ละคร แม่ดอกรักเร่ 2558 (EP.1-30 ตอนจบ) END บัวตอง สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 เรียนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วยแม่ของเธอทำนา แต่แล้วเกิดปัญหาดินเสีย ที่นาไม่ได้ผลผลิต จนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะกู้หนี้ยืมสินจาก เศรษฐีเงินกู้จอมโกง และยังหัวงูเป็นที่สุด บัวตองขอเวลา 3 เดือน หาเงินมาใช้หนี้ให้ได้

ในสังคมเมืองใหญ่ยุคปัจจุบัน ความเชื่อเรื่อง ความขยันอดทน และยึดมั่นในความดี จะทำให้ชีวิตได้ดี กำลังจางหายไป แทบทุกคนในยุคนี้คิดแต่เรื่องการฉวยโอกาส ทำอย่างไรให้ร่ำรวยได้โดยเร็วโดยไม่คำนึงถึงความดี ความซื่อสัตย์กันอีกต่อไปแล้ว เรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของลูกผู้หญิงซื่อ ๆ จากบ้านนา เข้าสู่เมืองกรุง ที่สนุกสนาน เฮฮา เธอผู้มีแค่หัวใจที่ยึดมั่นในความดี และสู้ยิบตา ไม่ว่าจะต้องฝ่าฟัน เหนื่อยยากกับอุปสรรคมากมายแค่ไหน มาร่วมกันลุ้น เอาใจช่วยเธอ ไปพร้อม ๆ กับเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความประทับใจ


ละคร แม่ดอกรักเร่ 2558

ละคร แม่ดอกรักเร่ 2558

ละคร แม่ดอกรักเร่ 2558 EP.1-30CH7

เพลงแค่… Ost.แม่ดอกรักเร่ [Official MV]

เพลงขอเป็นที่หนึ่ง Ost.แม่ดอกรักเร่ [Official MV]


บัวตอง (อาภา ภาวิไล) สาวน้อยบ้านนอกอายุแค่ 20 เรียนจบ ม.6 แต่ยังไม่ได้เรียนต่อ เพราะต้องออกมาช่วย ยุภา (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของเธอทำนา แต่แล้วเกิดปัญหาดินเสีย ที่นาไม่ได้ผลผลิต จนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะกู้หนี้ยืมสินจาก ตาเอิบ (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) เศรษฐีเงินกู้จอมโกง และยังหัวงูเป็นที่สุด ตาเอิบจ้องจะงาบบัวตองมาหลายนาน จึงตั้งใจปล่อยกู้ให้ยุภาทำนา แล้วลอบโรยสารเคมีทำให้ดินเสีย จนปลูกข้าวไม่ได้ และเมื่อเห็นว่ายุภากับบัวตองหมดปัญญาใช้หนี้ ตาเอิบก็ยื่นข้อเสนอทันที ว่าถ้ายุภายกบัวตองให้เป็นเมียตน ก็จะยินยอมยกหนี้พร้อมดอกเบี้ยร่วมห้าแสนให้ มิฉะนั้น จะยึดที่นาทำกินแห่งนี้ซะ ยุภาสอนบัวตองมาแต่เกิดให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดี ไม่มีวันที่ยุภาจะยอมให้บัวตองทำสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ บัวตองเลยประเคนผ่าหมากตาเอิบให้ทีหนึ่ง ก่อนจะลั่นวาจาว่าจะขอเวลา 3 เดือน หาเงินมาใช้หนี้ตาเอิบให้ได้

