เมืองหลวงฉางอัน ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองหลวงสร้างความหายนะครั้งยิ่งใหญ่ กุมอำนาจในราชสำนัก เสพสุขแสวงหาความสำราญ สังหารผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก สร้างความเคียดแค้นไปทั่วทั้งแผ่นดิน ลิโป้ ขุนศึกที่มีความสามารถเก่งกล้า ถูกตั๋งโต๊ะรับไว้เป็นลูกบุญธรรม ทำให้ตั๋งโต๊ะมีอำนาจล้นฟ้ามากยิ่งขึ้น เพื่อขจัดภัยพิบัติให้ชาติบ้านเมือง โจโฉจงใจประจบสอพลอตั๋งโต๊ะจนเป็นที่ไว้วางใจ เพื่อหาโอกาสสังหารตั๋งโต๊ะ แต่กลับล้มเหลว การหลบหนีออกจากเมืองหลวงของโจโฉได้ร่ำร้องให้อ้วนเสี้ยว เล่าปี่ ซุนเกี๋ยนและบรรดาอ๋องสิบแปดหัวเมืองทั่วแผ่นดินผูกพันธมิตรต่อกรกับตั๋งโต๊ะ หลังจากที่ต้องเผชิญกับการศึกอย่างรุนแรงหลายครั้ง
ซีรีส์ Three Kingdoms สามก๊ก 2010
ตั๋งโต๊ะจับกุมตัวฮ่องเต้ย้ายเมืองหลบหนี เผาเมืองหลวงพังพินาศย่อยยับ ในเวลาเดียวกัน กองทัพพันธมิตรสิบแปดอ๋องโดยมีซุนเกี๋ยนแห่งกังตั๋งเป็นผู้นำได้นำกองทัพยึดครองเมืองหลวงได้เป็นคนแรก ทั้งยังได้ตราแผ่นดินซึ่งแสดงถึงพระราชอำนาจของฮ่องเต้มาครอบครองอีกด้วยโดยได้นำตราแผ่นดินเก็บซ่อนเอาไว้ ทว่ากลับกลายเป็นการนำหายนะมาสู่ตนเอง บรรดาอ๋องทั้งหลายต่างพากันช่วงชิงตราแผ่นดินมาครอบครอง ทำให้กองทัพพันธมิตรสิบแปดอ๋องแตกแยกกัน นับแต่นั้นเป็นต้นมาบรรดาอ๋องทั้งหลายต่างก็พากันตั้งตนเป็นใหญ่ทำสงครามห้ำหั่นกันเอง
หลังจากที่ตั๋งโต๊ะย้ายเมืองหลวง ตั๋งโต๊ะก็ก่อกรรมทำเข็ญเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ หวังหยุ่น ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ร่วมมือกับเตียวเสี้ยน หญิงสาวซึ่งเปี่ยมคุณธรรม ใช้กลยุทธหญิงงามและกลยุทธสร้างความแตกแยกเพื่อให้ตั๋งโต๊ะและลิโป้บาดหมางแตกแยกกัน ทั้งสองกลยุทธหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันจนกลายเป็นกลยุทธลูกโซ่ ด้วยกลยุทธอันปราดเปรื่องของหวังหยุ่นและการเสียสละของเตียวเสี้ยน ในที่สุดกลยุทธลูกโซ่ก็ประสบความสำเร็จ ทำให้ตั๋งโต๊ะต้องตายด้วยน้ำมือของลิโป้ลูกบุญธรรม แต่ในเวลาเดียวกัน เตียวเสี้ยนกลับพบว่านางหลงรักลิโป้ เหยื่อของนางเข้าเสียแล้ว
การตายของตั๋งโต๊ะกลับสร้างความวุ่นวายไปทั่วทุกหนแห่งตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงท้องถิ่นต่าง ๆ บรรดาผู้มีอำนาจพากันตั้งตนเป็นใหญ่บริเวณด้านเหนือแม่น้ำฮวงโห อ้วนเสี้ยวและโจโฉซึ่งเดิมทีเป็นพันธมิตรต่อกัน บัดนี้ต่างฝ่ายต่างพากันสยบบรรดาอ๋องจำนวนมากที่อยู่ด้านเหนือแม่น้ำฮวงโห รวมถึงลิโป้ซึ่งยากเอาชนะ ในที่สุดอ้วนเสี้ยวและโจโฉก็เปิดศึกสงครามครั้งใหญ่ซึ่งนับว่าเป็นศึกสงครามใหญ่ครั้งแรกในยุคสมัยสามก๊ก ศึกสงครามใหญ่ครั้งนี้ใช้ไพร่พลนับหมื่นซึ่งก็นำมาซึ่งความสูญเสียของไพร่พลนับหมื่นเช่นเดียวกัน หลังจากที่ศึกสงครามใหญ่ผ่านพ้นไป
