแง่ของความสุขุมและความเป็นมืออาชีพในฐานะหมอ ท่าทางและน้ำเสียงที่อบอุ่นของเขาทำให้ตัวละครนี้ดูน่าไว้วางใจ การแสดงของศุภากรเข้ากันได้ดีกับ กันต์ กันตถาวร ในฐานะเพื่อนสนิท และกับ ยูมิโกะ สุชิยะ ในฉากที่เกี่ยวข้องกับน้ำค้าง ทำให้ตัวละครนี้ดูเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนไร่ตะวันอย่างเป็นธรรมชาติ
บทบาทที่สมดุล แม้ว่าจะเป็นตัวละครสมทบ ศุภากรทำให้กิตติทัตเป็นตัวละครที่น่าจดจำด้วยการแสดงที่ไม่ขโมยซีน แต่ก็มีเสน่ห์ในความนิ่งและความใจดี
→ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล รับบท อุษาวดี

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะเพื่อนสนิทของนางเอก โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) และพี่สาวของ พีระ (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและสีสันให้กับเรื่องราว ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงและซื่อตรง
ชื่อ: อุษาวดี
บทบาท: ตัวละครสมทบ เพื่อนสนิทของโรสริน และพี่สาวของพีระ
อาชีพ: ไม่ได้ระบุชัดเจนในละคร แต่เข้าใจว่าเป็นคนในแวดวงไฮโซหรือมีฐานะดี เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับโรสรินและครอบครัวของเธอ
บุคลิกภาพหลัก: ร่าเริง ขี้เล่น ซื่อตรง ใจดี และเป็นเพื่อนที่ภักดีต่อโรสริน
อุษาวดี เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความร่าเริง ซื่อตรง และภักดีในฐานะเพื่อนสนิทของโรสรินและพี่สาวของพีระ เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและความอบอุ่นให้กับเรื่องราวด้วยพลังงานบวกและความเป็นมิตร การแสดงของ ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล ทำให้อุษาวดีเป็นตัวละครสมทบที่น่ารักและน่าจดจำ แม้ว่าจะไม่มีบทบาทความรักหรือความขัดแย้งที่เด่นชัด แต่เธอเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มมิตรภาพและความครึกครื้นในละคร
ร่าเริงและขี้เล่น
อุษาวดีเป็นตัวละครที่มีพลังงานบวกและร่าเริง เธอมักพูดจาด้วยน้ำเสียงสนุกสนานและมีท่าทางที่เป็นกันเอง ทำให้เป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความครึกครื้นในฉากที่ปรากฏ เธอมีด้านที่ขี้เล่นและมักแซวหรือหยอกล้อทั้งโรสรินและพีระ ซึ่งทำให้เกิดโมเมนต์ตลกๆ ในเรื่อง
เพื่อนสนิทที่ภักดี
อุษาวดีเป็นเพื่อนสนิทที่คอยสนับสนุนโรสรินอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงที่โรสรินถูก ปู่ณรงค์ ส่งไปฝึกงานที่ บ้านไร่ตะวัน และรู้สึกไม่พอใจ เธอพร้อมช่วยเหลือโรสรินในทุกวิถีทาง เช่น การวางแผนให้หนีกลับกรุงเทพฯ หรือการให้กำลังใจเมื่อโรสรินรู้สึกท้อ เธอแสดงความห่วงใยต่อโรสรินอย่างจริงใจ และมักเป็นคนที่คอยรับฟังและให้คำแนะนำในแบบเพื่อนแท้
ความสัมพันธ์กับพีระ
ในฐานะพี่สาวของพีระ อุษาวดีมีปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเป็นกันเองกับน้องชาย เธอมักแซวหรือสั่งให้พีระช่วยเหลือโรสริน ซึ่งแสดงถึงความเป็นพี่สาวที่ทั้งรักและขี้แกล้ง ความสัมพันธ์นี้เพิ่มมิติให้ตัวละครของเธอ ทำให้เห็นว่าเธอเป็นทั้งเพื่อนที่ดีและพี่สาวที่น่ารัก
ซื่อตรงและไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
อุษาวดีเป็นตัวละครที่จิตใจดีและไม่มีเจตนาร้าย เธอไม่มีความขัดแย้งหรือด้านมืด ทำให้เป็นตัวละครที่ผู้ชมรู้สึกเอ็นดูและชื่นชอบในความบริสุทธิ์ใจ เธอมักมองโลกในแง่ดีและสนับสนุนให้โรสรินปรับตัวเข้ากับชีวิตในไร่เมื่อเห็นว่าเพื่อนเริ่มเปลี่ยนแปลง
จุดเด่นของการแสดงโดย ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล
ความสดใสและเป็นธรรมชาติ ชวัลกร (กระติ๊บ) ถ่ายทอดบทอุษาวดีด้วยความร่าเริงและเป็นธรรมชาติ น้ำเสียงและท่าทางของเธอทำให้ตัวละครนี้ดูมีชีวิตชีวาและน่ารัก การแสดงของชวัลกรเข้ากันได้ดีกับ ดาวิกา โฮร์เน่ (โรสริน) และ รพีภัทร เอกพันธ์กุล (พีระ) ฉากที่ทั้งสามคนร่วมกันวางแผนหรือแซวกันดูสนุกและเหมือนเพื่อนในชีวิตจริง
บทบาทสมทบที่ไม่จืดชืด แม้ว่าอุษาวดีจะไม่ใช่ตัวละครหลัก ชวัลกรทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นด้วยพลังงานบวกและการแสดงที่ไม่ขโมยซีน แต่ก็สร้างความประทับใจในทุกฉากที่ปรากฏ
→ นนท์ อัมระนันทน์ รับบท เดชา