ดวง (มหัศจรรย์ มาตศรี) หนุ่มหล่อผู้เป็นคนรักของบัวตอง กำลังขับร้องเพลงลูกทุ่ง ในชุดเสื้อสูทผูกหูกระต่ายหล่อเหลา มีมาลัยเต็มคอ ก่อนจะกว้างออกมา เห็นว่าดวงร้องเพลงอยู่บนแคร่ข้างกองฟาง ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขาวม้า คนดูที่ดวงยื่นไมโครโฟนให้ จริง ๆ คือควายที่บัวตองจูงมากินหญ้า มีเพียงบัวตองที่ยังคอยเชียร์คอยให้กำลังใจดวง บัวตองเจอข่าวค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ซาวด์สยาม กำลังจัดโครงการค้นหา นักร้องลูกทุ่ง ดาวรุ่งดวงใหม่ จึงยุให้ดวง เดินทางจากตำบลบ้านนาดอนแห่งนี้ เพื่อมุ่งหน้าตามล่าฝันในเมืองกรุงไปพร้อมกับเธอ ที่ตั้งใจจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ อยู่เหมือนกัน ดวงมีความทะเยอทะยาน อยากเป็นนักร้องลูกทุ่งอย่างแรงกล้า จึงรีบตกลงปลงใจทันที

ดวงกับบัวตองจึงหิ้วกระเป๋ามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ด้วยกัน มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกันตั้งแต่ที่ขนส่ง เพราะระหว่างที่ดวงไปเข้าห้องน้ำ บัวตองถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าไป บัวตองร้องให้ช่วย บัวตองเดินริมฟุตปาธอย่างไร้จุดหมาย เพราะกระเป๋าสตางค์ดันอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบนั้น แต่เมืองกรุงก็ยังมีคนดี พี่แท็กซี่นายหนึ่งเห็นบัวตองเดินปาดน้ำตา ก็รีบอาสาพาไปส่ง ที่บริษัท ซาวด์สยาม แต่ดันพามุดเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อฉุดเข้าป่าหญ้าข้างทางจะปลุกปล้ำ บัวตองสู้สุดชีวิต ถีบ ข่วน กัด แต่ก็สู้แรงผู้ชายหื่น ๆ ไม่ได้ แต่สวรรค์ยังเห็นใจ เมื่อ กรณ์เทพ (บูม-ปิยพันธ์ ขากฤษ) หนุ่มเซลส์แมนขายเครื่องดับเพลิงเดินมาพอดี กรณ์เทพต่อสู้ปกป้องบัวตองอย่างไม่เกรงกลัว

ในขณะที่ดวงไปที่บริษัทซาวด์สยาม และได้พบกับ นวลอนงค์ (ปลา-ปาลิตา โกศลศักดิ์) คุณหนูสวยเปรี้ยว ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เฮียช้าง (สุเมธ องอาจ) เจ้าของบริษัทค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดังแห่งนี้ นวลอนงค์เห็นความหล่อเข้มของดวง ก็แทบใจละลาย ในการร้องออดิชั่นคัดเลือกนักร้องเข้าสังกัดที่เฮียช้างมานั่งเป็นกรรมการเอง เฮียช้างจะไม่ให้ผ่าน แต่นวลอนงค์ ดุให้พ่อรีบเปลี่ยนใจ เฮียช้างที่ดุ เป็นมาเฟียในวงการเพลงลูกทุ่ง ก็ยังต้องยอมแพ้ลูกสาว ดวงคิดว่าบัวตองที่คลาดกันไป คงจะรีบมาหาเขาที่นี่ จึงนั่งรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ จนหลับคาเก้าอี้ไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนเลิกงาน รปภ.นุ้ย (หนุงหนิง) มาปิดประตูบริษัท ขังดวงไว้โดยไม่รู้ตัว

กรณ์เทพพาบัวตองไปที่ค่ายเพลงซาวด์สยาม แต่ก็พบว่าประตูบริษัทปิดไปแล้ว ไปยืนด้อม ๆ มอง ๆ ก็โดนรปภ.นุ้ยตะเพิดออกมา กรณ์เทพรู้ว่าบัวตองไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็พาไปพักที่บ้านบอกว่าตนพักกับแม่ บัวตองจึงยอมไป แต่พอถึงหน้าประตูบ้าน กลับกลายเป็นว่ามีสองหนุ่มมาเปิดประตูบ้าน บัวตองจินตนาการไปถึงว่าสามหนุ่มเป็นพวกจิตทราม ใช้กำลังฉุดจะรุมโทรมเธอ ก่อนจะสะดุ้งจากจินตนาการ เพราะทั้งสองแสดงท่าทีสุภาพและเป็นมิตร