โจโฉสามารถรวบรวมดินแดนทางเหนือเป็นหนึ่งเดียวโดยได้รวบรวมแหโหตุ้น, เตียงอุ้ย, โจยิ้ง ตลอดจนเหล่าบรรดาผู้กล้าที่มีความรู้ความสามารถจนเรืองอำนาจกลายเป็นอ๋องที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ทางด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำแยงซีเกียง ซุนเซ็กและซุนกวน บุตรชายของซุนเกี๋ยน ทุ่มเทแรงกายแรงใจฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการจนเป็นใหญ่ปกครองกังตั๋ง ทั้งยังมีจิวยี่ ขุนพลที่เก่งกาจปราดเปรื่อง และไท่สื่อฉือและกันหนิงซึ่งมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีอยู่เคียงข้างเป็นกำลังสำคัญอีกด้วย ส่วนดินแดนภาคกลางนั้น เล่าปี่, กวนอู และเตียวหุย สามพี่น้องที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน ก็ยังไม่สามารถตั้งหลักปักฐานได้เสียที ทั้งยังประสบความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งหนึ่ง กวนอูได้รับการชุบเลี้ยงจากโจโฉ กระนั้น กวนอูกลับไม่สวามิภักดิ์สร้างความผิดหวังให้โจโฉซึ่งเลื่อมใสความสามารถของกวนอูยิ่งนัก แต่แล้วในที่สุดกวนอูซึ่งเปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมก็พบเบาะแสของเล่าปี่ กวนอูจึงได้สร้างตำนานขี่ม้าเดียวดายพันลี้และฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนศึกตามหาเล่าปี่ พี่ร่วมสาบาน
ในที่สุดเล่าปี่, กวนอู และเตียวหุย สามพี่น้อง ก็ได้พบกันอีกครั้งที่กึงจิว สามพี่น้องตัดสินใจตั้งหลักปักฐานที่สถานที่แห่งนี้เป็นการชั่วคราว ด้วยความเอื้ออาทรซึ่งเป็นกิตติศัพท์ของเล่าปี่ ทำให้เล่าปี่ได้ครอบครองเมืองกึงจิวจากผู้ปกครองเดิมโดยสันติปราศจากศึกสงคราม จากการไปเชื้อเชิญจูกัดเหลียง ปราชญ์ซึ่งรอบรู้ ถึงสามครั้งสามคราของเล่าปี่ ทำให้เล่าปี่ได้จูกัดเหลียงมาเป็นพวก ในเวลาเดียวกัน โจโฉก็ยกกองทัพมาโจมตี ศึกสงครามยืดเยื้อจึงทำให้กึงโจวตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต กระนั้นเล่าปี่ก็ตัดสินใจที่จะนำชาวเมืองนับแสนหลบหนีไปด้วยกัน โดยหนึ่งวันเดินทางได้เพียงสิบลี้เท่านั้น ไม่ทอดทิ้งชาวเมืองเพื่อหลบหนีไปเพียงลำพัง ด้วยมนุษยธรรมสูงล้ำของเล่าปี่นี้เองจึงทำให้เล่าปี่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมือง ระหว่างที่หลบหนีก็มีเหตุการณ์ที่เป็นที่กล่าวขานกันเรื่อยมา เป็นต้นว่า เตียวหุยดื่มสุราท่ามกลางแสงอาทิตย์ร้อนแรงขับไล่ข้าศึก จูล่งควบม้าฝ่าอันตรายช่วยชีวิตเจ้านาย