เป็นตัวร้ายหลักของเรื่องที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความขัดแย้งและความตึงเครียดให้กับพล็อต เขาเป็นตัวละครที่มีความทะเยอทะยานและร้ายกาจ
ชื่อ: เดชา
บทบาท: ตัวร้ายหลัก ลูกชายของเสี่ยเจ้าของปางไม้ และหัวหน้าขบวนการค้าไม้เถื่อน
อาชีพ: บริหารปางไม้ของครอบครัว และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย (ค้าไม้เถื่อน)
บุคลิกภาพหลัก: ทะเยอทะยาน เจ้าเล่ห์ โหดร้าย มีเสน่ห์ในแบบตัวร้าย และหมกมุ่นกับการครอบครอง โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่)
เดชา เป็นตัวร้ายที่มีความทะเยอทะยาน เจ้าเล่ห์ และหมกมุ่นกับการครอบครอง เขาเป็นตัวละครที่สร้างความขัดแย้งและความตื่นเต้นให้กับเรื่องราว การแสดงของ นนท์ อัมระนันทน์ ทำให้เดชาเป็นตัวร้ายที่น่าจดจำ ด้วยการผสมผสานความโหดร้ายและเสน่ห์ในแบบฉบับตัวร้าย แม้ว่าจะไม่มีมิติที่ซับซ้อนมากนัก แต่เดชาก็ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้ตะวันและโรสรินพัฒนาความสัมพันธ์และเอาชนะอุปสรรคได้อย่างสมบูรณ์
ทะเยอทะยานและร้ายกาจ
เดชาเป็นตัวละครที่มีความทะเยอทะยานสูง เขาต้องการควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจปางไม้ของครอบครัวหรือการค้าไม้เถื่อนที่ผิดกฎหมาย เขาไม่ลังเลที่จะใช้กลอุบายหรือความรุนแรงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ความโหดร้ายของเขาแสดงออกผ่านการข่มขู่และทำร้ายผู้อื่น เช่น การพยายามทำร้าย ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) หรือการคุกคามชุมชนรอบไร่ตะวันเพื่อผลประโยชน์
หมกมุ่นกับโรสริน
เดชาหลงรักโรสรินตั้งแต่แรกพบ และความหลงใหลนี้กลายเป็นความหมกมุ่น เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เธอมาเป็นของตัวเอง รวมถึงการใช้กำลังหรือการข่มขู่ ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวร้ายที่สร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของโรสรินและตะวัน ความรักของเขาไม่ใช่ความรักที่บริสุทธิ์ แต่เป็นการอยากครอบครอง ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่ากลัวและความเห็นแก่ตัวของตัวละครนี้
เจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์ในแบบตัวร้าย
เดชาไม่ใช่ตัวร้ายที่โหดร้ายเพียงอย่างเดียว เขายังมีด้านที่เจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์ในแบบฉบับตัวร้าย เขามักใช้คำพูดหวานๆ หรือท่าทางที่ดูดีเพื่อหลอกล่อผู้อื่น โดยเฉพาะในการเข้าหาโรสริน เขามีบุคลิกที่ดูเป็นคนมีฐานะและมั่นใจ ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวร้ายที่มีมิติ ไม่ใช่แค่คนร้ายธรรมดา
ขัดแย้งกับตะวัน
เดชาเป็นศัตรูตัวฉกาจของตะวัน เนื่องจากทั้งสองคนอยู่ในฝ่ายตรงข้าม ตะวันพยายามปกป้องไร่ตะวันและชุมชนจากการค้าไม้เถื่อนของเดชา ในขณะที่เดชามองว่าตะวันเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายของเขา ความขัดแย้งนี้ทำให้เกิดฉากแอคชั่นและดราม่า เช่น การต่อสู้หรือการที่ตะวันพยายามหาหลักฐานเพื่อจัดการเดชา
จุดเด่นของการแสดงโดย นนท์ อัมระนันทน์
ความน่าเกรงขามในบทตัวร้าย นนท์ อัมระนันทน์ถ่ายทอดบทเดชาได้อย่างน่าเชื่อถือ เขาแสดงถึงความเจ้าเล่ห์และความโหดร้ายได้อย่างลงตัวผ่านสีหน้าและน้ำเสียงที่เย็นชาในบางฉาก นนท์เพิ่มเสน่ห์ให้เดชาด้วยการแสดงท่าทางที่ดูมั่นใจและมีสไตล์ โดยเฉพาะในฉากที่พยายามตีสนิทกับโรสริน ทำให้ตัวละครนี้ดูน่าสนใจและไม่เป็นตัวร้ายที่จืดชืด
ความสมดุลในบทบาท แม้ว่าจะเป็นตัวร้าย แต่นนท์ทำให้เดชามีมิติผ่านการแสดงที่ผสมผสานความร้ายกาจ ความหลงใหล และความเจ้าเล่ห์ ทำให้ผู้ชมทั้งเกลียดและรู้สึกว่าน่าสนใจ
→ อาริษา วิลล์ รับบท มาลัย

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวร้ายรองและคู่แข่งด้านความรักของนางเอก โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มความขัดแย้งและความสนุกให้กับเรื่องราว
ชื่อ: มาลัย
บทบาท: ตัวร้ายรอง ลูกสาวแม่ค้าตลาดในชุมชนใกล้ไร่ตะวัน และคู่แข่งที่หลงรัก ตะวัน (กันต์ กันตถาวร)
อาชีพ: ช่วยแม่ค้าขายของในตลาด (อาจไม่มีอาชีพหลักที่ระบุชัดเจน)
บุคลิกภาพหลัก: หึงหวง เจ้าเล่ห์ เอาแต่ใจในเรื่องความรัก และมีความมั่นใจในตัวเอง