สองหนุ่มก็คือ ทองดี (หมู-ธีรภัทร์ แย้มศรี) ที่ดูจะมีอายุมากกว่าอีกสองหนุ่ม เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นข้าราชการกทม.และมีรถประจำตำแหน่งด้วย อีกคนคือ เบ๊นซ์ (ตอง-พชรพล ศุขอร่าม) หนุ่มหน้าหยกที่แนะนำตัวเองว่าเป็นนักแสดงที่รับบทพระเอกมาแล้ว เบ๊นซ์ท่าทางกรุ้มกริ่มปากหวาน เห็นว่าบัวตองสวย น่ารัก ก็ทำท่าจะจีบ กรณ์เทพต้องด่าเอาว่า บัวตองมีแฟนแล้ว และแค่มาพักคืนสองคืน พอเจอแฟนที่ชื่อดวง แล้วก็จะกลับ คืนนั้น สามหนุ่มคึกคัก ทำตัวหล่อกันเป็นพิเศษ เพราะร้อยวันพันปี จะมีผู้หญิงสวย ๆ มาค้างคืนอยู่ร่วมชายคาสักครั้ง ป้าพลอย (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ของกรณ์เทพ เป็นคนปากจัดใจดี เห็นบัวตองก็เข้าใจผิด คิดว่าเป็นพวกเด็กใจแตก หนีตามแฟนเข้าเมืองกรุง แต่พอได้คุยกัน ก็กลับกลายเป็นรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาแทน เพราะความใสซื่อ ไร้จริตของบัวตอง

รุ่งเช้า นวลอนงค์มาที่บริษัทแล้วพบ ดวงที่นอนหลับอยู่ ก็เฉ่ง รปภ.นุ้ยซะยับ ดวงเล่าเรื่องของตัวเองกับบัวตองให้นวลอนงค์ฟัง วันนั้นในห้องอัด นักร้องที่นัดไว้เกิดหวัดลงคอ ร้องเพลงไม่ได้ นวลอนงค์จึงให้ดวงร้องเสียบแทนไปซะเลย พอเข้าห้องอัด ดวงก็ทำได้ดีมาก จนเฮียช้างถึงกับออกปากว่า ตามประสบการณ์ที่ทำค่ายเพลงลูกทุ่งมาหลายสิบปี ขอบอกว่า ดวง คือนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็น พร้อมตั้งชื่อให้ว่า ดวงดี นาดอน (ตามชื่อตำบลบ้านนาดอน ที่ดวงจากมา) นวลอนงค์ยิ่งเห็นรัศมีนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ ก็ยิ่งหลงใหลในตัวดวง

เมื่อบัวตองมาถามหาดวงที่บริษัทอีกครั้ง นวลอนงค์รับหน้าพอดี เลยโกหกว่า ดวงไม่ผ่านการออดิชั่น และคงกลับต่างจังหวัดไปแล้ว บัวตองเสียใจ คิดว่าหาเงินได้ครบห้าแสนเมื่อไหร่ค่อยกลับไปหาดวง ใบพาย (ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี) กับ ลิ้นจี่ (เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรฒน์) สองหางเครื่องประจำวง ได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด ใบพายเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ด คอยประจบสนับสนุนนวลอนงค์ ในขณะที่ ลิ้นจี่ จะรักความถูกต้อง จนรู้สึกสงสาร และลั่นไว้ว่าวันหนึ่งจะบอกความจริงให้ดวงฟัง

บัวตองเริ่มสนิทสนมกับ กรณ์เทพ มากขึ้น และยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากทุกคนในชุมชนแจ่มใจ ชุมชนที่รวบรวมคนที่จนเงิน แต่ไม่จนน้ำใจ แต่ทุกคนก็แสบก็ร้าย ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ เจ๊พริ้ง (ราตรี วิทวัส) เจ้าของร้านเสริมสวย ที่มีบริการนวดเท้าในร้าน ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมขาเม้าท์ประจำชุมชน เจ๊พริ้งมีลูกมืออีกคนคือ พอลล่า (พลอย-จุฑามาศ มันตะลัมพะ) ที่มีชื่อตามบัตรประชาชนว่า พรหล้า ซึ่งเป็นหลานสาวของเจ๊พริ้ง ที่เพิ่งมาเริ่มหัดวิชาเสริมสวย และมักจะทำผมให้ลูกค้าเจ๊ง เตลิดเปิดเปิง อยู่บ่อย ๆ แต่ก็เป็นที่หมายปองของทองดี ที่ชอบแวะมาแทะเล็มบ่อยๆ