เมื่อต้องเผชิญกับการไล่ล่าของโจโฉ เล่าปี่และพวกซึ่งจนตรอกจึงต้องพึ่งพาอาศัยซุนกวนแห่งกังตั๋ง แต่ภายในกลุ่มอำนาจของซุนกวนก็มีการแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างกลุ่มรักสันติและกลุ่มฝักใฝ่สงคราม จูกัดเหลียงเดินทางไปเจรจาที่กังตั๋งจนเกิดศึกวาทีสยบบัณฑิตขึ้นมาจนสามารถเกลี้ยกล่อมซุนกวนทำศึกสงครามกับโจโฉ ถึงแม้ว่าในเวลานี้ซุนกวนยังเยาว์วัย แต่ก็มีความปราดเปรื่อง มีคุณลักษณะของความเป็นผู้นำ กองทัพของโจโฉซึ่งอยู่ทางเหนือไม่สันทัดศึกสงครามทางน้ำ มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกันโลซกแต่งงาน เรือฟางยืมลูกธนู แผนเจ็บเนื้อเจ็บตัว เจียงกันขโมยตำรา เป็นต้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทั้งสามฝ่ายชิงไหวชิงพริบกัน ทำให้ซุนกวนและเล่าปี่สองกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ต้องผูกพันธมิตรชั่วคราวเพื่อต่อกรกับโจโฉ จนในที่สุดจากแผนการอันปราดเปรื่องและแยบยลของจิวยี่และจูกัดเหลียง ศึกสงครามใหญ่ครั้งที่สองในยุคสามก๊กก็อุบัติขึ้น จูกัดเหลียงใช้ไหวพริบสติปัญญายืมลมบูรพาให้กองทัพพันธมิตรของซุนกวน และเล่าปี่ใช้ธนูไฟเผากองทัพเรือของโจโฉแตกพ่ายจนได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
แต่สิ่งที่เลวร้ายคือระหว่างทางที่กองทัพโจโฉแตกพ่ายไปจนถึงหัวหยงเต้านั่นเอง กวนอูซึ่งได้รับมอบหมายให้ดักซุ่มอยู่ที่นี่เพื่อปลิดชีวิตโจโฉนั้นกลับหวนนึกถึงบุญคุณที่โจโฉมีต่อตนเอง ทำให้กวนอูซึ่งยึดมั่นในคุณธรรมไว้ชีวิตปล่อยโจโฉไป กวนอูต้องทนต่อความอัปยศที่ขัดคำสั่งยอมรับโทษต่อเล่าปี่และจูกัดเหลียง กระนั้นเล่าปี่ก็ให้อภัยกวนอู ในเวลานี้เองเล่าปี่ถึงรู้ความจริงว่าการที่จูกัดเหลียงจงใจมอบหมายให้กวนอูซึ่งยึดมั่นในคุณธรรมไปดักซุ่มอยู่ที่หัวหยงเต้านั้นมีเป้าหมายเพื่อไว้ชีวิตโจโฉ จูกัดเหลียงตระหนักดีว่าการตายของโจโฉจะนำหายนะครั้งยิ่งใหญ่สู่ดินแดนทางเหนืออย่างแน่นอน มีเพียงโจโฉ, เล่าปี่ และซุนกวนเท่านั้นที่สามารถคานอำนาจกันได้ ที่สำคัญเป็นเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่ทำให้สักวันหนึ่งเล่าปี่สามารถรวบรวมดินแดนเป็นหนึ่งเดียวกัน
สามก๊กเป็นสามกลุ่มอำนาจที่คานกันและกัน เล่าปี่นำทัพลงใต้ตามคำแนะนำของจูกัดเหลียงจนสามารถยึดครองเสฉวนได้สำเร็จ และขยายดินแดนครอบคลุมดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ของแผ่นดินจีนภายใต้การนำทัพของจูล่ง, หวงจง, หม่าเชา, เว่ยเหยียนและบรรดาขุนศึกที่ห้าวหาญ ในเวลานี้เองจึงทำให้โจโฉซึ่งครอบครองดินแดนทางเหนือ เล่าปี่ซึ่งครอบครองดินแดนตะวันตกเฉียงใต้ ซุนกวนซึ่งครอบครองกังตั๋ง กลายเป็นสามกลุ่มอำนาจที่คานกันและกัน ทำให้แผ่นดินจีนแบ่งออกเป็นสามก๊กด้วยกัน หลังจากที่แผ่นดินจีนถูกแบ่งออกเป็นสามก๊กแล้ว โจโฉหวนนึกถึงสาเหตุที่ทำให้ตนพ่ายแพ้ศึกสงคราม