มาลัย เป็นตัวร้ายรองที่มีเสน่ห์ในแบบสาวบ้านนอกที่ทั้งเปรี้ยวและเจ้าเล่ห์ เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มความขัดแย้งและความสนุกให้กับเรื่องผ่านความหึงหวงและการกลั่นแกล้งโรสริน การแสดงของ อาริษา วิลล์ ทำให้มาลัยเป็นตัวละครที่น่าหมั่นไส้แต่ก็น่าจดจำ ด้วยท่าทางและสีหน้าที่ถ่ายทอดความรักที่ไม่สมหวังและความพยายามที่ล้มเหลวได้อย่างลงตัว แม้ว่าบทบาทของเธอจะไม่ซับซ้อนมากนัก แต่มาลัยก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวมีสีสันและครบรส
หลงรักและหวงตะวัน
มาลัยหลงรักตะวันมานาน และมองว่าเขาคือผู้ชายในอุดมคติของเธอ เธอแสดงความหึงหวงอย่างชัดเจนเมื่อเห็นตะวันสนิทกับโรสริน และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ความรักของเธอต่อตะวันเป็นแบบที่เห็นแก่ตัว เธอไม่สนใจความรู้สึกของตะวันหรือโรสริน และมักใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
เจ้าเล่ห์และวางแผนร้าย
มาลัยเป็นตัวละครที่มีความเจ้าเล่ห์ เธอมักวางแผนกลั่นแกล้งโรสรินเพื่อทำให้ตะวันหันมาสนใจเธอมากขึ้น การกระทำของเธอ เช่น การใส่ร้ายหรือสร้างเรื่อง ทำให้เกิดความขัดแย้งในเรื่อง แม้ว่าจะเป็นตัวร้ายรอง เธอไม่ได้ร้ายกาจถึงขั้น เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) แต่การกระทำของเธอก็สร้างความรำคาญและความวุ่นวายให้กับตัวละครหลัก
มั่นใจและมีเสน่ห์ในแบบสาวบ้านนอก
มาลัยมีความมั่นใจในตัวเองสูง เธอเชื่อว่าเธอเหมาะสมกับตะวันมากกว่าโรสริน ซึ่งเป็นคุณหนูไฮโซที่ไม่เข้ากับชีวิตในไร่ เธอมักแสดงออกด้วยท่าทางที่เปรี้ยวและพูดจาในแบบสาวบ้านนอกที่มีความมั่นใจ เธอมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง โดยเฉพาะในฉากที่แต่งตัวสวยเพื่อดึงดูดความสนใจของตะวัน ซึ่งทำให้ตัวละครนี้มีมิติมากกว่าตัวร้ายทั่วไป
อิจฉาและเอาแต่ใจ
ความหึงหวงและความอิจฉาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของมาลัย เธอไม่ยอมรับว่าโรสรินจะมาแย่งความสนใจของตะวันไปได้ และมักแสดงอาการงอนหรือโวยวายเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ความเอาแต่ใจนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกหมั่นไส้ แต่ก็เพิ่มความสนุกให้กับเรื่องในฐานะตัวละครที่สร้างความวุ่นวาย
จุดเด่นของการแสดงโดย อาริษา วิลล์
ความเปรี้ยวและน่าหมั่นไส้ อาริษา (ลูกตาล) ถ่ายทอดบทมาลัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอแสดงความหึงหวงและความเจ้าเล่ห์ด้วยสีหน้าและท่าทางที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกหมั่นไส้ในแบบที่ตัวร้ายควรจะเป็น อาริษานำเสนอมาลัยในแบบสาวบ้านนอกที่มีความมั่นใจและเปรี้ยวซ่า การแต่งตัวและการพูดจาของเธอช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวละครนี้ดูน่าสนใจ
การปะทะกับโรสรินและการพยายามตีสนิทตะวันทำให้เห็นเคมีที่เข้ากับบทบาทตัวร้ายรอง อาริษาทำให้มาลัยเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารำคาญและน่าจดจำ
→ โน้ต เชิญยิ้ม รับบท ปู่ชาญ

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะปู่ของ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร), น้ำค้าง (ยูมิโกะ สุชิยะ), และ อาทิตย์ (อชิระ เทริโอ) รวมถึงเป็นผู้นำครอบครัวที่ไร่ตะวัน และเป็นเพื่อนรักของ ปู่ณรงค์ (เป็ด เชิญยิ้ม) ปู่ของ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) ปู่ชาญเป็นตัวละครที่เพิ่มทั้งความอบอุ่นและความสนุกให้กับเรื่องราว
ชื่อ: ปู่ชาญ
บทบาท: ตัวละครสมทบ ปู่ของตะวัน น้ำค้าง และอาทิตย์ ผู้นำครอบครัวที่ไร่ตะวัน และเพื่อนรักของปู่ณรงค์
อาชีพ: เจ้าของและผู้ดูแลไร่ตะวัน
บุคลิกภาพหลัก: ใจนักเลง คำไหนคำนั้น ใจกว้าง รักหลานมาก ดุได้แต่ก็อบอุ่น เป็นกองเชียร์ตัวยงในความรักของตะวันและโรสริน
ปู่ชาญ เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความใจนักเลง อบอุ่น และขี้เล่น เขาเป็นทั้งผู้นำครอบครัวที่ไร่ตะวันและกองเชียร์ตัวยงที่ผลักดันความรักของตะวันและโรสริน การแสดงของ โน้ต เชิญยิ้ม ทำให้ปู่ชาญเป็นตัวละครที่น่าจดจำ ด้วยการผสมผสานความเข้มข้น ความตลก และความอบอุ่นได้อย่างลงตัว แม้ว่าจะเป็นตัวละครสมทบ แต่ปู่ชาญมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราวและเพิ่มความสนุกให้กับละคร