อีกมุมของชุมชน มีสำนักเจ้าแม่ของ เจ้าแม่ไผ่แก้ว (ไปรมา รัชตะ) ที่รับดูหมอ สะเดาะเคราะห์ ใบ้หวย ดูฤกษ์ยาม หรืออะไรก็ตาม ที่ได้เงิน เจ้าแม่ไผ่แก้วเป็นคนกะล่อน หาเลี้ยงชีพปากกัดตีนถีบ อาศัยรู้จริงตามตำราโหราศาสตร์มาบ้าง แต่ส่วนมากมักจะมั่ว โดนจับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ที่หลอกเงินชาวบ้านก็เพราะต้องเลี้ยงดู หน่อไม้ (ดิสรยา เตชะไพบูลย์) ลูกสาววัยสิบขวบ ที่ฉลาด ฉาดฉาน ช่างถาม แก่นแก้ว แต่ก็มีความน่ารักสมวัย ส่วนทองดี ที่อวดว่าตนเป็นข้าราชการกทม. มีรถประจำตำแหน่ง บัวตองก็ได้พบความจริง ที่ทองดีมากับรถขยะ เป็นพนักงานขนขยะของกทม.นั่นเอง

บัวตอง พยายามตระเวนสมัครงาน แต่ก็ไม่มีใครรับเลย เพราะคุณสมบัติที่เรียนจบแค่ ม.6 จึงหางานดี ๆ ได้ยากเหลือเกิน จนเริ่มคิดว่าอาจจะต้องทำงานแบบใช้แรงงานหาเงินประทังชีวิตไปก่อน โดยมี กรณ์เทพ ทองดี และ เบ๊นซ์ คอยช่วยให้กำลังใจ ทองดีนั้น อาศัยอ่านหนังสือที่คนทิ้งขยะมากมาย จึงเป็นคนที่มีคำคม คำสอนใจมาให้กำลังใจบ่อย ๆ ส่วนนายเบ๊นซ์ ก็คอยกะล่อน เล่นมุกแซวให้บัวตองยิ้มได้ และเมื่อบัวตองเศร้าเรื่องของดวง เหมือนคนอกหัก ก็จะได้กรณ์เทพที่คอยดูแลหัวใจให้เป็นอย่างดี เฮียช้างนั้น นอกจากจะเป็นเจ้าของค่ายเพลงผู้ทรงอิทธิพลในวงการลูกทุ่งแล้ว ยังเป็นเจ้าของที่ดินเกือบทั้งหมดในละแวกชุมชนแจ่มใจ แม้แต่บ้านของกรณ์เทพ ก็เป็นบ้านเช่าของเฮียช้างเช่นกัน โดยเฮียช้างมอบหมายให้ อาวุธ (ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล) ลูกคนโตจอมกร่าง เป็นคนเก็บค่าเช่าทั้งบ้าน ทั้งพื้นที่ค้าขาย ดูแลผลประโยชน์ในพื้นที่นี้ โดยมี จ๊อด (เทวินธวิ์ คุณารัตนวัฒน์) เป็นลูกสมุนคู่ใจ เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะจีบบัวตองให้ได้