ในที่สุดโจโฉก็ตระหนักว่าการศึกสงครามแพ้ชนะนั้นไม่ได้สำคัญไปกว่าความเข้มแข็งอ่อนแอของชาติบ้านเมือง ด้วยเหตุนี้โจโฉจึงเร่งพัฒนาการเกษตร วางระบบเศรษฐกิจ ระบบการปกครอง นำบุคคลที่มีความรู้ความสามารถรับใช้ราชสำนัก ทำให้ดินแดนทางเหนือเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกด้านหนึ่งนั้น ภายในวังหลวงของโจโฉก็เกิดศึกสายเลือดขึ้นมา องค์ชายเล็กซึ่งเฉลียวฉลาดถูกพี่น้องฆ่าตายอย่างอนาถ แท้ที่จริงแล้วฆาตกรเป็นใครกันแน่ และเมื่อความจริงปรากฏออกมาก็สร้างความตกตะลึงให้โจโฉเป็นอันมาก สุหม่าอี้ซึ่งทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงก็เริ่มแทรกแซงราชสำนักโดยพุ่งเป้าไปที่โจผี องค์ชายซึ่งด้อยสามารถที่สุด เพื่อช่วงชิงราชบัลลังก์ โดยสอนให้โจผีรู้จักอดทนอดกลั้น ทนต่อการถูกดูถูกเหยียดหยามให้ได้ นอกจากนี้ยังมีองค์ชายอีกพระองค์ที่มีความสามารถทางด้านวรรณกรรมจนมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีนก็เป็นหนึ่งในบรรดาองค์ชายที่อยู่ในวังวนของการแย่งชิงราชบัลลังก์
ทั้งยังแย่งชิงผิงเฟย หญิงสาวที่มีความงดงามราวกับเทพธิดาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ ความรัก ความสัมพันธ์พี่น้อง กิเลสตัณหา การศึกสงคราม กลยุทธ ทั้งหมดถูกผสมผสานเข้าด้วยกัน ทุกคนต่างตกอยู่ในวังวนแห่งการแก่งแย่งช่วงชิง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้บทกลอนมากมายที่มีความงดงามปรากฏเป็นวรรณกรรมในประวัติศาสตร์จีน
ความสัมพันธ์ระหว่างเล่าปี่และซุนกวนซึ่งผูกพันธมิตรกันนั้นนับวันความสัมพันธ์ก็ยิ่งเลวร้ายลงทุกที ทั้งสองต่างล้อมเมืองกึงจิวเอาไว้โดยจับจ้องหมายครอบครองเป็นของตนให้ได้ ในที่สุด ซุนกวนก็สามารถยึดครองเมืองกึงจิวไว้ได้ การศึกสงครามครั้งนี้ทำให้กวนอู แม่ทัพใหญ่ ซึ่งประดุจเทพสงครามแห่งยุคที่รักษาเมืองกึงจิวถึงแก่ความตายนำมาซึ่งความโศกศัลย์ครั้งยิ่งใหญ่ของเสฉวน เล่าปี่เศร้าโศกเสียใจเจ็บปวดมากจนไม่สามารถควบคุมสติไว้ได้จึงยกทัพไปกังตั๋งเรียกร้องความเป็นธรรมล้างแค้นให้กวนอูให้ได้โดยไม่รับฟังคำทัดทานของจูกัดเหลียงแต่อย่างใด และในเวลาเดียวกันเพื่อช่วงชิงกึงจิว เมืองที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญกลับคืนมา
เล่าปี่ยกกองทัพใหญ่มาด้วยตนเอง ทางด้านซุนกวนนั้นกลับไม่มีขุนศึกที่เก่งกล้าสามารถแม้แต่คนเดียว แต่แล้วซุนกวนกลับเลือกโลซกคนหนุ่มซึ่งอ่อนประสบการณ์เป็นแม่ทัพโดยไม่ฟังคำทัดทานแต่อย่างใด การนี้จึงทำให้ซุนกวนถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วกังตั๋ง โลซกหอบความกดดันครั้งใหญ่ทำศึกสงครามกับเล่าปี่ด้วยความยากลำบากเป็นเวลานานถึงแปดเดือนเพื่อรอคอยโอกาสที่ดีมาถึง… ในที่สุด สงครามใหญ่ครั้งที่สามในยุคสามก๊กก็บังเกิดขึ้นมา โลซกใช้ไฟโจมตีค่ายทหารของเล่าปี่ ทำให้เล่าปี่พ่ายแพ้อย่างย่อยยับจนต้องหลบหนี และแล้วเล่าปี่ก็ตรอมใจตายที่ไป๋ตี้เฉิง อีกด้านหนึ่งนั้น โลซกซึ่งใช้กลยุทธเผาค่ายทหารของเล่าปี่นั้นก็ทำให้ทุกคนประจักษ์ถึงความสามารถที่แท้จริงของโลซกขึ้นมา
หลังจากที่เล่าปี่เสียชีวิตแล้ว เล่าเสี้ยน ลูกชายของเล่าปี่ก็ สืบทอดอำนาจต่อจากเล่าปี่ แต่ในความเป็นจริงแล้วจูกัดเหลียงกลับเป็นเจ้าของเสฉวนอย่างแท้จริง สำหรับจูกัดเหลียงแล้ว ด้านหนึ่งนั้นทุ่มเทแรงกายแรงใจบริหารบ้านเมือง อีกด้านหนึ่งนั้นต้องทำศึกสงครามยึดครองดินแดนทางเหนือให้ได้ กระนั้นก็ตามความจงรักภักดีของจูกัดเหลียงก็ไม่วายเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของเล่าเสี้ยนและบรรดาเชื้อพระวงศ์ เช่นเดียวกัน หลังจากที่โจโฉเสียชีวิตแล้ว โจผีก็สืบทอดอำนาจปกครองดินแดนทางเหนือต่อจากโจโฉ ความทะเยอทะยานและมักใหญ่ใฝ่สูงของสุหม่าอี้ซึ่งคิดโค่นบัลลังก์ก็เป็นที่ประจักษ์ ทั้งสองฝ่ายต่อกรกันทั้งในทางลับและแจ้ง
ถ้าหากเปรียบเทียบกันแล้ว จูกัดเหลียงคนหนึ่งซึ่งจงรักภักดี สุหม่าอี้อีกคนหนึ่งซึ่งทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้คนสองคนซึ่งจงรักภักดีและคิดคดทรยศซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงต่างต้องตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกัน จากศัตรูในสมรภูมิจึงกลายเป็นคนที่เข้าใจถึงจิตใจกันและกัน และด้วยความที่จูกัดเหลียงเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของสุหม่าอี้จึงกล้าใช้แผนเมืองร้างตบตาขับไล่สุหม่าอี้ไป ไม่เพียงเป็นการเปิดทางรอดให้ฝ่ายตรงข้าม ทั้งยังเปิดโอกาสให้ฝ่ายตนเองได้รับชัยชนะอีกด้วย ตามประวัติศาสตร์นับร้อยปีในยุคสามก๊กจึงถือว่าเป็นการประลองสติปัญญาและการชิงไหวชิงพริบกันระหว่างจูกัดเหลียงและสุหม่าอี้จนเป็นที่เล่าขานกันมา…
ครั้งยุคสมัยสามก๊ก ยุคสมัยแห่งวีรบุรุษผู้กล้า ยุคสมัยแห่งการแก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่เป็นอันยุติลง เรื่องราวของวีรบุรุษผู้กล้า เหตุการณ์ที่เป็นที่ประทับใจติดตรึงใจผู้คน กลยุทธการศึกและคุณธรรมล้วนแล้วแต่เป็นที่กล่าวขานของชาวจีนจวบจนปัจจุบัน เป็นที่แพร่หลายของชาวเอเชียและชาวตะวันตก
เขียนโดย หลอ กว้านจง (ต้นฉบับ)/ซู ซูจิน
กำกับโดย เกา ซีซี