ใจนักเลงและคำไหนคำนั้น
ปู่ชาญเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำและใจนักเลง เขายึดมั่นในคำพูดและสัญญา โดยเฉพาะสัญญากับปู่ณรงค์ที่ตกลงกันไว้ว่าจะให้หลานของทั้งสองแต่งงานกัน (ตะวันและโรสริน) เขายึดมั่นในสัญญานี้และเป็นคนผลักดันให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน ความใจนักเลงของเขาทำให้เขาเป็นที่นับถือในชุมชน และเขามักแสดงความเด็ดขาดเมื่อต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญ
รักและหวงหลาน
ปู่ชาญรักหลานอย่างตะวัน น้ำค้าง และอาทิตย์มาก เขาคอยดูแลและให้คำแนะนำในฐานะผู้นำครอบครัว แม้ว่าจะดุหรือเข้มงวดในบางครั้ง แต่ก็แสดงถึงความรักและความอบอุ่นในฐานะปู่ เขามองเห็นศักยภาพในตัวตะวันและสนับสนุนให้เขาเป็นผู้นำที่ดีของไร่ตะวัน รวมถึงเป็นกองเชียร์ตัวยงที่อยากเห็นตะวันลงเอยกับโรสริน
ขี้เล่นและเป็นกองเชียร์ความรัก
ปู่ชาญมีด้านที่ขี้เล่นและอารมณ์ดี โดยเฉพาะในฉากที่เขาร่วมกับน้ำค้าง, อาทิตย์ และ แย้ (สุทธิดา หงษา) แซวหรือลุ้นความสัมพันธ์ของตะวันและโรสริน เขามักแสดงความตื่นเต้นเมื่อเห็นหลานชายใกล้ชิดกับโรสริน และมองว่าความฝันของเขาที่จะเห็นทั้งคู่แต่งงานกำลังจะเป็นจริง
อบอุ่นและเป็นที่พึ่งของครอบครัว
ปู่ชาญเป็นศูนย์รวมจิตใจของครอบครัวที่ไร่ตะวัน เขาคอยดูแลทุกคนในไร่และให้คำแนะนำในยามที่ตะวันหรือคนอื่นๆ เผชิญปัญหา ความอบอุ่นของเขาแสดงออกผ่านการปกป้องหลานและชุมชนจากภัยคุกคาม เช่น การค้าไม้เถื่อนของ เดชา (นนท์ อัมระนันทน์)
เขายังเป็นตัวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน ด้วยเรื่องราวมิตรภาพของเขากับปู่ณรงค์ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดเรื่องราวของตะวันและโรสริน
จุดเด่นของการแสดงโดย โน้ต เชิญยิ้ม
ความสมดุลระหว่างความเข้มและความขี้เล่น โน้ต เชิญยิ้ม นำเสนอบทปู่ชาญด้วยความสมดุล เขาแสดงถึงความเป็นผู้นำที่เข้มข้นและน่าเกรงขามได้ดีในฉากที่ต้องเด็ดขาด แต่ก็ถ่ายทอดด้านที่ขี้เล่นและอบอุ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในฉากแซวหลานๆ
การแสดงของโน้ตเข้ากันได้ดีกับ เป็ด เชิญยิ้ม (ปู่ณรงค์) ในฐานะเพื่อนรัก และกับนักแสดงรุ่นเล็กอย่างกันต์, ยูมิโกะ และอชิระ ในฐานะปู่ที่ทั้งรักและดุ ฉากที่เขาปรากฏตัวมักสร้างรอยยิ้มให้ผู้ชม ความเป็นนักแสดงตลกมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์ในวงการตลกและการแสดง โน้ตทำให้ปู่ชาญเป็นตัวละครที่น่าจดจำ โดยเฉพาะการใช้จังหวะตลกและสีหน้าท่าทางที่เหมาะสมกับบท
→ เป็ด เชิญยิ้ม รับบท ปู่ณรงค์

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทสำคัญในฐานะปู่ของนางเอก โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) และเป็นเพื่อนรักของ ปู่ชาญ (โน้ต เชิญยิ้ม) ปู่ณรงค์เป็นตัวละครที่เพิ่มทั้งความอบอุ่น ความตลก และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักระหว่างตะวันและโรสริน
ชื่อ: ปู่ณรงค์
บทบาท: ตัวละครสมทบ ปู่ของโรสริน เจ้าของโรงแรมควีนโรส และเพื่อนรักของปู่ชาญ
อาชีพ: เจ้าของและผู้บริหารโรงแรมควีนโรส
บุคลิกภาพหลัก: ใจดี อบอุ่น ขี้เล่น มีความเป็นผู้นำ รักหลานสาวมาก และมุ่งมั่นในสัญญาการจับคู่หลานกับปู่ชาญ
ปู่ณรงค์ เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความใจดี อบอุ่น และขี้เล่น เขาเป็นทั้งปู่ที่รักหลานและเพื่อนรักที่ยึดมั่นในสัญญา การแสดงของ เป็ด เชิญยิ้ม ทำให้ปู่ณรงค์เป็นตัวละครที่น่าจดจำ ด้วยการผสมผสานความเป็นผู้นำ ความตลก และความรักครอบครัวได้อย่างลงตัว แม้ว่าจะเป็นตัวละครสมทบ แต่ปู่ณรงค์มีบทบาทสำคัญในการจุดเริ่มต้นเรื่องราวและเพิ่มความอบอุ่นให้กับละคร ทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความครบรสของ กุหลาบร้ายของนายตะวัน
ใจดีและรักหลาน
ปู่ณรงค์เป็นปู่ที่รักและห่วงใย โรสริน อย่างมาก เขาต้องการให้หลานสาวที่มีนิสัยเอาแต่ใจและหยิ่งผยองเรียนรู้คุณค่าของการทำงานหนักและความถ่อมตัว จึงตัดสินใจส่งเธอไปฝึกงานที่ บ้านไร่ตะวัน ของปู่ชาญ แม้ว่าจะรู้ว่าโรสรินจะต้องเจอกับความลำบาก
ความรักที่เขามีต่อหลานแสดงออกผ่านการตัดสินใจที่เด็ดขาดแต่เต็มไปด้วยความหวังดี เขาเชื่อว่าการให้โรสรินเผชิญความท้าทายจะช่วยให้เธอเติบโต