เพลงของดวงเริ่มดัง และขายดี นวลอนงค์จึงยื่นข้อเสนอให้ดวงว่า ถ้าอยากจะดัง เป็นนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งพุ่งแรงตัวจริง และได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มกับบริษัท มีเงินเดือนและที่พักหรู มีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ ให้เลิกกับแฟนอย่างเด็ดขาด ดวงหน้ามืด ใฝ่ฝันอยากดัง จึงตอบรับทันที กรณ์เทพ พาบัวตอง ไปตระเวนสมัครงาน แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนรับ บัวตองจึงแอบไปสมัครงานก่อสร้าง คอยแบกปูน แต่ก็พลาดพลั้งไปเทปูนหล่อติดเอาหัวหน้าช่างติดพื้นปูนไปครึ่งแข้ง โดนตะเพิดออกมา บัวตองท้อใจ คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาเงินใช้หนี้ ระหว่างนั้น กรณ์เทพ โหมทำงานหนัก พยายามขยันขายเครื่องดับเพลิงให้มากขึ้นเพื่อค่าคอมมิชชั่น และยังรับทำงานกะดึก ด้วยการเป็นรปภ.หมู่บ้านใกล้ ๆ จับพลัดจับผลูไปช่วยจับโจรที่กำลังจะปล้นบ้านของ เจ้าสัวสมโชค (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) อภิอัครมหาเศรษฐีจากตระกูลที่เป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าสัวจึงตบรางวัลให้อย่างงาม เพื่อเป็นการตอบแทนความดีของกรณ์เทพ แต่การทำงานทั้งกะดึกกะกลางวัน ก็หนักหนาเกินกำลัง จนกรณ์เทพ ต้องเลิกงานเป็นรปภ.หมู่บ้านไปซะ

ที่ทำเลติดถนนใหญ่ของชุมชนแจ่มใจที่จะมีผู้คนพลุกพล่าน เป็นทำเลที่ดีของร้านอาหารการกิน มีร้านขายอาหารตามสั่ง ของเชฟหอย (ยุทธพิชัย ป๋วยเฮง) ที่ชอบคุยโม้ว่า ตนคือเชฟระดับ เชฟกระทะเหล็ก ที่อนาคตจะต้องมีภัตตาคารหรูเป็นของตนเอง ร้านเชฟหอยขายดี เพราะอร่อยและมีอยู่ร้านเดียว และมี คิงคอง (กฤตไน เลาหปราสาท) ลูกชายวัย 11 ขวบ (เป็นคู่ซี้คู่ทะเลาะของหน่อไม้ ลูกเจ้าแม่ไผ่แก้ว) คอยเป็นผู้ช่วย

คิงคอง จะคอยช่วยพ่อเสิร์ฟ ช่วยล้างถ้วยชาม ทำงานสารพัดเกินวัย จนกลายเป็นเด็กที่ค่อนข้างกร้านโลก แก่แดดกว่าหน่อไม้ กรณ์เทพกับบัวตองมานั่งกินข้าวที่นี่ เห็นร้านติดกันติดป้ายให้เช่า ก็เกิดความคิดว่านอกจากอาหารตามสั่งแล้ว ชุมชนละแวกนี้ยังไม่มีใครทำข้าวมันไก่ขาย แต่ถ้าบัวตองไปฝึกและขอสูตรจากป้าพลอย แม่ของตน ก็น่าจะเปิดร้านขายข้าวมันไก่ได้ บัวตองจึงรีบไปกราบคารวะขอเป็นลูกศิษย์ป้าพลอย จนในที่สุด ด้วยนิสัยสู้ยิบตา ไม่มีถอยของบัวตอง ทำให้เธอสามารถทำได้

วันหนึ่งรถยนต์หรูของ เจ้าสัวสมโชค ดันมาเครื่องยนต์ดับอยู่แถวชุมชนแจ่มใจ เจ้าสัวได้เจอหน้ากรณ์เทพก็จำได้ ที่กรณ์เทพเคยช่วยไว้จากโจรที่ปล้นบ้านเจ้าสัว กรณ์เทพยังช่วยดูเครื่องยนต์ให้ ปรากฏว่าเป็นความสะเพร่าของ นายบุญช่วย คนขับรถที่ดันลืมเติมน้ำมันซะเอง เจ้าสัวด่าบุญช่วยยกใหญ่ ก่อนจะบ่นว่าหิว กรณ์เทพจึงรีบอาสาพาไปกินข้าวมันไก่ของบัวตอง เพียงชิมน้ำซุปคำแรก เจ้าสัวสมโชคก็น้ำตาไหลพรั่งพรู เพ้อว่านี่คือรสมือของอดีตเมียเสี่ยคนเก่าก่อน ที่เสี่ยรักฝังใจ ไม่เคยลืม หลังจากนั้น เจ้าสัวสมโชคจะแวะเวียนมากินข้าวมันไก่อีกครั้ง เจ้าสัวสอบถามบัวตอง ว่าไปได้สูตรน้ำซุปไก่แบบนี้มาจากไหน ขอร้องให้พาไปพบเจ้าของสูตรนั้น