แสดงนำ เฉิน เจี้ยนปิน/หยู เหอเหว่ย/ลู่ อี้/เหอ ยุ่นตง/หนี ต้าหง/หยู หรงกวง/กัง ไก/จาง ป๋อ/เนี่ย หยวน/เฉิน ห่าว/หลิน ซินหยู/หวง เหวยเต๋อ
รายชื่อนักแสดงหลัก
เฉิน เจี้ยนบิน เป็น โจโฉ
หยู เหอเหว่ย เป็น เล่าปี่
ลู่ อี้ เป็น ขงเบ้ง
เหอ ยุ่นตง เป็น ลิโป้
หนี ต้าหง เป็น สุมาอี้
หยู หรงกวง เป็น กวนอู
จาง ป๋อ เป็น เป็น ซุนกวน
เนี่ย หยวน เป็น จูล่ง
เฉิน หาว เป็น เตียวเสี้ยน
หลิน ซินหยู เป็น ซุนฮูหยิน
หวง เหวยเต๋อ เป็น จิวยี่
สามก๊ก ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์อีกครั้ง โดยเริ่มถ่ายทำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และออกฉายทางโทรทัศน์ครั้งแรกทางช่องเจียงซู, ช่องอันฮุย, ช่องฉงชิ่ง และช่องเทียนจิน ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ด้วยทุนสร้างกว่า 180 ล้านหยวน (900 ล้านบาท) โดยละครโทรทัศน์ชุดนี้มีทั้งหมด 95 ตอน ตอนละ 40 นาที กำกับโดย เกา ซีซี เนื้อหาของสามก๊กชุดนี้ขาดเรื่องราวตอนต้นไป โดยเริ่มเปิดฉากตั้งแต่ตั๋งโต๊ะเข้าเมืองหลวงสถาปนาหองจูเหียบแล้ว จบลงตรงสุมาอี้ตาย เนื้อหาจึงไม่ครบสมบูรณ์เท่าสามก๊กฉบับละครโทรทัศน์ พ.ศ. 2537 ของช่องซีซีทีวี
ในที่สุดในประเทศไทย ออกอากาศทางช่อง 3 ในวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 18.20 น. ในวันจันทร์–พฤหัสบดี และ 18.00 น. ในวันศุกร์ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560 โดยเลื่อนมาจากวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เนื่องจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยเป็นการซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ที่ละครโทรทัศน์ชุดนี้ออกอากาศในจีนโดยก่อนที่จะฉาย ได้มีการสร้างสารคดีพิเศษทั้งหมด 5 ตอนในชื่อ เปิดตำรา สามก๊ก ทำการเบิกโรงเพื่อให้ผู้ชมทำความเข้าใจในเรื่องราวเสียก่อน เริ่มตอนแรกในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.20 น. และตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ได้ย้ายเวลาและสถานีฉายเป็น ช่อง 13 เวลา 21.00 น. ละครเรื่องนี้ออกอากาศต่อจากละครเรื่อง เปาบุ้นจิ้น และเมื่อละครเรื่องนี้จบลง ละครเรื่องต่อไปที่ออกอากาศต่อคือเรื่อง บูเช็คเทียน (เมื่ออกอากาศช่อง 3 เอชดี), งักฮุย แม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน (เมื่ออกอากาศช่อง 3 แฟมิลี่)
ผู้ประพันธ์ดนตรีท้องเรื่อง เจ้า จี้ปิง
ดนตรีเปิด Huanwo Yige Taiping Tianxia (还我一个太平天下) ประพันธ์โดย เหลียว ฉางหยง
ดนตรีปิด 1. Tiandi Mang Cangcang (天地莽苍苍) ประพันธ์โดย ถัง เฉิน
2. Yingxiong Laiwang Tiandijian (英雄往来天地间) ขับร้องโดย ถัน จิง