ยึดมั่นในสัญญาและมิตรภาพ
ปู่ณรงค์มีมิตรภาพที่ลึกซึ้งกับ ปู่ชาญ เพื่อนรักของเขา ทั้งสองทำสัญญากันไว้ว่าจะให้หลาน (ตะวันและโรสริน) แต่งงานกันเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว เขายึดมั่นในสัญญานี้และเป็นคนผลักดันให้โรสรินไปอยู่ที่ไร่ตะวันความสัมพันธ์ของเขากับปู่ชาญเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความขี้เล่น ซึ่งทำให้เห็นมิตรภาพที่ยาวนานและจริงใจ
ขี้เล่นและเป็นกองเชียร์
ปู่ณรงค์มีด้านที่ขี้เล่นและอารมณ์ดี เขามักแสดงความตื่นเต้นและลุ้นให้ความรักของตะวันและโรสรินสมหวัง เขาเชื่อว่าโรสรินจะเปลี่ยนแปลงและลงเอยกับตะวันได้ตามที่เขาคาดหวัง ความขี้เล่นของเขาทำให้ตัวละครนี้เป็นที่รักของผู้ชม โดยเฉพาะเมื่อเขาแซวหรือพูดถึงความฝันที่จะเห็นหลานแต่งงาน
ฉลาดและมีวิสัยทัศน์
ในฐานะเจ้าของโรงแรมควีนโรส ปู่ณรงค์เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์และฉลาด เขาเห็นว่าโรสรินที่เพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศยังขาดประสบการณ์ชีวิตจริง จึงเลือกส่งเธอไปเรียนรู้ที่ไร่ตะวันเพื่อฝึกความอดทนและความรับผิดชอบ เขายังเป็นคนที่มีความเด็ดขาดในเรื่องของครอบครัวและธุรกิจ แต่ก็แฝงด้วยความใจกว้างและความเข้าใจ
จุดเด่นของการแสดงโดย เป็ด เชิญยิ้ม
ความอบอุ่นและขี้เล่น เป็ด เชิญยิ้ม ถ่ายทอดบทปู่ณรงค์ด้วยความอบอุ่นและความเป็นปู่ที่รักหลานอย่างแท้จริง การแสดงของเขาทำให้ตัวละครนี้ดูน่ารักและเข้าถึงง่าย โดยเฉพาะในฉากที่แซวหรือพูดถึงความฝันเรื่องการแต่งงานของหลาน
การแสดงคู่กับ โน้ต เชิญยิ้ม (ปู่ชาญ) เป็นจุดเด่นที่ทำให้เห็นมิตรภาพที่สนิทสนมและเป็นธรรมชาติ ฉากที่ทั้งคู่คุยกันหรือแซวกันเหมือนเพื่อนเก่า ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความผูกพัน
ประสบการณ์นักแสดงตลก ด้วยพื้นฐานจากวงการตลก เป็ด เชิญยิ้มใช้จังหวะการแสดงที่เหมาะสม ทำให้ปู่ณรงค์มีทั้งความน่าเกรงขามในฐานะผู้นำครอบครัวและความตลกในแบบที่เป็นเอกลักษณ์
→ ราตรี วิทวัส รับบท มาลี

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทในฐานะแม่ของ มาลัย (อาริษา วิลล์) และเป็นแม่ค้าตลาดในชุมชนใกล้ บ้านไร่ตะวัน เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มสีสันและความสนุกให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะผ่านความสัมพันธ์กับลูกสาวและการสนับสนุนความรักของมาลัยที่มีต่อ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร)
ชื่อ: มาลี
บทบาท: ตัวละครสมทบ แม่ของมาลัย และแม่ค้าตลาดในชุมชนใกล้ไร่ตะวัน
อาชีพ: แม่ค้าขายของในตลาด
บุคลิกภาพหลัก: ขี้บ่น ใจร้อน รักลูกสาวมาก สนับสนุนมาลัยในทุกเรื่อง และมีด้านที่ขี้เล่นในแบบฉบับแม่บ้านนอก
มาลี เป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มความสนุกและสีสันให้กับ กุหลาบร้ายของนายตะวัน ด้วยบุคลิกขี้บ่น ขี้เล่น และความรักที่มีต่อลูกสาว เธอเป็นแม่ค้าตลาดที่มีความเป็นแม่ที่ตามใจลูกและช่วยสร้างความขัดแย้งในเรื่องผ่านการสนับสนุนมาลัย การแสดงของ ราตรี วิทวัส ทำให้มาลีเป็นตัวละครที่ดูสมจริงและน่าจดจำในแบบฉบับแม่บ้านนอกที่ทั้งตลกและน่ารัก แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่มาลีช่วยเติมเต็มบรรยากาศของชุมชนและเพิ่มความครบรสให้กับละคร
รักและตามใจลูกสาว
มาลีรัก มาลัย ลูกสาวของเธอมาก และมักสนับสนุนทุกการกระทำของมาลัย โดยเฉพาะในเรื่องความรักที่มาลัยหลงรักตะวัน เธอเชื่อว่าลูกสาวของตัวเองเหมาะสมกับตะวัน และมักเชียร์ให้มาลัยพยายามเอาชนะใจเขา เธอมักตามใจมาลัยและไม่ค่อยตำหนิ แม้ว่ามาลัยจะทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม เช่น การกลั่นแกล้ง โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) ซึ่งทำให้มาลีกลายเป็นตัวละครที่ช่วยส่งเสริมความวุ่นวายในเรื่อง
ขี้บ่นและใจร้อน
มาลีมีนิสัยขี้บ่นและใจร้อนตามแบบฉบับแม่ค้าตลาด เธอมักพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ดังและโผงผาง โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าใครมาแย่งความสนใจของตะวันจากลูกสาว เธอมักแสดงความไม่พอใจต่อโรสรินในฐานะ “คู่แข่ง” ของมาลัย ความใจร้อนของเธอทำให้เกิดโมเมนต์ตลกๆ ในเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวละครอื่นในชุมชน