บัวตองกับกรณ์เทพพาเจ้าสัวสมโชคไปพบกับป้าพลอย ทันทีที่ทั้งสองพบกัน ก็ต่างโผเข้าสวมกอดร้องห่มร้องไห้ กรณ์เทพถึงกับอึ้ง ที่ป้าพลอยบอกให้เรียกเจ้าสัวว่า พ่อ เห็นเด็ก ๆ งง เจ้าสัวสมโชคจึงเล่าย้อนอดีตให้ฟัง ป้าพลอยจึงเล่าต่อว่า ที่ตนหายไปนั้น เพราะพ่อแม่ของเจ้าสัวสมโชคบุกมาเจรจาข่มขู่ว่า ถ้าไม่หนีออกไปจากชีวิตของสมโชคซะจะจ้างมือปืนมาเก็บ เจ้าสัวสมโชคคุกเข่าขอโทษ พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะเลี้ยงดูทุกคนอย่างดี แต่ป้าพลอยปฏิเสธทันที พร้อมสั่งให้กรณ์เทพห้ามรับเงินทองจากสมโชค เพราะไม่อยากให้ทางบ้านสมโชคดูถูกเอาได้

ในงานเลี้ยงเปิดตลาดนัด มีงานประกวดเทพีชุมชนแจ่มใจ กรณ์เทพได้เห็นบัวตองใส่ชุดสวย แต่งหน้าทำผมเผ้าสวยหยาดเยิ้มขึ้นประกวดบนเวที โดยมีพอลล่า ใบพาย ลิ้นจี่ มาร่วมประกวดด้วยและแน่นอนผู้ชนะคือบัวตอง คืนนั้น กรณ์เทพรู้สึกความรักแน่นคับอก จนต้องระบายออก เขาตัดสินใจบอกรักบัวตอง บัวตองไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ พูดแต่เพียงว่า ขอจัดการเคลียร์หนี้ของแม่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ บัวตองถึงกับสับสน แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของดวง ที่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเธอไปเลย บัวตองก็ใจอ่อน ตอบรับรักจากดวง ที่พอรู้สาเหตุว่าบัวตองไม่ได้ตั้งใจทิ้งตนไป ก็ขอร้องบัวตองให้มาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับเขาอีกครั้ง เพราะเขาเองก็เริ่มมีฐานะพอตั้งตัว และคิดสร้างครอบครัวในอนาคตได้ ทำเอากรณ์เทพถึงกับอกหัก หัวใจสลาย เป็นที่น่าสงสาร จนทองดีและเบ๊นซ์ ต้องคอยเฝ้าปลอบใจ

บัวตองรู้ตัวแล้วในนาทีนี้ ว่าใครกันแน่ ที่ดีกับเธอ และเห็นความสำคัญของเธอจริง ๆ บัวตองรีบตรงไปหากรณ์เทพ แต่ก็พบว่าสายไปเสียแล้ว เพราะทองดีกับเบ๊นซ์เล่าให้ฟังว่า กรณ์เทพ หลบไปเลียแผลใจ และสั่งทองดีกับเบ๊นซ์ไว้ว่า ห้ามบอกบัวตอง ว่าเขาหายไปไหน เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าบัวตองอีกให้เจ็บปวดใจ บัวตองเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะตนเป็นฝ่ายทิ้งกรณ์เทพให้เจ็บก่อนจริง ๆ บัวตองเก็บร้านขายข้าวมันไก่ จะย้ายกลับไปที่ตำบลบ้านนาดอน บ้านเกิดของตน