ขี้เล่นและมีสีสัน
มาลีเป็นตัวละครที่มีความขี้เล่นและเพิ่มความสนุกให้กับเรื่องในแบบสไตล์แม่บ้านนอก เธอมักมีมุกตลกและท่าทางที่เกินจริง ซึ่งเข้ากับบรรยากาศของละครแนวคอเมดี้ เธอมักแสดงความตื่นเต้นเมื่อพูดถึงความรักของมาลัย หรือเมื่อมีโอกาสได้แซวตัวละครอื่นในชุมชน
สนับสนุนการกระทำของมาลัย
มาลีมักสนับสนุนแผนการของมาลัยในการขัดขวางความสัมพันธ์ของตะวันและโรสริน เช่น การช่วยใส่ร้ายหรือสร้างเรื่องให้โรสรินเสียหน้า แม้ว่าการกระทำเหล่านี้จะไม่ร้ายแรงถึงขั้นตัวร้ายหลักอย่าง เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) แต่ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายในเรื่อง เธอไม่ได้มีเจตนาร้ายลึกซึ้ง แต่การสนับสนุนมาลัยทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความขัดแย้ง
จุดเด่นของการแสดงโดย ราตรี วิทวัส
ความเป็นแม่ค้าที่สมจริง ราตรี วิทวัส ถ่ายทอดบทมาลีด้วยความเป็นธรรมชาติในแบบแม่ค้าตลาด น้ำเสียงที่ดังและท่าทางที่ขี้บ่นทำให้ตัวละครนี้ดูสมจริงและเข้ากับบริบทของชุมชนในเรื่อง ราตรีเพิ่มความสนุกให้กับมาลีด้วยการแสดงที่เกินจริงในบางฉาก เช่น การบ่นหรือแซวตัวละครอื่น ซึ่งเข้ากับสไตล์ละครคอเมดี้
เคมีกับอาริษา วิลล์ การแสดงคู่กับ อาริษา วิลล์ (มาลัย) ทำให้เห็นความสัมพันธ์แม่ลูกที่น่ารักและสนิทสนม ฉากที่ทั้งคู่คุยกันหรือวางแผนด้วยกันดูเป็นธรรมชาติและสนุก
→ แจ็ค แฟนฉัน รับบท แย้

เป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มสีสันและความสนุกให้กับเรื่องราวในฐานะลูกน้องคนสนิทของ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนไร่ตะวัน แย้เป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความคอเมดี้และความภักดีต่อตะวัน
ชื่อ: แย้
บทบาท: ตัวละครสมทบ ลูกน้องคนสนิทของตะวัน และคนงานในไร่ตะวัน
อาชีพ: คนงานในไร่ตะวัน
บุคลิกภาพหลัก: เฮฮา ขี้ป๊อด ขี้เล่น ซื่อสัตย์ และภักดีต่อตะวัน
แย้ เป็นตัวละครสมทบที่เปี่ยมด้วยความเฮฮา ขี้ป๊อด แต่ภักดีต่อตะวัน เขาเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความคอเมดี้และความอบอุ่นให้กับ กุหลาบร้ายของนายตะวัน ผ่านการแสดงที่เป็นธรรมชาติและจังหวะคอเมดี้ที่ลงตัวของ แจ็ค แฟนฉัน การแสดงของแจ็คทำให้แย้กลายเป็นตัวละครที่น่าจดจำและเป็นที่รักของผู้ชม ด้วยท่าทางและมุกตลกที่เข้ากับบรรยากาศของละคร แย้อาจไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุมชนไร่ตะวันมีชีวิตชีวาและครบรส
เฮฮาและขี้เล่น
แย้เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความร่าเริงและขี้เล่น เขามักพูดจาในแบบที่ตลกขบขันและมีท่าทางเกินจริง ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกให้กับฉากต่างๆ ในละคร ความขี้เล่นของเขามักแสดงออกผ่านการแซวหรือการพูดจาในแบบหนุ่มบ้านนอกที่ดูไม่ค่อยคิดมาก ทำให้เขาเป็นที่รักของผู้ชมในฐานะตัวละครที่สร้างรอยยิ้ม
ขี้ป๊อดแต่ภักดี
แย้มีนิสัยขี้กลัวและขี้ป๊อด โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตราย เช่น การเจอกับ เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) และขบวนการค้าไม้เถื่อน แต่ถึงแม้จะกลัว เขาก็ยังคงภักดีต่อตะวันและยอมเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือ ความภักดีของเขาทำให้เขาเป็นลูกน้องที่น่าเอ็นดู แม้ว่าจะตื่นกลัวง่าย แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งตะวันในยามคับขัน
เพื่อนร่วมทีมกองเชียร์
แย้มักปรากฏตัวในกลุ่มเพื่อนที่ไร่ตะวัน เช่น น้ำค้าง, อึ่ง และ อาทิตย์ (อชิระ เทริโอ) โดยเฉพาะในฉากที่ทุกคนร่วมกันแซวหรือลุ้นความรักของตะวันและโรสริน เขาเป็นส่วนหนึ่งของ “กองเชียร์” ที่ช่วยสร้างความครึกครื้น เขามักมีมุกตลกหรือท่าทางที่ทำให้ฉากเหล่านี้ดูมีชีวิตชีวา เช่น การเต้นแซวตะวันหรือการพูดจาในแบบที่ดูไม่จริงจัง
ตัวแทนของหนุ่มบ้านนอก
แย้เป็นตัวละครที่สะท้อนภาพของหนุ่มบ้านนอกที่เรียบง่าย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม และใช้ชีวิตแบบสบายๆ เขาเป็นคนที่ไม่คิดมากและมักมองโลกในแง่ดี ซึ่งทำให้เขาเข้ากับทุกคนในชุมชนได้ง่าย ความเป็นหนุ่มบ้านนอกของเขาทำให้เขาเป็นตัวละครที่ดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย
จุดเด่นของการแสดงโดย แจ็ค แฟนฉัน (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์)
ความตลกและเป็นธรรมชาติ แจ็ค แฟนฉัน นำประสบการณ์จากบทบาทในภาพยนตร์ แฟนฉัน มาใช้ในการถ่ายทอดตัวละครแย้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาแสดงความขี้เล่นและความเฮฮาด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ ทำให้แย้เป็นตัวละครที่ผู้ชมเอ็นดู
แจ็คใช้จังหวะการแสดงแบบนักแสดงตลกมืออาชีพ โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแซวหรือแสดงท่าทางเกินจริง เช่น ฉากเต้นแซวตะวันหรือฉากที่กลัวจนตัวสั่นเมื่อเจอเดชา ทำให้ฉากเหล่านี้กลายเป็นไฮไลต์ที่ตลกและน่าจดจำ
เคมีกับตัวละครอื่น: แจ็คเข้ากันได้ดีกับนักแสดงอย่าง กันต์ กันตถาวร (ตะวัน), ยูมิโกะ สุชิยะ (น้ำค้าง), และ สุทธิดา หงษา (อึ่ง) ฉากที่แย้ปรากฏตัวร่วมกับกลุ่มนี้มักเต็มไปด้วยความครึกครื้นและเคมีที่ลงตัว
→ สุทธิดา หงษา รับบท อึ่ง

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทในฐานะลูกพี่ลูกน้องของ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) และ น้ำค้าง (ยูมิโกะ สุชิยะ) รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานในไร่ตะวัน อึ่งเป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและความครึกครื้นให้กับเรื่องราว ด้วยบุคลิกที่ซื่อๆ และขี้เล่น
ชื่อ: อึ่ง
บทบาท: ตัวละครสมทบ ลูกพี่ลูกน้องของตะวันและน้ำค้าง และเป็นคนงานในไร่ตะวัน
อาชีพ: ช่วยงานในไร่ตะวัน
บุคลิกภาพหลัก: ซื่อๆ ขี้เล่น ร่าเริง เป็นกองเชียร์ความรักของตะวันและ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่) และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่สร้างความคอเมดี้ในเรื่อง
อึ่ง เป็นตัวละครสมทบที่เปี่ยมด้วยความร่าเริง ซื่อตรง และขี้เล่น เธอเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนไร่ตะวันที่ช่วยเพิ่มความคอเมดี้และความอบอุ่นให้กับ กุหลาบร้ายของนายตะวัน การแสดงของ สุทธิดา หงษา ทำให้อึ่งเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำ ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เข้ากับบทสาวบ้านนอก แม้ว่าจะไม่มีบทบาทที่ซับซ้อน แต่การปรากฏตัวของอึ่งในฉากหมู่และการเป็นกองเชียร์ความรักของตะวันและโรสรินช่วยเติมเต็มความครบรสให้กับละคร
ซื่อๆ และร่าเริง
อึ่งเป็นตัวละครที่มีความซื่อตรงและร่าเริง เธอมักปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่สดใส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับฉากต่างๆ ในไร่ตะวัน เธอเป็นสาวบ้านนอกที่เรียบง่ายและไม่มีความซับซ้อน ความซื่อๆ ของเธอทำให้เธอเป็นตัวละครที่น่ารักและเป็นมิตรกับทุกคน โดยเฉพาะกับโรสรินที่เธอคอยช่วยเหลือเมื่อมาถึงไร่ครั้งแรก
ขี้เล่นและเป็นกองเชียร์
อึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกองเชียร์ในไร่ตะวัน ร่วมกับ น้ำค้าง, แย้ (แจ็ค แฟนฉัน), และ อาทิตย์ (อชิระ เทริโอ) เธอมักแซวและลุ้นความรักของตะวันและโรสริน ด้วยท่าทางและคำพูดที่ขี้เล่น เธอมักมีส่วนร่วมในโมเมนต์ตลกๆ เช่น การแอบฟังหรือการเต้นแซวตะวัน ซึ่งทำให้ฉากเหล่านี้เต็มไปด้วยความสนุก
ภักดีต่อครอบครัวและชุมชน
อึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่รักและเคารพตะวันในฐานะพี่ชาย เธอคอยช่วยงานในไร่และสนับสนุนตะวันในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการต่อสู้กับ เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) และขบวนการค้าไม้เถื่อน เธอเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนไร่ตะวันที่มีความสามัคคี และมักแสดงความภักดีผ่านการช่วยเหลือและการเป็นทีมเวิร์ก
ตัวละครที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
อึ่งเป็นตัวละครที่บริสุทธิ์ใจและไม่มีเจตนาร้าย เธอไม่มีความขัดแย้งหรือด้านมืด ทำให้เป็นตัวละครที่ผู้ชมรู้สึกเอ็นดูและชื่นชอบในความซื่อสัตย์
จุดเด่นของการแสดงโดย สุทธิดา หงษา