บัวตองกลับไปเจอยุภา แม่ของตน ก็สารภาพว่าหาเงินได้ไม่ครบห้าแสน มีอยู่เพียงแค่แสนห้า ตาเอิบ เห็นบัวตองกลับมา ก็ตามมากะลิ้มกะเหลี่ย ทำท่าหัวงูอีก ยุภาเลยบอกให้บัวตองเตะผ่าหมากสั่งสอนเสี่ยซะ พร้อมบอกว่าตนเคลียร์หนี้ตาเอิบไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีก บัวตองงงว่าแม่เอาเงินจากไหน ยุภาก็งง เพราะได้เงินจากที่บัวตองส่งมา บัวตองนึกย้อน แล้วรู้ทันทีว่ากรณ์เทพเป็นคนส่งมาแน่ ๆ เพราะกรณ์เทพเล่าว่าเคยทำงานพิเศษ เคยทำงานหนักสารพัด เคยได้รับเงินเป็นน้ำใจที่ช่วยให้เจ้าสัวสมโชครอดจากเงื้อมมือโจร บัวตองเพิ่งรู้ว่าเงินทั้งหมดนี่ เป็นความช่วยเหลือจาก กรณ์เทพ นั่นเอง

บัวตองรีบกลับไปกรุงเทพฯ อีกที เธออธิบายให้ทองดี และเบ๊นซ์ เข้าใจ เรื่องราวทั้งหมด พร้อมขอร้องให้บอกเธอว่ากรณ์เทพหนีไปอยู่ที่ไหน ทั้งสองจึงตกลงว่าจะพาไป โดยมีรถยนต์ลีมูซีนหรูของเจ้าสัวสมโชค ที่นายบุญช่วยขับมาช่วยอำนวยความสะดวกถึงที่ เรื่องราวของ บัวทอง และ กรณ์เทพ จะลงเอยอย่างไร? จะสมหวังในรักหรือไม่? ต้องติดตามชมกันต่อได้ใน ละครแม่ดอกรักเร่

บทประพันธ์โดย : แสงเพชร เสนีย์บดินทร์
บทโทรทัศน์โดย : ทองเอก
กำกับการแสดงโดย : ชาญชัย สวัสดิวิชัยกุล
ผลิตโดย : บริษัท เค.เอ.เอ็น. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

นักแสดง
ปิยพันธ์ ขำกฤษ รับบท กรณ์เทพ
อาภา ภาวิไล รับบท บัวตอง
ธีรภัทร์ แย้มศรี รับบท ทองดี
พชรพล ศุขอร่าม รับบท เบ๊นซ์
จุฑามาศ มันตะลัมพะ รับบท พอลล่า
ภูริกูลกฤษฎ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูล รับบท อาวุธ
ปาลิตา โกศลศักดิ์ รับบท นวลอนงค์
อาภาพร นครสวรรค์ รับบท เจ๊นิดหน่อย
สุเมธ องอาจ รับบท เฮียช้าง
วรารัตน์ เทพโสธร รับบท ยุภา
เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง รับบท ตาเอิบ
มหัศจรรย์ มาตศรี รับบท ดวง
อุทุมพร ศิลาพันธ์ รับบท ป้าพลอย
ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี รับบท ใบพาย
เสาวนิตย์ ณัฐวรวโรตม์ รับบท ลิ้นจี่
ยุทธพิชัย ป๋วยเฮง รับบท เชฟหอย
ราตรี วิทวัส รับบท เจ๊พริ้ง
ไปรมา รัชตะ รับบท เจ้าแม่ไผ่แก้ว
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ รับบท เจ้าสัวสมโชค
ตูมตาม เชิญยิ้ม รับบท นายบุญช่วย
เทวินธวิ์ คุณารัตนาวัลน์ รับบท จ๊อด
น้อย โพธิ์งาม รับบท ป้าเม้าท์
เทพ โพธิ์งาม รับบท เจ้าที่
ชูศรี เชิญยิ้ม รับบท ฉลอง
ด.ช.กฤตไน เลาหปราสาท รับบท คิงคอง
ด.ญ.ดิสรยา เตชะไพบูลย์ รับบท หน่อไม้