ความเป็นธรรมชาติ สุทธิดา หงษา ถ่ายทอดบทอึ่งด้วยความเป็นสาวบ้านนอกที่ซื่อๆ และร่าเริงได้อย่างสมจริง น้ำเสียงและท่าทางของเธอทำให้ตัวละครนี้ดูน่ารักและเข้าถึงง่าย สุทธิดาแสดงความขี้เล่นของอึ่งได้ดี โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแซวหรือร่วมกลุ่มกองเชียร์ การแสดงของเธอช่วยเพิ่มความสนุกให้กับฉากหมู่ในไร่ตะวัน
เคมีกับตัวละครอื่น สุทธิดามีเคมีที่ลงตัวกับ ยูมิโกะ สุชิยะ (น้ำค้าง), แจ็ค แฟนฉัน (แย้), และ อชิระ เทริโอ (อาทิตย์) ฉากที่อึ่งปรากฏตัวร่วมกับกลุ่มนี้มักเต็มไปด้วยความครึกครื้นและความเป็นทีม
→ อชิระ เทริโอ รับบท อาทิตย์

เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทในฐานะลูกพี่ลูกน้องของ ตะวัน (กันต์ กันตถาวร) และ น้ำค้าง (ยูมิโกะ สุชิยะ) รวมถึงเป็นคนงานในไร่ตะวัน อาทิตย์เป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและความครึกครื้นให้กับเรื่องราว ด้วยบุคลิกที่ซื่อๆ ขี้เล่น และภักดี
ชื่อ: อาทิตย์
บทบาท: ตัวละครสมทบ ลูกพี่ลูกน้องของตะวันและน้ำค้าง และคนงานในไร่ตะวัน
อาชีพ: ช่วยงานในไร่ตะวัน
บุคลิกภาพหลัก: ซื่อตรง ขี้เล่น ร่าเริง ภักดีต่อตะวัน และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกองเชียร์ความรักของตะวันและ โรสริน (ดาวิกา โฮร์เน่)
อาทิตย์ เป็นตัวละครสมทบที่เปี่ยมด้วยความร่าเริง ซื่อตรง และขี้เล่น เขาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนไร่ตะวันที่ช่วยเพิ่มความคอเมดี้และความอบอุ่นให้กับ กุหลาบร้ายของนายตะวัน การแสดงของ อชิระ เทริโอ ทำให้อาทิตย์เป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำ ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เข้ากับบทหนุ่มบ้านนอก แม้ว่าจะไม่มีบทบาทที่ซับซ้อน แต่การปรากฏตัวของอาทิตย์ในฉากหมู่และการเป็นกองเชียร์ความรักของตะวันและโรสรินช่วยเติมเต็มความครบรสให้กับละคร
ซื่อตรงและร่าเริง
อาทิตย์เป็นตัวละครที่มีความซื่อตรงและร่าเริงในแบบหนุ่มบ้านนอก เขามักปรากฏตัวด้วยท่าทางที่เป็นมิตรและพูดจาด้วยน้ำเสียงที่สดใส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับฉากในไร่ตะวัน ความซื่อๆ ของเขาทำให้เขาเป็นตัวละครที่น่ารักและเข้ากับทุกคนได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องต้อนรับหรือช่วยเหลือ โรสริน ในช่วงที่เธอมาถึงไร่ครั้งแรก
ขี้เล่นและเป็นกองเชียร์
อาทิตย์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกองเชียร์ในไร่ตะวัน ร่วมกับน้ำค้าง, อึ่ง (สุทธิดา หงษา), และแย้ เขามักแซวและลุ้นความรักของตะวันและโรสริน ด้วยท่าทางและคำพูดที่ขี้เล่น ซึ่งช่วยสร้างโมเมนต์ตลกๆ ในเรื่อง เขามักมีส่วนร่วมในฉากที่ต้องแสดงความตื่นเต้นหรือแซวตะวัน เช่น การเต้นหรือพูดจาในแบบที่เกินจริงเพื่อความสนุก
ภักดีต่อตะวันและครอบครัว
ในฐานะลูกพี่ลูกน้อง อาทิตย์รักและเคารพตะวันในฐานะพี่ชาย เขาคอยช่วยงานในไร่และสนับสนุนตะวันในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานประจำวันหรือการเผชิญหน้ากับ เดชา (นนท์ อัมระนันทน์) และขบวนการค้าไม้เถื่อน เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานในไร่ที่มีความสามัคคี และมักแสดงความภักดีผ่านการช่วยเหลือตะวันในสถานการณ์สำคัญ
ตัวละครที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
อาทิตย์เป็นตัวละครที่บริสุทธิ์ใจและไม่มีเจตนาร้าย เขาไม่มีความขัดแย้งหรือด้านมืด ทำให้เป็นตัวละครที่ผู้ชมรู้สึกเอ็นดูและชื่นชอบในความซื่อสัตย์และความเรียบง่าย
จุดเด่นของการแสดงโดย อชิระ เทริโอ
ความเป็นหนุ่มบ้านนอกที่สมจริง ชิระ เทริโอ ถ่ายทอดบทอาทิตย์ด้วยความเป็นหนุ่มบ้านนอกที่ซื่อๆ และร่าเริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ท่าทางและน้ำเสียงของเขาทำให้ตัวละครนี้ดูน่ารักและเข้าถึงง่าย อชิระแสดงความขี้เล่นของอาทิตย์ได้ดี โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแซวหรือร่วมกลุ่มกองเชียร์ การแสดงของเขาช่วยเพิ่มความสนุกให้กับฉากหมู่ในไร่ตะวัน
เคมีกับตัวละครอื่น อชิระมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ยูมิโกะ สุชิยะ (น้ำค้าง), สุทธิดา หงษา (อึ่ง), และ แจ็ค แฟนฉัน (แย้) ฉากที่อาทิตย์ปรากฏตัวร่วมกับกลุ่มนี้มักเต็มไปด้วยความครึกครื้นและความเป็นทีม